คำศัพท์ภาษาไทย ขึ้นต้นด้วย ป



พยัญชนะตัวที่ ๒๗ เป็นพวกอักษรกลาง เป็นตัวสะกดในแม่กบในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่น บาป เนปจูน,ตัว ป ตัว ป ที่ขึ้นต้นของคําหรือพยางค์ในภาษาบาลีและสันสกฤตมักแผลงมาเป็นตัว บ ในภาษาไทย เช่น ปท ปิตา เป็น บท บิดา.

ปก ๑
ก. แผ่ออกคลุมเบื้องบน เช่น ตะไคร้ใบปกดิน. น. กระดาษหรือผ้าหรือหนังเป็นต้นที่หุ้มอยู่ภายนอกสมุดหรือหนังสือเป็นต้น, ใบปกก็เรียก; แผ่นผ้าที่ติดปากกระเป๋าเสื้อ, แผ่นผ้าที่ติดกับคอเสื้อพับตลบลงมาหรือแบะออกทั้ง ๒ ข้าง เช่น ปกเชิ้ต ปกเสื้อนอก.

ปกกระพอง
น. เครื่องปกส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างหัวช้าง.

ปกเกศ
ก. ปกเกล้า, คุ้มครอง.

ปกครอง
ก. ดูแล, คุ้มครอง, ระวังรักษา; บริหาร.

ปกคลุม
ก. แผ่คลุมอยู่เบื้องบน.

ปกป้อง
ก. คุ้มครองป้องกัน.

ปกปักรักษา
ก. ดูแลรักษา.

ปกปิด
ก. ปิดไม่ให้รู้หรือไม่ให้เห็น, ปิดไว้เป็นความลับ.

ปก ๒
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ปลาแก้มชํ้า. (ดู แก้มชํ้า).

ปกติ
[ปะกะติ, ปกกะติ] ว. ธรรมดา, เป็นไปตามเคย, ไม่แปลกไปจากธรรมดา, ปรกติ ก็ว่า. (ป.; ส. ปฺรกฺฤติ).

ปกรณ์
[ปะกอน] น. คัมภีร์, ตํารา, หนังสือ. (ป. ปกรณ; ส. ปฺรกรณ).

ปกรณัม
[ปะกะระนำ] น. ปกรณ์, เรื่อง, เช่น ปักษีปกรณัม. (ส. ปฺรกรณ;ป. ปกรณ).

ปการ
[ปะกาน] น. อย่าง, ชนิด. (ป.; ส. ปฺรการ).

ปกิณกะ
[ปะกินนะกะ] ว. เรี่ยราย, เบ็ดเตล็ด, กระจาย, ระคนกัน, คละกัน,(มักใช้ประกอบหน้าศัพท์) เช่น ปกิณกคดี. (ป. ปกิณฺณก; ส. ปฺรกีรฺณก).

ปกีรณัม
[ปะกีระนํา] ก. จําแนกหรือกระจายออกไป. (ส. ปฺรกีรณมฺ).

ปโกฏิ
[ปะโกด] น. ชื่อสังขยาจํานวนสูง = ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐(เท่ากับสิบล้านโกฏิ). (ป.).

ปง ๑, ปงปัง
ว. เสียงดังเช่นนั้น.

ปง ๑, ปงปัง
ว. เสียงดังเช่นนั้น.

ปง ๒
(ถิ่น-พายัพ) น. ที่ริมฝั่งน้ำ, ที่ลุ่มน้ำขัง, ป่ง หรือ โป่ง ก็ว่า.

ป่ง
น. พื้นดินที่มีเกลือสินเธาว์ผุดเกรอะกรังอยู่, ป่าหรือดินที่มีป่งเรียกว่า ป่าป่ง ดินป่ง, เรียกผีที่มีอยู่ในที่เช่นนั้นว่า ผีป่ง, เรียกลักษณะที่นั่งห้างคอยยิงสัตว์ที่มากินดินป่งว่า นั่งป่ง; (ถิ่น-พายัพ)ที่ริมฝั่งน้ำ, ที่ลุ่มน้ำขัง, ปง หรือ โป่ง ก็ว่า.

ปงช้าง
ดู หนอนตายหยาก (๑).

ปฎล
[ปะดน] (แบบ) น. หลังคา, เพดาน, ชั้น. (ป. ปฏล).

ปฏัก
(แบบ) น. ประตัก.

ปฏิ-
คําอุปสรรคในภาษาบาลีใช้นําหน้าศัพท์อื่น แปลว่า เฉพาะ, ตอบ,ทวน, กลับ. (ป.; ส. ปฺรติ).

ปฏิกรณ์
(ฟิสิกส์) น. เครื่องที่ใช้สําหรับก่อให้เกิดปฏิกิริยาแตกสลายทางนิวเคลียร์อย่างสมํ่าเสมอและควบคุมได้เพื่อผลิตพลังงาน สารกัมมันตรังสี เครื่องชนิดนี้มีหลายแบบ และใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ซึ่งมักเป็นแท่งยูเรเนียม, มักเรียกว่า เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู.(อ. reactor).

ปฏิกรรมสงคราม
น. การชดใช้ค่าเสียหายที่ฝ่ายชนะสงครามเรียกร้องเอาจากฝ่ายพ่ายแพ้. (อ. reparation).

ปฏิการ-, ปฏิการะ
[ปะติการะ-] น. การสนองคุณ, การตอบแทนคุณ, คู่กับ อุปการะ;การซ่อมแซม. (ป.).

ปฏิการ-, ปฏิการะ
[ปะติการะ-] น. การสนองคุณ, การตอบแทนคุณ, คู่กับ อุปการะ;การซ่อมแซม. (ป.).

ปฏิกิริยา
น. การกระทําตอบสนอง; การกระทําต่อต้าน; ผลของการกระทําซึ่งเป็นเหตุให้เกิดกิริยาสะท้อนมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง; (เคมี) การเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสาร. (ป. ปฏิ ว่า ตอบ, ทวน, กลับ +กิริยา ว่า การกระทํา). (อ. reaction).

ปฏิกูล
[-กูน] ว. สกปรกน่ารังเกียจ เช่น สิ่งปฏิกูล. (ป. ปฏิกฺกูล).

ปฏิคคหิต, ปฏิคหิต-
[ปะติกคะหิด, ปะติกคะหิตะ-] (แบบ) ก. รับเอา เช่น เราก็ปฏิคคหิตด้วยศรัทธา. (ม. คําหลวง วนปเวสน์). ว. อันรับเอาแล้ว. (ป. ปฏิคฺ-คหิต).

ปฏิคคหิต, ปฏิคหิต-
[ปะติกคะหิด, ปะติกคะหิตะ-] (แบบ) ก. รับเอา เช่น เราก็ปฏิคคหิตด้วยศรัทธา. (ม. คําหลวง วนปเวสน์). ว. อันรับเอาแล้ว. (ป. ปฏิคฺ-คหิต).

ปฏิคม
น. ผู้ต้อนรับ, ผู้รับแขก, ผู้ดูแลต้อนรับ.

ปฏิคาหก
น. ผู้รับทาน. (ป. ปฏิคฺคาหก).

ปฏิฆะ
(แบบ) น. ความคับแค้น, ความกระทบกระทั่ง, ความขึ้งเคียด(โทสะ). (ป.).

ปฏิชีวนะ
[-ชีวะนะ] น. เรียกยาประเภทที่มีสารที่สกัดจากผลผลิตของเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ฆ่าหรือยับยั้งการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรีย ว่า ยาปฏิชีวนะ.(อ. antibiotics).

ปฏิญญา
[ปะตินยา] น. การให้คํามั่นสัญญาหรือการแสดงยืนยันโดยถือเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือความสุจริตใจเป็นที่ตั้ง. (ป.).

ปฏิญาณ
[ปะติยาน] ก. ให้คํามั่นสัญญา โดยมากมักเป็นไปตามแบบพิธี.

ปฏิทิน
น. แบบสําหรับดูวัน เดือน ปี. (ป.; ส. ปฺรติทิน ว่า เฉพาะวัน,สําหรับวัน).

ปฏิทินโหราศาสตร์
น. ตาตารางแผนที่แสดงการเคลื่อนไหวของดาวพระเคราะห์ประจำวัน, ปูม ก็เรียก.

ปฏิบถ
ว. ทวนทาง, สวนทาง. (ป. ปฏิปถ).

ปฏิบัติ
ก. ดําเนินการไปตามระเบียบแบบแผน เช่น ปฏิบัติราชการ, กระทําเพื่อให้เกิดความชํานาญ เช่น ภาคปฏิบัติ; กระทําตาม เช่น ปฏิบัติตามสัญญา; ประพฤติ เช่น ปฏิบัติสมณธรรม ปฏิบัติต่อกัน; ปรนนิบัติรับใช้ เช่น ปฏิบัติบิดามารดา ปฏิบัติครูบาอาจารย์. (ป. ปฏิปตฺติ).

ปฏิบัติการ
ก. ทํางานตามหน้าที่. ว. ที่ทดลองเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามทฤษฎีหรือฝึกงานเพื่อให้เกิดความชํานาญเป็นต้น เช่น ห้องปฏิบัติการ.

ปฏิบัติธรรม
ก. ประพฤติตามธรรม; เจริญภาวนา.

ปฏิบัติบูชา
น. การบูชาด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งสอน, คู่กับ อามิสบูชาซึ่งเป็นการบูชาด้วยสิ่งของ.

ปฏิปทา
[-ปะทา] น. ทางดําเนิน; ความประพฤติ. (ป.).

ปฏิปักษ์
น. ฝ่ายตรงกันข้าม, ข้าศึก, ศัตรู. ว. ที่ตรงกันข้าม เช่น ฝ่ายปฏิปักษ์.(ส. ปรฺติปกฺษ; ป. ปฏิปกฺข).

ปฏิปัน
(แบบ) น. ผู้ดําเนินไปแล้ว, ผู้บรรลุแล้ว, ผู้ตรัสรู้แล้ว. (ป. ปฏิปนฺน).

ปฏิปุจฉาพยากรณ์
น. การจําแนกธรรมหรือพยากรณ์ปัญหาธรรมด้วยวิธีย้อนถาม. (ป.).

ปฏิปุจฉาวาที
น. ผู้จําแนกธรรมหรือพยากรณ์ปัญหาธรรมด้วยวิธีย้อนถาม. (ป.).

ปฏิพัทธ์
ก. เนื่องกัน, ผูกพัน, รักใคร่. (ป. ปฏิพทฺธ; ส. ปฺรติพทฺธ).

ปฏิพากย์
น. การกล่าวตอบ, การพูดโต้ตอบ. (ป. ปฏิวากฺย).

ปฏิภาค, ปฏิภาค-
[ปะติพาก, ปะติพากคะ-] น. ส่วนเปรียบ. ว. เทียบเคียง, เหมือน.(ป. ปฏิภาค; ส. ปฺรติภาค).

ปฏิภาค, ปฏิภาค-
[ปะติพาก, ปะติพากคะ-] น. ส่วนเปรียบ. ว. เทียบเคียง, เหมือน.(ป. ปฏิภาค; ส. ปฺรติภาค).

ปฏิภาคนิมิต
น. 'อารมณ์เทียบเคียง' คือ เมื่อพบเห็นสิ่งใดจนติดตาหลับตาเห็นแล้วอาจนึกทายส่วนหรือแบ่งส่วนแห่งสิ่งนั้นให้สมรูปสมสัณฐานเรียกว่า ปฏิภาคนิมิต. (ป. ปฏิภาคนิมิตฺต; ส. ปฺริตภาค + นิมิตฺต).

ปฏิภาณ, ปฏิภาณ-
[ปะติพาน, ปะติพานะ-, ปะติพานนะ-] น. เชาวน์ไวในการกล่าวแก้หรือโต้ตอบเป็นต้นได้ฉับพลันทันทีและแยบคาย. (ป.).

ปฏิภาณ, ปฏิภาณ-
[ปะติพาน, ปะติพานะ-, ปะติพานนะ-] น. เชาวน์ไวในการกล่าวแก้หรือโต้ตอบเป็นต้นได้ฉับพลันทันทีและแยบคาย. (ป.).

ปฏิภาณกวี
[ปะติพานนะกะวี, ปะติพานกะวี] น. กวีผู้มีความสามารถในการใช้ปฏิภาณแต่งกลอนสด.

ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
[ปะติพานะ-] น. ปฏิสัมภิทา ๑ ใน ๔ อย่าง คือ ๑. อรรถปฏิสัมภิทา๒. ธรรมปฏิสัมภิทา ๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา ๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทาหมายถึง ปัญญาอันแตกฉานในปฏิภาณ คือ ความเข้าใจทำให้สามารถแก้ไขเหตุการณ์ได้ในเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือกล่าวโต้ตอบได้ทันท่วงที. (ป.).

ปฏิภาณโวหาร
[ปะติพานนะ-, ปะติพาน-] น. การกล่าวเหมาะด้วยเหตุผลในทันที.

ปฏิมา, ปฏิมากร
น. รูปเปรียบหรือรูปแทนองค์พระพุทธเจ้า คือ พระพุทธรูป, เรียกย่อมาจาก พุทธปฏิมา หรือ พุทธปฏิมากร. (ป. ปฏิมา).

ปฏิมา, ปฏิมากร
น. รูปเปรียบหรือรูปแทนองค์พระพุทธเจ้า คือ พระพุทธรูป, เรียกย่อมาจาก พุทธปฏิมา หรือ พุทธปฏิมากร. (ป. ปฏิมา).

ปฏิยุทธ์
ก. รบตอบ, สู้รบ. (ป.).

ปฏิรพ
[-รบ] (แบบ) ก. ส่งเสียงเอาชัย, ร้องดัง, ร้องขู่. (ป. ปฏิรว).

ปฏิรูป, ปฏิรูป-
[-รูบ, -รูปะ-] ว. สมควร, เหมาะสม, เช่น ปฏิรูปเทส คือ ถิ่นที่สมควรหรือ ถิ่นที่เหมาะสม; เทียม, ไม่แท้, เช่น มิตรปฏิรูป. ก. ปรับปรุงให้สมควร เช่น ปฏิรูปบ้านเมือง. (ป.).

ปฏิรูป, ปฏิรูป-
[-รูบ, -รูปะ-] ว. สมควร, เหมาะสม, เช่น ปฏิรูปเทส คือ ถิ่นที่สมควรหรือ ถิ่นที่เหมาะสม; เทียม, ไม่แท้, เช่น มิตรปฏิรูป. ก. ปรับปรุงให้สมควร เช่น ปฏิรูปบ้านเมือง. (ป.).

ปฏิโลม
ว. ทวนกลับ. (ป. ปฏิโลม ว่า ทวนขน คู่กับ อนุโลม ว่า ตามขน).

ปฏิวัติ
น. การหมุนกลับ, การผันแปรเปลี่ยนหลักมูล; การเปลี่ยนแปลงระบบ เช่น ปฏิวัติอุตสาหกรรม, การเปลี่ยนแปลงระบอบการบริหารบ้านเมือง เช่น ปฏิวัติการปกครอง. (ป. ปฏิวตฺติ).

ปฏิวาต
[-วาด] ว. ทวนลม. (ป.).

ปฏิวาท
[-วาด] น. คําโต้, คําคัดค้าน. (ป.).

ปฏิเวธ
[-เวด] ก. เข้าใจตลอด, ตรัสรู้, ลุล่วงผลปฏิบัติ. (ป.).

ปฏิสนธิ
(แบบ) ก. เกิดในท้อง, ถือกําเนิด. (ป. ปฏิสนฺธิ).

ปฏิสวะ
[ปะติดสะวะ] (แบบ) น. การฝืนคํารับ, การรับแล้วไม่ทําตามรับ.(ป. ปฏิสฺสว).

ปฏิสังขรณ์
ก. ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม (มักใช้เฉพาะวัดวาอาราม)เช่น ปฏิสังขรณ์วัด. (ป.).

ปฏิสันถาร
น. การทักทายปราศรัยแขกผู้มาหา (มักใช้แก่ผู้น้อย);การต้อนรับแขก. (ป. ปฏิสนฺถาร).

ปฏิสัมภิทา
(แบบ) น. ความแตกฉาน, ปัญญาอันแตกฉาน, มี ๔ อย่าง คืออรรถปฏิสัมภิทา ธรรมปฏิสัมภิทา นิรุตติปฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา. (ป.).

ปฏิเสธ
ก. ไม่รับ, ไม่ยอมรับ, เช่น ปฏิเสธการเชิญ, ไม่ยอมรับข้อเท็จจริงเช่น ปฏิเสธข้อกล่าวหา; (ไว) แสดงความหมายตรงกันข้ามกับยืนยัน รับ หรือ ยอมรับ. (ป.).

ปฏิเสธข่าว
ก. แสดงยืนยันว่าไม่เป็นไปตามนั้น.

ปฐพี
[ปะถะ-, ปัดถะ-] น. แผ่นดิน. (ป. ป?วี).

ปฐพีวิทยา
[ปะถะพีวิดทะยา, ปัดถะพีวิดทะยา] น. วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดิน. (อ. pedology).

ปฐม, ปฐม-
[ปะถม, ปะถมมะ-] ว. ประถม, ลำดับแรก, ลำดับเบื้องต้น; ชั้นที่ ๑,เรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ ๑ ในตระกูลจุลจอมเกล้าว่าปฐมจุลจอมเกล้า ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ. (ป.).

ปฐม, ปฐม-
[ปะถม, ปะถมมะ-] ว. ประถม, ลำดับแรก, ลำดับเบื้องต้น; ชั้นที่ ๑,เรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ ๑ ในตระกูลจุลจอมเกล้าว่าปฐมจุลจอมเกล้า ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ. (ป.).

ปฐมกรรม
[ปะถมมะกํา] น. กฎเบื้องต้นหรือข้อสําคัญ; ชื่อพิธีแบบหนึ่งที่กษัตริย์ในครั้งโบราณกระทําแก่ผู้เป็นปรปักษ์.

ปฐมฌาน
[ปะถมมะ-] น. ฌานเบื้องต้น ได้แก่ ฌานที่ ๑ มีองค์ ๕ คือ วิตกวิจาร ปีติ สุข เอกัคตา. (ป.).

ปฐมทัศน์
[ปะถมมะ-] น. การแสดงครั้งแรก, เรียกการแสดงละครหรือการฉายภาพยนตร์รอบแรกว่า รอบปฐมทัศน์.

ปฐมเทศนา
[ปะถมมะเทสะนา, ปะถมมะเทดสะหฺนา, ปะถมเทดสะหฺนา] น. เทศนาครั้งแรกในพระพุทธศาสนา หมายถึง ธัมมจักกัปปวัตนสูตร; ชื่อพระพุทธรูปปางหนึ่ง เป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิบ้าง นั่งห้อยพระบาทอย่างนั่งเก้าอี้บ้าง เครื่องหมายสําคัญอยู่ที่พระหัตถ์ขวาทํานิ้วพระหัตถ์กรีดเป็นวงกลม ส่วนพระหัตถ์ซ้ายวางหงายอยู่บนพระเพลาบ้าง ถือชายจีวรบ้าง ทําท่าทางประคองพระหัตถ์ขวาบ้าง.

ปฐมนิเทศ
[ปะถมมะ-, ปะถม-] น. การแนะนําชี้แนวเพื่อการศึกษาและการทํางานในเบื้องต้น.

ปฐมบุรุษ
[ปะถมมะ-, ปะถม-] น. บุรุษที่ ๑, ตามไวยากรณ์ ได้แก่ สรรพนามพวกที่ใช้แทนชื่อผู้พูด เช่น ข้า เรา แต่ตามไวยากรณ์บาลีหมายถึงพวกที่เราพูดถึง เช่น เขา.

ปฐมพยาบาล
[ปะถมพะยาบาน] น. การปฏิบัติขั้นต้นยามฉุกเฉินตามวิธีแพทย์ก่อนลงมือรักษาพยาบาล.

ปฐมโพธิกาล
[ปะถมมะโพทิกาน] น. กาลแรกตรัสรู้ คือ ระยะเวลานับตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จนถึงทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาในแคว้นมคธ. (ป.).

ปฐมยาม
[ปะถมมะ-] น. ยามต้น, ในบาลีแบ่งคืนออกเป็น ๓ ยาม กำหนดยามละ ๔ ชั่วโมง เรียกว่า ปฐมยาม มัชฌิมยาม และปัจฉิมยามปฐมยามกำหนดเวลาตั้งแต่ย่ำค่ำ หรือ ๑๘ นาฬิกา ถึง ๔ ทุ่ม หรือ๒๒ นาฬิกา. (ป.).

ปฐมฤกษ์
[ปะถมมะ-] น. ช่วงเวลาแรกของฤกษ์. ว. เริ่มแรก เช่น ฉบับปฐมฤกษ์.

ปฐมวัย
[ปะถมมะไว] น. วัยต้น. (ป.).

ปฐมสมโพธิ
[ปะถมมะสมโพด, ปะถมสมโพด] น. ชื่อคัมภีร์ว่าด้วยประวัติของพระพุทธเจ้า. (ป.).

ปฐมสุรทิน
[ปะถมมะสุระทิน] น. วันที่ ๑ แห่งเดือนทางสุริยคติ.

ปฐมาษาฒ
[ปะถะมาสาด] น. เดือน ๘ แรก, (โบ) เขียนเป็น ปฐมาสาฒก็มี. (ป. ป?มาสาฬฺห; ส. ปูรฺวาษาฒ).

ปฐมดุสิต
[ปะถมดุสิด] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

ปฐมาษาฒ
ดู ปฐม, ปฐม-.

ปฐวี
[ปะถะวี] (แบบ) น. แผ่นดิน. (ป.).

ปณต
[ปะนด] ก. ประณต. (ป.; ส. ปฺรณต).

ปณาม
[ปะนาม] ก. ประณาม. (ป.; ส. ปฺรณาม).

ปณิธาน
[ปะ-] น. ประณิธาน. (ป.; ส. ปฺรณิธาน).

ปณิธิ
[ปะ-] น. ประณิธิ. (ป.; ส. ปฺรณิธิ).

ปณีต
[ปะ-] ว. ประณีต. (ป.; ส. ปฺรณีต).

ปด, ปดโป้
ก. โกหก, พูดเท็จ, จงใจกล่าวคําที่ไม่จริง.

ปด, ปดโป้
ก. โกหก, พูดเท็จ, จงใจกล่าวคําที่ไม่จริง.

ปดิวรัดา
[ปะดิวะรัดดา] น. ภริยาที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อสามี. (ส. ปติวรฺตา).

ปติ
น. เจ้า, ผัว. (ป.).

ปติวัตร
น. ความประพฤติต่อผัว, ความจงรักในผัว.

ปติยัต
ก. ตระเตรียม, ทําให้เสร็จ, ตกแต่ง. (ป. ปติยตฺต).

ปถพี
[ปะถะ-] น. แผ่นดิน. (ส. ปฺฤถวี; ป. ป?วี).

ปถมัง
[ปะถะหฺมัง] น. วิธีทําผงด้วยเวทมนตร์คาถาเพื่อความศักดิ์สิทธิ์.

ปถวี ๑
[ปะถะวี] (โบ) น. ดิน เช่น ปถวีธาตุ. (ส. ปฺฤถวี; ป. ป?วี).

ปถวี ๒
[ปะถะหฺวี] น. ท้ายเรือพิธี (เรียกเฉพาะเรือหลวง).

ปทัฏฐาน
น. แบบแผนสําหรับยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ; เหตุที่ตั้งเป็นเครื่องถึง,เหตุอันใกล้ที่สุด; บรรทัดฐาน หรือ ปทัสถาน ก็ว่า. (ป.; ส. ปทสฺถาน).

ปทัสถาน
น. แบบแผนสําหรับยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ; เหตุที่ตั้งเป็นเครื่องถึง,เหตุอันใกล้ที่สุด; บรรทัดฐาน หรือ ปทัฏฐาน ก็ว่า. (ส.; ป. ปทฏฺ?าน).

ปทานุกรม
น. หนังสือสําหรับค้นคว้าความหมายของคําที่เรียงตามลําดับบท.

ปทีป
น. ประทีป. (ป.; ส. ปฺรทีป).

ปทุม
น. บัวหลวง, บัวก้าน. (ป.; ส. ปทฺม).

ปน
ก. ประสมกัน เช่น ข้าวเจ้าปนข้าวเหนียว, แกมกัน เช่น พูดไทยปนฝรั่ง, รวมกัน เช่น อย่าเอาผ้านุ่งกับเสื้อซักปนกัน, ถ้าเอาส่วนน้อยประสมลงในส่วนมากเพื่อให้ระคนปนเป็นอันเดียวกัน เรียกว่าเจือปน, ถ้าเป็นในลักษณะที่ปนกันทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งดีและชั่วเรียกว่า คละปน.

ปนเป
ว. ปนกันยุ่งจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร.

ป่น
น. เครื่องจิ้มอย่างหนึ่ง ปรุงด้วยนํ้าปลาร้า. ก. ทําให้แหลกละเอียดด้วยการตําเป็นต้น เช่น ป่นเกลือ ป่นปลา ป่นพริก. ว. ที่แหลกละเอียดเช่น พริกป่น ปลาป่น เกลือป่น.

ปนัดดา
(แบบ) น. เหลน (คือ ลูกของหลานปู่). (ป.).

ปบ
ก. วิ่งไล่ตะครุบ, ตบตะครุบ, ตะปบ ก็ว่า.

ปปัญจ-, ปปัญจะ
[ปะปันจะ-] (แบบ) น. ความเนิ่นช้า, ความนาน. ว. เนิ่นช้า. (ป.).

ปปัญจ-, ปปัญจะ
[ปะปันจะ-] (แบบ) น. ความเนิ่นช้า, ความนาน. ว. เนิ่นช้า. (ป.).

ปปัญจธรรม
(แบบ) น. ธรรมที่ทําให้เนิ่นช้า คือ ตัณหา มานะ ทิฐิ. (ป.).

ปม
น. เนื้อที่เป็นปุ่มขึ้นตามตัว, ขอดของผ้าหรือเชือก, ข้อยุ่งที่แก้ยาก.

ปมเขื่อง, ปมเด่น
น. ลักษณะอารมณ์และความต้องการที่แสดงออกในทางที่เหนือกว่าบุคคลอื่น. (อ. superiority complex).

ปมเขื่อง, ปมเด่น
น. ลักษณะอารมณ์และความต้องการที่แสดงออกในทางที่เหนือกว่าบุคคลอื่น. (อ. superiority complex).

ปมจิต
น. อารมณ์และความรู้สึกของบุคคลที่เก็บกดสะสมไว้ในจิตใต้สํานึกมาตั้งแต่ในวัยเด็ก ปมจิตนี้จะทําให้บุคคลผู้นั้นแสดงออกในด้านความคิดความรู้สึก และการกระทําในลักษณะที่ซํ้ากันจนเกิดเป็นอุปนิสัยประจําตัว.

ปมด้อย
น. ลักษณะความคิด ความรู้สึก อารมณ์ หรือการกระทําของบุคคลที่แสดงออกถึงความตํ่าต้อยกว่าผู้อื่น. (อ. inferiority complex).

ปมประสาท
น. ตําแหน่งที่อยู่ของเซลล์ประสาท.

ปมเปา
ว. ปุ่มที่เกิดตามเนื้อตามตัว.

ปโย-
น. นํ้านม, นํ้า. (ป., ส. ปย), ที่เป็น ปโย เพราะเข้าสมาสกับศัพท์ที่มีพยัญชนะตัวหน้าเป็นอักษรตํ่าหรือตัว ห ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ปโยชนม์ [ปะโยชน] น. 'ผู้มีนํ้าเป็นที่เกิด' คือ เมฆ. (ส. ปโยชนฺมนฺ). ปโยธร น. 'ผู้ทรงไว้ซึ่งนํ้า' คือ เมฆ, 'ผู้ทรงไว้ซึ่งนํ้านม' คือ ถัน.(ป., ส.). ปโยธรา น. 'ที่ทรงนํ้านมไว้' คือ ทรวงอกหรือนมหญิง. (ส.).ปโยนิธิ น. 'ที่รับนํ้า' คือ ทะเล. (ส.). ปโยราศิ น. 'กองนํ้า'คือ ทะเล. (ส.).

ปร-
[ปะระ-, ปอระ-] ว. อื่น, ใช้เป็นบทหน้าสมาส เช่น ปรปักษ์ ปรโลก. (ป.).

ปรนัย
[ปะระ-, ปอระ-] ว. วัตถุวิสัย; เรียกการสอบแบบที่ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เป็นคําถามที่ต้องการคําตอบตายตัว ว่า การสอบแบบปรนัย, คู่กับ อัตนัย.

ปร-ปักษ์
[ปอระ-] น. ข้าศึก, ศัตรู, ฝ่ายตรงข้าม.

ปรโลก
[ปะระ-, ปอระ-] น. โลกหน้า.

ปรวาที
[ปะระ-] น. ผู้กล่าวถ้อยคําฝ่ายตอบหรือฝ่ายค้าน, คู่กับ สกวาที.

ปรหิตะ
[ปะระหิตะ, ปอระหิตะ] น. ประโยชน์ผู้อื่น, มักใช้ควบกับ ประโยชน์เป็น ปรหิตประโยชน์ ว่า ประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น. (ป. ปรหิต).

ปรก ๑
[ปฺรก] น. ซุ้มเล็ก ๆ ที่พระสงฆ์อาศัยในเวลาอยู่ปริวาส. ก. ปก, ปิด,คลุม, เช่น พระนาคปรก ผมปรกหน้า.

ปรก ๒
[ปฺรก] น. เรียกผู้นั่งภาวนาในพิธีปลุกเสก เช่น ในพิธีพุทธาภิเษกว่า คณะปรก.

ปรกติ
[ปฺรกกะติ] ว. ธรรมดา เช่น ตามปรกติ, เป็นไปตามเคย เช่นเหตุการณ์ปรกติ, ไม่แปลกไปจากธรรมดา เช่น อาการปรกติ,ปกติ ก็ว่า. (ส. ปฺรกฺฤติ; ป. ปกติ).

ปรง
น. (๑) ชื่อเฟิน ๒ ชนิดในสกุล Acrostichum วงศ์ Pteridaceaeต้นเป็นกอขึ้นริมนํ้า ใบยาวเป็นทาง ใบอ่อนสีแดง กินได้ คือปรงทะเล (A. aureum L.) และ ปรงหนู (A. speciosum Willd.).(๒) ชื่อพรรณไม้ในกลุ่มพืชเมล็ดเปลือยหลายชนิดในสกุลCycas วงศ์ Cycadaceae เป็นไม้ต้น ลําต้นกลม สีดําขรุขระใบเล็กยาวเรียงถี่ ๆ บนแกนกลาง เช่น ปรงญี่ปุ่น (C. revolutaThunb.) ใบใช้ทําพวงหรีด ปรงเขา (C. pectinata Griff.).

ปรตยักษ์
[ปฺรดตะยัก] (กลอน) ก. ประจักษ์. (ส. ปฺรตฺยกฺษ; ป. ปจฺจกฺข).

ปรตยาค
[ปฺรดตะยาก] (กลอน) ก. ประจาค, บริจาค. (ส. ปฺรตฺยาค;ป. ปริจฺจาค).

ปรตเยก
[ปฺรดตะเยก] (กลอน) ว. ปัจเจก. (ส. ปฺรเตฺยก; ป. ปจฺเจก).

ปรน
[ปฺรน] ก. บํารุงเลี้ยงดูให้สมบูรณ์.

ปรนปรือ
[ปฺรนปฺรือ] ก. บํารุงเลี้ยงดูให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น.

ปรนเปรอ
[ปฺรนเปฺรอ] ก. บํารุงบําเรอเลี้ยงดู, เลี้ยงดูด้วยการเอาอกเอาใจ.

ปรนนิบัติ
[ปฺรนนิบัด] ก. เอาใจใส่คอยปฏิบัติรับใช้, ปรนนิบัติวัตถาก ก็ว่า.

ปรนิมมิตวสวัตดี
[ปะระนิมมิตตะวะสะวัดดี, ปอระ-] น. ชื่อสวรรค์ชั้นที่ ๖ แห่งสวรรค์๖ ชั้น ได้แก่ จาตุมหาราชหรือจาตุมหาราชิกหรือจาตุมหาราชิกาดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวัตดี, มีท้าววสวัตดีมารเป็นผู้ครอง.

ปรบ
[ปฺรบ] ก. เอาฝ่ามือตบกันหลาย ๆ ครั้งให้เกิดเสียงเพื่อแสดงความยินดีเป็นต้น ในคําว่า ปรบมือ, ตบมือ ก็ว่า; ตี เช่น ไก่ปรบปีก ช้างปรบหู.

ปรบไก่
น. ชื่อเพลงพื้นเมืองอย่างหนึ่ง ใช้ตบมือเป็นจังหวะ และว่าแก้กันอย่างเพลงฉ่อย, ชื่อหน้าทับประกอบเพลงดนตรีแบบหนึ่ง.

ปรบมือให้
(สํา) ก. ยกย่อง, สรรเสริญ.

ปรม-
[ปะระมะ-, ปอระมะ-] ว. อย่างยิ่ง (ใช้นําหน้าคําอื่นโดยมาก). (ป.).

ปรมัตถ์
[ปะระมัด, ปอระมัด] น. ประโยชน์อย่างยิ่ง, เนื้อความอย่างยิ่ง,ความจริงอันเป็นที่สุด; ชื่อพระอภิธรรมปิฎก. ว. ลึกซึ้งยากที่ปุถุชนจะเข้าใจได้ เช่น นี่เป็นเรื่องปรมัตถ์. (ป.).

ปรมาจารย์
[ปะระมาจาน, ปอระมาจาน] น. อาจารย์ผู้เป็นเอกหรือยอดเยี่ยมในทางวิชาใดวิชาหนึ่ง.

ปรมาณู
[ปะระ-, ปอระ-] น. ส่วนของสารที่มีขนาดเล็กที่สุดจนไม่สามารถจะแยกย่อยได้อีกด้วยวิธีเคมี. (ป., ส. ปรมาณุ).

ปรมาตมัน
[ปะระมาดตะมัน] (ปรัชญา) น. อาตมันสูงสุด เป็นต้นกําเนิดและที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล. (ส. ปรม + อาตฺมนฺ).

ปรมาภิไธย
[ปะระมาพิไท, ปอระมาพิไท] น. ชื่อ (ใช้เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) เช่น ในพระปรมาภิไธย ทรงลงพระปรมาภิไธย.(ป. ปรมาภิเธยฺย).

ปรมาภิเษก
[ปะระ-, ปอระ-] น. อภิเษกอย่างยิ่ง คือ การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า. (ส.).

ปรมินทร์, ปรเมนทร์
[ปะระมิน, ปอระมิน, ปะระเมน, ปอระเมน] น. ผู้เป็นใหญ่ยิ่ง. (ส.).

ปรมินทร์, ปรเมนทร์
[ปะระมิน, ปอระมิน, ปะระเมน, ปอระเมน] น. ผู้เป็นใหญ่ยิ่ง. (ส.).

ปรเมศวร์
[ปะระเมด] น. ผู้เป็นใหญ่ยิ่ง คือ พระอิศวร. (ส.).

ปรเมษฐ์
[ปะระเมด, ปอระเมด] น. ผู้สูงสุด คือ พระพรหม. (ส.).

ปรมัตถ์
ดู ปรม-.

ปรมาจารย์
ดู ปรม-.

ปรมาณู
ดู ปรม-.

ปรมาตมัน
ดู ปรม-.

ปรมาภิไธย
ดู ปรม-.

ปรมาภิเษก
ดู ปรม-.

ปรมินทร์, ปรเมนทร์
ดู ปรม-.

ปรมินทร์, ปรเมนทร์
ดู ปรม-.

ปรเมศวร์
ดู ปรม-.

ปรเมษฐ์
ดู ปรม-.

ปรเมหะ
[ปะระ-] น. ชื่อคัมภีร์หมอว่าด้วยโรคเกิดแต่นํ้าเบา (น้ำปัสสาวะ).

ปรวด ๑
[ปะหฺรวด] น. เนื้อที่เป็นโรค มีลักษณะเป็นก้อนแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง;ชื่อหมอช้าง.

ปรวด ๒
[ปะหฺรวด] (กลอน) ก. โปรด.

ปรวนแปร
[ปฺรวนแปฺร] ก. เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่อยู่ที่เป็นปรกติ เช่น อากาศปรวนแปร, รวนเร เช่น ใจปรวนแปร, แปรปรวน ก็ว่า.

ปรศุ
[ปะระสุ] น. ขวาน. (ส.; ป. ผรสุ).

ปรสิต, ปรสิต-
[ปะระสิด, ปะระสิดตะ-] น. (แพทย์) สัตว์พวกพยาธิที่อาศัยอยู่ในมนุษย์และสัตว์; (เกษตร) ตัวเบียน เช่น กาฝาก. (อ. parasite).

ปรสิต, ปรสิต-
[ปะระสิด, ปะระสิดตะ-] น. (แพทย์) สัตว์พวกพยาธิที่อาศัยอยู่ในมนุษย์และสัตว์; (เกษตร) ตัวเบียน เช่น กาฝาก. (อ. parasite).

ปรสิตวิทยา
[ปะระสิดตะวิดทะยา, ปะระสิดวิดทะยา] (แพทย์) น. วิชาที่ว่าด้วยพยาธิ.

ปร๋อ
[ปฺร๋อ] ว. อาการที่นกบินเร็ว, โดยปริยายหมายความว่า เร็ว,แคล่วคล่อง, ว่องไว, ไม่ติดขัด, เช่น วิ่งปร๋อ พูดไทยได้ปร๋อ.

ปรองดอง
[ปฺรอง-] ก. ออมชอม, ประนีประนอม, ยอมกัน, ไม่แก่งแย่งกัน,ตกลงกันด้วยความไกล่เกลี่ย, ตกลงกันด้วยไมตรีจิต.

ปรอด
[ปะหฺรอด] น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Pycnonotidae สีเหลืองหม่นกินผลไม้และแมลง มีหลายชนิด เช่น ปรอดสวน (Pycnonotusblanfordi) ปรอดหน้านวล (P. goiavier), กรอด ก็เรียก, บางทีเขียนเป็น กระหรอด หรือ กะหรอด.

ปรอด ๆ
[ปฺรอด] ว. เสียงดังเช่นนั้น เช่น ขี้ปรอด ๆ.

ปรอท
[ปะหฺรอด] น. ธาตุลําดับที่ ๘๐ สัญลักษณ์ Hg เป็นโลหะ ลักษณะเป็นของเหลว สีเงิน แข็งตัวที่ -๓๘.๓๖?ซ. เดือดที่ ๓๕๗?ซ. ใช้ประโยชน์นําไปทําเทอร์โมมิเตอร์ บารอมิเตอร์ โลหะเจือซึ่งเรียกว่า อะมัลกัม(amalgam) ใช้ในงานทันตกรรมและทําเครื่องมือวิทยาศาสตร์อื่น ๆสารประกอบของปรอทเป็นพิษ แต่บางอย่างใช้เป็นยาได้. (อ. mercury); (ปาก) เครื่องวัดอุณหภูมิ; โดยปริยายหมายถึงอาการที่เป็นไปอย่างรวดเร็วว่องไว เช่น ไวเป็นปรอท. (ป., ส. ปารท).

ปรอย, ปรอย ๆ ๑
[ปฺรอย] ว. ที่แสดงอาการเศร้า (ใช้แก่ตา) เช่น ทําตาปรอย.

ปรอย, ปรอย ๆ ๑
[ปฺรอย] ว. ที่แสดงอาการเศร้า (ใช้แก่ตา) เช่น ทําตาปรอย.

ปรอย ๆ ๒
[ปฺรอย] ว. ที่ตกเป็นระยะ ๆ ไม่หนาเม็ด (ใช้แก่ฝนตก) เช่น ฝนตกปรอย ๆ.

ประ- ๑
[ปฺระ] ใช้เติมหน้าคําอื่นเพื่อให้คําหนักแน่นขึ้น เช่น ชิด เป็นประชิด, ท้วง เป็น ประท้วง; คําที่แผลงมาจาก ผ เช่น ผทม เป็นประทม แล้วแผลง ประ เป็น บรร เช่น ประทม เป็น บรรทม.

ประ ๒
[ปฺระ] ก. ปะทะ เช่น ประหมัด, กระทบ, ระ, เช่น ผมประบ่า.

ประคารม
ก. ตีฝีปากกัน.

ประ ๓
[ปฺระ] ก. ทำให้เป็นจุด ๆ เช่น ประไข่ปลา, ทำให้เป็นจุด ๆ หรือเม็ด ๆ ทั่วไปอย่างประแป้ง.

ประแป้ง
ก. แตะหน้าหรือตัวให้เป็นจุด ๆ ด้วยแป้งนวลผสมนํ้า.

ประโปรย
[-โปฺรย] ก. ทำน้ำให้กระจายเป็นเม็ดเล็ก ๆ เช่น ประโปรยน้ำจากพระสุหร่าย.

ประพรม
[-พฺรม] ก. ประโปรยด้วยสิ่งที่มีลักษณะเป็นน้ำ เช่น ประพรมน้ำมนต์เอาน้ำอบประพรมอัฐิ.

ประวิสรรชนีย์
[ปฺระวิสันชะนี] ก. ใส่เครื่องหมายวิสรรชนีย์.

ประ ๔
[ปฺระ] (ถิ่น-ปักษ์ใต้, มลายู) น. ลูกกระ. (ดู กระ ๒).

ประ ๕
[ปฺระ] ดู กระ ๓.

ประกบ
ก. แนบชิดกัน, ทาบกัน, เช่น ขนมครก ๒ ฝาประกบกัน ไม้ไผ่๒ ซีกประกบกัน.

ประกบตัว
ก. ติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น ตํารวจประกบตัวผู้ร้าย, คุมตัวอย่างใกล้ชิด เช่น ประกบตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในการเล่นฟุตบอลเป็นต้น.

ประกฤต
[-กฺริด] (แบบ) ก. ทํา, ทํามาก. (ส. ปฺรกฺฤต; ป. ปกต).

ประกฤติ
[-กฺริด, -กฺริติ] (แบบ) น. มูลเดิม, ที่เกิด, รากเหง้า; ความเป็นไปตามธรรมดา, ความเป็นไปตามปรกติ, ลักษณะ; กฎ, เกณฑ์,แบบเดิม. (ส. ปฺรกฺฤติ; ป. ปกติ).

ประกล
น. ประการ. ว. ต่าง.

ประกวด
ก. แข่งขันเพื่อเลือกเฟ้นเอาดี โดยมีการตัดสิน เช่น ประกวดนางงามประกวดบทความ.

ประกวดประขัน
ก. แข่งสู้อวดกัน เช่น แต่งตัวประกวดประขันกัน.

ประกวดราคา
ก. เสนอราคาแข่งขันกัน.

ประกอบ
ก. เอาชิ้นส่วนต่าง ๆ มารวมหรือคุมกันเข้าเป็นรูปร่างตามที่ต้องการเช่น ประกอบรถยนต์; ทํา เช่น ประกอบอาชีพ ประกอบธุรกิจ; ประสมหรือปรุงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น ประกอบยา; เสริม, เพิ่มเติม, เช่นอธิบายประกอบ.

ประกอบด้วย
ก. มี, มีมาก, เช่น ประกอบด้วยเมตตา, กอบด้วย ก็ว่า.

ประกอบอาหาร
ก. ทําหรือปรุงแต่งอาหารต่าง ๆ.

ประกัน
ก. รับรองว่าจะรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น, รับรองว่าจะมีหรือไม่มีเหตุการณ์นั้น ๆ. น. หลักทรัพย์ที่ให้ไว้เป็นเครื่องรับรอง.

ประกันชีวิต
(กฎ) น. ชื่อสัญญาประกันภัยชนิดหนึ่ง ซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับประกันภัย ตกลงจะใช้เงินจํานวนหนึ่งให้แก่ผู้รับประโยชน์โดยอาศัยความทรงชีพ หรือมรณะของบุคคลคนหนึ่ง และในการนี้ผู้เอาประกันภัยตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย ให้แก่ผู้รับประกันภัย, สัญญาประกันชีวิต ก็เรียก. (ปาก) ก. ทําสัญญาประกันชีวิต.

ประกันเชิงลา
(โบ) ก. ประกันตัวออกมาจากที่คุมขังได้เป็นคราว ๆ คราวละ๓ วัน หรือ ๗ วัน.

ประกันภัย
(กฎ) น. ชื่อสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับประกันภัย ตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือใช้เงินจํานวนหนึ่งให้ในกรณีที่หากมีวินาศภัยขึ้น หรือในเหตุอย่างอื่นในอนาคตดังได้ระบุไว้ในสัญญาและการนี้บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้เอาประกันภัย ตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย, สัญญาประกันภัย ก็เรียก.

ประกับ ๑
ก. ประกอบเข้าทั้ง ๒ ข้างเพื่อให้แน่น.

ประกับ ๒
(โบ) น. วัตถุใช้แทนเงินปลีก ขนาดเท่าเหรียญมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ นิ้ว ทําด้วยดินเผาตีตราต่าง ๆ.

ประกาย
น. แสงที่เห็นกระเด็นกระจายออกจากวัตถุที่ลุกเป็นไฟ เช่นประกายลูกไฟ, แสงที่เห็นกระเด็นกระจายออกจากของแข็งบางอย่างที่กระทบกันอย่างแรง เช่น ดาบกระทบกันเป็นประกาย ตีเหล็กไฟเป็นประกาย, ความแวววาวที่เหลี่ยมเพชรเป็นต้นกระทบแสง, แสงแปลบปลาบอย่างแสงฟ้าแลบ,โดยปริยายหมายถึงแสงที่มีลักษณะที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่นตาเป็นประกาย, แสงสะท้อนจากสิ่งที่เป็นมันเป็นเงา เช่นประกายแสงจากกระเบื้องหลังคาโบสถ์. (แผลงมาจาก ผกาย).

ประกายพรึก
[ปฺระกายพฺรึก] น. ดาวรุ่ง คือ ดาวพระศุกร์ที่เห็นในเวลาเช้ามืด,ถ้าเห็นในเวลาหัวคํ่า เรียกว่า ดาวประจําเมือง. (ข. ผกาย ว่าดาว + พรึก ว่า รุ่ง).

ประการ
น. อย่าง เช่น จะทําประการไร, ชนิด เช่น หลายประการ; ทํานอง,แบบ, เช่น ด้วยประการฉะนี้. (ส. ปฺรการ; ป. ปการ).

ประกาศ
ก. ป่าวร้อง, แจ้งให้ทราบ, เช่น ประกาศงานบุญงานกุศล. น.ข้อความที่แจ้งให้ทราบทั่วกัน เช่น ประกาศของวัด ประกาศของบริษัท; (กฎ) ข้อความที่ทางราชการแจ้งให้ประชาชนทราบหรือวางแนวทางให้ปฏิบัติ เช่น ประกาศพระบรมราชโองการ ประกาศกระทรวง ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี. (ส. ปฺรกาศ; ป. ปกาส).

ประกาศก
[ปฺระกาสก] (แบบ) น. ผู้ประกาศ. (ส. ปฺรกาศก).

ประกาศนียบัตร
[ปฺระกาสะนียะบัด, ปฺระกาดสะนียะบัด] น. เอกสารแสดงคุณวุฒิตามปรกติตํ่ากว่าระดับอุดมศึกษา.

ประกาศิต
น. คําสั่งเด็ดขาด, คําพูดที่ศักดิ์สิทธิ์.

ประกำ
ก. รัด, ตรึงให้แน่น, เช่น ประกําตรึงด้วยเพชรแน่นหนา.(ม. ร่ายยาว กุมาร).

ประกิด
ก. ประกอบ, ประกับ, ประดับ.

ประกิต
(แบบ) ก. แจ้งความ, ประกาศ, แสดง. (ส.).

ประกีรณกะ, ประเกียรณกะ
[ปฺระกีระนะกะ, ปฺระเกียนระนะกะ] ว. เรี่ยราย, เบ็ดเตล็ด, กระจาย,ระคนกัน, คละกัน. (ส. ปฺรกีรฺณก; ป. ปกิณฺณก).

ประกีรณกะ, ประเกียรณกะ
[ปฺระกีระนะกะ, ปฺระเกียนระนะกะ] ว. เรี่ยราย, เบ็ดเตล็ด, กระจาย,ระคนกัน, คละกัน. (ส. ปฺรกีรฺณก; ป. ปกิณฺณก).

ประแกก
ก. แตกร้าวกัน, วิวาทกัน. (ข. ปฺรแกก ว่า เถียงกัน).

ประคด
น. เครื่องคาดเอวหรืออกของพระภิกษุสามเณร, ถ้าเป็นสายถักเป็นแผ่นสําหรับคาดเอว เรียกว่า ประคดเอว, ถ้าเป็นผืนผ้าสําหรับคาดอก เรียกว่า ประคดอก, รัดประคด ก็เรียก; ผ้าสําหรับคาดเอวทับเครื่องแบบขุนนางสมัยโบราณ.

ประคนธรรพ, ประคนธรรพ์
[ปฺระคนทับ, ปฺระคนทัน] ดู ประโคนธรรพ, ประโคนธรรพ์.

ประคนธรรพ, ประคนธรรพ์
[ปฺระคนทับ, ปฺระคนทัน] ดู ประโคนธรรพ, ประโคนธรรพ์.

ประคบ
ว. เรียกผ้าที่ห่อเครื่องยาผูกเป็นลูกกลม ๆ อังไฟแล้วนาบหรือคลึงบริเวณที่ปวดว่า ลูกประคบ. ก. นาบหรือกดคลึงด้วยลูกประคบ.

ประคบประหงม
ก. ทะนุถนอม, ฟูมฟักรักษา.

ประคอง
ก. พยุงให้ทรงตัวอยู่ เช่น ประคองตัวเอง, ช่วยพยุงไม่ให้เซไม่ให้ล้มเป็นต้น เช่น ประคองคนเจ็บให้ลุก ประคองคนแก่เดิน, ระมัดระวังไม่ให้หกหรือพลั้งพลาด เช่น ประคองชามแกงให้ดี, โอบรัดเบา ๆเช่น หนุ่มสาวเดินประคองกันไป; โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ประคองสถานการณ์บ้านเมืองไว้ให้ดี.

ประคับประคอง
ก. คอยระมัดระวังพยุงไว้, คอยบํารุงรักษา, ทะนุถนอมอย่างดี.

ประคัลภ์
(แบบ) น. ความกล้า, ความสามารถ, ความคะนอง. ว. คล่องแคล่ว,ประเปรียว. (ส.).

ประคำ
น. ลูกกลม ๆ ที่ร้อยเป็นพวงสําหรับเป็นเครื่องหมายการนับในเวลาบริกรรมภาวนาหรือสําหรับใช้เป็นเครื่องราง, เรียกเครื่องประดับที่ทําด้วยทองคําเป็นต้นมีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น.

ประคำร้อย
น. ชื่อฝีชนิดหนึ่งเกิดขึ้นบริเวณลําคอ เป็นเม็ดเรียงกันรอบคอ.

ประคำไก่
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Drypetes roxburghii Wall. ในวงศ์ Euphorbiaceaeลําต้นและกิ่งก้านสีขาวนวล ใบหนาเป็นมัน ผลกลมรีสีขาวอมเทาใช้ทํายาได้, มะคําไก่ ก็เรียก.

ประคำดีควาย
น. ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในสกุล Sapindus วงศ์ Sapindaceaeคือ ชนิด S. trifoliatus L. ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๔-๖ ใบและชนิด S. rarak A. DC. มีใบย่อย ๑๔-๓๐ ใบ ทั้ง ๒ ชนิดผลกลมขนาดผลพุทรา ใช้ทํายาได้ เมื่อชงกับนํ้าร้อน ใช้ซักผ้าไหมหรือล้างเครื่องเพชรแทนสบู่ได้, มะคําดีควาย หรือ มะซัก ก็เรียก.

ประคิ่น, ประคิ่นวินชา
ก. ประจง, ค่อย ๆ ทําให้เรียบร้อย, ประคอง.

ประคิ่น, ประคิ่นวินชา
ก. ประจง, ค่อย ๆ ทําให้เรียบร้อย, ประคอง.

ประคุณ
(แบบ) ก. คล่องแคล่ว, ชํานาญ. (ส. ปฺรคุณ ว่า ตรง, สัตย์ซื่อ,ซื่อตรง; ป. ปคุณ).

ประเคน
ก. ถวายของพระโดยวิธียกส่งให้ตามพิธีการที่กําหนดไว้ เช่นประเคนอาหาร; ส่งให้ถึงมือ (ใช้ในความแดกดัน) เช่น ต้องเอาไปประเคนให้จนถึงที่; (ปาก) ตี เช่น ประเคนกระบาล ๓ ที.

ประเคราะห์
(แบบ) น. ความเพียรที่แก่กล้า; การยกย่อง, การเชิดชู, ตรงข้ามกับนิเคราะห์ ซึ่งแปลว่า การกําราบ, การลงโทษ, การข่มขี่. ก. ยกย่อง,ประคับประคอง. (ส. ปฺรคฺรห; ป. ปคฺคห).

ประโคน ๑
น. เรียกเสาใหญ่ที่ปักหมายเขตแดนระหว่างประเทศหรือเมืองเป็นต้นว่า เสาประโคน.

ประโคน ๒
น. สายรัดจากใต้สัปคับไปที่อกช้าง หลังขาหน้า แล้วลอดมาบรรจบกันโยงใต้ท้องช้างและหน้าขาหน้าไปจากสายชนักที่คอช้าง, (กลอน)กระคน ก็ว่า.

ประโคนธรรพ, ประโคนธรรพ์
[ปฺระโคนทับ, ปฺระโคนทัน] น. หัวหน้าคนธรรพ์ผู้เป็นเจ้าแห่งการดนตรี ถือว่าเป็นครูปี่พาทย์, เขียนเป็น ประคนธรรพ หรือประคนธรรพ์ ก็มี.

ประโคนธรรพ, ประโคนธรรพ์
[ปฺระโคนทับ, ปฺระโคนทัน] น. หัวหน้าคนธรรพ์ผู้เป็นเจ้าแห่งการดนตรี ถือว่าเป็นครูปี่พาทย์, เขียนเป็น ประคนธรรพ หรือประคนธรรพ์ ก็มี.

ประโคม
ก. บรรเลงดนตรีเพื่อเป็นสัญญาณในพิธีบางอย่างเพื่อสักการบูชาหรือยกย่องเป็นต้น.

ประโคมข่าว
ก. ป่าวประกาศให้ครึกโครม.

ประจง
ก. บรรจง, ทําให้ดี.

ประจญ
[ปฺระจน] ก. ต่อสู้, สู้รบ, ต้านทาน, ผจญ ก็ว่า.

ประจบ ๑
ก. บรรจบ, เพิ่มให้ครบจํานวน, เช่น มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท;จดกัน, ใกล้ชิดติดต่อกัน, เช่น ปูกระดานให้ประจบกัน ทาง ๒ สายมาประจบกัน, ทําให้เข้ากันสนิท เช่น ติดกรอบหน้าต่างให้มุมประจบกัน.

ประจบ ๒, ประจบประแจง
ก. พูดหรือทําให้เขารักเขาชอบ.

ประจบ ๒, ประจบประแจง
ก. พูดหรือทําให้เขารักเขาชอบ.

ประจบสอพลอ
ก. ประจบประแจงผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีฐานะสูงกว่าด้วยการกล่าวร้ายป้ายสีผู้อื่นเป็นต้นเพื่อประโยชน์ของตน.

ประจวบ
ก. จําเพาะพอดี, สบเหมาะ, บังเอิญพบ, เช่น นํ้าเหนือหลากมาประจวบกับนํ้าทะเลหนุน นํ้าเลยท่วม.

ประจ๋อประแจ๋
ว. กะหนอกะแหน, ฉอเลาะ, อาการที่พูดเอาอกเอาใจหรือประจบประแจง.

ประจักษ-, ประจักษ์
ว. ปรากฏชัด อาจเป็นทางตาหรือใจก็ได้ เช่น ประจักษ์แก่ตาประจักษ์แก่ใจ. (ส. ปฺรตฺยกฺษ; ป. ปจฺจกฺข).

ประจักษ-, ประจักษ์
ว. ปรากฏชัด อาจเป็นทางตาหรือใจก็ได้ เช่น ประจักษ์แก่ตาประจักษ์แก่ใจ. (ส. ปฺรตฺยกฺษ; ป. ปจฺจกฺข).

ประจักษนิยม
[ปฺระจักสะ-] น. ประสบการณ์นิยม.

ประจักษ์พยาน
(กฎ) น. พยานบุคคลที่เป็นผู้ได้เห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่ให้การเป็นพยานนั้นมาด้วยตนเองโดยตรง.

ประจัญ
[ปฺระจัน] ก. ปะทะต่อสู้, ผจัญ ก็ว่า.

ประจัญบาน
ก. รบอย่างตะลุมบอน.

ประจัน
ก. กั้นเป็นส่วนสัด เช่น ฝาประจันห้อง; ประชัน, ประเชิญ, เผชิญ,เช่น หันหน้าประจันกัน; เรียกไม้ที่ใช้คํ้าแคมเรือที่เบิกได้ที่แล้วเพื่อไม่ให้หุบว่า ไม้ประจัน.

ประจันหน้า
ก. เผชิญหน้ากัน, อยู่ต่อหน้ากัน.

ประจาก
ก. พรากไป, จากไป.

ประจาค
ก. สละ, ให้. (ป. ปริจฺจาค; ส. ปฺรตฺยาค).

ประจาน
ก. ประกาศเปิดเผยความชั่วให้รู้ทั่วกันด้วยวิธีต่าง ๆ เช่นพูดประจาน ตัดหัวเสียบประจาน พาตระเวนประจานทั่วเมือง. (ข. ผจาล ว่า ทําให้เข็ดหลาบ).

ประจำ
ว. เป็นปรกติ, เสมอ, เช่น มาเป็นประจํา นั่งประจํา; เฉพาะ เช่นตราประจํากระทรวง ตราประจําตําแหน่ง; ที่กําหนดให้มีเป็นปรกติ เช่น งานประจําปี, เรียกรถโดยสารที่วิ่งอยู่บนเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเป็นปรกติว่า รถประจําทาง, เรียกครูหรืออาจารย์ที่สอนและดูแลรับผิดชอบนักเรียนชั้นใดชั้นหนึ่งเป็นปรกติว่าครูหรืออาจารย์ประจําชั้น, เรียกบัตรที่ออกให้ไว้เฉพาะบุคคลและจะต้องเก็บไว้กับตัวเป็นปรกติว่า บัตรประจําตัว, เรียกลูกจ้างที่จ้างไว้เป็นปรกติ ไม่ใช่ชั่วคราวว่า ลูกจ้างประจํา,เรียกผู้ที่มาติดต่อหรือไปมาหาสู่กันเสมอเป็นปรกติ เช่น ลูกค้าประจํา ขาประจํา, ลักษณะการฝากเงินไว้กับธนาคารโดยจะได้รับดอกเบี้ยเมื่อฝากครบตามเวลาที่กำหนดไว้ เรียกว่าฝากประจำ. น. เงินที่มอบไว้แก่คู่สัญญา โดยตกลงว่า ถ้าตนไม่ทําตามสัญญา ให้ริบเงินนั้นเสีย เรียกว่า เงินวางประจํา,มัดจํา ก็ว่า.

ประจำการ
ว. อยู่ในตําแหน่งหน้าที่ประจํา, ยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่,เช่น ทหารประจําการ.

ประจำครั่ง, ประจำตรา
ก. เอาครั่งผนึกแล้วประทับเครื่องหมายเป็นสําคัญ.

ประจำครั่ง, ประจำตรา
ก. เอาครั่งผนึกแล้วประทับเครื่องหมายเป็นสําคัญ.

ประจำฉัตร
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์อนุราธา มี ๔ ดวง, ดาวนกยูง ดาวอนุราธหรือ ดาวอนุราธะ ก็เรียก.

ประจำซอง
ก. เข้าประจํารักษาหน้าที่เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน.

ประจำเดือน
น. ระดู.

ประจำเมือง
น. ชื่อดาวพระศุกร์ที่เห็นในเวลาหัวคํ่า, ถ้าเห็นในเวลาเช้ามืด เรียกว่าดาวรุ่ง หรือ ดาวประกายพรึก.

ประจำยาม
น. ชื่อลายอย่างหนึ่ง มีรูปเป็นดอก ๔ กลีบ วางเป็นระยะ ๆ คั่นลายอื่น.

ประจิม
น. ทิศตะวันตก.

ประจิ้มประจ่อง
ก. หยิบหย่ง, ดัดจริตกรีดกราย.

ประจิ้มประเจ๋อ
ว. พูดจาและแสดงกิริยาเสนอหน้าอย่างเด็ก.

ประจุ
ก. บรรจุ, ใส่; ใส่เข้าที่ให้แน่น เช่น ประจุดินปืน; เข้าประจําที่,เข้าประจําตําแหน่ง. น. เรียกยาที่ขับพิษถ่ายพิษว่า ยาประจุ.

ประจุไฟฟ้า
น. อนุภาคที่แสดงอํานาจไฟฟ้าซึ่งได้แก่ โปรตอน และอิเล็กตรอนวัตถุใดที่มีจํานวนโปรตอนมากกว่าจํานวนอิเล็กตรอน ก็กําหนดว่าวัตถุนั้นมีประจุไฟฟ้าบวก แต่ถ้ามีจํานวนอิเล็กตรอนมากกว่าจํานวนโปรตอน ก็กําหนดว่าวัตถุนั้นมีประจุไฟฟ้าลบ.

ประจุโลหิต
ก. ฟอกเลือด.

ประจุขาด
น. เรียกวิธีกล่าวคําลาสึกจากพระ.

ประจุคมน์
ก. ลุกขึ้นต้อนรับ. (ป. ปจฺจุคฺคมน).

ประจุบัน
น. ปัจจุบัน. (ป. ปจฺจุปฺปนฺน; ส. ปฺรตฺยุตฺปนฺน).

ประเจก
ว. ปัจเจก, เฉพาะตัว, เฉพาะผู้เดียว. (ป. ปจฺเจก; ส. ปฺรเตฺยก).

ประเจิด
ก. บรรเจิด, เชิดขึ้นสูง, สูงเด่น, เฉิดฉาย. ว. งาม.

ประเจิดประเจ้อ
ว. อาการกระทําที่ถือกันว่าน่าละอายหรือไม่บังควรให้คนอื่นเห็น.

ประเจียด
น. ผ้าลงเลขยันต์ถือกันว่าเป็นเครื่องป้องกันอันตรายได้ ใช้เป็นผ้าผูกคอหรือผูกต้นแขนเป็นต้น.

ประแจ
น. กุญแจ.

ประแจจีน
น. ชื่อลายแบบจีนชนิดหนึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมหักมุมไขว้กัน.

ประชด
ก. แกล้งทําให้เกินควรหรือพูดแดกดันเพราะความไม่พอใจ เช่นหุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว พูดประชด, ประชดประชันก็ว่า, ในกลอนใช้ว่า ประทยด หรือ ประเทียด ก็มี.

ประชดประชัน
ก. พูดหรือทําเป็นเชิงกระทบกระแทกแดกดัน.

ประชน
ก. ประชัน, มักใช้เข้าคู่กับคํา ประชัน เป็น ประชนประชัน.

ประชวม
(กลอน) ก. ประชุม.

ประชวร
[ปฺระชวน] (ราชา) ก. เจ็บป่วย. (ใช้แก่เจ้านาย). (ส. ปฺรชวร).

ประชัน
ว. อาการที่แข่งขันเพื่อให้รู้ว่าใครจะแสดงได้ดีกว่าหรือเก่งกว่ากันเช่น งิ้ว ๒ โรงประชันกัน อย่าเอาเป็ดขันประชันไก่, โดยปริยายหมายถึงอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เด็กร้องไห้ประชันกัน.

ประชา
น. หมู่คน เช่น ปวงประชา. (ส.; ป. ปชา).

ประชากร
น. หมู่คน, หมู่พลเมือง (เกี่ยวกับจํานวน).

ประชากรศาสตร์
น. การศึกษาทางสถิติเกี่ยวกับประชากรในแง่อัตราการเกิดการตาย การย้ายถิ่น และการกระจาย เป็นต้น รวมทั้งผลกระทบที่มีต่อสภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจ.

ประชาคม
น. ชุมชน, กลุ่มชนซึ่งอยู่รวมกันและมีการติดต่อสัมพันธ์กัน.

ประชาชน, ประชาราษฎร์
น. พลเมือง, สามัญชนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ใช่ข้าราชการ พ่อค้า หรือนักบวชในความว่า ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน.

ประชาชน, ประชาราษฎร์
น. พลเมือง, สามัญชนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ใช่ข้าราชการ พ่อค้า หรือนักบวชในความว่า ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน.

ประชาชาติ
น. ประเทศ, ประชาชนที่เป็นพลเมืองของประเทศ, ชาติ ก็ว่า.

ประชาชี
(ปาก) น. ประชาชน.

ประชาทัณฑ์
น. การที่ฝูงชนกลุ้มรุมทําร้าย เป็นการลงโทษบุคคลที่ตนเข้าใจหรือนึกว่ามีความผิด โดยไม่ดําเนินการตามกระบวนการยุติธรรม.

ประชาธิปไตย
[ปฺระชาทิปะไต, ปฺระชาทิบปะไต] น. ระบอบการปกครองที่ถือมติปวงชนเป็นใหญ่, การถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่. (ส. ปฺรชา +ป. อธิปเตยฺย).

ประชานาถ
น. พระพรหม. (ส.).

ประชาบดี
น. เจ้าแห่งสรรพสัตว์. (ส. ปฺรชาปติ).

ประชาบาล
น. การศึกษาของท้องถิ่น มีราชการบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดําเนินการ, เรียกโรงเรียนประเภทนี้ว่า โรงเรียนประชาบาล;(เลิก) การปกครองพลเมืองในท้องถิ่น.

ประชาพิจารณ์
น. การฟังความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่. (อ. public hearing).

ประชาภิบาล
น. ผู้ปกครองพลเมือง; การปกครองชาวเมือง. (ส.).

ประชามติ
น. มติของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศที่แสดงออกในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือที่ใดที่หนึ่ง. (อ. plebiscite); มติของประชาชนที่รัฐให้สิทธิออกเสียงลงคะแนนรับรองร่างกฎหมายสําคัญที่ได้ผ่านสภานิติบัญญัติแล้ว หรือให้ตัดสินในปัญหาสําคัญในการบริหารประเทศ. (อ. referendum).

ประชาสงเคราะห์
น. การช่วยเหลือในด้านสวัสดิการ เช่นการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบสาธารณภัยที่รัฐให้แก่ประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก.

ประชาสัมพันธ์
ก. ติดต่อสื่อสารเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันถูกต้องต่อกัน. น. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการนี้.

ประชิด
ก. เข้าถึงตัว, เข้าชิดตัว, เช่น ผู้ร้ายมาประชิดตัว.

ประชี
ก. ทำสิ่งที่เป็นปุยอย่างสำลีหรือที่เป็นเส้นอย่างกลุ่มยาเส้นให้กระจายตัวออก.

ประชุม
ก. มารวมกันหรือเรียกให้มารวมกันเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง,มาร่วมพบกันเพื่อปรึกษาหารือ, เช่น ประชุมกรรมการ, โดยปริยายใช้หมายถึงเอาสิ่งที่เป็นประเภทเดียวกันมารวมกัน เช่น ประชุมพงศาวดาร ประชุมปาฐกถา, บางทีใช้หมายความอย่างเดียวกับชุมนุม เช่น ประชุมพระบรมราชาธิบาย ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔.

ประชุมเพลิง
[-เพฺลิง] ก. เผาศพ.

ประชุมสุดยอด
น. การประชุมระหว่างประเทศของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงของรัฐบาล.

ประเชิญ
ก. ชนกัน, ปะทะกัน, เจอหน้ากัน; เอาผ้านุ่ง ผ้าขาวม้าเป็นต้นที่ขาดกลางผืนมาตัดตรงขาดออก แล้วเอาชายมาต่อกันเข้าใหม่ เรียกว่าประเชิญผ้า.

ประณต
ก. น้อมไหว้. (ส.).

ประณม
น. การน้อมไหว้. (ส.).

ประณาม ๑
ก. น้อมไหว้ เช่น ขอประณามบาทบงสุ์พระทรงศรี. (ส. ปฺรณาม;ป. ปณาม).

ประณาม ๒
ก. กล่าวร้ายให้เขาเสียหาย เช่น ถูกประณามว่าเป็นคนโกง;ขับไล่. (ส. ปฺรณาม; ป. ปณาม).

ประณิธาน
น. การตั้งความปรารถนา. (ส. ปฺรณิธาน; ป. ปณิธาน).

ประณิธิ
น. การตั้งความปรารถนา. (ส. ปฺรณิธิ; ป. ปณิธิ).

ประณีต
ว. ละเอียดลออ, เรียบร้อยงดงาม, เช่น ฝีมือประณีต ทําอย่างประณีต, ที่ปรุงอย่างสุดฝีมือด้วยของดี ๆ เช่น ปรุงอาหารอันประณีต. (ส. ปฺรณีต; ป. ปณีต).

ประณุท
[ปฺระนุด] ก. บรรเทา, ระงับ. (ส. ปฺรณุท; ป. ปนุท).

ประดง
น. ชื่อโรคผิวหนังจําพวกหนึ่ง ทําให้คันเป็นต้น ตามตําราแพทย์แผนโบราณว่ามีหลายชนิด เช่น ประดงเลือด ประดงลม.

ประดงแดง
ดู กระโดงแดง.

ประดน ๑
ว. เก่า. (ส. ปฺรตน).

ประดนธรรม
น. ธรรมของเก่า.

ประดน ๒
ก. เพิ่มให้, เติมให้, แถมให้, ให้ทดแทนที่ขาดอยู่.

ประดวน
ก. ยอน, แยง.

ประดอน
ก. อุดหรือยัดปิดรูไว้.

ประดอย
ก. ทําให้งดงามและละเอียดลออยิ่งขึ้น, มักใช้เข้าคู่กับคําประดิด เป็น ประดิดประดอย.

ประดัก ๆ
ว. อาการแห่งคนที่ตกนํ้าแล้วสําลักนํ้า เรียกว่า สําลักประดัก ๆ,อาการที่ชักหงับ ๆ ใกล้จะตาย.

ประดักประเดิด
ว. รี ๆ รอ ๆ, ที่ทําให้รู้สึกลําบากยุ่งยากกายหรือใจ.

ประดัง
ว. ยัดเยียดกันเข้ามา เช่น คนประดังกันเข้ามา, มาติด ๆ พร้อม ๆกัน เช่น งานประดังเข้ามา; ดังขึ้นพร้อมกัน, แซ่ซ้อง, (หมายเอาเสียง).

ประดับ
ก. ตกแต่งให้งามด้วยสิ่งต่าง ๆ มีสร้อย แหวน เป็นต้น เช่น ประดับเหรียญตรา ประดับอาคารสถานที่ ประดับโคมไฟ, โดยปริยายหมายความว่า ประกอบ, เพิ่ม, เช่น ประดับบารมี.

ประดับประดา
(ปาก) ก. ประดับ.

ประดา ๑
ว. บรรดา, ทั้งหมด, ถ้าใช้เข้าคู่กับคํา เต็ม เป็น เต็มประดาหมายความว่า เต็มที. ก. เรียงหน้ากันเข้าไป.

ประดาตาย
ว. แทบตาย ในความว่า แทบล้มประดาตาย.

ประดาทัพ
ก. ตั้งกองทัพเรียงหน้ากระดานเข้าไป.

ประดาพล
ก. ยกพลเรียงหน้าเข้าไป.

ประดามี
(ปาก) ว. ที่มีอยู่ทั้งหมด, บรรดามี ก็ว่า.

ประดาเสีย
ว. ล้วนแต่เสียทั้งนั้น, เสียมาก, เลวเต็มที.

ประดา ๒
ก. ดําทน เช่น ประดานํ้า ประดาดิน.

ประดาน้ำ
น. ผู้ชํานาญดํานํ้า.

ประดาก
น. ธงผืนผ้า. (ส. ปตาก; ป. ปฏาก).

ประดาป
น. ความร้อน, ความร้อนใจ, ความร้อนรน; อํานาจ, ความเป็นใหญ่,เกียรติยศ. (ส. ปฺรตาป; ป. ปตาป).

ประดาษ
ว. ตกต่ำ เช่น โอ้ครั้งนี้มิได้เห็นเช่นฉลอง เพราะตัวต้องตกประดาษวาสนา. (นิ. ภูเขาทอง). (ข. ผฺฎาส ว่า ผิดระเบียบ นอกรีตนอกรอย).

ประดิ-
ศัพท์นี้ใช้แทนคําว่า ปฏิ หรือ ประติ. (ดูคําที่มี ปฏิ หรือ ประติ นําหน้า).

ประดิชญา
[ปฺระดิดยา, ปฺระดิดชะยา] (แบบ) น. ปฏิญญา. (ส. ปฺรติชฺ?า).

ประดิดประดอย
ก. บรรจงทําให้งดงามและละเอียดลออยิ่งขึ้น, ใช้ว่า ประดอย ก็ได้.

ประดิทิน
ว. ประจําวัน, ทุกวัน, เสมอไป, เช่น อนึ่งผู้อยู่ในราชการอันบรรดาจําบําเรอประดิทิน. (กฎ. ราชบุรี).

ประดิรพ
[ปฺระดิรบ] ก. ประติรพ.

ประดิษฐ-, ประดิษฐ์
[ปฺระดิดถะ-, ปฺระดิด] ก. ตั้งขึ้น, จัดทําขึ้น, คิดทําขึ้น, สร้างขึ้น,แต่งขึ้น. ว. ที่จัดทําขึ้นให้เหมือนของจริง เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์,ที่คิดทำขึ้นไม่เหมือนธรรมชาติ เช่น ลายประดิษฐ์. (ส. ปฺรติษฺ?;ป. ปติฏฺ?).

ประดิษฐ-, ประดิษฐ์
[ปฺระดิดถะ-, ปฺระดิด] ก. ตั้งขึ้น, จัดทําขึ้น, คิดทําขึ้น, สร้างขึ้น,แต่งขึ้น. ว. ที่จัดทําขึ้นให้เหมือนของจริง เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์,ที่คิดทำขึ้นไม่เหมือนธรรมชาติ เช่น ลายประดิษฐ์. (ส. ปฺรติษฺ?;ป. ปติฏฺ?).

ประดิษฐกรรม
น. การทําสิ่งของขึ้นจากวัตถุดิบ.

ประดิษฐาน
[ปฺระดิดสะถาน] ก. ตั้งไว้ (ใช้แก่สิ่งที่เคารพนับถือ) เช่น นําพระพุทธรูปไปประดิษฐานไว้ในโบสถ์ ประดิษฐานพระพุทธศาสนา, แต่งตั้งไว้ในตําแหน่งสูง เช่น ประดิษฐานไว้ในตําแหน่งอัครมเหสี. (ส. ปฺรติษฺ?าน;ป. ปติฏฺ?าน).

ประดุง
ก. ผดุง.

ประดุจ
ว. เช่น, คล้าย, เหมือน, ดัง.

ประดู่
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ ๒ ชนิดในสกุล Pterocarpus วงศ์ Leguminosaeดอกสีเหลือง กลิ่นหอม ชนิด P. indicus Willd. กิ่งมักทอดย้อย เปลือกสีเทา มีนํ้ายางน้อย ปลูกเป็นไม้ให้ร่มตามถนน, ชนิด P. macrocarpusKurz กิ่งชูขึ้นเล็กน้อย เปลือกสีนํ้าตาลเข้ม มีนํ้ายางมาก ขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไป เนื้อไม้สีแดงนิยมใช้ทําดุมเกวียน.

ประดู่แขก
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Dalbergia sissoo Roxb. ex DC. ในวงศ์Leguminosae.

ประดู่ชิงชัน
ดู ชิงชัน.

ประดู่แดง
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Phyllocarpus septentrionalis J.D. Sm.ในวงศ์ Leguminosae ดอกสีแดงออกเป็นช่อใหญ่.

ประดู่ลาย
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Dalbergia errans Craib ในวงศ์ Leguminosaeดอกสีม่วงอ่อน เนื้อไม้ใช้ทําเครื่องเรือน.

ประเด
ก. มอบให้หมด เช่น ประเดงานเข้ามาจนทําไม่ไหว, ทุ่มเทให้ เช่นประเดให้จนเกินต้องการ.

ประเด็น
น. ข้อความสําคัญของเรื่องที่แยกหยิบยกขึ้นพิจารณา; (กฎ)ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอันเป็นสาระสําคัญที่คู่ความยกขึ้นเป็นข้ออ้างในคดี.

ประเดยก
[ปฺระดะเหฺยก] (แบบ) ว. ปัจเจก เช่น เพราะกูเป็นประเดยก.(ม. คําหลวง วนปเวสน์). (ส. ปฺรเตฺยก; ป. ปจฺเจก).

ประเดิม
ก. เริ่มต้นหรือเริ่มแรกในการซื้อหรือขายเป็นต้น เช่น ประเดิมซื้อประเดิมขาย ประเดิมฝาก (มักใช้ในลักษณะที่เกี่ยวกับพิธีการหรือโชคลาง).

ประเดียง
ก. เผดียง.

ประเดี๋ยว
น. ชั่วระยะเวลาหนึ่ง, ชั่วขณะหนึ่ง, ชั่วครู่หนึ่ง, เช่น รอประเดี๋ยวนะ,เดี๋ยว ก็ว่า.

ประเดี๋ยวก่อน
คําขอผัดไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง, เดี๋ยวก่อน ก็ว่า.

ประเดี๋ยวเดียว
ว. ชั่วระยะเวลานิดเดียว, เดี๋ยวเดียว ก็ว่า.

ประเดี๋ยวนี้
ว. เวลานี้, ในเวลานี้, ทันที, เดี๋ยวนี้ ก็ว่า.

ประเดี๋ยวประด๋าว
ว. ชั่วครู่ชั่วยาม.

ประแดง
(โบ) น. คนเดินหมาย, คนนําข่าวสาร, ผู้สื่อข่าว, นักการ; พนักงานตามคน, ตําแหน่งข้าราชการในสํานักพระราชวัง, บาแดง ก็ใช้.

ประแดะ
น. เครื่องมือของช่างทอง สําหรับเคาะสิ่วสลัก มีรูปคล้ายค้อน แต่แบนทําด้วยเขาสัตว์; เรียกมีดพกปลายแหลมชนิดหนึ่งที่มีด้ามงอเฉียงลงว่ามีดประแดะ, คอม้า ก็เรียก.(รูปภาพ ประแดะ)

ประโดง
น. ลำน้ำขนาดเล็กที่ขุดจากลำน้ำขนาดใหญ่เพื่อชักน้ำเข้านาเข้าสวนเรียกว่า ลำประโดง, ลำกระโดง ก็ว่า.

ประโดย
ก. พลอยตาม, ยอมตาม.

ประตง
น. โจร. (ช.).

ประตยาค
[ปฺระตะยาก] ก. ประจาค. (ส. ปฺรตฺยาค).

ประตัก
น. ไม้ที่ฝังเหล็กแหลมข้างปลายใช้แทงสัตว์พาหนะเช่นวัว.

ประตาป
น. ประดาป.

ประติ-
เป็นคําสันสกฤตใช้เหมือน ปฏิ. (ดูคําที่มี ปฏิ หรือ ประติ นําหน้า).

ประติชญา
[ปฺระติดชะยา] น. ปฏิญญา. (ส. ปฺรติชฺ?า; ป. ปฏิญฺ?า).

ประติญาณ
น. ปฏิญาณ. (ส. ปฺรติชฺ?าน).

ประติทิน
น. ปฏิทิน. (ส. ปฺรติ + ทิน; ป. ปฏิ + ทิน).

ประติมากร
[ปฺระติมากอน] น. ช่างปั้น, ช่างแกะสลัก.

ประติมากรรม
[ปฺระติมากํา] น. ศิลปะสาขาหนึ่งในจําพวกวิจิตรศิลป์เกี่ยวกับการแกะสลักไม้ หินอ่อน โลหะ เป็นต้น ให้เป็นรูปหรือลวดลายต่าง ๆ.(ส. ปฺรติมา + กรฺม; ป. ปฏิมา + กมฺม).

ประติศรัพ
[ปฺระติสับ] น. ปฏิสวะ. (ส.; ป. ปฏิสฺสว).

ประตู
น. ช่องทางเข้าออกของบ้านเรือนเป็นต้น มีบานเปิดปิดได้ เช่นประตูบ้าน ประตูเมือง, ช่อง, ทาง, เช่น ไม่มีประตูสู้, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ประตูฟุตบอลประตูรักบี้, ช่องหรือโอกาสที่จะได้หรือเสียในการเล่นการพนันบางชนิด เช่น ถั่ว โป ไฮโล นํ้าเต้า; ลักษณนามเรียกจํานวนครั้งที่เตะลูกบอลเข้าไปในประตู เช่น ได้ ๒ ประตู เสีย ๓ ประตู, เรียกช่องหรือโอกาสที่จะได้หรือเสียในการพนันบางชนิด เช่น ถูกประตูเดียวกิน ๓ ประตู.

ประตูชัย
น. ประตูที่มีลักษณะเป็นซุ้ม อาจสร้างเป็นการถาวรหรือชั่วคราวสําหรับผู้ชนะสงครามจะเดินลอดในพิธีเพื่อประกาศชัยชนะ.

ประตูโตงเตง
น. ประตูเพนียดที่มีเสาโตงเตง.

ประตูน้ำ
น. ประตูสําหรับควบคุมระดับนํ้าที่ไหลเข้าออก; (กฎ) สิ่งที่สร้างขึ้นในทางนํ้าเพื่อให้เรือแพผ่านทางนํ้าที่มีระดับนํ้าต่างกันได้.

ประตูป่า
น. ปากทางที่จะเข้าสู่ป่า, ประตูที่สะด้วยใบไม้กิ่งไม้สําหรับพิธีเทศน์มหาชาติ, ประตูเรือนที่ปักกิ่งไม้ไว้เวลานําศพออกจากบ้าน.

ประตูผี
(โบ) น. ประตูที่เป็นทางนําศพออกจากภายในเขตกําแพงเมือง.

ประตูฟุตบอล
น. ประตู ๒ เสา มีคานและมีตาข่ายรอรับลูกฟุตบอลที่เตะผ่านเข้าไป.

ประตูระบาย
น. สิ่งที่สร้างขึ้นในคลองส่งนํ้าเพื่อควบคุมนํ้าในคลองให้มีระดับหรือปริมาณตามที่ต้องการ; (กฎ) สิ่งที่สร้างขึ้นในทางนํ้าเพื่อทดกัก กั้น หรือระบายนํ้า ณ ที่อื่นอันมิใช่ที่มาแห่งนํ้าซึ่งจะส่งเข้าสู่เขตชลประทาน โดยมีช่องปิดเปิดได้.

ประตูรับน้ำ
น. อาคารที่สร้างขึ้นตรงบริเวณคันคลองส่งนํ้า เพื่อรับนํ้าจากทางนํ้าอื่นที่อยู่ตามระยะทางของคลองส่งนํ้า.

ประตูลม
น. เรียกอวัยวะส่วนที่อยู่ระหว่างนิ้วมือนิ้วเท้า.

ประถม
ว. ปฐม, ลําดับแรก, ลําดับเบื้องต้น, เช่น ประถมศึกษา ชั้นประถม;ชั้นที่ ๑, เรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ ๑ ในตระกูลช้างเผือกและมงกุฎไทยว่า ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย. (ส.).

ประถมจินดา
[ปฺระถมมะ-] น. ชื่อคัมภีร์แพทย์แผนโบราณ.

ประทบ
(กลอน) ก. กระทบ เช่น ประทบประทะอลวน. (ตะเลงพ่าย).

ประทม
ก. บรรทม, ผทม ก็ว่า.

ประทยด
[ปฺระเทียด] ก. ประชด เช่น จึงจะรุมโรมโซรมประทยด สยดตัดพ้อ.(ม. คําหลวง ชูชก); ว่าร้ายในเชิงเปรียบเทียบ.

ประท้วง
ก. กระทําการหรือแสดงกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการคัดค้านเพราะไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจอย่างยิ่ง เช่น อดข้าวประท้วงเขียนหนังสือประท้วง.

ประทวน
น. ฐานันดรที่ตํ่ากว่าชั้นสัญญาบัตร เช่น นายทหารชั้นประทวน;สมณศักดิ์ชั้นตํ่ากว่าพระครูสัญญาบัตร; (โบ) หนังสือแทนสารกรมธรรม์.

ประทวนสินค้า
(กฎ) น. เอกสารซึ่งนายคลังสินค้าออกโดยระบุชื่อผู้ฝากสินค้าซึ่งให้สิทธิแก่ผู้ฝากที่จะสลักหลังจํานําสินค้าที่จดแจ้งไว้ในประทวน โดยไม่ต้องส่งมอบสินค้านั้นแก่ผู้รับสลักหลัง.

ประทักษ์
ว. ขยัน, ฉลาด, คล่องแคล่ว, สามารถ.

ประทักษิณ
น. การเวียนขวา โดยให้สิ่งที่เรานับถือหรือผู้ที่เรานับถือเป็นต้นอยู่ทางขวาของผู้เวียน. (ส.).

ประทัง
ก. ทําให้ทรงอยู่ได้, ทําให้ดํารงอยู่ได้, เช่น กินพอประทังชีวิตเรือนโย้เอาเสาไปคํ้าพอประทังไว้ก่อน.

ประทัด ๑
น. เครื่องดอกไม้ไฟของจีน ทําด้วยกระดาษสีแดงอัดแน่นห่อดินปืนรูปร่างคล้ายบุหรี่ มีชนวนสําหรับจุด มีเสียงดัง, ลักษณนามว่า ดอกเช่น ประทัด ๒ ดอก.

ประทัดลม
น. เครื่องดอกไม้ไฟ ทําด้วยกระดาษห่อเม็ดกรวดคลุกสารเคมีบางชนิด ใช้ขว้างให้ไปกระทบของแข็งจะแตกระเบิดดังปัง.

ประทัด ๒
น. (๑) ชื่อไม้พุ่มชนิด Quassia amara L. ในวงศ์ Simaroubaceaeใบเป็นใบประกอบ ดอกสีแดง กลีบดอกแยกจากกัน เปลือกใช้ทํายาได้, ประทัดใหญ่ ประทัดจีน หรือ ประทัดทอง ก็เรียก. (๒)ชื่อไม้พุ่มชนิด Russelia equisetiformis Schltr. et Cham. ในวงศ์Scrophulariaceae ลําต้นเป็นเหลี่ยม แตกกิ่งก้านสาขามากใบเป็นฝอยคล้ายใบสน ดอกมีหลายสี กลีบดอกเป็นหลอดแคบ ๆ, ประทัดเล็ก หรือ ประทัดฝรั่ง ก็เรียก.

ประทัดจีน, ประทัดทอง, ประทัดใหญ่
ดู ประทัด ๒ (๑).

ประทัดจีน, ประทัดทอง, ประทัดใหญ่
ดู ประทัด ๒ (๑).

ประทัดจีน, ประทัดทอง, ประทัดใหญ่
ดู ประทัด ๒ (๑).

ประทัดฝรั่ง, ประทัดเล็ก
ดู ประทัด ๒ (๒).

ประทัดฝรั่ง, ประทัดเล็ก
ดู ประทัด ๒ (๒).

ประทับ
ก. (ราชา) อยู่ที่, อยู่กับที่, เช่น ประทับที่พระตําหนักจิตรลดารโหฐาน,(ราชา) นั่ง เช่น ประทับบนพระราชอาสน์; แนบอยู่, แนบชิด, แนบลง,เช่น กอดประทับอก เอาปืนประทับบ่า.

ประทับใจ
ก. ติดอกติดใจ, ฝังอยู่ในใจ.

ประทับตรา
ก. กดตราลงบนเอกสาร.

ประทับฟ้อง
(กฎ) ก. รับฟ้องไว้พิจารณาต่อไป.

ประทับราบ
(ราชา) ก. นั่งกับพื้น.

ประทับแรม
(ราชา) ก. พักค้างคืนในที่อื่น.

ประท่า
(โบ) น. ฟากโน้น, ฝั่งโน้น.

ประทากล้อง
[ปฺระทากฺล้อง] น. ทองคําเปลวอย่างหนาและเนื้อดี เหมือนทองของหลวง, ใช้ว่า ประทาศี ก็มี, เรียกให้เต็มว่า ทองประทากล้องทองประทาศี.

ประทาน
(ราชา) ก. ให้ (ใช้แก่เจ้านาย). (ส.).

ประทานบัตร
[ปฺระทานนะบัด, ปฺระทานบัด] (กฎ) น. หนังสือสําคัญที่ออกให้ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ เพื่อให้มีสิทธิทําเหมืองแร่ภายในเขตที่กําหนดในหนังสือสําคัญนั้น; ใบอนุญาตซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดออกให้แก่บุคคลผู้ประมูลได้ ให้มีสิทธิทําการประมงในที่ว่าประมูล.

ประทาย
น. ค่าย, ป้อม. (ข.).

ประทาศี
น. ทองประทากล้อง.

ประทิน
ก. ทําให้สะอาดหมดจด เช่น ประทินผิว.

ประทิ่น
น. เครื่องหอม.

ประทีป
น. ไฟที่มีเปลวสว่าง (หมายเอาตะเกียง ไฟเทียน เป็นต้น), ตะเกียง,โคม. (ส. ปฺรทีป; ป. ปทีป).

ประทุก
ก. บรรทุก.

ประทุฐ
[ปฺระทุด] ว. ชั่ว, ร้าย. (ป. ปทุฏฺ?).

ประทุฐจิต
[ปฺระทุดถะจิด] น. จิตร้าย, จิตโกรธ.

ประทุน
น. หลังคาเรือ รถ หรือเกวียนที่มีรูปโค้งคุ่มตามรูปเรือ รถ หรือเกวียน,เรียกมุ้งครอบที่หุบและกางได้คล้ายร่มว่า มุ้งประทุน.

ประทุมราค
[ปฺระทุมมะราก] น. ปัทมราค, พลอยสีแดง, ทับทิม, เช่น แขกเต้าตากปีกปาก ประทุมราคแดงฉัน. (เสือโค). (ป. ปทุมราค; ส. ปทฺมราค).

ประทุษ
[ปฺระทุด] ก. ทําร้าย, ทําชั่ว, ทําเลวทราม, ทําผิด, เบียดเบียน. (ส.).

ประทุษร้าย
[ปฺระทุดสะ-] ก. ทําให้บาดเจ็บ เช่น ประทุษร้ายร่างกาย, ทําให้เสียหาย เช่น ประทุษร้ายทรัพย์สิน; (กฎ) ทําร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ.

ประทุษฏ์, ประทุษฐ์
ว. ชั่ว, ร้าย. (ส. ปฺรทุษฺฏ, ปฺรทุษฺ?).

ประทุษฏ์, ประทุษฐ์
ว. ชั่ว, ร้าย. (ส. ปฺรทุษฺฏ, ปฺรทุษฺ?).

ประทุษฏจิต, ประทุษฐจิต
[ปฺระทุดตะจิด, ปฺระทุดถะจิด] น. จิตร้าย, จิตโกรธ.

ประทุษฏจิต, ประทุษฐจิต
[ปฺระทุดตะจิด, ปฺระทุดถะจิด] น. จิตร้าย, จิตโกรธ.

ประเทศ
น. บ้านเมือง, แว่นแคว้น; คำเพิ่มข้างหลังของคำเดิม เมื่อเพิ่มแล้วความหมายคงเดิม เช่น อุรประเทศ หทัยประเทศ. (ส.; ป. ปเทส);(กฎ) ชุมนุมแห่งมนุษย์ซึ่งตั้งมั่นอยู่ในดินแดนอันมีอาณาเขตแน่นอนมีอํานาจอธิปไตยที่จะใช้ได้อย่างอิสระ และมีการปกครองอย่างเป็นระเบียบเพื่อประโยชน์ของบรรดามนุษย์ที่อยู่ร่วมกันนั้น, รัฐ ก็เรียก.

ประเทศกันชน
น. รัฐหรือประเทศเล็กที่เป็นเอกราชตั้งอยู่ระหว่างประเทศมหาอํานาจมีฐานะสําคัญทางการเมืองที่ช่วยไม่ให้ประเทศมหาอํานาจเกิดบาดหมางทําสงครามต่อกันได้โดยง่าย, รัฐกันชน ก็เรียก. (อ. buffer state).

ประเทศชาติ
น. บ้านเกิดเมืองนอน.

ประเทศราช
[ปฺระเทดสะราด] น. เมืองที่มีเจ้าผู้ครองเมืองของตนเอง แต่อยู่ภายใต้อํานาจควบคุมดูแลและคุ้มครองของพระมหากษัตริย์ของอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งเจ้าเมืองประเทศราชนั้นมีหน้าที่ส่งเครื่องราชบรรณาการถวายเป็นประจํา และในเวลาเกิดศึกสงครามต้องเกณฑ์กําลังทหารเข้าร่วมกองทัพหลวงด้วย.

ประเทา
ก. บรรเทา, ทุเลา, คลาย, เบาลง, ให้สงบ, ทําให้เบาบางลง.

ประเท้า
ก. กิริยาที่ผู้รำใช้ส่วนหน้าของฝ่าเท้าแตะพื้นและยกขึ้นทันที,เป็นท่ารำท่าหนึ่ง.

ประเทียด
ก. ประชด; ว่าร้ายในเชิงเปรียบเทียบ.

ประเทียบ ๑
ก. เทียบ.

ประเทียบ ๒
น. พระสนม; เรียกรถฝ่ายในว่า รถพระประเทียบ, เรียกเรือฝ่ายในว่า เรือพระประเทียบ, โดยอนุโลมเรียกรถประจําตําแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่า รถพระประเทียบ.

ประเทือง
ก. ทําให้ดีขึ้น เช่น ประเทืองผิว, ทําให้รุ่งเรืองขึ้น เช่น ประเทืองปัญญา.

ประธาน ๑
น. ตําแหน่งผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่ในที่ประชุม เช่น ตําแหน่งประธานรัฐสภา ตําแหน่งประธานกรรมการ, เรียกผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่ในที่ประชุม เช่น ประธานรัฐสภา ประธานกรรมการ.ว. ที่เป็นหลักสําคัญในที่นั้น ๆ เช่น พระประธาน.

ประธาน ๒
(ไว) น. ผู้กระทำ เช่น เด็กวิ่ง เด็ก เป็นประธานของกริยา วิ่ง คนกินข้าวคน เป็นประธานของกริยา กิน.

ประธาน ๓
น. ความเพียร มี ๔ อย่าง คือ ๑. สังวรประธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน ๒. ปหานประธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว๓. ภาวนาประธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน ๔. อนุรักขนาประธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม. (ส. ปฺรธาน;ป. ปธาน).

ประธานาธิบดี
[ปฺระทานาทิบอดี, ปฺระทานาทิบบอดี] น. ประมุขของประเทศที่ปกครองโดยระบอบสาธารณรัฐ.

ประนม
ก. ยกกระพุ่มมือ, ยกมือขึ้นกระพุ่ม.

ประนมมือ
ก. กระพุ่มมือ, พนมมือ ก็ว่า.

ประนอ
ก. พะนอ, เอาใจ, ถนอมใจ.

ประนอม
ก. อะลุ้มอล่วย, ทําการปรองดอง.

ประนอมหนี้
(กฎ) ก. การที่ลูกหนี้ขอทําความตกลงในเรื่องหนี้สิน โดยวิธีขอชําระหนี้แต่เพียงบางส่วน หรือโดยวิธีอื่น.

ประนัง
ก. ประชุม, รวม, เช่น ประนังศัพท์ ว่า ประชุมเสียง, ประนังพลว่า รวมพล. ว. พร้อม.

ประนัปดา
[ปฺระนับดา] น. เหลน (คือ ลูกของหลานปู่). (ส. ปฺรนปฺตฺฤ; ป. ปนตฺตา).

ประนี้
(โบ) ว. อย่างนี้.

ประนีประนอม
ก. ผ่อนหนักผ่อนเบาให้แก่กัน, ปรองดองกัน, อะลุ้มอล่วยกัน.

ประนีประนอมยอมความ
(กฎ) น. ชื่อสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้ง ๒ ฝ่าย ระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน.

ประบัด
(โบ) ก. ฉ้อโกง, กระบัด ตระบัด หรือ สะบัด ก็ใช้.

ประบาต
น. เหว. ก. ตกลงไป, ตกไป. (ส. ปฺรปตน; ปปตน).

ประปราน
ก. ข้อนอก, ตีอก, ร้องไห้.

ประปราย
ว. มีกระจายอยู่ห่าง ๆ เช่น ผมหงอกประปราย ผลไม้ติดประปราย,มีห่าง ๆ เป็นระยะ ๆ, เรี่ยราย, เล็กน้อย, เช่น ยิงกันประปราย.

ประปา
น. นํ้าที่เกรอะกรองให้สะอาดปราศจากเชื้อโรคแล้วจ่ายไปให้ประชาชนบริโภคใช้สอย เรียกว่า นํ้าประปา, เรียกรัฐวิสาหกิจซึ่งมีหน้าที่จัดทําและจําหน่ายนํ้าประปาว่า การประปา, เรียกสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการนี้ เช่น ก๊อกประปา ท่อประปา. (ส. ปฺรปา;ป. ปปา).

ประเปรี้ยง
ว. เสียงอย่างเสียงฟ้าผ่า.

ประเปรียว
ว. มีรูปร่างหรือท่าทางปราดเปรียว, มีลักษณะแคล่วคล่องว่องไว.

ประแปร้น
[ปฺระแปฺร้น] ว. เสียงอย่างเสียงช้างร้อง, เสียงที่แผดออก.

ประพจน์
น. ข้อเสนอ, ข้อความที่กล่าว. (ส.); (คณิต) ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธซึ่งเป็นข้อความจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น จะมีความหมายกํากวมไม่ได้. (อ. proposition). (ส. ปฺรวจน).

ประพนธ์
น. คําร้อยกรอง เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน. ก. ประพันธ์,ร้อยกรอง, ผูก, แต่ง, เรียบเรียง; เกี่ยวเนื่อง. (ส. ปฺรพนฺธ; ป. ปพนฺธ).

ประพฤติ
[ปฺระพฺรึด] น. ความเป็นไปอันเกี่ยวด้วยการกระทําหรือปฏิบัติตน,การทําตาม, เหตุต้นเค้า. ก. ทําตาม, ปฏิบัติ, เช่น ประพฤติธรรม;กระทํา, ดําเนินตน, ปฏิบัติตน, เช่น ประพฤติดี ประพฤติชั่ว.(ส. ปฺรวฺฤตฺติ; ป. ปวุตฺติ).

ประพฤทธิ์
[ปฺระพฺรึด] ว. เจริญ, โต, ใหญ่, รุ่งเรือง, งอกงาม. (ส. ปฺรวฺฤทฺธิ;ป. ปวุฑฺฒิ).

ประพัด
น. กระพัด, สายรัดกูบบนหลังช้าง.

ประพันธ์
ก. แต่ง, เรียบเรียง, ร้อยกรอง, ผูกถ้อยคําเป็นข้อความเชิงวรรณคดี.(ส. ปฺรพนฺธ; ป. ปพนฺธ).

ประพาต
[ปฺระพาด] ก. พัด, กระพือ. (ส. ปฺรวาต).

ประพาส
[ปฺระพาด] (ราชา) ก. ไปต่างถิ่นหรือต่างแดน เช่น ประพาสหัวเมืองประพาสยุโรป, ไปเที่ยว เช่น ประพาสป่า. (ส.).

ประพาสต้น
(ราชา) ก. เที่ยวไปเป็นการส่วนพระองค์, เที่ยวไปอย่างไม่เป็นทางการ,ใช้ว่า เสด็จประพาสต้น.

ประพาสมหรณพ
[ปฺระพาดมะหอระนบ] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

ประพาฬ
[ปฺระพาน] น. รัตนะ (แก้ว) ชนิดหนึ่ง สีแดงอ่อน เกิดจากหินปะการังใต้ทะเล. (ป. ปวาฬ).

ประพิณ
[ปฺระพิน] ว. ฉลาด, มีฝีมือดี. (ส. ปฺรวีณ).

ประพิมพ์ประพาย
น. รูปพรรณสัณฐาน โดยเฉพาะหมายถึงลักษณะหรือส่วนที่คล้ายคลึงกัน เช่น เด็กคนนี้มีประพิมพ์ประพายคล้ายพ่อ.

ประพุทธ์
ก. ตื่นจากหลับ คือมีสติ; รู้ทั่ว. (ป. ปพุทฺธ).

ประเพณี
น. สิ่งที่นิยมถือประพฤติปฏิบัติสืบ ๆ กันมาจนเป็นแบบแผนขนบธรรมเนียม หรือจารีตประเพณี. (ส. ปฺรเวณิ; ป. ปเวณิ).

ประเพณีนิยม
น. ประเพณีของสังคมที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมา.

ประเพ้อ
(กลอน) ก. เพ้อ.

ประแพร่งประแพรว
[ปฺระแพฺร่งปฺระแพฺรว] ว. งามแพรวพราย.

ประโพธ
[ปฺระโพด] น. การตื่นจากหลับ คือมีสติ; การรู้ทั่ว. (ป. ปโพธ;ส. ปฺรโพธ).

ประไพ
ว. งาม.

ประภพ
น. การเกิดก่อน; แดน, ที่เกิด. (ส. ปฺรภว).

ประภัสสร
[ปฺระพัดสอน] น. เลื่อม ๆ พราย ๆ, มีแสงพราว ๆ เหมือนแสงพระอาทิตย์แรกขึ้น; ผ่องใส, บริสุทธิ์ เช่น จิตประภัสสร, เขียนเป็น ประภัสร์ ก็มี เช่นธรรมรสเรืองรองผ่องประภัสร์ เป็นมิ่งฉัตรสุขสันต์นิรันดร. (ชีวิตและงานของสุนทรภู่). (ป. ปภสฺสร).

ประภา
น. แสง, แสงสว่าง, แสงไฟ. (ส. ปฺรภา; ป. ปภา).

ประภากร
น. ผู้ทําแสงสว่าง คือพระอาทิตย์. (ส.).

ประภาคาร
น. กระโจมไฟ, เรือนตะเกียง ก็เรียก. (ดู กระโจมไฟ ที่ กระโจม). (ส.).

ประภามณฑล
น. รัศมีที่พวยพุ่งขึ้นจากศีรษะของผู้ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูป.

ประภาพ
[ปฺระพาบ] น. อํานาจ, ฤทธิ์. (ส.).

ประภาษ
[ปฺระพาด] ก. ตรัส, บอก, พูด. (ส. ปฺรภาษ; ป. ปภาส).

ประภาส
[ปฺระพาด] น. แสงสว่าง. (ส. ปฺรภาส; ป. ปภาส).

ประเภท
[ปฺระเพด] น. ส่วนที่แบ่งย่อยออกไปเป็นพวก จําพวก ชนิดหมู่ เหล่า อย่าง แผนก เป็นต้น. (ส. ปฺรเภท; ป. ปเภท).

ประมง
น. การจับสัตว์นํ้า เช่น ทําประมง; คนเลี้ยงชีพในทางจับสัตว์นํ้าเรียกว่า ชาวประมง พวกประมง; ประโมง ก็ใช้. ก. ดํานํ้าหาปลาเช่น กานํ้าดํานํ้าคือประมง, ตระบัดประมงลงทัน. (สมุทรโฆษ).

ประมวญ
[ปฺระมวน] (โบ) ก. ประมวล.

ประมวล
ปฺระมวน] ก. รวบรวมให้เข้าระเบียบเป็นหมวดหมู่, โบราณเขียนเป็นประมวญ ก็มี. น. หนังสือที่รวบรวมสิ่งซึ่งเป็นประเภทเดียวกัน เช่นประมวลกฎหมาย ประมวลภาพ.

ประมวลกฎหมาย
(กฎ) น. บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่รวบรวมกฎหมายในลักษณะเดียวกันไว้เป็นระบบตามหลักวิชาการ เช่น ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลรัษฎากร.

ประมวลการสอน
น. หนังสือหรือเอกสารที่แสดงเนื้อหาของหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอน.

ประมัตตะ
ว. เลินเล่อ, มัวเมา, ประมาท, มักง่าย, เหลวไหล, เพิกเฉย, ทอดทิ้ง.(ส. ปฺรมตฺต; ป. ปมตฺต).

ประมาณ
ก. กะหรือคะเนให้ใกล้เคียงจํานวนจริงหรือให้พอเหมาะพอควรเช่น ประมาณราคาไม่ถูก. ว. ราว ๆ เช่น ประมาณ ๓-๔ เดือน.(ส. ปฺรมาณ; ป. ปมาณ).

ประมาณการ
น. ปริมาณงานหรือค่าใช้จ่ายที่กะหรือกําหนดไว้อย่างคร่าว ๆ. ก. กะหรือกําหนดปริมาณงานหรือค่าใช้จ่ายไว้อย่างคร่าว ๆเช่น ประมาณการในการก่อสร้าง.

ประมาณตน, ประมาณตัว
ก. สํานึกในฐานะของตน. ว. เจียมตัว, ไม่ทําอะไรเกินฐานะของตน.

ประมาณตน, ประมาณตัว
ก. สํานึกในฐานะของตน. ว. เจียมตัว, ไม่ทําอะไรเกินฐานะของตน.

ประมาท
[ปฺระหฺมาด] ก. ขาดความรอบคอบ, ขาดความระมัดระวังเพราะทะนงตัว, เช่น เวลาขับรถอย่าประมาท; ดูหมิ่น เช่น ประมาทฝีมือ.น. ความเลินเล่อ, การขาดความระมัดระวัง, เช่น ขับรถโดยประมาท;(กฎ) กระทําโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทําอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่. (ส. ปฺรมาท; ป. ปมาท).

ประมาทเลินเล่อ
ก. กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังหรือละเลยในสิ่งที่ควรกระทำ.

ประมาทหน้า
ก. ดูถูกว่าทําไม่ได้หรือไม่มีทางที่จะทําได้, หยามนํ้าหน้า,สบประมาท.

ประมุข
[ปฺระมุก] น. ผู้เป็นใหญ่เป็นหัวหน้าของประเทศหรือศาสนาเป็นต้น.(ส. ปฺรมุข; ป. ปมุข).

ประมุท
[ปฺระมุด] ก. บันเทิง, ยินดี. (ส.).

ประมูล
[ปฺระมูน] ก. เสนอราคาแข่งขันกันในการซื้อหรือขายทรัพย์สินเป็นต้น.

ประเมิน
ก. กะประมาณค่าหรือราคาเท่าที่ควรจะเป็น เช่น ประเมินราคา.

ประเมินผล
ก. พิจารณาและวัดคุณค่าของกิจการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เช่น ประเมินผลการสัมมนา ประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบปีของบริษัท; (การศึกษา) วัดคุณค่าหรือผลความก้าวหน้าการศึกษา เช่น การสอบไล่เป็นวิธีประเมินผลการศึกษาวิธีหนึ่ง.

ประเมินภาษี
ก. กําหนดจํานวนเงินที่จะต้องเสียเป็นภาษี, กําหนดจํานวนเงินที่เจ้าพนักงานเรียกเก็บเป็นภาษีจากผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามที่ได้ประเมินไว้แล้ว ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้.

ประโมง
น. การจับสัตว์นํ้า; คนเลี้ยงชีพในทางจับสัตว์นํ้า; โดยทั่วไปใช้ ประมง.

ประโมทย์
[ปฺระโมด] น. ความบันเทิงใจ, ความปลื้มใจ, โดยมากใช้ ปราโมทย์.

ประยงค์
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Aglaia odorata Lour. ในวงศ์ Meliaceaeดอกกลมเล็ก ๆ สีเหลือง ลักษณะคล้ายไข่ปลาดุก ออกเป็นช่อตามง่ามใบ กลิ่นหอม. (ส. ปฺริยงฺคุ; ป. ปิยงฺคุ).

ประยุกต์
ก. นําความรู้ในวิทยาการต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์. ว. ที่นําความรู้มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น วิทยาศาสตร์ประยุกต์ จิตวิทยาประยุกต์. (ส. ปฺรยุกฺต; ป. ปยุตฺต).

ประยุทธ์
ก. รบ, ต่อสู้. (ส. ปฺรยุทฺธ).

ประยุร, ประยูร
[ปฺระยุน, ปฺระยูน] น. เผ่าพันธุ์, เชื้อสาย, ตระกูล.

ประยุร, ประยูร
[ปฺระยุน, ปฺระยูน] น. เผ่าพันธุ์, เชื้อสาย, ตระกูล.

ประโยค
[ปฺระโหฺยก] (ไว) น. คําพูดหรือข้อความที่ได้ความบริบูรณ์ตอนหนึ่ง ๆ เช่น ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคําถาม;ชั้นแห่งความรู้ภาษาบาลี เช่น เปรียญ ๓ ประโยค สอบได้ประโยค๓; ความเพียรเครื่องประกอบ, ความเพียร เช่น ประโยคสัมปทาหมายถึง การถึงพร้อมด้วยความเพียร. (ส. ปฺรโยค; ป. ปโยค).

ประโยคประธาน
[-โหฺยก-] น. หลักไวยากรณ์, หลัก.

ประโยชน์
[ปฺระโหฺยด] น. สิ่งที่มีผลใช้ได้ดีสมกับที่คิดมุ่งหมายไว้, ผลที่ได้ตามต้องการ, สิ่งที่เป็นผลดีหรือเป็นคุณ, เช่น ประโยชน์ของการศึกษาประโยชน์ของโรงเรียน. (ส. ปฺรโยชน; ป. ปโยชน).

ประโรหิต
น. ปุโรหิต, พราหมณ์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์. (ส., ป. ปุโรหิต).

ประลมพ์
[ปฺระลม] น. กิ่งไม้เลื้อย, ช่อดอกไม้, พวงมาลัย. ก. ห้อยย้อย.(ส. ปฺรลมฺพ).

ประลอง
ก. ทดสอบความรู้ความสามารถด้วยการต่อสู้หรือแข่งขันกันเช่น ประลองฝีมือ ประลองกําลัง ประลองความเร็ว.

ประลองยุทธ์
ก. ซ้อมรบ.

ประลัย
น. ความตาย, ความฉิบหาย, ความป่นปี้, ความย่อยยับไป.(ส. ปฺรลย; ป. ปลย).

ประลัยกัลป์
น. บรรลัยกัลป์.

ประลัยวาต
น. ชื่อศรที่แผลงให้เกิดลม.

ประลาต
[ปฺระลาด] ก. หนีไป. (ป. ปลาต).

ประลาย
(กลอน) แผลงมาจาก ปลาย.

ประลึง
(กลอน) ก. จับต้อง, ลูบคลํา.

ประลุ
ก. บรรลุ.

ประลุง
(กลอน) ก. ปลาบปลื้ม, ยินดี.

ประเล่ห์
ว. ประหนึ่ง, ประดุจ, เช่น, กล. (ส. ปฺรเหลิ).

ประเล้าประโลม
ก. เล้าโลม, ปลอบโยนเอาอกเอาใจ.

ประโลประเล
(ปาก) ก. พูดหรือทำพอให้เสร็จ ๆไปโดยไม่ต้องการรายละเอียด, ปุโลปุเล ก็ว่า.

ประโลม
ก. ทําให้เป็นที่เบิกบานพึงอกพึงใจ.

ประโลมโลก
ว. เกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เช่น หนังสือประโลมโลก นิยายประโลมโลก.

ประวรรต
[ปฺระวัด] ก. เป็นไป. (ส. ปฺรวรฺต; ป. ปวตฺต).

ประวรรตน์
[ปฺระวัด] น. ความเป็นไป. (ส. ปฺรวรฺตน; ป. ปวตฺตน).

ประวัติ, ประวัติ-
[ปฺระหฺวัด, ปฺระหฺวัดติ-] น. เรื่องราวว่าด้วยความเป็นไปของคนสถานที่ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ประวัติศรีปราชญ์ ประวัติวัดมหาธาตุ. (ป. ปวตฺติ).

ประวัติ, ประวัติ-
[ปฺระหฺวัด, ปฺระหฺวัดติ-] น. เรื่องราวว่าด้วยความเป็นไปของคนสถานที่ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ประวัติศรีปราชญ์ ประวัติวัดมหาธาตุ. (ป. ปวตฺติ).

ประวัติการ
[ปฺระหฺวัดติกาน, ปฺระหฺวัดกาน] น. เรื่องราวที่เป็นมาแล้วแต่ก่อนตามลําดับสมัย.

ประวัติการณ์
[ปฺระหฺวัดติกาน, ปฺระหฺวัดกาน] น. เหตุการณ์ที่มีค่าควรบันทึกหรือจดจําไว้.

ประวัติกาล
[ปฺระหฺวัดติกาน, ปฺระหฺวัดกาน] น. สมัยที่มีบันทึกเหตุการณ์.

ประวัติศาสตร์
[ปฺระหฺวัดติสาด, ปฺระหฺวัดสาด] น. วิชาว่าด้วยเหตุการณ์ที่เป็นมาหรือเรื่องราวของประเทศชาติเป็นต้นตามที่บันทึกไว้เป็นหลักฐาน.

ประวาต
[ปฺระวาด] ก. พัด, กระพือ. (ส.).

ประวาล
[ปฺระวาน] น. หน่อหรือแขนงต้นไม้ที่แตกออก. (ส.).

ประวาลปัทม์
[ปฺระวาละปัด] น. ดอกบัวแดง. (ส. ปฺรวาลปทฺม).

ประวาลผล
[ปฺระวาละผน] น. ไม้จันทน์แดง. (ส.).

ประวาลวรรณ
[ปฺระวาละวัน] ว. สีแดง. (ส.).

ประวาส
[ปฺระวาด] ก. ประพาส. (ส.; ป. ปวาส).

ประวิง
ก. หน่วงไว้ให้เนิ่นช้า, ถ่วงเวลา, เช่น ประวิงเวลา ประวิงเรื่อง.

ประวิช
[ปฺระวิด] น. แหวน.

ประวิตร
[ปฺระวิด] ว. บพิตร; บริสุทธิ์, สะอาด.

ประวิน
น. ห่วงที่เกี่ยวกันสำหรับโยงสัปคับช้าง, ห่วงติดกับบังเหียนหรือเหล็กผ่าปากม้า, กระวิน ก็ว่า.

ประวีณ
ว. ฉลาด, มีฝีมือ. (ส. ปฺรวีณ; ป. ปวีณ).

ประเวณี
น. การเสพสังวาส, การร่วมรส, ในคําว่า ร่วมประเวณี; ประเพณีเช่น ประเวณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทําร้ายเมื่อภายหลัง. (อภัย).ก. ประพฤติผิดเมียผู้อื่น เรียกว่า ล่วงประเวณี. (ส. ปฺรเวณิ; ป. ปเวณิ).

ประเวประวิง
ก. พะว้าพะวัง, อิดเอื้อน, โอ้เอ้.

ประเวศ, ประเวศน์
[ปฺระเวด] น. การเข้ามา, การเข้าถึง, การเข้าสู่. (ส. ปฺรเวศ, ปฺรเวศน;ป. ปเวส, ปเวสน).

ประเวศ, ประเวศน์
[ปฺระเวด] น. การเข้ามา, การเข้าถึง, การเข้าสู่. (ส. ปฺรเวศ, ปฺรเวศน;ป. ปเวส, ปเวสน).

ประศม
ก. สงบ. (ส.).

ประศาสน์
[ปฺระสาด] น. การแนะนํา, การสั่งสอน; การปกครอง, การงําเมือง,การสั่ง. (ส. ปฺรศาสน; ป. ปสาสน).

ประศุ
น. ปศุ, สัตว์เลี้ยง. (ส. ปศุ; ป. ปสุ).

ประสก
(ปาก) น. ชายผู้แสดงตนเป็นคนถือพระพุทธศาสนา, คําที่บรรพชิตเรียกคฤหัสถ์ผู้ชาย, คู่กับ สีกา. (ตัดมาจาก อุบาสก).

ประสงค์
ก. ต้องการ, อยากได้; มุ่งหมาย, มุ่ง. (ส. ปฺรสงฺค).

ประสงค์ร้าย
ก. มุ่งร้าย, หมายจะทําร้าย.

ประสบ
ก. พบ, พบปะ, พบเห็น.

ประสบการณ์
[ปฺระสบกาน] น. ความจัดเจนที่เกิดจากการกระทําหรือได้พบเห็นมา.

ประสบการณ์นิยม
[ปฺระสบกาน-] น. ลัทธิทางปรัชญาที่ถือว่าประสบการณ์เป็นบ่อเกิดของความรู้ทุกอย่าง; การปฏิบัติที่เน้นประสบการณ์;การแสวงหาความรู้โดยอาศัยการสังเกต การทดลอง และวิธีอุปนัย, ประจักษนิยม ก็ว่า. (อ. empiricism).

ประสพ
[ปฺระสบ] น. การเกิดผล. (ส. ปฺรสว; ป. ปสว).

ประสม
ก. รวมกันเข้า (เป็นคําใช้ได้ทั่ว ๆ ไป).

ประสมประสาน
ก. ผสมผสาน, เก็บรวมไว้ทีละเล็กละน้อย, เก็บเล็กผสมน้อย.

ประสมประเส
ก. พลอยเข้าด้วย, เก็บเล็กผสมน้อย.

ประสมพันธุ์
ก. ผสมพันธุ์.

ประสมโรง
ก. เอาคนที่เป็นลิเกหรือละครเป็นต้นต่างโรงมาเล่นรวมกัน;พลอยเข้าด้วย.

ประสะ
ก. ฟอกหรือชําระสิ่งต่าง ๆ เช่นเครื่องยาเพื่อให้สะอาดหรือให้รสอ่อนลง; ใช้เรียกยาที่เข้าเครื่องยาสิ่งหนึ่งเท่ากับเครื่องยาอื่น ๆเช่น ประสะขิง ก็คือเข้าขิงเท่ากับยาอื่นเป็นต้น.

ประสัก
น. ไม้หมุดสําหรับตรึงกงเรือต่างตะปู, ลูกประสัก ก็เรียก.

ประสันนาการ
น. อาการเลื่อมใส. (ป. ปสนฺนาการ).

ประสัยห-, ประสัยห์
[ปฺระไสหะ-, ปฺระไส] (แบบ) ก. ข่มขี่, ข่มเหง. (ส. ปฺรสหฺย; ป. ปสยฺห).

ประสัยห-, ประสัยห์
[ปฺระไสหะ-, ปฺระไส] (แบบ) ก. ข่มขี่, ข่มเหง. (ส. ปฺรสหฺย; ป. ปสยฺห).

ประสัยหาการ
[ปฺระไสหากาน] น. การข่มเหง.

ประสัยหาวหาร
[ปฺระไสหาวะหาน] น. การโจรกรรมด้วยใช้อํานาจกดขี่หรือกรรโชกให้กลัว.

ประสัยหาการ
ดู ประสัยห-, ประสัยห์.

ประสัยหาวหาร
ดู ประสัยห-, ประสัยห์.

ประสา
น. วิสัยที่เป็นไป เช่น ตามประสาจน ตามประสาเด็ก ตามประสาใจ.

ประสาท ๑, ประสาท- ๑
[ปฺระสาด, ปฺระสาทะ-] น. ส่วนของร่างกาย มีลักษณะคล้ายเส้นใย มีหน้าที่นําคําสั่งและความรู้สึกไปสู่หรือออกจากสมองหรืออวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย, โดยปริยายหมายความว่าจิตใจ, ความรู้สึก. (ส. ปฺรสาท; ป. ปสาท).

ประสาท ๑, ประสาท- ๑
[ปฺระสาด, ปฺระสาทะ-] น. ส่วนของร่างกาย มีลักษณะคล้ายเส้นใย มีหน้าที่นําคําสั่งและความรู้สึกไปสู่หรือออกจากสมองหรืออวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย, โดยปริยายหมายความว่าจิตใจ, ความรู้สึก. (ส. ปฺรสาท; ป. ปสาท).

ประสาทรูป
[ปฺระสาทะ-] น. เส้นประสาท.

ประสาทหลอน
น. ความผิดปรกติของการรับรู้ เช่น เห็นภาพหลอน ได้ยินเสียงคนพูดโดยไม่มีคนพูดจริง ได้กลิ่นที่ไม่มีอยู่จริง. (อ. hallucination).

ประสาท ๒, ประสาท- ๒
[ปฺระสาด, ปฺระสาทะ-] น. ความเลื่อมใส. (ส.; ป. ปสาท).

ประสาท ๒, ประสาท- ๒
[ปฺระสาด, ปฺระสาทะ-] น. ความเลื่อมใส. (ส.; ป. ปสาท).

ประสาทการ
[ปฺระสาทะ-] น. การเลื่อมใส.

ประสาท ๓
[ปฺระสาด] น. ยินดีให้, โปรดให้, เช่น ประสาทปริญญา ประสาทพร.(ส. ปฺรสาท; ป. ปสาท).

ประสาธน์
[ปฺระสาด] (แบบ) ก. ทําให้สําเร็จ. น. เครื่องประดับ. (ส. ปฺรสาธน;ป. ปสาธน).

ประสาน
ก. ทําให้เข้ากันสนิท, เชื่อม.

ประสานงา
ก. ใช้งาสวนแทงกันในการยุทธหัตถี; ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง,โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่รถหรือเรือแล่นเข้าชนกันอย่างแรง.

ประสานเสียง
ก. ร้องเพลงหรือเล่นดนตรีเป็นหมู่ให้มีเสียงกลมกลืนกัน.

ประสานเนรมิต
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

ประสาร
(แบบ) ก. คลี่ออก, เหยียดออก, แผ่ออก, ขยาย. (ส. ปฺรสาร ว่าเที่ยวไป; ป. ปสาร).

ประสิทธิ-, ประสิทธิ์
[ปฺระสิดทิ-, ปฺระสิด] น. ความสําเร็จ. ก. ทําให้สําเร็จ. (ส. ปฺรสิทฺธิ).

ประสิทธิ-, ประสิทธิ์
[ปฺระสิดทิ-, ปฺระสิด] น. ความสําเร็จ. ก. ทําให้สําเร็จ. (ส. ปฺรสิทฺธิ).

ประสิทธิ์ประสาท
[ปฺระสิดปฺระสาด] ก. อํานวยความสําเร็จให้เกิดมีขึ้น.

ประสิทธิผล
[ปฺระสิดทิผน] น. ผลสําเร็จ, ผลที่เกิดขึ้น.

ประสิทธิภาพ
[ปฺระสิดทิพาบ] น. ความสามารถที่ทําให้เกิดผลในการงาน.

ประสิทธิเม
[ปฺระสิดทิ-] น. คํากล่าวเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ หมายความว่าขอให้สําเร็จแก่เรา.

ประสีประสา
น. วิสัย, เรื่องราว, ความเป็นไป, ความหมาย, (มักใช้ในประโยคปฏิเสธ) เช่น ไม่รู้ประสีประสา.

ประสูต
[ปฺระสูด] (แบบ) ก. ขวนขวาย. (ส. ปฺรสูต; ป. ปสุต).

ประสูติ, ประสูติ-
[ปฺระสูด, ปฺระสูติ-] (ราชา) น. การเกิด; การคลอด. ก. เกิด; คลอด.(ส. ปฺรสูติ; ป. ปสูติ).

ประสูติ, ประสูติ-
[ปฺระสูด, ปฺระสูติ-] (ราชา) น. การเกิด; การคลอด. ก. เกิด; คลอด.(ส. ปฺรสูติ; ป. ปสูติ).

ประสูติการ
น. การเกิด, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระประสูติการ.

ประสูติกาล
น. เวลาเกิด, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระประสูติกาล.

ประเสบัน, ประเสบันอากง ๑
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง. (ช.)

ประเสบัน, ประเสบันอากง ๑
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง. (ช.)

ประเสบันอากง ๒
น. วังลูกหลวง, วังหลานหลวง. (ช.).

ประเสริฐ
[ปฺระเสิด] ว. วิเศษ, ดีเลิศ, ดีที่สุด.

ประหนึ่ง
สัน. เช่น, ดัง, เหมือน.

ประหม่า
ก. สะทกสะท้าน, พรั่นใจ.

ประหยัด
ก. ยับยั้ง, ระมัดระวัง, เช่น ประหยัดปาก ประหยัดคํา; ใช้จ่ายแต่พอควรแก่ฐานะ.

ประหรณ์
(แบบ) น. การตี, การฟัน, การทําร้ายด้วยอาวุธ; อาวุธ. (ส. ปฺรหรณ).

ประหลาด
ว. แปลกผิดปรกติหรือมิได้คิดคาดหมายว่าจะเป็นไปได้, น่าพิศวง.

ประหล่ำ
น. เครื่องประดับสําหรับผูกข้อมือ ทําเป็นรูปกลม ๆ สลักเป็นลวดลาย.

ประหลิ่ม
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง, บหลิ่ม ปลิม ปลิ่ม ปะวะหลิ่ม ปะหลิ่มหรือ มะหลิ่ม ก็ว่า.

ประหวัด
ก. หวนคิดเพราะผูกใจอยู่.

ประหวั่น
ก. พรั่นใจ.

ประหว่า
ก. เปล่าเปลี่ยว, ว้าเหว่, เช่น มือประหว่าคว้าหมอน. (สมุทรโฆษ).

ประหัต
[ปฺระหัด] ก. ประหาร เช่น ประหัตศัตรูออก. (สมุทรโฆษ).(ส. ปฺรหฺฤต; ป. ปหต).

ประหัตประหาร
[ปฺระหัดปฺระหาน] ก. ประหาร, เอาถึงเป็นถึงตาย.

ประหาณ
น. การละ, การทิ้ง, เช่น สมุจเฉทประหาณ. (ส. ปฺรหาณ; ป. ปหาน).

ประหาร
น. การตี, การฟัน, การล้าง, การผลาญ. ก. ฆ่า, ทําลาย.(ส. ปฺรหาร; ป. ปหาร).

ประหารชีวิต
ก. ลงโทษฆ่า. (กฎ) น. โทษทางอาญาขั้นสูงสุดที่ลงแก่ผู้กระทําความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ วิธีประหารชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา คือ การเอาตัวผู้ต้องโทษประหารชีวิตไปยิงเสียให้ตาย.

ประหาส
น. การรื่นเริง, การสนุก, การเล่นตลก. (ส. ปฺรหาส; ป. ปหาส).

ประเหล
[ปฺระเหน] ว. ประหนึ่ง, ประดุจ, มักใช้เลือนเป็น ประเล่ห์.(ส. ปฺรเหลิ ว่า ปริศนา, กล).

ประเหส
[ปฺระเหด] ก. ประมาท. (ข. ปฺรแหส).

ประเหียล
[ปฺระเหียน] (โบ; กลอน) ว. ประเหล.

ประไหมสุหรี
น. ตำแหน่งพระมเหสีที่ ๑ หรืออัครมเหสีของกษัตริย์ชวาในวงศ์อสัญแดหวา.

ประอบ
(กลอน) น. ผอบ.

ประอร
(กลอน) ว. งาม.

ประอรประเอียง
ว. งามกรีดกราย, เคล้าพิงอิงเอียง.

ประอึง
(กลอน) ก. อึง, ดัง, เอ็ด, อึกทึก. (บุณโณวาท).

ประอุก
ก. ระอุ; ร้อนรน เช่น หนึ่งอัคนีมีในเชองกราน บมีเป่าพัดพานประอุกแลลุกลามเลือน, ผิโคเคียงเกวียนเดิรหน ไป่ทันแก้ปรนประอุกแลขุกวอดวาย. (จารึกวัดโพธิ์; อภิไธยโพทิบาทว์),ใช้เป็น กระอุ หรือ กระอุก ก็มี.

ประเอียง
ว. งาม.

ประแอก ๑
ก. พิง. (ข.).

ประแอก ๒
น. เชือกหรือลวดหนังตีเป็นเกลียวหุ้มผ้าแดง ปลายสายทั้ง ๒ ข้างผูกกับสายสำอางคร่อมอยู่ทางท้ายสันหลังช้าง สำหรับควาญช้างจับเมื่อเวลาคับขัน, กระแซง หรือ กระแอก ก็เรียก.

ประฮาม
น. แสงเงินแสงทอง, รุ่งสว่าง. (ข. พฺรหาม).

ปรัก ๑
[ปฺรัก] ว. เงิน. (ข.).

ปรัก ๒
[ปะหฺรัก] ก. หัก.

ปรักหักพัง
[ปะหฺรัก-] ก. ชํารุด, ทรุดโทรม, (ใช้แก่สิ่งก่อสร้าง).

ปรักปรำ
[ปฺรักปฺรํา] ก. กล่าวโทษหรือให้การใส่ร้ายเกินความเป็นจริง.

ปรักมะ
[ปะรักกะ-] น. ความเพียร, ความบากบั่น. (ป. ปรกฺกม).

ปรัง
[ปฺรัง] น. เรียกนาที่ต้องทําในฤดูแล้งว่า นาปรัง. (ข. ปฺรัง ว่า ฤดูแล้ง). ว. เกินเวลา, เกินกําหนด, เช่น จมปรัง ว่า อยู่เกินเวลา.

ปรัชญา
[ปฺรัดยา, ปฺรัดชะยา] น. วิชาว่าด้วยหลักแห่งความรู้และความจริง. (ส.).

ปรัด
[ปะหฺรัด] (กลอน) ก. แต่ง.

ปรัตถจริยา
[ปะรัดถะจะ-] น. ความประพฤติให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น. (ป.).

ปรัตยนต์
[ปฺรัดตะยน] (โบ; กลอน) ว. ปัจจันต์. (ส. ปฺรตฺยนฺต; ป. ปจฺจนฺต).

ปรัตยักษ์
[ปฺรัดตะยัก] (โบ; กลอน) ว. ประจักษ์. (ส. ปฺรตฺยกฺษ; ป. ปจฺจกฺข).

ปรัตยันต์
[ปฺรัดตะยัน] (โบ; กลอน) ว. ปัจจันต์. (ส.; ป. ปจฺจนฺต).

ปรัตยัย
[ปฺรัดตะไย] (โบ; กลอน) น. ปัจจัย. (ส. ปฺรตฺยย; ป. ปจฺจย).

ปรัตยุตบัน, ปรัตยุบัน
[ปฺรัดตะยุดบัน, ปฺรัดตะยุบัน] น. ปัจจุบัน. (ส. ปฺรตฺยุตฺปนฺน;ป. ปจฺจุปฺปนฺน).

ปรัตยุตบัน, ปรัตยุบัน
[ปฺรัดตะยุดบัน, ปฺรัดตะยุบัน] น. ปัจจุบัน. (ส. ปฺรตฺยุตฺปนฺน;ป. ปจฺจุปฺปนฺน).

ปรัตยูษ
[ปฺรัดตะยูด] (โบ; กลอน) ว. ปัจจูส, เช้ามืด, ใกล้รุ่ง.(ส. ปฺรตฺยูษ; ป. ปจฺจูส).

ปรัตยูห์
[ปฺรัดตะยู] (โบ; กลอน) น. อันตราย, ความขัดข้อง.(ส. ปฺรตฺยูห; ป. ปจฺจูห).

ปรัตเยก
[ปฺรัดตะเยก] (โบ; กลอน) ว. ปัจเจก. (ส. ปฺรเตฺยก; ป. ปจฺเจก).

ปรัน
[ปฺรัน] ก. เอาของใหญ่กระแทกหรือดันเข้าไปในของเล็ก(มักใช้เป็นคําด่า).

ปรั่น, ปรั้น
[ปฺรั่น, ปฺรั้น] ว. เสียงแปร้น เช่น ร้องก้องปรั่นประดิรพยทั่วแล.(ม. คําหลวง สักบรรพ).

ปรั่น, ปรั้น
[ปฺรั่น, ปฺรั้น] ว. เสียงแปร้น เช่น ร้องก้องปรั่นประดิรพยทั่วแล.(ม. คําหลวง สักบรรพ).

ปรับ ๑
[ปฺรับ] ก. บอก, เล่า. (ข. บฺราป่).

ปรับทุกข์
ก. บอกเล่าความทุกข์, พรรณนาถึงความทุกข์.

ปรับ ๒
[ปฺรับ] ก. เปรียบ, เทียบ; ทําให้อยู่ในสภาพที่เหมาะหรือดีขึ้น,ทําให้เรียบ, ทําให้เสมอ; ลงโทษให้ใช้เงินเพราะทําผิด, ลงโทษให้เป็นแพ้; (กฎ) น. โทษทางอาญาสถานหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องโทษต้องชําระเงินตามจํานวนที่กําหนดไว้ในคําพิพากษาต่อศาลหรือตามที่เจ้าพนักงานเปรียบเทียบ เรียกว่า โทษปรับ.

ปรับโทษ
(กฎ) ก. กําหนดโทษที่จะลง.

ปรับปรุง
ก. แก้ไขให้เรียบร้อยยิ่งขึ้น.

ปรับไหม
(กฎ; โบ) ก. ให้ผู้กระทําผิดหรือกระทําละเมิดชําระเงินค่าสินไหมทดแทนหรือค่าปรับ.

ปรับอากาศ
ว. ที่ปรับอุณหภูมิและความชื้นของอากาศด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่องปรับอากาศ.

ปรับอาบัติ
ก. เอาโทษเป็นผิดตามพระวินัย (ใช้แก่พระภิกษุ).

ปรัมปรา
[ปะรําปะรา] ว. สืบ ๆ กันมา, เก่าก่อน. (ป., ส.).

ปรัศจิม
[ปฺรัดสะจิม] (แบบ) น. ปัจฉิม. (ส. ปศฺจิม; ป. ปจฺฉิม).

ปรัศนา
[ปฺรัดสะ-] (แบบ) น. ปัญหา. (ส. ปฺรศฺน; ป. ปญฺห).

ปรัศนี
[ปฺรัดสะ-] น. เครื่องหมายรูปดังนี้ ?, เครื่องหมายคําถาม ก็เรียก;สิ่งที่เป็นเงื่อนงำต้องหาคำตอบ. (ส.)

ปรัศว์
[ปะหฺรัด] น. ข้าง, สีข้าง; เรียกเรือนหลวงซึ่งอยู่ขนานทั้ง ๒ ข้างของเรือนหลวงหรือพระที่นั่งที่เป็นประธาน. (ส. ปารฺศฺว; ป. ปสฺส).

ปรัสสบท
[ปะรัดสะบด] น. 'บทเพื่อผู้อื่น', ในตำราไวยากรณ์บาลีและสันสกฤตใช้เป็นเครื่องหมายให้ทราบว่าเป็นกริยากัตตุวาจกเช่น สูโท โอทนํ ปจติ = พ่อครัวหุงอยู่ซึ่งข้าวสุก ปจติ เป็นกริยาปรัสสบท, ตรงข้ามกับ อัตตโนบท.

ปร่า
[ปฺร่า] ว. ลักษณะของรสที่ไม่กลมกล่อมไม่แน่ชัดว่าเป็นรสอะไรเช่นรสแกงที่มีเครื่องปรุงไม่เหมาะส่วน.

ปรากฏ
[ปฺรากด] ก. สําแดงออกมาให้เห็น. (ส. ปฺรกฏ; ป. ปากฏ).

ปรากฏการณ์
[ปฺรากดกาน, ปฺรากดตะกาน] น. การสําแดงออกมาให้เห็น.

ปรากรม
[ปะรากฺรม] น. ความเพียร, ความบากบั่น. (ส.).

ปรากฤต
[ปฺรากฺริด] น. ภาษาพื้นเมืองในอินเดียสมัยโบราณซึ่งสืบเนื่องมาจากภาษาตระกูลอริยกะ. (ส.).

ปราการ
[ปฺรากาน] น. กําแพงสําหรับป้องกันการรุกราน. (ส. ปฺราการ;ป. ปาการ).

ปราคภาร
[ปฺรากพาน] น. เงื้อมภูเขา. (ส. ปฺราคฺภาร; ป. ปพฺภาร).

ปราคาร
[ปฺราคาน] น. ตึกใหญ่. (ส.).

ปราง
[ปฺราง] น. แก้ม; มะปราง.

ปรางค์
[ปฺราง] น. สิ่งก่อสร้างมียอดสูงขึ้นไปมีรูปทรงคล้ายฝักข้าวโพดและมีฝักเพกาปักอยู่ข้างบน, ถ้าเป็นเจดีย์มียอดเช่นนั้น เรียกว่าเจดีย์ยอดปรางค์.

ปรางค์ปรา
[ปฺรางปฺรา] (กลอน) ตัดมาจาก ปรางค์ปราสาท.

ปรางคณะ
[ปฺรางคะนะ] น. คณะ, สํานัก; สนาม; พื้นอย่างพื้นเรือน. (ส.).

ปราจีน
[ปฺราจีน] น. ทิศตะวันออก. (ส. ปฺราจีน; ป. ปาจีน).

ปราชญ์
[ปฺราด] น. ผู้มีปัญญารอบรู้. (ส. ปฺราชฺ?).

ปราชญา
[ปฺราดยา] น. ปัญญา. (ส. ปฺรชฺ?า; ป. ป?ฺ?า).

ปราชัย
[ปะราไช] น. ความพ่ายแพ้. ก. พ่ายแพ้. (ป.).

ปราชาปัตยวิวาหะ
[ปฺราชาปัดตะยะ-] น. การสมรสวิธีหนึ่งที่บิดายกลูกสาวให้เจ้าบ่าวโดยปราศจากการเรียกร้องอย่างใดอย่างหนึ่งจากเจ้าบ่าว. (ส.).

ปราชิต
[ปะราชิด] ก. แพ้. (ป.).

ปราณ
[ปฺราน] น. ลมหายใจ; สัตว์มีชีวิต, ชีวิต, ใจ. (ส. ปฺราณ; ป. ปาณ).

ปราณี
[ปฺรานี] น. ผู้มีชีวิต, สัตว์, คน. (ส. ปฺราณิ, ปฺราณินฺ; ป. ปาณี).

ปราด
[ปฺราด] ก. แล่นอย่างฉับไว เช่น ปราดเข้าใส่. ว. อาการที่เป็นไปอย่างฉับไว เช่น วิ่งปราด.

ปราดเปรียว
ว. ว่องไว, คล่องแคล่ว.

ปราดเปรื่อง
ว. มีความคิดแคล่วคล่องว่องไว, เปรื่องปราด ก็ว่า.

ปราติหารย์
[ปฺราติหาน] (กลอน) น. ปาฏิหาริย์. (ส. ปฺราติหารฺย; ป. ปาฏิหาริย).

ปราทุกรา
[ปฺราทุกฺรา] (กลอน) น. ปาทุกา, รองเท้า. (ป., ส. ปาทุกา).

ปราน
[ปฺราน] น. โคตร, วงศ์.

ปรานี
[ปฺรา-] ก. เอ็นดูด้วยความสงสาร.

ปรานีตีเอาเรือ
(สํา) ก. เอ็นดูหรือเผื่อแผ่เขา แต่กลับถูกประทุษร้ายตอบ เช่นมุทะลุดุดันขันเหลือ ปรานีตีเอาเรือเสียอีกเล่า. (สังข์ทอง).

ปรานีปราศรัย
[ปฺรานีปฺราไส] ก. ปรานี (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น ใช้อย่างไม่ปรานีปราศรัย.

ปราบ
[ปฺราบ] ก. ทําให้ราบ, ทําให้อยู่ในอํานาจ.

ปราบปราม
ก. ทําให้สงบราบคาบ.

ปราบดาภิเษก
[ปฺราบดาพิเสก] ว. มีอภิเษกอันถึงแล้ว. น. พระราชพิธีอภิเษกของพระเจ้าแผ่นดินซึ่งได้ราชสมบัติมาด้วยการรบชนะข้าศึก.(ส. ปฺราปฺต + อภิเษก).

ปราปต์
[ปฺราบ] ก. ถึงแล้ว, ได้แล้ว. (ส. ปฺราปฺต; ป. ปตฺต).

ปราภพ
[ปะราพบ] น. ความฉิบหาย. (ป. ปราภว).

ปราม
[ปฺราม] ก. ว่ากล่าวตักเตือนให้เกรงกลัว.

ปรามาส ๑
[ปฺรามาด] ก. ดูถูก.

ปรามาส ๒
[ปะรามาด] น. การจับต้อง, การลูบคลํา. (ป.).

ปราโมช
[ปฺราโมด] น. ความบันเทิงใจ, ความปลื้มใจ, ปราโมทย์ ก็ใช้.(ป. ปาโมชฺช; ส. ปฺรโมทฺย)

ปราโมทย์
[ปฺราโมด] น. ความบันเทิงใจ, ความปลื้มใจ, ปราโมช ก็ใช้.(ส. ปฺรโมทฺย; ป. ปาโมชฺช).

ปราย
[ปฺราย] ก. ซัด, หว่าน, สาดให้กระจายไป, เช่น ปรายข้าวตอกดอกไม้,มักใช้เข้าคู่กับคำ โปรย เป็น โปรยปราย.

ปรารถนา
[ปฺราดถะหฺนา] ก. มุ่งหมาย, อยากได้, ต้องการ. (ส. ปฺรารฺถนา;ป. ปตฺถนา).

ปรารภ
[ปฺรารบ] ก. กล่าวถึง; ตั้งต้น; ดําริ. (ส.).

ปรารมภ์
[ปฺรารม] ก. เริ่มแรก; วิตก, รําพึง, ครุ่นคิด. (ส. ปฺรารมฺภ ว่า เริ่มแรก,เริ่มต้น).

ปราศ, ปราศจาก
[ปฺราด, ปฺราดสะจาก] ก. พ้นไป, ไม่มี.

ปราศ, ปราศจาก
[ปฺราด, ปฺราดสะจาก] ก. พ้นไป, ไม่มี.

ปราศรัย
[ปฺราไส] น. การพูดด้วยไมตรีจิต, การแสดงอัชฌาสัยในระหว่างผู้ใหญ่ต่อผู้น้อยหรือผู้ที่เสมอกัน; คําปรารภ. ก. พูดด้วยไมตรีจิต,พูดแสดงอัชฌาสัยระหว่างผู้ใหญ่ต่อผู้น้อยหรือผู้ที่เสมอกัน; ปรารภ.(ส. ปฺรศฺรย).

ปราษณี
[ปฺราดสะนี] น. ส้นเท้า. (ส. ปารฺษฺณี; ป. ปณฺหิ).

ปราษาณ
[ปฺราสาน] น. หิน. (ส. ปาษาณ; ป. ปาสาณ).

ปราสัย
[ปฺราไส] ก. ปราศรัย.

ปราสาท
[ปฺราสาด] น. เรือนมียอดเป็นชั้น ๆ สําหรับเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินหรือเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์. (ส. ปฺราสาท;ป. ปาสาท).

ปรำ
[ปฺรํา] ก. ทําอาการดุจกระทุ้ง; เจาะจง; เทลงไปเร็ว ๆ ให้ปนกับของอื่น; รุมกล่าวโทษ.

ปริ- ๑
[ปะริ-] เป็นอุปสรรคในภาษาบาลีและสันสกฤต, ใช้นําหน้าศัพท์อื่นแปลว่า รอบ เช่น ปริมณฑล.

ปริ ๒
[ปฺริ] ก. แย้ม, ผลิ, แตกแต่น้อย.

ปริปาก
ก. แย้มปากพูดออกมา (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น อย่าปริปากบอกใครนะ.

ปริก ๑
[ปฺริก] น. ส่วนยอดของฝาโถหรือผอบที่ทำด้วยทองอย่างหัวแหวนนพเก้า สำหรับสวมบนฝาโถหรือผอบ.

ปริก ๒
[ปฺริก] น. ชื่อไม้ล้มลุกมีหัวใต้ดินชนิด Asparagus sprengeri Regelในวงศ์ Asparagaceae ดอกสีขาว กลิ่นหอม ใช้ทํายาได้.

ปริกขาร
[ปะริกขาน] น. บริขาร. (ป.).

ปริกรรม, ปริกรรม-
[ปะริกํา, ปะริกำมะ-] น. บริกรรม. (ส. ปริกรฺมนฺ; ป. ปริกมฺม).

ปริกรรม, ปริกรรม-
[ปะริกํา, ปะริกำมะ-] น. บริกรรม. (ส. ปริกรฺมนฺ; ป. ปริกมฺม).

ปริกรรมนิมิต
[ปะริกำมะนิมิด] น. 'อารมณ์ในบริกรรม' คือ สิ่งที่ใช้เพ่งหรือนึกเป็นอารมณ์ในเวลาบริกรรม. (ป. ปริกมฺมนิมิตฺต; ส. ปริกรฺม + นิมิตฺต).

ปริกัป
[ปะริกับ] ก. กําหนด. (ป. ปริกปฺป; ส. ปริกลฺป).

ปริกัลป-
[ปะริกันละปะ-] น. ความตรึก, ความดําริ, ความกําหนดในใจ.(ส. ปริกลฺป; ป. ปริกปฺป).

ปริกัลปมาลา
น. ระเบียบกริยาในไวยากรณ์ที่บอกความคาดหมาย ความกําหนด. (ส.).

ปริขา
[ปะ-] น. คู; สนามเพลาะ. (ป., ส.).

ปริคณห์
[ปะริคน] น. บริคณห์. (ป. ปริคหณ).

ปริจาค
[ปะริจาก] น. บริจาค. (ป. ปริจฺจาค).

ปริจาริกา
[ปะ-] น. บริจาริกา. (ป.).

ปริเฉท
[ปะริเฉด] น. บริเฉท. (ป. ปริจฺเฉท).

ปริชน
[ปะ-] น. บริชน. (ป.).

ปริซึม
[ปฺริ-] (คณิต) น. แท่งตันชนิดหนึ่ง ปลายทั้ง ๒ เป็นรูปหลายเหลี่ยมซึ่งมีพื้นที่เท่ากัน เป็นรูปแบบเดียวกันและขนานกันด้วย ส่วนด้านข้างทุกด้านของแท่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน; (ฟิสิกส์) แท่งตันทําด้วยวัตถุโปร่งใสเช่นแก้ว เป็นรูปแบบเดียวกันและขนานกันด้วยส่วนด้านข้างทุกด้านของแท่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ใช้ประโยชน์สําหรับหักเหแนวทางเคลื่อนที่ของแสง. (อ. prism).

ปริญญา
[ปะรินยา] น. ความกําหนดรู้, ความหยั่งรู้, ความรู้รอบ; ชั้นความรู้ขั้นมหาวิทยาลัยซึ่งประสาทให้แก่ผู้ที่สอบไล่ได้ตามที่กําหนดไว้, ถ้าประสาทแก่ผู้ทรงวิทยาคุณหรือผู้มีเกียรติตามที่เห็นสมควร เรียกว่าปริญญากิตติมศักดิ์. (ป.; ส. ปริชฺ?า).

ปริญญาบัตร
น. บัตรที่แสดงวิทยฐานะของผู้สําเร็จการศึกษาว่ามีศักดิ์และสิทธิ์ระดับปริญญา.

ปริณาม
[ปะ-] น. การผันแปร, การเปลี่ยนแปลง, การย่อยไป. (ป.).

ปริณามัคคิ
น. ไฟธาตุที่ย่อยอาหาร. (ป.).

ปริณามัคคิ
ดู ปริณาม.

ปริณายก
[ปะ-] น. ผู้นําบริวาร, หัวหน้า, ผู้เป็นใหญ่. (ส.; ป. ปรินายก).

ปริต, ปริต-, ปริตตะ
[ปะริด, ปะริดตะ-] ว. น้อย. (ป. ปริตฺต; ส. ปรีตฺต).

ปริต, ปริต-, ปริตตะ
[ปะริด, ปะริดตะ-] ว. น้อย. (ป. ปริตฺต; ส. ปรีตฺต).

ปริต, ปริต-, ปริตตะ
[ปะริด, ปะริดตะ-] ว. น้อย. (ป. ปริตฺต; ส. ปรีตฺต).

ปริตทวีป
น. ทวีปน้อย, คู่กับ มหาทวีป. (ป. ปริตฺต + ส. ทฺวีป).

ปริตโตทก
[ปะริดโตทก] น. นํ้าพระปริตร, นํ้าพระพุทธมนต์. (ป.).

ปริตยาค
[ปะริดตะยาก] (แบบ) ก. บริจาค. (ส. ปริตฺยาค; ป. ปริจฺจาค).

ปริตร
[ปะหฺริด] น. ความต้านทาน, เครื่องป้องกัน; พระพุทธมนต์ในเจ็ดตํานานที่เรียกว่า สัตปริตร และสิบสองตํานานที่เรียกว่าทวาทศปริตร, ตํานานหนึ่ง เรียกว่า ปริตรหนึ่ง. ว. น้อย.(ส.; ป. ปริตฺต).

ปริทรรศน์
[ปะริทัด] น. ชื่อกล้องชนิดหนึ่งที่ใช้มองดูสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมีที่กําบังขวางกั้น หรือใช้มองดูสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เหนือระดับสายตาผู้มองเช่น กล้องเรือดํานํ้า, กล้องตาเรือ ก็เรียก. (อ. periscope).

ปริทัยหัคคี
[ปะริไทหักคี] น. ไฟธาตุที่ทํากายให้กระสับกระส่าย. (ป. ปริฑยฺหคฺคิ).

ปริทัศน์
[ปะริทัด] น. การวิจารณ์; หนังสือประเภทวารสารที่วิจารณ์ข่าวหรือเรื่องราวต่าง ๆ. (ส. ปริ + ทรฺศน).

ปริเทพ, ปริเทพน์
[ปะริเทบ] น. ปริเทวะ.

ปริเทพ, ปริเทพน์
[ปะริเทบ] น. ปริเทวะ.

ปริเทวนะ, ปริเทวะ
[ปะริเทวะ-] น. ความครํ่าครวญ, ความรําพันด้วยเสียใจ,ความบ่นเพ้อ. (ป.).

ปริเทวนะ, ปริเทวะ
[ปะริเทวะ-] น. ความครํ่าครวญ, ความรําพันด้วยเสียใจ,ความบ่นเพ้อ. (ป.).

ปรินิพพาน
[ปะรินิบพาน] น. การดับรอบ, การดับสนิท, การดับโดยไม่เหลือ;เรียกอาการตายของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์. (ป.; ส. ปรินิรฺวาณ).

ปริบ
[ปฺริบ] ว. อาการกะพริบบ่อย ๆ, อาการของหยาดนํ้าฝนที่หยดลงน้อย ๆ.

ปริบท
[ปะริ-] น. บริบท.

ปริปันถ์
[ปะริ-] น. อันตราย, อันตรายในทางเปลี่ยว. (ป., ส.).

ปริพนธ์
[ปะริ-] ก. ผูก, แต่ง, ร้อยกรอง. (ป. ปริพนฺธ).

ปริพัตร
[ปะริพัด] ก. บริพัตร. (ป. ปริวตฺต; ส. ปริวรฺต).

ปริพันธ์
[ปะริ-] ก. บริพันธ์. (ป.).

ปริพาชก
[ปะริ-] น. นักบวชผู้ชายในอินเดีย นอกพระพุทธศาสนา, เพศหญิงใช้ว่า ปริพาชิกา หรือ ปริพาชี. (ป. ปริพฺพาชก).

ปริภัณฑ์
[ปะริพัน] น. บริภัณฑ์.

ปริภาษ, ปริภาษณ์
[ปะริพาด] ก. บริภาษ. (ส.; ป. ปริภาส).

ปริภาษ, ปริภาษณ์
[ปะริพาด] ก. บริภาษ. (ส.; ป. ปริภาส).

ปริภุญช์
[ปะริพุน] ก. กิน. (ป., ส.).

ปริภูมิ
[ปะริพูม] (คณิต) น. เซตที่มีโครงสร้างบางอย่าง อาจเป็นโครงสร้างแบบเรขาคณิตหรือโครงสร้างแบบอื่นก็ได้. (อ. space).

ปริโภค
[ปะริโพก] ก. บริโภค. (ป.).

ปริ่ม
[ปฺริ่ม] ว. เสมอขอบ, เสมอพื้น, (ในลักษณะอย่างนํ้าที่ขึ้นเสมอขอบตลิ่งหรือดอกบัวที่โผล่ขึ้นเสมอพื้นนํ้าเป็นต้น); อาการที่มีความยินดีปลื้มใจ เช่น ปริ่มใจ ปริ่มยิ้ม ปริ่มเปรม.

ปริมณฑล
[ปะริมนทน] น. วงรอบ; ความเรียบร้อย เช่น นุ่งห่มให้เป็นปริมณฑล.(ป.).

ปริมัท
[ปะริมัด] ก. นวด, บีบ, ขยํา. (ป.; ส. ปริมรฺทน, ปริมรฺท).

ปริมาณ
[ปะริมาน] น. กําหนดความมากน้อยของจํานวน.

ปริมาตร
[ปะริมาด] น. ขนาดของสิ่งใด ๆ ที่มีรูปทรง ๓ มิติ และระบุปริมาณเป็นหน่วยลูกบาศก์ เช่น ลูกบาศก์เมตร ลูกบาศก์ฟุต.

ปริย-
[ปฺริยะ-] ว. ที่รัก. (ส. ปฺริย; ป. ปิย).

ปริยรณ
[ปฺริยะรน] น. ผู้ชอบรบ. (ส.).

ปริยวาท
[ปฺริยะวาด] น. คําพูดเป็นที่รัก. (ส.).

ปริยวาที
[ปฺริยะ-] น. ผู้มีถ้อยคําอ่อนหวาน. (ส. ปฺริยวาทินฺ).

ปริยานุช
[ปฺริยานุด] น. น้องที่รัก. (ส.).

ปริยัติ
[ปะริยัด] น. การเล่าเรียนพระไตรปิฎก. (ป. ปริยตฺติ).

ปริยัติธรรม
[ปะริยัดติทํา] น. ธรรมที่จะต้องเล่าเรียนได้แก่พระไตรปิฎก.

ปริยานุช
ดู ปริย-.

ปริยาย
[ปะริ-] น. อย่าง, ทาง, หนทาง; การกล่าวอ้อมค้อม, นัยทางอ้อม,ตรงข้ามกับ นิปริยาย คือ อย่างตรง; การสอน, การเล่าเรื่อง. ว. อ้อม; (กฎ) หมายความถึงกรณีที่เจตนาในการกระทำมิได้แสดงออกอย่างชัดแจ้ง เป็นคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกับคำว่าชัดแจ้ง. (ป.).

ปริเยศ
[ปฺริเยด] (กลอน) ว. ที่รัก.

ปริโยสาน
[ปะริ-] น. ที่สุดลงโดยรอบ (หมายความว่า ที่สุดหรือจบลงอย่างบริบูรณ์แล้ว), จบ. (ป.).

ปริวรรต, ปริวรรต-
[ปะริวัด, ปะริวัดตะ-] ก. หมุนเวียน เช่น ปริวรรตเงินตรา;เปลี่ยนแปลง, เปลี่ยนไป, แปรไป. (ส. ปริวรฺต; ป. ปริวตฺต).

ปริวรรต, ปริวรรต-
[ปะริวัด, ปะริวัดตะ-] ก. หมุนเวียน เช่น ปริวรรตเงินตรา;เปลี่ยนแปลง, เปลี่ยนไป, แปรไป. (ส. ปริวรฺต; ป. ปริวตฺต).

ปริวรรตกรรม
[ปะริวัดตะกํา] (แบบ) น. การหมุนเวียน.

ปริวัตร
[ปะริวัด] (แบบ) ก. ปริวรรต เช่น จะเชื้อเชิญพระดาบสให้ปริวัตรเป็นบรมกษัตริย์. (ม. กาพย์ สักบรรพ).

ปริวาร
[ปะริวาน] น. บริวาร. (ป.).

ปริวาส
[ปะริวาด] น. การอยู่ค้างคืน, การอยู่แรมคืน; ชื่อกรรมที่ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสต้องประพฤติ. (ป.).

ปริวิตก
[ปะริ-] ก. นึกเป็นทุกข์หนักใจ. (ป. ปริวิตกฺก ว่า การตรึกตรอง).

ปริเวณ
[ปะริ-] น. บริเวณ. (ป.).

ปริศนา
[ปฺริดสะหฺนา] น. สิ่งหรือถ้อยคําที่ผูกขึ้นเป็นเงื่อนงําเพื่อให้แก้ให้ทาย. (ส. ปฺรศฺน).

ปริศนาธรรม
น. ปริศนาในทางธรรม.

ปริศนาลายแทง
น. ข้อความที่เป็นปริศนาเป็นเครื่องแสดงขุมทรัพย์ที่ฝังอยู่ในดินเป็นต้น.

ปริศนาอักษรไขว้
น. ปริศนาที่จะต้องตอบโดยการเติมคําลงในตารางสี่เหลี่ยมที่กําหนดให้ช่องละ ๑ อักษร แล้วให้อ่านได้ใจความทั้งในแนวยืนและแนวนอน.

ปริษการ
[ปะริดสะกาน] น. บริขาร. (ส. ปริษฺการ; ป. ปริกฺขาร).

ปริษัท
[ปะริสัด] น. บริษัท. (ส. ปริษทฺ; ป. ปริส).

ปริสัญญู
[ปะริสันยู] น. ผู้รู้จักประชุมชนและกิริยาที่จะต้องประพฤติต่อประชุมชนนั้น ๆ ว่า หมู่นี้เมื่อเข้าไปหาจะต้องทํากิริยาอย่างนี้ จะต้องพูดอย่างนี้เป็นต้น. (ป.).

ปริสุทธิ
[ปะริสุดทิ] ก. บริสุทธิ์. (ป.).

ปริหาน
[ปะริ-] น. ความเสื่อมรอบ, ความเสื่อมทั่วไป. (ป.).

ปริหาร
[ปะริหาน] น. บริหาร. (ป.).

ปริหาส
[ปะริหาด] ก. บริหาส. (ป.).

ปรี่
[ปฺรี่] ก. รี่ เช่น ปรี่เข้าใส่. ว. เกือบล้น ในลักษณะเช่นนํ้าเต็มจนเกือบล้นมิล้นแหล่, ริน ๆ เช่น ไหลปรี่.

ปรีชญา
[ปฺรีดยา] (แบบ) น. ปรีชา เช่น อันประกอบด้วยจักษุคือปรีชญา.(นันโท). (ส. ปฺริชฺ?า).

ปรีชา
[ปฺรี-] น. ปัญญาสามารถ, ความรอบรู้จัดเจน. (ส. ปริชฺ?า; ป. ปริญฺ?า).

ปรี๊ด
[ปฺรี๊ด] ว. อาการที่นํ้าหรือของเหลวพุ่งออกมาโดยแรงจากช่องแคบ ๆมีเสียงดังเช่นนั้น เช่น น้ำพุ่งปรี๊ด บ้วนนํ้าลายปรี๊ด; มาก เช่น สูงปรี๊ด,จัด (ใช้แก่รสเปรี้ยว); เสียงอย่างเสียงเป่านกหวีดยาว ๆ.

ปรีดา
[ปฺรี-] ก. อิ่มใจ, ปลื้มใจ, ยินดี. (ส.).

ปรีดิ, ปรีดิ์, ปรีดี
[ปฺรี-, ปฺรี] น. ความอิ่มใจ, ความปลื้มใจ, ความยินดี. (ส. ปฺรีติ; ป. ปีติ).

ปรีดิ, ปรีดิ์, ปรีดี
[ปฺรี-, ปฺรี] น. ความอิ่มใจ, ความปลื้มใจ, ความยินดี. (ส. ปฺรีติ; ป. ปีติ).

ปรีดิ, ปรีดิ์, ปรีดี
[ปฺรี-, ปฺรี] น. ความอิ่มใจ, ความปลื้มใจ, ความยินดี. (ส. ปฺรีติ; ป. ปีติ).

ปรีติ
[ปฺรี-] น. ปีติ, ความปลาบปลื้มใจ, ความอิ่มใจ. (ส.; ป. ปีติ).

ปรียะ, ปรียา
[ปฺรี-] ว. ที่รัก. (ส. ปฺริย; ป. ปิย).

ปรียะ, ปรียา
[ปฺรี-] ว. ที่รัก. (ส. ปฺริย; ป. ปิย).

ปรึก
[ปฺรึก] น. ชื่อนํ้ามันชนิดหนึ่ง โดยเอานํ้ามันยางมาปรุงหุงสําหรับทาไม้ต่าง ๆ.

ปรึกษา
[ปฺรึกสา] ก. หารือ, ขอความเห็นแนะนํา, พิจารณาหารือกัน, พิจารณาอภิปรายกัน เช่น ประชุมปรึกษา, พิจารณาร่างคําพิพากษา เช่น ผู้ปรึกษา(ในทางศาล). น. เรียกความเห็นแนะนําที่ให้เนื่องด้วยการหารือว่าคําปรึกษา, เรียกผู้มีหน้าที่ให้ความเห็นแนะนําว่า ที่ปรึกษา, เรียกผู้รับหารือเพื่อให้ความเห็นแนะนําว่า ผู้รับปรึกษา. (ส. ปรีกฺษา).

ปรึง
[ปฺรึง] ว. อย่างเร่งรีบ, เต็มที่, เช่น บ้างควบปรึงตะบึงไปไม่รอรั้ง.(อิเหนา). (ข. บฺรึง).

ปรือ ๑
[ปฺรือ] น. (๑) ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Scleria poaeformis Retz. ในวงศ์Cyperaceae ขึ้นในนํ้า ใบยาว ๆ ใช้มุงหลังคาและสานเสื่อเป็นต้น,อีสานเรียก แวง. (๒) ดู กกช้าง.

ปรือ ๒
[ปฺรือ] ว. ลักษณะอาการของนัยน์ตาที่หรี่เพราะง่วงแต่ฝืนไว้,ลักษณะของนัยน์ตาที่มีอาการเช่นนั้น. ก. ฝึกหัด ในคําว่าฝึกปรือ; เลี้ยงดูในคําว่า ปรนปรือ.

ปรื๋อ
[ปฺรื๋อ] ว. อาการที่นกบินพุ่งไปอย่างเร็ว, โดยปริยายหมายความว่ามีอาการรวดเร็วเช่นนั้น เช่น แล่นปรื๋อ วิ่งปรื๋อ.

ปรุ
[ปฺรุ] ก. ทําให้เป็นรู ๆ, สลักให้เป็นรู ๆ มีลวดลายต่าง ๆ. ว. เป็นรูเล็ก ๆเช่น หน้าปรุ; ทะลุ, ตลอด, เช่น เที่ยวเสียปรุ.

ปรุโปร่ง
ว. โล่งตลอด.

ปรุง
[ปฺรุง] ก. ประสมหรือประกอบให้เหมาะส่วน.

ปรู ๑
[ปฺรู] น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Alangiumsalviifolium Wang. ในวงศ์ Alangiaceae ดอกสีขาว ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ กลิ่นหอม เนื้อไม้สีนํ้าตาลคลํ้า ใช้ทําด้ามปืน พานท้ายปืน เปลือกรากใช้ทํายาได้.

ปรู ๒
[ปฺรู] ว. พรู.

ปรู๋
[ปฺรู๋] ว. ปรื๋อ.

ปรูด, ปรู๊ด
[ปฺรูด, ปฺรู๊ด] ว. อาการที่นํ้าหรือของเหลวเป็นต้นพุ่งออกจากช่องแคบโดยเร็วแรง, โดยปริยายหมายความว่า ฉับไว.

ปรูด, ปรู๊ด
[ปฺรูด, ปฺรู๊ด] ว. อาการที่นํ้าหรือของเหลวเป็นต้นพุ่งออกจากช่องแคบโดยเร็วแรง, โดยปริยายหมายความว่า ฉับไว.

ปรูดปราด, ปรู๊ดปร๊าด
ว. อาการที่เคลื่อนไหวอย่างว่องไว รวดเร็ว.

ปรูดปราด, ปรู๊ดปร๊าด
ว. อาการที่เคลื่อนไหวอย่างว่องไว รวดเร็ว.

ปรู๊ฟ
[ปฺรู๊บ] น. เรียกกระดาษที่ใช้พิมพ์หนังสือ มีคุณภาพตํ่ากว่ากระดาษปอนด์และกระดาษอาร์ต ว่า กระดาษปรู๊ฟ; งานพิมพ์เป็นต้นเพื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อย. (ปาก) ก. พิสูจน์อักษร.

ปฤงคพ
[ปฺริงคบ] (กลอน) น. ปุงคพ, โคผู้, หมายความว่า ผู้เลิศ, ผู้ประเสริฐ,หัวหน้า. (ป., ส. ปุงฺคว).

ปฤจฉา
[ปฺริด-] น. คําถาม. (ส.; ป. ปุจฺฉา).

ปฤจฉาคุณศัพท์
(ไว) น. คําคุณศัพท์ที่เป็นคําถาม เช่นคํา 'อะไร' ฯลฯ.

ปฤษฎ์
[ปฺริด] น. หลัง, เบื้องหลัง. (ส. ปฺฤษฺ?; ป. ปิฏฺ?).

ปฤษฎางค์
[ปฺริดสะดาง] น. อวัยวะเบื้องหลัง, ส่วนหลัง, ราชาศัพท์ใช้ว่าพระปฤษฎางค์, พระขนอง ก็ว่า.

ปฤษฐ
[ปฺริดสะถะ] น. หลัง, เบื้องหลัง; พื้นบน; ยอด. (ส.; ป. ปิฏฺ?).

ปลก
[ปะหฺลก] ว. อาการที่ยกมือไหว้ถี่ผงก ๆ (ใช้แก่กริยาไหว้ ว่าไหว้ปลก ๆ).

ปลกเปลี้ย
[ปฺลกเปฺลี้ย] ก. กะปลกกะเปลี้ย.

ปลง
[ปฺลง] ก. เอาลง เช่น ปลงหม้อข้าว, ปล่อยหรือเปลื้องให้พ้นไป(ในลักษณะที่รู้สึกว่าหนักอยู่) เช่น ปลงหาบ; เมื่อใช้ประกอบกับคําอื่น มีความหมายต่าง ๆ.

ปลงกรรมฐาน
[ปฺลงกํามะถาน] ก. พิจารณากรรมฐาน.

ปลงใจ
ก. ตกลงใจ.

ปลงช้าง
ก. ปลดเปลื้องของหนักบนหลังช้างแล้วปล่อยให้พัก.

ปลงชีวิต
ก. ฆ่า.

ปลงตก
ก. พิจารณาจนเห็นจริงแล้วปล่อยไปตามสภาพ.

ปลงธรรมสังเวช
[ปฺลงทํามะสังเวด] ก. เกิดความสังเวชโดยธรรมเมื่อเห็นความแตกดับของสังขาร (ใช้แก่พระอริยบุคคล).

ปลงธุระ
ก. ทอดธุระ, วางธุระ.

ปลงบริขาร
ก. มอบบริขารให้แก่ผู้อื่นในเวลาใกล้จะตาย (ใช้แก่บรรพชิต).

ปลงผม
ก. โกนผม (ใช้แก่บรรพชิต).

ปลงศพ
ก. เผาผี, จัดการเผาหรือฝังศพให้เสร็จสิ้นไป.

ปลงสังขาร
ก. พิจารณาเห็นว่าเราจะต้องตายเป็นแน่แท้.

ปลงสังเวช
ก. พิจารณาเห็นเป็นเรื่องน่าสลดใจหรือน่าสมเพช.

ปลงอนิจจัง
ก. รู้สึกสังเวชใจว่าไม่น่าจะเป็นถึงเช่นนั้น.

ปลงอาบัติ
ก. แสดงความผิดของตนเพื่อเปลื้องโทษทางวินัย (ใช้แก่พระภิกษุ).

ปลงอายุสังขาร
ก. บอกกําหนดวันสิ้นสุดแห่งอายุ (ใช้แก่พระพุทธเจ้า).

ปล่ง
[ปฺล่ง] ว. ปลอด, ตลอด, จะแจ้ง, เป็นทางไป, กระจ่าง, โปร่ง.

ปลด
[ปฺลด] ก. เอาออก (ใช้แก่สิ่งที่เกี่ยวอยู่ แขวนอยู่ คล้องอยู่ หรือขัดอยู่เป็นต้น) เช่น ปลดม่านที่แขวนอยู่ ปลดห่วงที่เกี่ยวอยู่ ปลดลูกดุมที่ขัดอยู่; โดยปริยายหมายความว่า ทําให้พ้นจากข้อผูกพันหรือพ้นจากตําแหน่งหน้าที่ เช่น ปลดหนี้ ปลดออกจากราชการ.

ปลดเกษียณ, ปลดเกษียณอายุ
(ปาก) ก. ให้ออกจากราชการหรืองานเพราะเหตุสูงอายุ.

ปลดเกษียณ, ปลดเกษียณอายุ
(ปาก) ก. ให้ออกจากราชการหรืองานเพราะเหตุสูงอายุ.

ปลดทุกข์
ก. ทําให้หมดทุกข์; (ปาก) เยี่ยว, ขี้.

ปลดปลง
(กลอน) ก. ตาย.

ปลดปล่อย
ก. ปล่อยจากที่คุมขังหรือการผูกมัด, ให้เสรีภาพ.

ปลดเปลื้อง
ก. ทําให้หลุดพ้นเพื่อแบ่งเบาหรือให้หมดไป, เปลื้อง ก็ว่า.

ปลดระวาง
ก. ปลดจากตําแหน่ง, ปลดจากทําเนียบ, ปลดจากประจําการ;โดยปริยายหมายความว่า หมดหน้าที่.

ปลดหนี้
(กฎ) ก. การที่เจ้าหนี้ยกหนี้ให้แก่ลูกหนี้ อันเป็นเหตุให้หนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไป.

ปลดออก
(กฎ) น. โทษทางวินัยสถานหนึ่ง ที่ใช้ลงแก่ข้าราชการผู้กระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยสั่งให้ออกจากราชการ ผู้ถูกลงโทษปลดออกมีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญเสมือนว่าผู้นั้นลาออก.

ปลดอาวุธ
ก. บังคับให้วางศัสตราวุธเพื่อไม่ให้ใช้ต่อสู้.

ปลดแอก
ก. ทําให้พ้นจากอํานาจหรือการกดขี่, ทําให้เป็นอิสระ.

ปล้น
[ปฺล้น] ก. ใช้กําลังลอบมาหักโหมแย่งชิงเอาโดยไม่รู้ตัว.

ปล้นทรัพย์
(กฎ) ก. ชื่อความผิดอาญาสถานหนึ่ง ซึ่งผู้ชิงทรัพย์ร่วมกระทําความผิดด้วยกันตั้งแต่ ๓ คนขึ้นไป เรียกว่า ความผิดฐานปล้นทรัพย์.

ปล้นบ้านปล้นเมือง
(สำ) ก. โกงกินทรัพย์สมบัติของชาติ.

ปล้นสวาท
(ปาก) ก. ข่มขืนกระทำชำเรา.

ปล้นสะดม
(โบ) ก. ปล้นโดยใช้วิธีรมยาให้เจ้าของทรัพย์หลับสนิทไม่รู้สึกตัว.

ปลวก
[ปฺลวก] น. ชื่อแมลงในอันดับ Isoptera รูปร่างคล้ายมด แต่ส่วนท้องกับอกมีขนาดไล่เลี่ยกัน หนวดมีลักษณะเป็นปล้องกลมคล้ายลูกปัดไม่หักงอเป็นข้อศอกเหมือนมด ส่วนใหญ่ตัวสีขาวหรือครีม ไม่ชอบแสง อาศัยทํารังรวมกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่บนพื้นหรือใต้ดิน มักจะเอาดินมาสร้างคลุมทางเดิน บางชนิดทําลายไม้ ต้นไม้ ฯลฯ.

ปลวังค-
[ปะละวังคะ-] (แบบ) น. ลิง เช่น ปลวังคสังวัจฉร. (ส. ปฺลวงฺค).

ปลอก
[ปฺลอก] น. สิ่งที่ทําเป็นวงสําหรับสวมหรือรัดของต่าง ๆ, เครื่องที่ทําสําหรับสวมสิ่งของต่าง ๆ เช่น ปลอกมีด ปลอกหมอน.

ปลอกกระสุน
น. ส่วนของกระสุนปืนที่บรรจุดินปืนและลูกตะกั่ว.

ปลอกคอ
น. สายรัดรอบคอ (มักใช้แก่หมา); โดยปริยายหมายถึงผู้มีอํานาจที่คอยให้ความคุ้มครองหรือช่วยเหลือ.

ปลอกนิ้ว
น. สนับนิ้วมือ, ปลอกมือ ก็ว่า.

ปลอกมีด
น. เรียกแหวนทองเกลี้ยง ๆ มีลักษณะคล้ายปลอกมีดว่าแหวนปลอกมีด.

ปล่อง
[ปฺล่อง] น. ช่องหรือรูที่ทะลุขึ้นจากพื้นดิน เช่น ปล่องงู ปล่องหนู,สิ่งที่เป็นช่องกลวงคล้ายท่อตั้งตรงขึ้นไปสําหรับควันขึ้นหรือรับลม,ช่องที่ทะลุขึ้นจากถํ้า.

ปล้อง ๑
[ปฺล้อง] น. ช่วงระยะระหว่างข้อของไม้ไผ่หรืออ้อย ฯลฯ, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น คอปล้อง คือ คอที่มีริ้วรอยเห็นเป็นปล้อง ๆ.

ปล้องไฉน
น. ส่วนหนึ่งของพระเจดีย์ต่อบัวกลุ่มขึ้นไป.

ปล้อง ๒
[ปฺล้อง] น. (๑) ชื่อหญ้าชนิด Hymenachne pseudointerruptaC. Muell. ในวงศ์ Gramineae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ต้นเป็นข้อ ๆมีไส้ในระหว่างข้อเป็นปุยขาว. (๒) มะเดื่อปล้อง. (ดู มะเดื่อ).

ปล้องขน
น. หญ้าปล้องขน. (ดู ขน ๓).

ปล้องฉนวน
น. ชื่องูบกขนาดเล็กในวงศ์ Colubridae ตัวเล็กเรียว ยาว ๔๐-๖๐เซนติเมตร มักมีลายเป็นปล้องสีนํ้าตาลหรือดําสลับขาว ไม่มีพิษมีหลายชนิด เช่น ปล้องฉนวนหลังเหลือง (Lycodon laoensis)ปล้องฉนวนบ้าน (Dryocalamus davisonii)

ปล้องทอง
น. ชื่องูชนิด Boiga dendrophila ในวงศ์ Colubridae ตัวโตยาวประมาณ ๑.๗ เมตร สีดํามีลายสีเหลืองพาดขวางเป็นปล้อง ๆตลอดตัวอาศัยตามป่าโกงกางในภาคใต้ของประเทศไทย มีพิษอ่อน.

ปล้องอ้อย
น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กชนิด Acanthophthalmus kuhlii ในวงศ์Cobitidae ตัวยาว แบนข้าง ท้องมน คอดหางกว้าง หัวเล็กปลายทู่ปากเล็กอยู่ตํ่า ตาเล็ก มีกระดูกเป็นหนามอยู่ใต้ตา เกล็ดเล็กมากครีบหลังและครีบก้นอยู่ค่อนไปทางหาง พื้นลําตัวสีเหลืองอ่อนหรือส้ม มีแถบกว้างสีดําหรือนํ้าตาลเข้มพาดขวางเป็นปล้อง ๆโดยตลอด พบอาศัยอยู่ตามท้องน้ำที่เป็นกรวดเป็นทรายตามลําธารเขตภูเขา เคลื่อนไหวรวดเร็วคล้ายงูเลื้อย ขนาดยาวเพียงไม่เกิน ๘เซนติเมตร, ปลางู ก็เรียก.

ปลอด
[ปฺลอด] ก. พ้นจาก, ปราศจาก, เช่น ปลอดคน ปลอดภัย; ล้วน, แท้ ๆ,เช่น ขาวปลอด ดําปลอด.

ปลอดทหาร
น. เรียกดินแดนหรือเขตที่ไม่มีที่ตั้งกองทหารตามสนธิสัญญาหรือข้อตกลงว่า เขตปลอดทหาร.

ปลอดโปร่ง
ว. ผ่องใสปราศจากความขุ่นมัว.

ปลอดภัย
ก. พ้นภัย.

ปล้อน
[ปฺล้อน] ก. ปลิ้นเปลือกหรือเมล็ดในผลไม้ออกจากปาก เช่น ปล้อนเมล็ดลําไย ปล้อนเมล็ดน้อยหน่า, ลอกเปลือกผลไม้ออก เช่น ปล้อนมะพร้าว, มักใช้เข้าคู่กับคำ ปลิ้น เป็น ปล้อนปลิ้น หรือ ปลิ้นปล้อนมีความหมายอย่างปล้อน; โดยปริยายหมายความว่า ใช้อุบายล่อลวงเพื่อให้สำเร็จประโยชน์ตน.

ปลอบ, ปลอบโยน
[ปฺลอบ] ก. พูดเอาอกเอาใจให้คลายอารมณ์ขุ่นหมอง.

ปลอบ, ปลอบโยน
[ปฺลอบ] ก. พูดเอาอกเอาใจให้คลายอารมณ์ขุ่นหมอง.

ปลอบขวัญ
ก. ปลอบโยนหรือบํารุงขวัญให้มีกําลังใจ.

ปลอม
[ปฺลอม] ก. ทําให้เหมือนคนอื่นหรือสิ่งอื่น เพื่อให้หลงผิดว่าเป็นคนนั้นหรือสิ่งนั้น เช่น ปลอมตัว. ว. ไม่แท้หรือไม่จริงตามสภาพของสิ่งนั้น เช่น ฟันปลอม ผมปลอม.

ปลอมปน
ก. เอาของเลวไปผสมกับของดีเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นของดี.

ปลอมแปลง
[-แปฺลง] ก. ทําเลียนแบบให้ดูเหมือนของจริง.

ปล่อย
[ปฺล่อย] ก. ทําให้ออกจากสิ่งที่ติดอยู่ ผูกอยู่ หรือข้องอยู่ เป็นต้น เช่นปล่อยนักโทษ ปล่อยนก; ยอมให้ เช่น ปล่อยให้เข้ามา; ละเลย เช่นปล่อยให้บ้านรกรุงรัง ปล่อยให้นํ้าล้น; (ปาก) โดยปริยายหมายถึงขาย เช่น ที่ที่ซื้อไว้ปล่อยไปแล้วราคา ๕ ล้านบาท

ปล่อยเกาะ
ก. เนรเทศให้ไปอยู่เกาะ; โดยปริยายหมายความว่า ไม่เอาเป็นธุระ.

ปล่อยแก่
ก. ถือว่าแก่แล้วไม่เอาธุระในการแต่งตัว; ทําเป็นหนุ่ม.

ปล่อยไก่
(ปาก) ก. แสดงความโง่ออกมา.

ปล่อยของ
ก. ทําพิธีทางไสยศาสตร์ให้ของไปทําร้ายผู้อื่น เช่น เสกหนังควายเข้าท้องศัตรู.

ปล่อยใจ
ก. เคลิบเคลิ้ม, คิดฝันไป, เช่น ปล่อยใจไปตามอารมณ์.

ปล่อยชั่วคราว
(กฎ) ก. ปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยจากการควบคุมหรือขังชั่วระยะเวลาหนึ่งในระหว่างการสอบสวนหรือระหว่างการพิจารณาของศาล.

ปล่อยตัว
ก. ไม่เอาธุระในการแต่งตัว; ไม่สงวนตัว; ปล่อยเนื้อปล่อยตัวก็ว่า; ให้ตัวละครออกแสดงตามวาระ.

ปล่อยตัวปล่อยใจ
ว. ใจแตก.

ปล่อยนกปล่อยกา
(สํา) ก. ปล่อยให้เป็นอิสระ, ไม่เอาผิด, ปล่อยให้พ้นจากความผูกพัน,ปล่อยลูกนกลูกกา ก็ว่า.

ปล่อยเนื้อปล่อยตัว
ก. ไม่เอาธุระในการแต่งตัว; ไม่สงวนตัว; ปล่อยตัว ก็ว่า.

ปล่อยปละละเลย
ก. ไม่เอาใจใส่, ทอดทิ้ง.

ปล่อยปลาลงน้ำ
(สํา) ก. ปล่อยศัตรูไปแล้วเขาจะไม่นึกถึงบุญคุณ, มักใช้เข้าคู่กับปล่อยเสือเข้าป่า เป็น ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงนํ้า.

ปล่อยปลิง
ก. เอาปลิงมาวางไว้ตรงที่ที่ต้องการให้ดูดเลือดเสียออก.

ปล่อยมือ
ก. วางมือ, ไม่เอาเป็นธุระ.

ปล่อยเสือเข้าป่า
(สํา) ก. ปล่อยศัตรูไปอาจกลับมาทําร้ายภายหลังอีก, มักใช้เข้าคู่กับ ปล่อยปลาลงนํ้า เป็น ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงนํ้า.

ปละ ๑
[ปะละ] น. ชื่อมาตรานํ้าหนักมคธ ๑๐๐ ปละ เป็น ๑ ตุลา, ๒๐ ตุลาเป็น ๑ ภาระ. (ป., ส.).

ปละ ๒
[ปฺละ] ก. ปล่อย, ละทิ้ง, ละเลย, มักใช้เข้าคู่กับคำ ปล่อย เป็นปล่อยปละ. ว. เรียกควายที่เจ้าของปล่อยให้เที่ยวไปตามลําพังว่า ควายปละ.

ปลัก
[ปฺลัก] น. แอ่งที่เป็นโคลนเลน เช่น ปลักควาย.

ปลั๊ก, ปลั๊กไฟ
[ปฺลั๊ก] น. อุปกรณ์ไฟฟ้ามีขาโลหะ ๒ ขา (บางแบบมี ๓ ขา) ปลายข้างหนึ่งของแต่ละขาตรึงอยู่กับวัตถุหุ้ม ซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้า ใช้เสียบเข้ากับเต้ารับเพื่อให้กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ผ่านเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ครบวงจร, เต้าเสียบ ก็เรียก. (อ. plug).

ปลั๊ก, ปลั๊กไฟ
[ปฺลั๊ก] น. อุปกรณ์ไฟฟ้ามีขาโลหะ ๒ ขา (บางแบบมี ๓ ขา) ปลายข้างหนึ่งของแต่ละขาตรึงอยู่กับวัตถุหุ้ม ซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้า ใช้เสียบเข้ากับเต้ารับเพื่อให้กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ผ่านเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ครบวงจร, เต้าเสียบ ก็เรียก. (อ. plug).

ปลัง
[ปฺลัง] น. ชื่อไม้เถาชนิด Basella alba L. ในวงศ์ Basellaceaeใบอวบนํ้า เถาและใบสีเขียวอ่อนหรือแดง มียางเป็นเมือก ผลสุกสีม่วงดํา ยอดและดอกอ่อนกินได้และใช้ทํายาได้, ผักปลัง ก็เรียก,พายัพเรียก ปั๋ง.

ปลั่ง
[ปฺลั่ง] ว. ผ่องใส, มีนํ้านวล, มักใช้เข้าคู่กับคำ เปล่ง เป็น เปล่งปลั่ง.

ปลัด
[ปะหฺลัด] น. ผู้มีตำแหน่งหน้าที่รองจากผู้ที่มีตําแหน่งหน้าที่เหนือตนโดยตรง เช่น ปลัดกระทรวง ปลัดจังหวัด; ตําแหน่งพระฐานานุกรมเหนือสมุห์.

ปลัดขิก
[ปะหฺลัด-] น. รูปจำลองอวัยวะเพศชาย มักทำด้วยไม้ ใช้เป็นเครื่องรางของขลัง, อ้ายขิก ไอ้ขิก หรือ ขุนเพ็ด ก็เรียก.

ปลา ๑
[ปฺลา] น. ชื่อสัตว์น้ำเลือดเย็นมีกระดูกสันหลัง ร่างกายแบ่งเป็นส่วนหัว ลําตัว และหาง ส่วนใหญ่หายใจทางเหงือกยกเว้นปลาปอด มีครีบใช้ช่วยในการเคลื่อนไหว บางชนิดมีเกล็ด บางชนิดไม่มี รูปร่างลักษณะ ขนาดและพฤติกรรมแตกต่างกันมากมาย พบในแหล่งนํ้าทั่วไป.

ปลากริม
น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งต้ม ใส่กะทิและนํ้าตาล.

ปลาเกลือ
น. ปลาเคล้าเกลือแล้วตากแห้ง, ปลาเค็ม ก็ว่า.

ปลาข้องเดียวกัน
(สํา) น. คนที่อยู่ร่วมกันหรือเป็นพวกเดียวกัน.

ปลาเค็ม
น. ปลาเกลือ.

ปลาเงินปลาทอง
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Carassius auratus ในวงศ์ Cyprinidaeซึ่งมีประวัติการคัดเลือกพันธุ์ในต่างประเทศกันมานานนับพันปีจนมีลักษณะรูปร่างแปลกเพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามหรือปลาปล่อย เกล็ดทั่วลําตัวมักมีสีเงินหรือทอง แต่ก็อาจเป็นสีดําหรือด่าง ตัวที่มีสีเหลืองหรือแดงส้ม เรียก ปลาทอง.

ปลาจ่อม
น. ปลาเล็ก ๆ ที่หมักด้วยเกลือและข้าวคั่วเป็นต้น ใช้เป็นเครื่องจิ้ม.

ปลาจีน
น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดใหญ่หลายชนิดในวงศ์ Cyprinidae โดยเฉพาะที่ชาวจีนจากประเทศจีนได้นําเข้ามาเลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหาร เช่นปลาเฉาฮื้อ (Ctenopharyngodon idellus) ปลาซ่งฮื้อ (Aristichthysnobilis) ปลาเล่งฮื้อ (Hypophthalmichthys molitrix) ทั้งยังอาจหมายถึงปลาหลีฮื้อ หรือ ปลาไน (Cyprinus carpio) ด้วย.

ปลาเจ่า
น. ปลาที่หมักด้วยเกลือและข้าวหมากเป็นต้น ใช้เป็นเครื่องจิ้ม.

ปลาชา
น. ปลาที่จวนจะตายอยู่แล้ว.

ปลาแดก
(ถิ่น-อีสาน) น. ปลาร้า.

ปลาแดง
น. ชื่อปลานํ้าจืดไม่มีเกล็ด มีหนวด ในสกุล Kryptopterusวงศ์ Cyprinidae เป็นพวกปลาเนื้ออ่อนที่ไม่มีครีบหลัง ลําตัวยาวเรียว แบนข้าง ปากกว้างเชิดขึ้นเล็กน้อย ฟันแหลม ลําตัวด้านหลังสีนํ้าตาลแดง ด้านข้างสีอ่อนกว่าจนเป็นสีขาวที่ท้องเช่น ชนิด K. apogon ชะโอน เนื้ออ่อน นํ้าเงิน หรือ นาง ก็เรียก,ชนิด K. bleekeri นาง หรือ สะงั่ว ก็เรียก.

ปลาตกน้ำตัวโต
(สํา) น. สิ่งที่เสียหรือสูญหายไปมักดูมีค่ามากเกินความเป็นจริง.

ปลาตะเพียน
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์โรหิณี มี ๗ ดวง, ดาวพราหมี หรือดาวคางหมู ก็เรียก; ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์เรวดี มี ๑๖ ดวง,ดาวนาง ก็เรียก; เครื่องแขวนเหนือเปลให้เด็กดูทําด้วยใบตาลเป็นต้น.

ปลาติดหลังแห
(สํา) น. คนที่พลอยได้รับเคราะห์กรรมร่วมกับผู้อื่น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนพัวพันด้วย, ปลาติดร่างแห ก็ว่า.ปลาตู้ น. ปลาที่เลี้ยงไว้ดูเล่นในตู้กระจก มักเป็นปลาที่มีรูปร่างสวยงามมีสีสันต่าง ๆ.

ปลาทอง ๑
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

ปลาทอง ๒
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Carassius auratus ในวงศ์ Cyprinidaeเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม มีเกล็ดสีเหลืองหรือสีส้ม, ปลาเงินปลาทองก็เรียก.

ปลาแนม
น. ชื่อของกินอย่างหนึ่ง ปรุงด้วยข้าวตากคั่วป่น เนื้อปลาหนังหมู เป็นต้น.

ปลาม้ำ
น. ปลาร้าญวน ทําด้วยปลาดิบหมักเกลือ ใส่ข้าวคั่ว ใช้เป็นเครื่องจิ้ม.

ปลาร้า
น. ปลาหมักเกลือใส่ข้าวคั่วใช้เป็นเครื่องจิ้ม.

ปลาส้ม
น. ปลาหมักด้วยเกลือ ข้าวสุก พริกไทย กระเทียม.

ปลาหน้าดิน
น. ปลาที่อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเล เช่น ปลาเห็ดโคน ปลาเก๋า.

ปลาหมอตายเพราะปาก
(สํา) น. คนที่พูดพล่อยจนได้รับอันตราย.

ปลาหมอแถกเหงือก
(สำ) ก. กระเสือกกระสนดิ้นรน.

ปลาหาง
(ราชา) น. ปลาช่อน.

ปลาเห็ด
น. ทอดมันปลา.

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
(สํา) น. ประเทศหรือคนที่มีอํานาจหรือผู้ใหญ่ที่กดขี่ข่มเหงผู้อ่อนแอหรือผู้น้อย.

ปลา ๒
น. ชื่องูในสกุล Enhydris และ Homalopsis วงศ์Colubridae กินปลา ที่รู้จักกันดี คือ งูสายรุ้ง (E. enhydris).

ปลาก
[ปฺลาก] (โบ) น. ที่, ฝ่าย, ข้าง.

ปลาดาว
ดู ดาวทะเล.

ปลาดำปลาแดง
น. เครื่องเล่นการพนันอย่างหนึ่ง ใช้ไม้ ๓ อัน ทาสีดำ สีแดง และสีขาว เจ้ามือกำไม้ทั้ง ๓ อันไว้ แล้วใช้ความไวปัดไม้อันหนึ่งลงในกล่อง ให้ลูกค้าแทงสี ถ้าแทงผิดเจ้ามือกิน, ไม้ดำไม้แดง หรืออีดำอีแดง ก็เรียก.

ปลาต
[ปะลาด] ก. หนีไป. (ป.).

ปลาบ ๑
[ปฺลาบ] ว. อาการที่รู้สึกแล่นวาบเข้าหัวใจ เช่น เจ็บปลาบ เสียวปลาบ,โดยปริยายใช้เรียกโรคที่มีอาการเช่นนั้น.

ปลาบปลื้ม
ก. มีความรู้สึกยินดีแล่นวาบเข้าในใจ.

ปลาบ ๒
[ปฺลาบ] น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Commelinaceaeเช่น ชนิด Commelina benghalensis L. ดอกสีนํ้าเงิน, ชนิด Cyanotisaxillaris Roem. et Schult. ดอกสีม่วง, ชนิด Murdannia nudifloraBrenan ดอกสีม่วงอ่อน.

ปลาบิน
ดู นกกระจอก ๒.

ปลาฝา
ดู ตะพาบ, ตะพาบนํ้า.

ปลาย
[ปฺลาย] น. ตอนยอด, ตอนที่สุด.

ปลายข้าว
น. ข้าวสารที่เมล็ดแตกหรือแหลก.

ปลายตีน
น. ด้านปลายเท้าของผู้นอน, ตรงข้ามกับ หัวนอน.

ปลายแถว
น. คนที่อยู่ท้ายแถว, โดยปริยายหมายถึงผู้น้อย, ผู้ที่มีความสำคัญน้อย, หางแถว ก็ว่า.

ปลายทาง
น. สุดทาง.

ปลายน้ำ
น. สุดลํานํ้า.

ปลายมือ
น. บั้นปลายของชีวิต. ว. ในที่สุด.

ปลายนาการ
[ปะลายะนากาน] ก. หนีไป. (ป.).

ปลาโลมา
ดู โลมา.

ปลาวาฬ
ดู วาฬ.

ปลาสเตอร์
น. ผ้ายางปิดแผล; ผงสีขาวคล้ายปูนขาวได้จากการเผายิปซัมให้ร้อนถึง ๑๒๐? - ๑๓๐?ซ. เมื่อนําไปผสมกับนํ้าแล้วทิ้งไว้จะแข็งตัวได้เร็วมาก ใช้ประโยชน์ในการนําไปทําแม่พิมพ์ รูปปั้นเป็นต้น หรือพอกอวัยวะไม่ให้เคลื่อนไหวในการรักษากระดูกหัก. (อ. plaster).

ปลาสนาการ
[ปะลาดสะนากาน] ก. หนีไป. (ป.).

ปลาหมึก
น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีขาซึ่งเรียกว่าหนวดอยู่บริเวณหัวอาศัยอยู่ในทะเล มีถุงบรรจุนํ้าสีดําอย่างหมึกสําหรับพ่นเพื่อพรางตัว มีหลายสกุล เช่น ปลาหมึกกระดอง สกุล Sepia ในวงศ์ Sepiidae,ปลาหมึกกล้วย สกุล Loligo และปลาหมึกหอม (Sepioteutislessoniana) ในวงศ์ Loliginidae, ปลาหมึกสาย สกุล Octopus ในวงศ์ Octopodidae, หมึก ก็เรียก.

ปลาไหลเผือก
น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Eurycoma longifolia Jackในวงศ์ Simaroubaceae รากใช้ทํายาได้.

ปล้ำ, ปล้ำปลุก
[ปฺลํ้า, -ปฺลุก] ก. ใช้แขนกอดรัดจับกุมเพื่อจะให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม หรือให้อยู่ในอํานาจที่จะทําได้ตามใจตน, โดยปริยายหมายความว่าพยายามทํากิจการอย่างเต็มกําลัง, ปลุกปลํ้า ก็ว่า.

ปล้ำ, ปล้ำปลุก
[ปฺลํ้า, -ปฺลุก] ก. ใช้แขนกอดรัดจับกุมเพื่อจะให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม หรือให้อยู่ในอํานาจที่จะทําได้ตามใจตน, โดยปริยายหมายความว่าพยายามทํากิจการอย่างเต็มกําลัง, ปลุกปลํ้า ก็ว่า.

ปล้ำผีลุกปลุกผีนั่ง
(สํา) ก. พยายามทําให้มีเรื่องมีราวขึ้นมา.

ปลิง ๑
[ปฺลิง] น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในวงศ์ Hirudinidae ตัวยืดหดได้คล้ายทาก เกาะคนหรือสัตว์เลือดอุ่นเพื่อดูดกินเลือด อาศัยอยู่ในน้ำจืด มีหลายชนิด เช่น ชนิด Hirudo medicinalis, Hirudinariamanillensis; เหล็กที่ทำเป็นหมุดแหลมโค้งสำหรับตอกเพลาะกระดานยึดให้แน่นสนิท, เขี้ยวตะขาบ ตะปลิง หรือ ตัวปลิง ก็เรียก.

ปลิง ๒
น. ชื่องูนํ้าชนิด Enhydris plumbea ในวงศ์ Colubridae ตัวยาวประมาณ ๔๐ เซนติเมตร สีเขียวอมเทา ท้องขาว สามารถดีดตัวไปได้ในระยะสั้น ๆ แทนการเลื้อย มีพิษอ่อนมาก.

ปลิง ๓
น. ขั้วผลไม้ติดต่อกับก้าน โดยมากเป็นขั้วทุเรียนที่หลุดจากกันได้,ปากปลิง ก็เรียก.

ปลิงทะเล
น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Holothuroidea ลำตัวยาวอ่อนนุ่ม รูปร่างทรงกระบอกยืดหดได้ หัวท้ายยาวรี อาศัยอยู่ในทะเล บางชนิดรับประทานได้ เช่น ปลิงขาว (Holothuria scabra)ปลิงดํา (H. atra) ในวงศ์ Holothuriidae.

ปลิด
[ปฺลิด] ก. เอามือบิดให้ลูกไม้หลุดจากขั้ว, ทําให้หลุดจากที่.

ปลิ้น
[ปฺลิ้น] ก. กลับข้างในบางส่วนให้โผล่ออกมา เช่น ปลิ้นตา, โผล่ยื่นหรือทําให้โผล่ยื่นออกมาจากสิ่งที่มีอะไรห่อหุ้มอยู่ เช่น พุงปลิ้นตาปลิ้น; (ปาก) ลักลอบหรือหลอกลวงเอาไปซึ่งหน้า เช่นปลิ้นเอาเงินไป.

ปลิ้นปลอก, ปลิ้นปล้อน
ก. ใช้อุบายล่อลวงเพื่อให้สําเร็จประโยชน์ตน.

ปลิ้นปลอก, ปลิ้นปล้อน
ก. ใช้อุบายล่อลวงเพื่อให้สําเร็จประโยชน์ตน.

ปลิโพธ
[ปะลิโพด] น. ความกังวล, ความห่วงใย. (ป.).

ปลิม, ปลิ่ม
[ปะลิม, ปะหฺลิ่ม] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง, บหลิ่ม ประหลิ่มปะวะหลิ่ม ปะหลิ่ม หรือ มะหลิ่ม ก็ว่า.

ปลิม, ปลิ่ม
[ปะลิม, ปะหฺลิ่ม] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง, บหลิ่ม ประหลิ่มปะวะหลิ่ม ปะหลิ่ม หรือ มะหลิ่ม ก็ว่า.

ปลิว
[ปฺลิว] ก. ลอยตามลม, ถูกลมพัด, (ใช้แก่สิ่งที่มีลักษณะเบา), โดยปริยายใช้เป็นคําเปรียบเทียบ มีความหมายคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่นเดินตัวปลิว.

ปลี
[ปฺลี] น. ช่อดอกของกล้วยที่ยังมีกาบหุ้มอยู่; กล้ามเนื้อที่มีรูปลักษณะอย่างหัวปลี เช่น ปลีน่อง; ยอดเจดีย์หรือยอดมณฑปเหนือปล้องไฉนหรือบัวกลุ่มขึ้นไป.

ปลีแข้ง
น. ลําแข้ง.

ปลีก
[ปฺลีก] ก. แยกหรือหลีกออกจากหมู่จากพวกไป, ย่อยออกไปจากส่วนใหญ่ เช่น ขายปลีก เงินปลีก.

ปลีกตัว
ก. แยกตัวออกมา.

ปลีกย่อย
ว. เบ็ดเตล็ด, เล็กน้อย.

ปลีกเวลา
ก. เจียดเวลาเพื่อมาทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งนอกเหนือจากงานที่ทําอยู่.

ปลื้ม
[ปฺลื้ม] ก. เบิกบานยินดีมาก.

ปลุก
[ปฺลุก] ก. ทําให้ตื่นจากหลับ, ทําให้ได้สติรู้สึกตัว, กระตุ้นให้เกิดแรงกําลัง ความขลัง และความกล้าแข็ง เป็นต้น.

ปลุกใจ
ก. เร้าใจให้กล้าหาญหรือกระตือรือร้น.

ปลุกตัว
ก. นั่งเข้าสมาธิแล้วบริกรรมคาถา เพื่อให้อยู่คงกระพันชาตรี.

ปลุกปล้ำ
ก. ปลํ้า, ปลํ้าปลุก.

ปลุกปั่น
ก. ยุยงให้แตกแยกกัน.

ปลุกผี
ก. นั่งบริกรรมคาถาจนกระทั่งผีลุกขึ้นมาหรือปรากฏกาย เพื่อใช้ให้ไปทําประโยชน์ตามที่ตนปรารถนา หรือเพื่อลนเอานํ้ามันจากคางผีตายทั้งกลม ที่เรียกกันว่า น้ำมันพราย สำหรับดีดให้หญิงหลงรัก; รื้อฟื้นเรื่องที่ยุติไปแล้วขึ้นมาใหม่ เช่น ปลุกผีคอมมิวนิสต์.

ปลุกพระ
ก. บริกรรมคาถาเสกพระเครื่องเพื่อให้เกิดความขลัง.

ปลุกระดม
ก. เร้าใจและยุยงให้ประชาชนลุกฮือขึ้น.

ปลุกเสก
ก. เสกให้ขลัง.

ปลูก
[ปฺลูก] ก. เอาต้นไม้หรือเมล็ด หน่อ หัว เป็นต้น ใส่ลงในดินหรือสิ่งอื่นเพื่อให้งอกหรือให้เจริญเติบโต, ทําให้เจริญเติบโต, ทําให้งอกงาม เช่น ปลูกไมตรี เช่น ปลูกไมตรี; เอาสิ่งต่าง ๆ มาปรุงกันเข้าเพื่อทําเป็นที่อยู่หรือที่พักอาศัย โดยวิธีฝังเสาลงในดิน เช่นปลูกบ้าน ปลูกเรือน, ปลูกสร้าง ก็ว่า, โดยปริยายหมายถึงการกระทําที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปลูกพลับพลายก.

ปลูกฝัง
ก. ตกแต่งให้มีเหย้ามีเรือน; บํารุงให้เจริญมั่นคง.

ปลูกฝี
ก. นําวัคซีนเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังตรงรอยที่กรีดไว้ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรคฝีดาษ.

ปลูกเรือนคร่อมตอ
(สํา) ก. กระทําสิ่งซึ่งล่วงลํ้า ก้าวก่าย หรือทับสิทธิของผู้อื่นจะโดยรู้เท่าถึงการณ์หรือไม่ก็ตาม.

ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่
(สํา) ก. ทําตามความพอใจของผู้ที่จะได้รับผลโดยตรง, มักพูดเข้าคู่กับ ผูกอู่ตามใจผู้นอน เป็น ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน.

ปลูกเรือนพอตัว หวีหัวพอเกล้า
(สํา) ก. ทําสิ่งใด ๆ ให้พอสมควรกับฐานะของตน, ปลูกเรือนแต่พอตัว หวีหัวแต่พอเกล้า ก็ว่า.

ปลูกสร้าง
ก. เอาสิ่งต่าง ๆ มาปรุงกันเข้าเพื่อทำเป็นที่อยู่หรือที่พักอาศัยโดยวิธีฝังเสาลงในดิน เช่น ปลูกสร้างบ้าน ปลูกสร้างเรือน, ปลูก ก็ว่า.

ปวกเปียก
ว. อ่อนกําลังจนแทบไม่อาจจะทรงตัวได้ตามลําพัง, กะปวกกะเปียกก็ว่า.

ปวง
ว. ทั้งหมด, ทั้งสิ้น, เช่น ปวงชน, มักใช้เข้าคู่กับคํา ทั้ง เป็น ทั้งปวงเช่น ชนทั้งปวง.

ป่วง
น. โรคลงราก, โรคระบาดมีอาการให้ท้องร่วงและอาเจียน.

ปวด
ก. รู้สึกเจ็บต่อเนื่องอยู่ในร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้องเยี่ยว ปวดฟัน.

ปวดถ่วง
ก. ปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยคล้ายต้องการถ่ายอุจจาระ.

ปวดท้องทุ่ง
ก. ต้องการถ่ายอุจจาระ.

ปวดท้องเบา, ปวดท้องเยี่ยว
ก. ต้องการถ่ายปัสสาวะ.

ปวดท้องเบา, ปวดท้องเยี่ยว
ก. ต้องการถ่ายปัสสาวะ.

ปวดมวน
ก. รู้สึกปวดป่วนปั่นอยู่ในท้อง.

ปวดร้าว
ก. เจ็บปวดไปทั่ว, เจ็บชํ้านํ้าใจ.

ปวดเศียรเวียนเกล้า
(สํา) ก. เดือดร้อนรําคาญใจเพราะมีเรื่องยุ่งยากมากจนแก้ไม่ทัน.

ปวดแสบปวดร้อน
ก. รู้สึกเจ็บเช่นเมื่อถูกไฟหรือนํ้าร้อนลวก.

ป่วน
ก. มวน, อลวน, อาการที่ปวดมวนอยู่ในท้องเพราะอาหารเป็นเหตุ.

ป่วนปั่น
ก. เคลื่อนไหวไปมาอย่างรุนแรงผิดปรกติ เช่น ทะเลป่วนปั่น,สับสนวุ่นวายผิดปรกติ เช่น ใจคอป่วนปั่น ท้องป่วนปั่น บ้านเมืองป่วนปั่น, ปั่นป่วน ก็ว่า.

ป้วน, ป้วนเปี้ยน
ว. วนเวียนกลับไปกลับมา.

ป้วน, ป้วนเปี้ยน
ว. วนเวียนกลับไปกลับมา.

ป่วย
ก. รู้สึกไม่สบายเพราะโรคหรือความไข้หรือเหตุอื่นที่ทําให้รู้สึกเช่นนั้น.

ป่วยกล่าว
ก. เสียเวลาพูด เช่น จะป่วยกล่าวไปไย.

ป่วยการ
ก. เสียงานเสียการ, ไร้ประโยชน์, เช่น ป่วยการพูด. ว. เรียกค่าชดเชยการงานหรือเวลาที่เสียไปว่า ค่าป่วยการ.

ปวัตน-, ปวัตน์
[ปะวัดตะนะ-, ปะวัด] น. ความเป็นไป. (ป.).

ปวัตน-, ปวัตน์
[ปะวัดตะนะ-, ปะวัด] น. ความเป็นไป. (ป.).

ปวัตนาการ
น. อาการที่เป็นไป.

ปวัตนาการ
ดู ปวัตน-, ปวัตน์.

ปวารณา
[ปะวาระนา] ก. ยอมให้ภิกษุสามเณรขอหรือเรียกร้องเอาได้ เช่นขอของจากผู้ปวารณา ใบปวารณา; บอกยอมให้ใช้ได้ด้วยความเต็มใจ เช่น ขอปวารณาจะใช้อะไรก็บอก; พิธีกรรมทางศาสนายอมให้สงฆ์ว่ากล่าวตักเตือนได้ ทําในวันขึ้น ๑๕ คํ่า เดือน ๑๑ซึ่งเป็นวันออกพรรษา, เรียกวันออกพรรษาว่า วันปวารณา หรือวันมหาปวารณา. (ป.).

ปวาล
[ปะวาน] น. ประวาล. (ป.; ส. ปฺรวาล).

ปวาส
[ปะวาด] ก. ประพาส. (ป.; ส. ปฺรวาส).

ปวาฬ
[ปะวาน] น. ประพาฬ. (ป.; ส. ปฺรวาฑ).

ปวิช
[ปะวิด] น. ประวิช.

ปวิตร
[ปะวิด] น. บพิตร.

ปวิธ
[ปะวิด] ก. บพิธ. (ป. ป + วิ + ธา).

ปวิเวก
[ปะวิเวก] น. ที่สงัดเงียบ. (ป.).

ปวีณ
[ปะวีน] ว. ฉลาด, มีฝีมือดี. (ป.).

ปวุติ
[ปะวุดติ] น. ความเป็นไป, เรื่องราว. (ป. ปวุตฺติ).

ปเวณี
[ปะ-] น. ขนบธรรมเนียม, แบบแผน; เชื้อสาย, การเป็นสามีภรรยากันตามธรรมเนียม. (ป.; ส. ปฺรเวณิ).

ปเวส, ปเวสน์
[ปะเวด] น. ประเวศ, ประเวศน์. (ป.; ส. ปฺรเวศ, ปฺรเวศน).

ปเวส, ปเวสน์
[ปะเวด] น. ประเวศ, ประเวศน์. (ป.; ส. ปฺรเวศ, ปฺรเวศน).

ปศุ
[ปะสุ] น. สัตว์เลี้ยงสําหรับใช้แรงงาน เช่น ช้าง ม้า วัว ควายบางทีก็รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่ใช้เป็นอาหารด้วย เช่น แพะ แกะ หมู,มักใช้ประกอบคํา สัตว์ เป็น ปศุสัตว์. (ส.; ป. ปสุ).

ปสพ
[ปะสบ] (แบบ) น. สัตว์เลี้ยง; ของที่เกิดขึ้น, ของที่มีขึ้น; ดอกไม้,ลูกไม้. (ป. ปสุ, ปสว).

ปสันน-, ปสันนะ
[ปะสันนะ] (แบบ) ก. เลื่อมใส. (ป.).

ปสันน-, ปสันนะ
[ปะสันนะ] (แบบ) ก. เลื่อมใส. (ป.).

ปสันนาการ
น. อาการเลื่อมใส. (ป.).

ปสัยห-, ปสัยหะ
[ปะไสหะ] (แบบ) ก. ข่มขี่, ข่มเหง. (ป.).

ปสัยห-, ปสัยหะ
[ปะไสหะ] (แบบ) ก. ข่มขี่, ข่มเหง. (ป.).

ปสัยหาการ
น. การข่มเหง. (ป.).

ปสัยหาวหาร
[-หาวะหาน] น. การโจรกรรมด้วยใช้อํานาจกดขี่หรือกรรโชกให้กลัว.

ปสัยหาการ
ดู ปสัยห-, ปสัยหะ.

ปสัยหาวหาร
ดู ปสัยห-, ปสัยหะ.

ปสาท
[ปะ-] น. ประสาท. (ป.; ส. ปฺรสาท).

ปสาน
[ปะ-] น. ตลาดของแห้ง, ที่ขายของแห้ง.

ปสาสน์
[ปะ-] น. ประศาสน์. (ป.; ส. ปฺรศาสน).

ปสุ
[ปะสุ] น. ปศุ. (ป.; ส. ปศุ).

ปสุต
[ปะ-] ก. ประสูต. (ป.; ส. ปฺรสูต).

ปสูติ
[ปะสูด] น. ประสูติ. (ป.; ส. ปฺรสูติ).

ปหังสนะ, ปหังสะ
[ปะหังสะนะ, -สะ] น. การรื่นเริง. (ป.).

ปหังสนะ, ปหังสะ
[ปะหังสะนะ, -สะ] น. การรื่นเริง. (ป.).

ปหาน
[ปะ-] ก. ละทิ้ง. (ป.; ส. ปฺรหาณ).

ปหาร
[ปะ-] น. ประหาร. (ป.; ส. ปฺรหาร).

ปหาส
[ปะ-] น. ประหาส. (ป.; ส. ปฺรหาส).

ปอ ๑
น. เส้นใยที่ทําจากเปลือกไม้บางชนิด เช่น ปอแก้ว ปอกระเจา.

ปอ ๒
น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ที่เปลือกใช้ทําปอเช่น ปอกระเจา (Corchorus capsularis L. และ C. olitorius L.)ในวงศ์ Tiliaceae, ปอกระสา [Broussonetia papyrifera (L.)Vent.] ในวงศ์ Moraceae, ปอแก้ว (Hibiscus cannabinus L.)ในวงศ์ Malvaceae, ปอสําโรง (Sterculia foetida L.) ในวงศ์Sterculiaceae.

ปอ ๒
น. ชื่อแมลงหลายชนิดและหลายวงศ์ในอันดับ Odonata หัวและอกสั้นป้อม ส่วนท้องแคบและยาว หนวดสั้นเล็กมองคล้ายขน ตาโตใหญ่ ๒ ข้างดูเต็มหัว ปีก ๒ คู่ ขนาดเท่า ๆ กันหรือโตกว่ากันเล็กน้อยลักษณะยาว บางใส มีเส้นปีกมากมาย อาจมีสีต่าง ๆ เช่น ส้ม เหลืองหรือนํ้าเงิน, แมลงปอ ก็เรียก.

ป้อ
ว. อาการของไก่ที่คึกกรีดปีกไปมา, มีอาการกรีดกราย หยิบหย่ง;อ่อน เช่น ไข่ป้อ; ป๋อ.

ป๋อ
ก. แสดงอาการโดยจงใจหรือไม่จงใจให้เห็นเด่น ผึ่งผาย องอาจหรือคล้ายคลึงเช่นนั้น.

ปอก
ก. เอาเปลือกหรือสิ่งที่ห่อหุ้มออก, ถ้าเป็นผิวนอก ใช้ว่า ถลอก ก็ได้เช่น หัวปอก พูดว่า หัวถลอก.

ปอกกล้วยเข้าปาก
(สํา) ว. ง่าย, สะดวก.

ปอกลอก
ว. ทําให้เขาหลงเชื่อแล้วล่อลวงเอาทรัพย์เขาไป.

ปอง ๑
ก. มุ่งปรารถนา.

ปอง ๒
น. เสาเตี้ย ๆ สําหรับผูกเท้าหลังของช้าง เช่น ผูกช้างยืนโรงผูกช้างในการเล่นผัดช้าง เรียกว่า เสาปอง.

ป่อง ๑
น. ชื่อแมงหลายชนิดและหลายวงศ์ในอันดับ Scorpionida หัวติดกับอกเป็นส่วนเดียวกัน รูปร่างค่อนไปทางสี่เหลี่ยมยาว ส่วนท้องเป็นปล้อง ๆ ขนาดไล่เลี่ยกับอก ๗-๘ ปล้อง ส่วนที่เหลือเล็กลงต่อกันยาวคล้ายหาง ที่ปลายมีเหล็กในสามารถต่อยให้เจ็บปวดได้ มีขา๔ คู่ ด้านหน้ามีส่วนของปากขยายใหญ่โตกว่าขา ลักษณะเหมือนก้ามปูใช้สําหรับจับเหยื่อ.

ป่อง ๒
ว. ตุงเป็นกระพุ้งออกมา เช่น พุงป่อง.

ป่อง ๓, ป่อง ๆ
ว. อาการของคนโกรธแกมงอน ในคําว่า โกรธป่อง ๆ.

ป่อง ๓, ป่อง ๆ
ว. อาการของคนโกรธแกมงอน ในคําว่า โกรธป่อง ๆ.

ป่องร่า
(โบ) น. อาการของคนคะนองไม่กลัวใคร ชวนวิวาทกับผู้อื่น.(ปรัดเล).

ป่อง ๔
(ถิ่น-อีสาน) น. ปล่อง, ช่อง, ล่อง.

ป้อง
ก. บังเพื่อกักหรือกั้นไว้.

ป้องกัน
ก. กั้นไว้เพื่อต้านทานหรือคุ้มครอง.

ปอด ๑
(สรีร) น. อวัยวะทําหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจอยู่ภายในร่างกายของคนหรือสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังเป็นส่วนมาก; ตัวสกาที่ข้ามเขตไปไม่ได้. ว. กลัวจนไม่กล้าทำอะไร.

ปอดชื้น
น. การอักเสบของหลอดลมที่มีเสมหะอยู่ด้วย ทางแพทย์หมายถึงการคั่งของเลือดในปอดเนื่องจากการอักเสบ เป็นช่องทางให้เกิดปอดบวมได้.

ปอดบวม
น. ปอดอักเสบเนื่องจากเชื้อโรค.

ปอดแปด
ว. อ่อนน่วมอยู่ภายใน, มักใช้ประกอบกับคํา เหลว เป็น เหลวปอดแปด; อาการที่บ่นไม่รู้จักจบ, กระปอดกระแปด ก็ว่า.

ปอดลอย
(ปาก) ก. ใจไม่สู้ดีชักจะหวาด ๆ, ใช้ว่า ปอด ก็มี.

ปอดเหล็ก
น. เครื่องกลไกสร้างด้วยโลหะ ใช้ทําให้เกิดการบีบและขยายของทรวงอกในการหายใจแทนการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติในเมื่อมีอัมพาตของกล้ามเนื้อ เช่นในโรคโปลิโอ. (ปาก) ก. อดทนแข็งแรง (ใช้แก่นักกีฬาประเภทวิ่ง).

ปอด ๒
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Sphenoclea zeylanica Gaertn. ในวงศ์Sphenocleaceae ขึ้นตามที่ลุ่มนํ้าขัง ลําต้นอ่อน ดอกสีเขียว ๆขาว ๆ ใช้ทํายาได้, ผักปุ่มปลา ก็เรียก.

ปอด ๓
ว. ลักษณะก้นที่สอบและแฟบ เรียกว่า ก้นปอด, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น มะม่วงก้นปอด.

ปอน, ปอน ๆ
ว. ซอมซ่อ, มีลักษณะประหนึ่งว่าอัตคัด ขัดสน เช่น แต่งตัวปอน;เรียกของเลว ๆ ว่า ของปอน ๆ.

ปอน, ปอน ๆ
ว. ซอมซ่อ, มีลักษณะประหนึ่งว่าอัตคัด ขัดสน เช่น แต่งตัวปอน;เรียกของเลว ๆ ว่า ของปอน ๆ.

ป้อน
ก. เอาอาหารส่งให้ถึงปากหรือใส่ปากให้กิน, โดยปริยายหมายถึงกิริยาอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เอาเงินป้อน; ส่งวัตถุดิบแก่โรงงานเพื่อให้เครื่องจักรผลิตเป็นสิ่งสําเร็จรูปหรือทําให้เครื่องจักรเกิดพลังงาน.

ปอนด์
น. ชื่อหน่วยเงินตราของอังกฤษเท่ากับ ๑๐๐ เพนซ์, ปอนด์สเตอร์ลิงก็เรียก; ชื่อหน่วยมาตราชั่งของอังกฤษ เท่ากับ ๔๕๔ กรัม หรือ ๑๖ออนซ์; เรียกกระดาษฟอกเนื้อดี สีขาว ที่ใช้พิมพ์หนังสือ มีคุณภาพดีกว่ากระดาษปรู๊ฟ ว่า กระดาษปอนด์. (อ. pound).

ปอเนาะ
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. โรงเรียนที่สอนหนังสือและอบรมศาสนาอิสลาม.

ปอบ
น. ผีชนิดหนึ่งเชื่อกันว่าสิงอยู่ในตัวคน กินตับไตไส้พุงจนหมดแล้วออกไป คนนั้นก็ตาย.

ป้อแป้
ว. อาการที่อ่อนแรงลง, มีกำลังน้อย.

ปอม
(ถิ่น-อีสาน) น. กิ้งก่า. (ดู กิ้งก่า).

ปอมข่าง
(ถิ่น-อีสาน) น. ชื่อกิ้งก่าขนาดใหญ่ชนิด Calotes mystaceusในวงศ์ Agamidae หัวสีนํ้าเงิน แต่บางครั้งเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลได้,ปอมขาง หรือ กะปอมขาง ก็เรียก.

ป้อม ๑
น. หอรบ; ที่อยู่หรือที่พักซึ่งทำขึ้นใช้กันแดดกันฝน เช่น ป้อมตำรวจ.

ป้อมบังคับการ
(โบ) น. ที่ซึ่งมีที่กําบังแข็งแรงสําหรับใช้ในการควบคุมการใช้อาวุธและสั่งการเดินเรือในยามสงคราม.

ป้อม ๒, ป้อม ๆ
ว. กลม ๆ.

ป้อม ๒, ป้อม ๆ
ว. กลม ๆ.

ป๋อม
ว. เสียงดังอย่างของมีนํ้าหนักตกนํ้า, โดยปริยายหมายถึงอาการที่สูญหายไปอย่างของตกนํ้า เช่น หายป๋อมไปเลย.

ปอมขาง
ดู ปอมข่าง ที่ ปอม.

ปอย ๑
น. กลุ่มก้อนหรือกระจุกเล็ก ๆ ของสิ่งที่เป็นเส้นเป็นฝอยอย่างเส้นด้ายหญ้า ผม หรือขน เช่น ปอยผม, ลักษณนามเรียกกระจุกหรือกลุ่มก้อนของสิ่งเช่นนั้น เช่น ผมปอยหนึ่ง ผม ๒ ปอย.

ปอย ๒
(ถิ่น-พายัพ) น. งานพิธีต่าง ๆ, ถ้างานใหญ่ เช่นประเพณีฉลองการสร้างถาวรวัตถุของวัด เรียกว่า ปอยหลวง, ถ้างานเล็ก เช่นงานบวชเรียกว่า ปอยน้อย.

ป้อย ๑
(ถิ่น) ก. แช่ง, ด่า.

ป้อย ๒
ว. แล้ว ๆ เล่า ๆ, มักใช้เข้าคู่กับคำ คลํา เมื่อรู้สึกเจ็บ ว่า คลําป้อย,ป้อย ๆ ก็ว่า.

ป้อยอ
ก. ตามใจหรือเอาใจจนเกินไป, ยกย่องเยินยอจนเกินพอดี,บํารุงบําเรอจนเกินไป.

ปอเลียงฝ้าย
ดู เลียงฝ้าย.

ปะ
ก. มาเจอกัน, มาประเชิญหน้ากัน; เอาวัตถุเช่นผ้าหรือไม้เป็นต้นปิดทับส่วนที่ชํารุดเป็นช่องเป็นรู เช่น ปะผ้า ปะว่าว, ปิดทับ เช่น ปะหน้า.ปะว่า สัน. ถ้าว่าเจอ.

ปะกน
น. ไม้ลูกสกัดฝาเรือนสําหรับเอากระดานกรุ, ลูกปะกน ก็เรียก.

ปะกัง
น. ชื่อโรคลมชนิดหนึ่ง ตามตําราแพทย์แผนโบราณว่า ทําให้มีอาการปวดหัวเวลาเช้า ๆ ปวดกระบอกตา เมื่อเห็นแดดจะลืมตาไม่ขึ้นเรียกว่า ลมปะกัง, ตะกัง ก็ว่า.

ปะกาปะกัง
ว. เก้ ๆ กัง ๆ, งก ๆ เงิ่น ๆ.

ปะการัง
น. ชื่อสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง จําพวกเดียวกับดอกไม้ทะเลแต่ละตัวมีรูปร่างทรงกระบอก ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นกระจุก สร้างหินปูนออกมาพอกทับถมกันเป็นโครงรูปร่างต่าง ๆอาศัยและเจริญเติบโตในทะเลตื้นเขตร้อน ที่พบมากในน่านนํ้าไทยคือ ชนิด Porites lutea และ ปะการังเขากวาง ในสกุล Acropora,โครงสร้างของตัวปะการังที่เกาะติดอยู่กับที่และมีซากปะการังตายทับถมเพิ่มพูนขึ้นตามลําดับ เรียกว่า หินปะการัง, ถ้ามากจนเป็นโขดเกาะ หรือ เทือก ก็เรียกว่า โขดปะการัง เกาะปะการัง หรือ เทือกปะการัง, บางทีเรียกเป็น กะรัง.

ปะกำ
น. ไม้ที่ทําเป็น ๒ ขาสําหรับคาบไม้อื่น, ลูกตั้งฝาที่คาบพรึง.

ปะขาว
น. ชายผู้จําศีลนุ่งห่มผ้าขาว, ลักษณนามว่า คน; (โบ) ตําแหน่งข้าราชการชั้นขุนหมื่นพวกหนึ่ง, คู่กับ ประแดง.

ปะงับปะง่อน
ว. ปะหงับปะง่อน.

ปะงาบ, ปะงาบ ๆ
ว. อาการที่อ้าปากแล้วหุบปาก, อาการที่หายใจทางปาก (เป็นอาการของคนและสัตว์ที่เหนื่อยหอบหรือใกล้จะตาย), งาบ ๆ พะงาบ หรือพะงาบ ๆ ก็ว่า.

ปะงาบ, ปะงาบ ๆ
ว. อาการที่อ้าปากแล้วหุบปาก, อาการที่หายใจทางปาก (เป็นอาการของคนและสัตว์ที่เหนื่อยหอบหรือใกล้จะตาย), งาบ ๆ พะงาบ หรือพะงาบ ๆ ก็ว่า.

ปะตาปา
น. นักบวช. (ช.).

ปะตาระกาหลา
[-หฺลา] น. เทวดาผู้ใหญ่. (ช.).

ปะติดปะต่อ
ก. เอาสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ มาติดมาต่อกัน.

ปะติยาน
น. กระจัง ๒ ข้างพระราชยาน.

ปะเตะ
ก. เตะ, ฟาดด้วยหลังเท้า.

ปะทะ
ก. โดนกัน, กระทบกัน, เช่น เรือปะทะกัน ข้างเรือปะทะกัน, ประจัญกันเช่น กองทัพปะทะกัน, ต้านไว้ เช่น ยกทัพไปปะทะข้าศึก.

ปะทะปะทัง
ก. พยุงไว้, ทานไว้, ประคองไว้.

ปะทุ
ก. แตกหรือผุดออกมาด้วยแรงเบ่งดัน เช่น ภูเขาไฟปะทุ ถ่านปะทุ;โดยปริยายหมายถึงกิริยาที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เพ่งจนตาจะปะทุ.

ปะทุน
ดู กะทุน.

ปะบุก
น. เรียกงูกะปะที่มีสีคลํ้าว่า งูปะบุก.

ปะปน
ก. ปนกัน (มักใช้ในลักษณะที่สิ่งต่างชนิดต่างประเภทระคนปนกัน),บางทีก็ใช้หมายความอย่างเดียวกับ ปน.

ปะราลี
น. บราลี.

ปะรำ
น. สิ่งปลูกสร้างขึ้นชั่วคราว มีเสา หลังคาแบนดาดด้วยผ้าหรือใบไม้.

ปะไร
ตัดจากคำว่า เป็นไร. (ดูที่ เป็นไร ในคำ เป็น).

ปะลอม
ก. กิน, กินมูมมาม, กินโดยตะกละตะกลาม.

ปะเลง
น. การรำเบิกโรงอย่างโบราณ ผู้แสดงแต่งเครื่องละครตัวพระคู่หนึ่งสวมหน้าเทพบุตรศีรษะโล้น มือทั้ง ๒ ถือหางนกยูงข้างละกำ รำออกท่าประกอบดนตรี.

ปะแล่ม, ปะแล่ม ๆ
ว. อ่อน ๆ น้อย ๆ (ส่วนมากใช้แก่สิ่งที่มีรสหวาน) เช่น หวานปะแล่ม ๆ.

ปะแล่ม, ปะแล่ม ๆ
ว. อ่อน ๆ น้อย ๆ (ส่วนมากใช้แก่สิ่งที่มีรสหวาน) เช่น หวานปะแล่ม ๆ.

ปะโลง
น. ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง ใช้ทํายาได้. (พจน. ๒๔๙๓).

ปะวะหล่ำ
น. ประหลํ่า.

ปะวะหลิ่ม
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง, บหลิ่ม ปลิม ปลิ่ม ประหลิ่ม ปะหลิ่มหรือ มะหลิ่ม ก็ว่า.

ปะเสหรันอากง
[-หฺรันอากง] น. วังลูกหลวง. (ช.).

ปะหงับ, ปะหงับ ๆ
ว. อาการที่ปากอ้าและหุบลงเหมือนอยากจะพูดแต่ไม่มีเสียง,อาการที่ทำปากหงับ ๆ อย่างอาการของผู้ป่วยใกล้จะตาย เช่นนอนเจ็บปะหงับ ๆ.

ปะหงับ, ปะหงับ ๆ
ว. อาการที่ปากอ้าและหุบลงเหมือนอยากจะพูดแต่ไม่มีเสียง,อาการที่ทำปากหงับ ๆ อย่างอาการของผู้ป่วยใกล้จะตาย เช่นนอนเจ็บปะหงับ ๆ.

ปะหงับปะง่อน
ว. อาการที่โงนเงนทรงตัวไม่อยู่เพราะเจ็บป่วยเป็นต้น, ปะงับปะง่อนก็ว่า.

ปะหนัน
[-หฺนัน] น. ดอกลําเจียก. (ช.).

ปะหมันอาหยี
[-หฺมัน-หฺยี] น. น้า. (ช.).

ปะหลิ่ม
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง, บหลิ่ม ปลิม ปลิ่ม ประหลิ่ม ปะวะหลิ่มหรือ มะหลิ่ม ก็ว่า.

ปะหัง
น. เครื่องใช้ทําด้วยไม้ไผ่ผ่าซีกขัดเป็นวงสําหรับใส่หญ้าให้วัวควายกิน.

ปะเหลาะ, ปะเหลาะปะแหละ
ก. พูดจาหว่านล้อมเอาอกเอาใจ เช่น ผู้ใหญ่ปะเหลาะเด็ก,พูดหรือทําสนิทชิดชอบให้เขาพึงใจเพื่อหวังประโยชน์ตน.

ปะเหลาะ, ปะเหลาะปะแหละ
ก. พูดจาหว่านล้อมเอาอกเอาใจ เช่น ผู้ใหญ่ปะเหลาะเด็ก,พูดหรือทําสนิทชิดชอบให้เขาพึงใจเพื่อหวังประโยชน์ตน.

ปัก
ก. ตั้งฝังลง เช่น ปักเสา, เอาหัวดิ่งลง เช่น นกปักหัวลง เครื่องบินปักหัวลง; เสียบ เช่น ปักปิ่น ปักดอกไม้, ใช้เข็มร้อยด้าย ไหม หรือดิ้นเป็นต้นแล้วแทงแล้วแทงลงไปบนผืนผ้าให้เป็นลวดลายต่าง ๆเช่น ปักลวดลาย ปักด้าย ปักไหม.

ปักจักร
ก. เย็บให้เป็นลวดลายด้วยจักรเย็บผ้า.

ปักใจ
ก. ตั้งใจแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ปักใจเชื่อ.

ปักดำ
ก. ถอนต้นกล้ามาปลูกในนา.

ปักปันเขตแดน
ก. กำหนดเขตแดนระหว่างประเทศเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับพรมแดนเป็นต้น.

ปักหลัก ๑
ก. ตั้งมั่นอยู่กับที่ไม่ยอมถอยหรือไม่ยอมโยกย้าย ในคำว่าปักหลักสู้ ปักหลักอยู่.

ปักข-, ปักข์
[ปักขะ-, ปัก] น. ปักษ์. (ป.; ส. ปกฺษ).

ปักข-, ปักข์
[ปักขะ-, ปัก] น. ปักษ์. (ป.; ส. ปกฺษ).

ปักขคณนา
[ปักขะคะนะ-] น. ปักษคณนา, วิธีคำนวณดิถีตามปักษ์.

ปักขพิฬาร
[-ลาน] น. บ่าง; นกเค้าแมว.

ปักขันดร
[-ดอน] น. ปักษานดร, ฝ่ายอื่น, อีกฝ่ายหนึ่ง.

ปักเป้า ๑
[ปักกะ-] น. ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในวงศ์ Tetrodontidae และDiodontidae ลําตัวป้อมหรือกลมมากน้อยแล้วแต่ชนิด ขนาดยาวตั้งแต่ ๖-๖๐ เซนติเมตร เฉพาะบางสกุล เช่น สกุล Canthigaster,Chonerhinus และ Tetrodon ในวงศ์ Tetrodontidae สกุล Diodonและ Chilomycterus ในวงศ์ Diodontidae มีลักษณะแบนข้างทุกชนิดสามารถพองตัวได้ ผิวหนังมีหนาม ฟันมีลักษณะเป็นกระดูกแข็ง ไม่มีครีบท้อง บางชนิดพบในนํ้าจืด เช่น ชนิดChonerhinus modestus ทุกชนิดมีพิษ ไม่ควรนํามารับประทาน.

ปักเป้า ๒
[ปัก-] น. ชื่อว่าวชนิดหนึ่งมีหางยาว, คู่กับ ว่าวจุฬา, อีเป้า ก็เรียก.

ปักษ-, ปักษ์
[ปักสะ-, ปัก] น. ฝ่าย, ข้าง, เช่น ปักษ์ใต้, กึ่งของเดือนจันทรคติคือ เดือนหนึ่งมี ๒ ปักษ์ ข้างขึ้นเรียก ศุกลปักษ์ (แปลว่า ฝ่ายขาวหมายเอาแสงเดือนสว่าง) ข้างแรมเรียก กาฬปักษ์ (แปลว่า ฝ่ายดําหมายเอาเดือนมืด), ครึ่งเดือน เช่น หนังสือรายปักษ์. (ส.; ป. ปกฺข).

ปักษ-, ปักษ์
[ปักสะ-, ปัก] น. ฝ่าย, ข้าง, เช่น ปักษ์ใต้, กึ่งของเดือนจันทรคติคือ เดือนหนึ่งมี ๒ ปักษ์ ข้างขึ้นเรียก ศุกลปักษ์ (แปลว่า ฝ่ายขาวหมายเอาแสงเดือนสว่าง) ข้างแรมเรียก กาฬปักษ์ (แปลว่า ฝ่ายดําหมายเอาเดือนมืด), ครึ่งเดือน เช่น หนังสือรายปักษ์. (ส.; ป. ปกฺข).

ปักษกษัย
[ปักสะกะไส] น. การสิ้นปักษ์.

ปักษคณนา
[ปักสะคะนะนา] น. วิธีคํานวณดิถีตามปักษ์.

ปักษคม
[ปักสะคม] น. นก.

ปักษธร
[ปักสะทอน] น. นก; พระจันทร์.

ปักษเภท
[ปักสะเพด] น. ความแตกต่างระหว่าง ๒ ฝ่ายที่โต้เถียงกัน.

ปักษวาหน
[ปักสะวาหน] น. นก.

ปักษานดร
[ปักสานดอน] น. ฝ่ายอื่น, อีกฝ่ายหนึ่ง.

ปักษาวสาน
[ปักสาวะสาน] น. วันสิ้นปักษ์, วันเพ็ญหรือวันสิ้นเดือน.

ปักษา
น. นก. (ส.).

ปักษานดร
ดู ปักษ-, ปักษ์.

ปักษาวสาน
ดู ปักษ-, ปักษ์.

ปักษาสวรรค์
น. ชื่อไม้ล้มลุกมีเหง้าชนิด Strelitzia reginae Banks ex Dryand.ในวงศ์ Musaceae ใบเรียงสลับซ้อนกันเป็นแผง ดอกสีนํ้าเงินมีกาบสีส้ม รูปคล้ายปีกนกหุ้มอยู่.

ปักษิน, ปักษี
น. สัตว์มีปีก คือ นก. (ส.).

ปักษิน, ปักษี
น. สัตว์มีปีก คือ นก. (ส.).

ปักหลัก ๑
ดูใน ปัก.

ปักหลัก ๒
น. (๑) ชื่อนกกระเต็นชนิด Ceryle rudis ในวงศ์ Alcedinidaeตัวสีขาวลายดํา ปากหนาแหลมตรงสีดํา มักเกาะตามหัวเสาหรือตอไม้ที่ปักอยู่ในนํ้าเพื่อจ้องโฉบปลากิน, กระเต็นปักหลัก ก็เรียก.(๒) ชื่อเหยี่ยวชนิด Elanus caeruleus ในวงศ์ Accipitridae อกสีขาว หลังสีเทา โคนปีกสีดํา อาศัยอยู่ตามท้องทุ่ง กินสัตว์เล็ก ๆ,เหยี่ยวขาว ก็เรียก, นกทั้ง ๒ ชนิดมักบินอยู่กับที่ จึงเรียกว่า ปักหลัก.

ปัคหะ
[ปักคะ-] (แบบ) น. ประเคราะห์, การยกย่อง. (ป. ปคฺคห).

ปัง ๑
น. อาหารชนิดหนึ่งทําด้วยแป้งผสมเชื้อ เรียกว่า ขนมปัง.(โปรตุเกส p?o, เทียบฝรั่งเศส ว่า pain).

ปัง ๒
ว. เสียงดังเช่นนั้น; โดยปริยายหมายความว่า ถูกตรงที่หมาย.

ปั๋ง ๑
ว. มาก, มักใช้แก่แข็งหรือแน่น ว่า แข็งปั๋ง ท้องแน่นปั๋ง.

ปั๋ง ๒
(ถิ่น-พายัพ) น. ต้นปลัง. (ดู ปลัง).

ปังสุ์
(แบบ) น. บงสุ์. (ป.).

ปังสุกุล
(แบบ) น. บังสุกุล. (ป.).

ปัจจัตตะ
(แบบ) ว. เฉพาะตน. (ป.).

ปัจจัตถรณ์
[-ถอน] (แบบ) น. บรรจถรณ์. (ป.).

ปัจจันต-, ปัจจันต์
[ปัดจันตะ-, ปัดจัน] (แบบ) ว. ที่สุดแดน, ปลายเขตแดน. (ป.).

ปัจจันต-, ปัจจันต์
[ปัดจันตะ-, ปัดจัน] (แบบ) ว. ที่สุดแดน, ปลายเขตแดน. (ป.).

ปัจจันตคาม
น. บ้านปลายเขตแดน. (ป.).

ปัจจันตชนบท
น. ตําบลปลายเขตแดน.

ปัจจันตประเทศ
น. ประเทศปลายเขตแดน, ในวินัยหมายถึงที่อยู่นอกออกไปจากมัชฌิมประเทศ. (ป.).

ปัจจัย
น. เหตุอันเป็นทางให้เกิดผล, หนทาง, เช่น การศึกษาเป็นปัจจัยให้เกิดความรู้ความสามารถ, องค์ประกอบ, ส่วนประกอบ, เช่นปัจจัยในการผลิต, คำ 'ปัจจัย' กับ คํา 'เหตุ' มักใช้แทนกันได้;เครื่องอาศัยยังชีพ, เครื่องอาศัยเลี้ยงชีวิตของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา ๔ อย่าง คือ จีวร (ผ้านุ่งห่ม) บิณฑบาต (อาหาร)เสนาสนะ (ที่อยู่) คิลานเภสัช (ยา) รวมเรียกว่า จตุปัจจัย คือปัจจัย ๔, คือ ปัจจัย ๔, โดยปริยายหมายถึงเงินตราก็ได้ (มักใช้แก่ภิกษุสามเณร); (ไว)ส่วนเติมท้ายธาตุหรือศัพท์เพื่อแสดงความหมายเป็นต้น. (ป.).

ปัจจามิตร
น. ข้าศึก, ศัตรู. (ส. ปจฺจามิตฺร; ป. ปจฺจามิตฺต).

ปัจจุคมน์
น. การลุกขึ้นรับ, การต้อนรับ, (สําหรับผู้น้อยแสดงต่อผู้ใหญ่).(ป. ปจฺจุคฺคมน).

ปัจจุทธรณ์
[ปัดจุดทอน] (แบบ) น. การถอนคืน. ก. ถอนคืน (ในวินัยใช้คู่กับอธิษฐาน ซึ่งแปลว่า ตั้งใจ เช่น อธิษฐานสบง คือตั้งใจให้เป็นสบงครอง ภายหลังไม่อยากให้เป็นสบงครองก็ถอนคืนสบงนั้น เรียกว่าปัจจุทธรณ์สบง). (ป.).

ปัจจุบัน
น. เวลาเดี๋ยวนี้, ทันที, เวลาไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต เช่น เวลาปัจจุบัน,สมัยใหม่ เช่น แพทย์แผนปัจจุบัน; เรียกโรคภัยที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดว่า โรคปัจจุบัน เช่น โรคลมปัจจุบัน. (ป. ปจฺจุปฺปนฺน).

ปัจจุบันทันด่วน
ว. กะทันหัน.

ปัจจุส-, ปัจจูสะ
[ปัดจุดสะ-, ปัดจูสะ] (แบบ) น. เช้ามืด, ใกล้รุ่ง. (ป.).

ปัจจุส-, ปัจจูสะ
[ปัดจุดสะ-, ปัดจูสะ] (แบบ) น. เช้ามืด, ใกล้รุ่ง. (ป.).

ปัจจุสกาล, ปัจโจสกาล
[ปัดจุดสะกาน, ปัดโจสะ-] น. เวลาเช้ามืด. (ป.).

ปัจจุสกาล, ปัจโจสกาล
[ปัดจุดสะกาน, ปัดโจสะ-] น. เวลาเช้ามืด. (ป.).

ปัจจุสมัย
[ปัดจุดสะไหฺม] น. เวลาเช้ามืด. (ป. ปจฺจูสสมย).

ปัจจูหะ
(แบบ) น. ปรัตยูห์, อันตราย, ความขัดข้อง. (ป.).

ปัจเจก, ปัจเจก-
[ปัดเจก, ปัดเจกะ-, ปัดเจกกะ-] (แบบ) ว. เฉพาะตัว, เฉพาะบุคคล,เช่น ปัจเจกชน. (ป.).

ปัจเจก, ปัจเจก-
[ปัดเจก, ปัดเจกะ-, ปัดเจกกะ-] (แบบ) ว. เฉพาะตัว, เฉพาะบุคคล,เช่น ปัจเจกชน. (ป.).

ปัจเจกบุคคล
[ปัดเจกกะ-] น. บุคคลแต่ละคน.

ปัจเจกพุทธะ
[ปัดเจกกะ-] น. ชื่อพระพุทธเจ้าพวกหนึ่งที่ตรัสรู้เฉพาะตัวมิได้สั่งสอนผู้อื่น. (ป.).

ปัจเจกโพธิ
[ปัดเจกกะโพด] น. ความตรัสรู้เฉพาะตัว คือ ความตรัสรู้ของพระปัจเจกพุทธเจ้า. (ป.).

ปัจเจกสมาทาน
[ปัดเจกะสะมาทาน] น. การสมาทานศีลทีละสิกขาบท เรียกว่าปัจเจกสมาทาน, ถ้าสมาทานรวบท้าย เช่นว่า พุทฺธปญฺ?ตฺตํ อุโปสถํสมาทิยามิ หรือ อฏฺ? สีลานิ สมาทิยามิ เรียกว่า เอกัชฌสมาทาน.(ป.).

ปัจโจปการกิจ
(แบบ) น. การที่บุคคลทําตอบแทนอุปการะของผู้อื่น.(ป. ปจฺโจปการ + กิจฺจ).

ปัจฉา
(แบบ) ว. ภายหลัง, เบื้องหลัง, ข้างหลัง. (ป.).

ปัจฉาภัต
น. เวลาภายหลังบริโภคอาหาร คือ ตั้งแต่เที่ยงแล้วไป. (ป.).

ปัจฉาสมณะ
น. สมณะผู้ตามหลัง คือ พระผู้น้อยมีหน้าที่เดินตามหลังพระผู้ใหญ่. (ป.).

ปัจฉิม, ปัจฉิม-
[ปัดฉิม, ปัดฉิมมะ-] ว. ตะวันตก; ภายหลัง, ทีหลัง, ข้างหลังสุด.(ป. ปจฺฉิม).

ปัจฉิม, ปัจฉิม-
[ปัดฉิม, ปัดฉิมมะ-] ว. ตะวันตก; ภายหลัง, ทีหลัง, ข้างหลังสุด.(ป. ปจฺฉิม).

ปัจฉิมชน
[ปัดฉิมมะ-] น. ชนที่เกิดภายหลัง.

ปัจฉิมทิศ
[ปัดฉิมมะทิด] น. ทิศตะวันตก.

ปัจฉิมพรรษา
[ปัดฉิมมะพันสา, ปัดฉิมพันสา] น. 'พรรษาหลัง', ช่วงระยะเวลาที่ภิกษุเข้าอยู่จำพรรษาหลัง คือตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙ ถึงขึ้น๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒, คู่กับ บุริมพรรษา หรือ ปุริมพรรษา. (ป. ปจฺฉิม +ส. วรฺษ).

ปัจฉิมภาค
[ปัดฉิมมะพาก] น. ส่วนเบื้องปลาย.

ปัจฉิมยาม
[ปัดฉิมมะ-] น. ยามหลัง, ยามสุดท้าย, ในบาลีแบ่งคืนออกเป็น๓ ยาม กำหนดยามละ ๔ ชั่วโมง เรียกว่า ปฐมยาม มัชฌิมยามและปัจฉิมยาม ปัจฉิมยามกำหนดเวลาตั้งแต่ตี ๒ หรือ ๒ นาฬิกาถึงย่ำรุ่ง หรือ ๖ นาฬิกา.

ปัจฉิมลิขิต
[ปัดฉิม-] น. 'เขียนภายหลัง' คือหนังสือที่เขียนเพิ่มเติมลงท้ายเมื่อเซ็นชื่อแล้ว, ใช้อักษรย่อว่า ป.ล.

ปัจฉิมวัย
[ปัดฉิมมะ-] น. วัยตอนปลาย, วัยชรา. (ป.).

ปัจฉิมวาจา
[ปัดฉิมมะ-] น. วาจาครั้งสุดท้าย. (ป.).

ปัจถรณ์
[ปัดจะถอน] (แบบ) น. บรรจถรณ์. (ป. ปจฺจตฺถรณ).

ปัจนึก
[ปัดจะหฺนึก, ปัดจะนึก] (แบบ) น. ข้าศึก, ศัตรู. (ป. ปจฺจนีก).

ปัจยาการ
[ปัดจะยา-] (แบบ) น. อาการที่เป็นเหตุต่อเนื่องกัน คือปฏิจจสมุปบาท. (ป. ปจฺจยาการ).

ปัจเวกขณ์
[ปัดจะเวก] (แบบ) น. การเห็นลงจําเพาะ, การพิจารณา.(ป. ปจฺจเวกฺขณ).

ปัชชร
[ปัดชอน] (แบบ) ก. ประชวร. (ป.).

ปัชชุน
(แบบ) น. เมฆ. (ป.).

ปัญจ-
[ปันจะ-] (แบบ) ว. เบญจ. (ป.).

ปัญจนที
น. แม่นํ้า ๕ สาย คือ ๑. คงคา ๒. ยมนา ๓. อจิรวดี ๔. สรภู ๕. มหี.

ปัญจวัคคีย์
น. พวก ๕ คน เป็นคําเรียกพระสงฆ์ ๕ รูป มีพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นต้น ที่ตามพระพุทธเจ้าออกบวช และได้เป็นพระอรหันต์ก่อนพวกอื่น. (ป.).

ปัญจสาขา
น. กิ่งทั้ง ๕ คือ หัว ๑ แขน ๒ ขา ๒ ของลูกที่อยู่ในท้อง. (ป.).

ปัญจก, ปัญจกะ
[ปันจก, -จะกะ] (แบบ) น. เบญจก, หมวด ๕. (ป.).

ปัญจก, ปัญจกะ
[ปันจก, -จะกะ] (แบบ) น. เบญจก, หมวด ๕. (ป.).

ปัญจม-
[ปันจะมะ-] (แบบ) ว. เบญจม, ที่ ๕. (ป.).

ปัญจมี
ว. ที่ ๕.

ปัญจมีดิถี
น. วัน ๕ คํ่า.

ปัญจมี
ดู ปัญจม-.

ปัญจมีดิถี
ดู ปัญจม-.

ปัญจวีสติ
[-วีสะติ] (แบบ) ว. ยี่สิบห้า. (ป.).

ปัญญา
น. ความรอบรู้, ความรู้ทั่ว, ความฉลาดเกิดแต่เรียนและคิด, เช่นคนมีปัญญา หมดปัญญา. (ป.).

ปัญญาแค่หางอึ่ง
(สํา) ว. มีความรู้น้อย, โง่.

ปัญญาชน
น. คนที่มีความรู้หรือความฉลาดอันเกิดแต่การเรียนมามาก.

ปัญญาวิมุติ
[-วิมุด] (แบบ) น. ความหลุดพ้นด้วยปัญญา เป็นโลกุตรธรรมประการหนึ่ง, คู่กับ เจโตวิมุติ. (ป. ป?ฺ?าวิมุตฺติ).

ปัญญาอ่อน
น. ภาวะที่มีระดับสติปัญญาด้อยหรือตํ่ากว่าปรกติ มักมีสาเหตุเกิดขึ้นในระหว่างพัฒนาการ ทําให้เด็กมีความสามารถจํากัดในด้านการเรียนรู้และมีพฤติกรรมปรับตัวไม่อยู่ในระดับที่ควรเป็น. ว. มีระดับสติปัญญาด้อยหรือต่ำกว่าปรกติ.

ปัญญาส-
[ปันยาสะ-] (แบบ) ว. ห้าสิบ. (ป.).

ปัญหา
น. ข้อสงสัย, ข้อขัดข้อง, เช่น ทําได้โดยไม่มีปัญหา, คําถาม,ข้อที่ควรถาม, เช่น ตอบปัญหา, ข้อที่ต้องพิจารณาแก้ไข เช่นปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาทางการเมือง. (ป.).

ปัญหาโลกแตก
(ปาก) น. ปัญหาที่หาข้อยุติไม่ได้.

ปัฏ
[ปัด] (แบบ) น. ผืนผ้า, แผ่นผ้า. (ป. ปฏ).

ปัฏนะ
[ปัดตะนะ] (แบบ) น. ท่าเรือ. (ป., ส. ปฏฺฏน).

ปัฐยาวัต
[ปัดถะหฺยาวัด] (แบบ) น. ชื่อฉันท์ชนิดหนึ่ง ซึ่งกําหนดด้วยอักษร๓๒ คํา มี ๔ บาท บาทละ ๘ คํา, บัฐยาพฤต หรือ อัษฎกฉันท์ ก็เรียก.(ป. ปฐฺยาวตฺต).

ปัณฑรหัตถี
[ปันดะระ-] น. ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ ตระกูล กายสีขาวดังเขาไกรลาส. (ดู กาฬาวก).

ปัณณะ
(แบบ) น. บรรณ. (ป.).

ปัณณาส
ว. ห้าสิบ. (ป.).

ปัณณาสก์
ว. หมวด ๕๐. (ป.).

ปัณรส-
[ปันนะระสะ-] ว. สิบห้า. (ป. ปณฺณรส).

ปัณรสม-
[ปันนะระสะมะ-] ว. ที่ ๑๕. (ป.).

ปัณรสมสุรทิน
น. วันที่ ๑๕.

ปัณรสี
[ปันนะระสี] ว. ที่ ๑๕. (ป. ปณฺณรสี).

ปัณรสีดิถี
น. วัน ๑๕ คํ่า.

ปัณหิ
น. ส้นเท้า. (ป.; ส. ปารฺษณิ).

ปัด ๑
ก. ทําให้หมดไปพ้นไปด้วยการพัดหรือโบกเป็นต้น เช่น ปัดฝุ่นปัดแมลงวัน ปัดพิษ; เบนไป, เฉไป, เช่น พระอาทิตย์ปัดเหนือปัดใต้ท้ายรถปัดไปทางหนึ่ง เดินขาปัด; กระทบเสียดไป เช่น กิ่งไม้ปัดหลังคา เดินเอามือปัดศีรษะ.

ปัดเกล้า
น. ท่ารําชนิดหนึ่งแห่งหมอช้าง รําเมื่อนําช้างบํารูงาเสร็จ.

ปัดขา
ก. ทําให้ล้มหรือเสียหลัก.ครั้งแรกแล้ว.

ปัดแข้งปัดขา
ก. ทําอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เขาหลุดพ้นตําแหน่งหน้าที่หรือไม่ให้ได้เลื่อนฐานะตำแหน่งที่ควรจะได้.

ปัดซาง
ก. เสกเป่าให้ซางหาย.

ปัดตลอด
ว. มีขนขาวหรือดําเป็นแนวยาวไปตามสันหลังตั้งแต่หัวตลอดหางเช่น แมวปัดตลอด; เรียก 'นะ' ที่เขียนเป็นอักษรขอม สําหรับลงและปลุกเสกให้แคล้วคลาดตลอดปลอดภัยว่า 'นะปัดตลอด'.

ปัดเป่า
ก. ทําพิธีเสกเป่าเพื่อให้ความเจ็บไข้หาย, แก้ความลําบากขัดข้องให้หมดไป.

ปัดพิษ
ก. เสกเป่าเพื่อให้พิษหมดไป.

ปัดรังควาน
ก. ทําพิธีขับไล่ผี, โดยปริยายหมายถึงขับไล่อัปรีย์จัญไรให้พ้นไป.

ปัดเศษ
ก. ทิ้งเศษเสียหรือเพิ่มเศษให้เข้าจํานวนเต็ม.

ปัดสวะ
[-สะหฺวะ] (สํา) ก. ทําอย่างขอไปที, ผลักให้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบของตนไป.

ปัด ๒
น. เม็ดแก้วเป็นต้นมีรูตรงกลางสําหรับร้อยเป็นเครื่องประดับต่าง ๆเรียกว่า ลูกปัด.

ปัด ๆ
ว. อาการที่โกรธกระฟัดกระเฟียด, อาการที่ดิ้นพราด ๆ อย่างปลาที่ถูกตี.

ปัดไถม
[-ถะไหฺม] (โบ) น. ฝ้าบาง ๆ ที่เกิดขึ้นทําให้เป็นมลทินหรือคลํ้ามัว.

ปัตคาด
[ปัดตะคาด] น. ชื่อเส้นในร่างกายของคน ในตําราหมอนวดว่าตั้งแต่ท้องน้อยถึงโคนขาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง.

ปัตตะ
น. บัตร; บาตร. (ป.).

ปัตตานีกะ, ปัตตานึก
น. กองทัพเหล่าราบ, กองทัพทหารเดินเท้า, เป็นส่วนหนึ่งแห่งกระบวนทัพโบราณ ซึ่งเรียกว่า จตุรงคพล จตุรงคโยธา จตุรงคเสนา หรือ จตุรงคินีเสนามี ๔ เหล่า ได้แก่ ๑. หัตถานึก (กองทัพช้าง, เหล่าทหารช้าง) อัศวานึก(กองทัพม้า, เหล่าทหารม้า) ๓. รถานึก (กองทัพเหล่ารถ) ๔. ปัตตานึกหรือ ปัตตานีกะ (กองทัพเหล่าราบ, กองทัพทหารเดินเท้า). (ป.).

ปัตตานีกะ, ปัตตานึก
น. กองทัพเหล่าราบ, กองทัพทหารเดินเท้า, เป็นส่วนหนึ่งแห่งกระบวนทัพโบราณ ซึ่งเรียกว่า จตุรงคพล จตุรงคโยธา จตุรงคเสนา หรือ จตุรงคินีเสนามี ๔ เหล่า ได้แก่ ๑. หัตถานึก (กองทัพช้าง, เหล่าทหารช้าง) อัศวานึก(กองทัพม้า, เหล่าทหารม้า) ๓. รถานึก (กองทัพเหล่ารถ) ๔. ปัตตานึกหรือ ปัตตานีกะ (กองทัพเหล่าราบ, กองทัพทหารเดินเท้า). (ป.).

ปัตตานุโมทนา
น. การอนุโมทนาส่วนบุญที่ผู้อื่นให้. (ป.).

ปัตตาเวีย ๑
น. ชื่อเมืองในเกาะชวาสมัยโบราณ เดิมเรียกว่าเมืองกะหลาป๋าปัจจุบัน คือ จาการ์ตา.

ปัตตาเวีย ๒
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Jatropha integerrima Jacq. ในวงศ์Euphorbiaceae ต้นสูงเป็นพุ่มโปร่ง ๆ ดอกสีแดงและชมพู.

ปัตติ
(แบบ) น. ส่วนบุญ. (ป.).

ปัตติทาน
น. การให้ส่วนบุญ. (ป.).

ปัตติก
(แบบ) น. พลเดินเท้า, ทหารราบ. (ป., ส.).

ปัตถร
[-ถอน] (แบบ) น. บรรถร, ที่นอน, เครื่องปูลาด. (ป.).

ปัตถะ
[ปัดถะ] (แบบ) น. ชื่อมาตราตวงในภาษาบาลี แปลว่า แล่ง, กอบ,คือ ๒ ปัตถะ เป็น ๑ นาฬี (ทะนาน). (ป.).

ปัตนิ, ปัตนี
[ปัดตะหฺนิ, -นี] น. หญิงแม่เรือน, เมีย. (ในตําราหมอดูว่า เนื้อคู่).(ส.; ป. ปตานี).

ปัตนิ, ปัตนี
[ปัดตะหฺนิ, -นี] น. หญิงแม่เรือน, เมีย. (ในตําราหมอดูว่า เนื้อคู่).(ส.; ป. ปตานี).

ปัตยัย
[ปัดตะไย] (กลอน) น. ปัจจัย. (ส. ปฺรตฺยย; ป. ปจฺจย).

ปัตหล่า
[ปัดตะหฺล่า] น. ผ้าริ้วทอด้วยไหมกับทองแล่งมีเนื้อบาง โดยมากทําเป็นเสื้อครุย.

ปัถพี, ปัถวี ๑
[ปัดถะ-] น. ปถพี, ปถวี.

ปัถพี, ปัถวี ๑
[ปัดถะ-] น. ปถพี, ปถวี.

ปัถวี ๑
[ปัดถะ-] น. ท้ายเรือพิธี เช่น หางตาเรือก็กลับไปข้างปัถวี. (พงศ. เลขา).

ปัทม-, ปัทม์
[ปัดทะมะ-, ปัด] น. ชื่อบัวหลวงพันธุ์หนึ่ง. (ดู บัว).

ปัทม-, ปัทม์
[ปัดทะมะ-, ปัด] น. ชื่อบัวหลวงพันธุ์หนึ่ง. (ดู บัว).

ปัทมปาณี
น. ผู้มีดอกบัวในมือ คือ พระพรหม พระวิษณุ, ชื่อหนึ่งหรือปางหนึ่งของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระหัตถ์ทรงดอกบัว.

ปัทมราค, ปัทมราช
น. พลอยสีแดง, ทับทิม.

ปัทมราค, ปัทมราช
น. พลอยสีแดง, ทับทิม.

ปัทมาสน์
[ปัดทะมาด] น. ฐานบัว (เช่นฐานพระพุทธรูปมีลายบัวควํ่าบัวหงาย).

ปัทมะ
[ปัดทะมะ] น. ชื่อสังขยาจํานวนสูง = ๑๐๐ โกฏิ. (ส.).

ปัทมาสน์
ดู ปัทม-, ปัทม์.

ปัน
ก. แบ่ง เช่น ปันเป็นส่วน ๆ, แบ่งซื้อ ในคำว่า ขอปัน, แบ่งขายในคำว่า ปันให้.

ปันส่วน
ก. แบ่งเฉลี่ยตามส่วน. ว. ที่แบ่งเฉลี่ยตามส่วน เช่น ข้าวปันส่วน.

ปั่น
ก. ทําให้หมุน, ทําให้เวียน, เช่น ปั่นแปะ ปั่นโป; หมุน เช่น หัวปั่น.

ปั่นด้าย
ก. เอาเส้นใยที่ทำให้ฟูตัวแล้วมาดึงให้ยืดเป็นเส้นพร้อมกับบิดเกลียวเพื่อให้เส้นใยเกาะตัวเป็นเส้นยาวติดต่อกัน.

ปั่นป่วน
ก. เคลื่อนไหวไปมาอย่างรุนแรงผิดปรกติ เช่น ทะเลปั่นป่วน; สับสนวุ่นวายผิดปรกติ เช่น ใจคอปั่นป่วน ท้องปั่นป่วน บ้านเมืองปั่นป่วน,ป่วนปั่น ก็ว่า.

ปั่นแปะ
น. ชื่อการพนันอย่างหนึ่ง เดิมใช้อีแปะ ปัจจุบันใช้สตางค์หรือเงินเหรียญปั่นให้หมุน แล้วใช้ฝ่ามือปิดไว้ ให้ทายว่าจะออกหัวหรือก้อย, อีกอย่างหนึ่งใช้อีแปะ สตางค์ หรือเงินเหรียญ ๒ อันอันหนึ่งใส่ไว้ในอุ้งมือ แล้วปั่นอีกอันหนึ่งให้หมุน แล้วเอาฝ่ามือที่มีอีแปะ สตางค์ หรือเงินเหรียญตบลงไปบนอันที่กำลังหมุน ให้ทายว่า ออกหัว ก้อย หรือกลาง ถ้าออกหัว ๒ อัน เรียกว่าออกหัว ถ้าออกก้อย ๒ อัน เรียกว่า ออกก้อย ถ้าออกหัวอันหนึ่งก้อยอันหนึ่งเรียกว่า ออกกลาง.

ปั่นฝ้าย
ก. เอาฝ้ายเข้าเครื่องหมุน (ไน) เพื่อทําเป็นเส้นด้าย, ถ้าเป็นวัตถุอย่างอื่นเช่นไหมและปอ เรียกตามวัตถุนั้น ๆ ว่า ปั่นไหม ปั่นปอ.

ปั่นไฟ
ก. ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องกําเนิดไฟฟ้า, เดินเครื่องกําเนิดไฟฟ้า. น. เรียกเครื่องกําเนิดไฟฟ้าว่า เครื่องปั่นไฟ.

ปั่นหัว
ก. ทำให้งง (มาจากการกัดจิ้งหรีด โดยจับตัวที่แพ้มาปั่นหัวให้งงเพื่อจะได้สู้ต่อไป) เช่น ปั่นหัวจิ้งหรีด; (ปาก) ยุให้ผิดใจกัน.

ปั้น ๑
ก. เอาสิ่งอ่อน ๆ เช่นขี้ผึ้งดินเหนียวเป็นต้นมาทําให้เป็นรูปตามที่ต้องการ เช่น ปั้นข้าวเหนียว ปั้นตุ๊กตา; สร้างขึ้น, เสกสรรขึ้น,เช่น ปั้นพยาน ปั้นเรื่อง; ชุบเลี้ยงและอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีเช่น ฉันปั้นเขามาจนได้ดี. น. ลักษณนามเรียกสิ่งที่ปั้นเป็นก้อน ๆเช่น ข้าวเหนียว ๓ ปั้น.

ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ
ว. แสดงอาการกินหมากจัดเอาอย่างเขา; เจ้าหน้าเจ้าตา,ดัดจริตเสนอหน้าหรือแสดงตัวผิดกาลเทศะ.

ปั้นเจ๋อ
ว. เจ้าหน้าเจ้าตา.

ปั้นน้ำเป็นตัว
ก. สร้างเรื่องเท็จให้เห็นเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา.

ปั้นปึ่ง
ว. ทำท่าเย่อหยิ่งไม่พูดจากับใคร.

ปั้นยศ
ก. ทำเจ้ายศเจ้าอย่าง.

ปั้นล่ำ
น. ชื่อขนมทําด้วยแป้งเกลือกงา. ก. อวดดี.

ปั้นสิบ
น. ของกินอย่างหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเจ้า ใช้แป้งห่อไส้แล้วม้วนบิดริมแป้งตรงที่ประกบกันให้เป็นลายเกลียว นึ่งหรือทอด, แป้งสิบ ก็เรียก.

ปั้นสีหน้า
ก. แกล้งแสดงหน้าตาให้ผิดปรกติเพื่อลวงให้เขาหลงเชื่อ เช่นไม่เจ็บแต่ปั้นสีหน้าให้เหมือนคนเจ็บ.

ปั้น ๒
น. ภาชนะดินสําหรับชงนํ้าชา มีพวยเหมือนกา, ป้าน ก็ใช้.

ปั้นจั่น
น. เครื่องยกของหนักประกอบด้วยเสาและรอกเป็นต้น,เครื่องจักร สําหรับยกของหนัก.

ปันจุเหร็จ
น. เครื่องรัดเกล้าที่ไม่มียอด; โจรป่า. (ช.).

ปั้นลม
น. ชื่อไม้แผ่นที่พาดบนหัวแป ใช้ปิดริมหลังคาด้านหัวและท้ายเรือนกันลมตีเครื่องมุง, ป้านลม ก็ว่า.

ปั้นหยา
[-หฺยา] น. สิ่งปลูกสร้างซึ่งมีหลังคาเอนเข้าหาอกไก่ทั้ง ๔ ด้านไม่มีหน้าจั่ว เรียกว่า เรือนปั้นหยา. (เปอร์เซีย ปั้นหย่า ว่า วัตถุที่ทําเป็นหัตถ์ของเจ้าเซ็นประดิษฐานอยู่ในกะดีซึ่งมีลักษณะหลังคาเช่นนั้น).

ปั้นเหน่ง
[-เหฺน่ง] น. เข็มขัด. (ช.).

ปับ
ว. เสียงดังอย่างเสียงถูกชกหรือต่อย; อาการที่เป็นไปอย่างฉับไว,ทันทีทันใด, เช่น วางปับ หยิบปับ, มักใช้เข้าคู่กับคำ ปุบ เป็น ปุบปับ.

ปั๊บ
ว. อาการที่เป็นไปอย่างฉับไว, ทันทีทันใด, เช่น วางปั๊บ หยิบปั๊บ,มักใช้เข้าคู่กับคำ ปุ๊บ เป็น ปุ๊บปั๊บ.

ปัปผาสะ
(แบบ) น. ปอด. (ป.).

ปัพพาชนะ
[ปับพาชะ-] (แบบ) น. การขับไล่. (ป.).

ปัพพาชนียกรรม
[-ชะนียะ-] น. กิจของสงฆ์ทําในการขับไล่ภิกษุ; การขับไล่ออกจากหมู่. (ส. ปฺรวฺราชนียกรฺม; ป. ปพฺพาชนียกมฺม).

ปัพภาระ
น. เงื้อมเขา. (ป.).

ปั๊ม
ก. ใช้เครื่องที่เป็นแบบพิมพ์ตอกลงหรือกดลงบนกระดาษหรือโลหะเป็นต้นให้มีรูปหรือลวดลายตามแบบพิมพ์นั้น เช่น ปั๊มตรา ปั๊มกระดุม,โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปั๊มแบงก์ ปั๊มเงิน;ใช้เครื่องสูบหรือดูดของเหลวหรือแก๊ส เช่น ปั๊มน้ำ ปั๊มลม, ใช้เครื่องช่วยทำให้หัวใจกลับเต้นเป็นปรกติ เรียกว่า ปั๊มหัวใจ. น. เรียกเครื่องยนต์สำหรับสูบน้ำว่า เครื่องปั๊มน้ำ, เรียกเครื่องยนต์สำหรับสูบลมหรือแก๊สว่า เครื่องปั๊มลม, เรียกเครื่องอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้หัวใจกลับเต้นเป็นปรกติว่า เครื่องปั๊มหัวใจ; (ปาก) สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง, เรียกเต็มว่า ปั๊มน้ำมัน.

ปั๊มน้ำมัน
(ปาก) น. สถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง, เรียกสั้น ๆ ว่า ปั๊ม.

ปัยกะ, ปัยกา
[ไปยะ-] น. ปู่ทวด, ตาทวด. (ป. ปยฺยก, ปยฺยกา; ส. ปฺรารฺยก).

ปัยกะ, ปัยกา
[ไปยะ-] น. ปู่ทวด, ตาทวด. (ป. ปยฺยก, ปยฺยกา; ส. ปฺรารฺยก).

ปัยยิกา
น. ย่าทวด, ยายทวด. (ป. ปยฺยิกา; ส. ปฺรารฺยกา).

ปั่ว
(โบ) น. พลเมือง; ผู้ชาย.

ปัวเปีย
ก. นัวเนีย, ปะปน, เกี่ยวข้อง, คลุกคลี.

ปั้วเปี้ย
ว. อ่อนกําลังจนแทบจะทรงตัวไม่ได้.

ปัศจิม
[ปัดจิม] ว. ตะวันตก; เบื้องหลัง เช่น ฝ่ายปัศจิม. (ส.; ป. ปจฺฉิม).

ปัศตัน
[ปัดสะ-] น. ลูกปืนที่บรรจุดินและแก๊ปในตัว; เรียกปืนที่ใช้ลูกชนิดนี้ว่า ปืนปัศตัน.

ปัศตู
[ปัดสะ-] (โบ) น. ผ้าขนสัตว์เนื้อฟุ.

ปัสสาวะ
น. เยี่ยว. (ป.; ส. ปฺรศฺราว).

ปัสสาสะ
น. ลมหายใจออก. (ป.; ส. ปฺรศฺวาส).

ปา
ก. ซัดไปด้วยอาการยกแขนขึ้นสูงแล้วเอี้ยวตัว; (ปาก) คําใช้แทนกิริยาได้หลายอย่างแล้วแต่คําประกอบที่ทําให้รู้ว่าเกินกว่าที่คาดคิด,มักใช้ว่า ปาขึ้นไป หรือ ปาเข้าไป, เช่น ค่าโดยสารปาขึ้นไปตั้ง ๑๐บาท กว่าจะทำงานเสร็จก็ปาเข้าไปตั้ง ๒ ทุ่ม.

ป่า
น. ที่ที่มีต้นไม้ต่าง ๆ ขึ้นมา, ถ้าเป็นต้นสัก เรียกว่า ป่าสัก, ถ้าเป็นต้นรัง เรียกว่า ป่ารัง, ถ้ามีพรรณไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งขึ้นอยู่มากก็เรียกตามพรรณไม้นั้นเช่น ป่าไผ่ ป่าคา ป่าหญ้า; (กฎ) ที่ดินที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน; เรียกปลากัดหรือปลาเข็มที่เป็นพันธุ์เดิมตามธรรมชาติว่า ลูกป่า; (โบ) เรียกตําบลที่มีของขายอย่างเดียวกันมาก ๆ เช่น ป่าถ่าน ป่าตะกั่ว. ว. ที่ได้มาจากป่าหรืออยู่ในป่า เช่น ของป่า ช้างป่า สัตว์ป่า คนป่า, ที่ห่างไกลความเจริญ เช่น บ้านป่า เมืองป่า. ก. ตีดะไป ในคําว่า ตีป่า.

ป่าแคระ
น. ป่าที่มีต้นไม้เตี้ย ๆ เป็นส่วนใหญ่ มักมีในบริเวณที่มีอากาศแห้งแล้ง.

ป่าชัฏ
น. ป่าที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น โดยมากเป็นไม้เลื้อยและไม้หนาม.

ป่าช้า
น. ป่าหรือที่ซึ่งจัดไว้เป็นที่ฝังหรือเผาศพ.

ป่าชายเลน, ป่าเลน
น. ป่าที่อยู่ตามชายทะเลที่มีเลนและนํ้าทะเลขึ้นถึง ต้นไม้ในป่าประเภทนี้มักมีรากงอกอยู่เหนือพื้นดินเพื่อคํ้ายันลําต้น โดยมากเป็นไม้โกงกาง แสม และลําพู.

ป่าชายเลน, ป่าเลน
น. ป่าที่อยู่ตามชายทะเลที่มีเลนและนํ้าทะเลขึ้นถึง ต้นไม้ในป่าประเภทนี้มักมีรากงอกอยู่เหนือพื้นดินเพื่อคํ้ายันลําต้น โดยมากเป็นไม้โกงกาง แสม และลําพู.

ป่าดง
น. ป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นทึบ.

ป่าดงดิบ, ป่าดิบ
น. ป่าไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในเขตร้อน ฝนชุก เป็นป่าไม้สีเขียวไม่ผลัดใบ.

ป่าดงดิบ, ป่าดิบ
น. ป่าไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในเขตร้อน ฝนชุก เป็นป่าไม้สีเขียวไม่ผลัดใบ.

ป่าดงพงไพร
(ปาก) น. ป่า.

ป่าแดง
น. ป่าที่มีใบไม้ร่วงตามฤดูกาล เช่น ป่าเต็ง ป่ารัง.

ป่าเถื่อน
ว. ห่างไกลจากที่อยู่ของคน, ยังไม่เจริญ; ทารุณโหดร้าย.

ป่าทึบ
น. ป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น.

ป่าเบญจพรรณ
น. ป่าที่มีไม้หลายพรรณคละกัน.

ป่าโปร่ง
น. ป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นไม่หนาแน่นนัก.

ป่าผลัดใบ
น. ป่าไม้ที่ผลัดใบหรือสลัดใบในบางฤดู.

ป่าแพะ
(ถิ่น-พายัพ) น. ป่าละเมาะ.

ป่าไม้พุ่ม
น. ป่าที่มีต้นไม้พุ่มขึ้นทึบ และยังไม่มีการบุกเบิก.

ป่าระนาม
น. ป่าที่มีนํ้าฉําแฉะ.

ป่าละเมาะ
น. ที่โล่งมีพุ่มไม้เล็ก ๆ เป็นหย่อม ๆ.

ป่าสงวนแห่งชาติ
(กฎ) น. ป่าที่กำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อรักษาสภาพป่า ไม้ ของป่า หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น.

ป่าสูง
น. ป่าที่อยู่ในที่สูงขึ้นไป.

ป่าเส็งเคร็ง
น. ป่าไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งไม่ใช่ป่าสําคัญ.

ป่าใส
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ป่าไม้อ่อน, ป่าซึ่งได้ถางทําไร่มาแล้ว และมีไม้รุ่นใหม่เกิดขึ้น ซึ่งโดยมากมักเป็นไม้ชนิดขึ้นเร็ว เนื้อไม่ใคร่แข็ง.

ป้า
น. พี่สาวของพ่อหรือแม่ หรือหญิงที่มีวัยไล่เลี่ยแต่แก่กว่าพ่อหรือแม่, คําเรียกหญิงที่ไม่รู้จักแต่มักมีอายุแก่กว่าพ่อหรือแม่.

ปาก
น. ส่วนหนึ่งของร่างกายคนและสัตว์ อยู่ที่บริเวณใบหน้า มีลักษณะเป็นช่องสําหรับกินอาหารและใช้สําหรับเปล่งเสียงได้ด้วย; โดยปริยายหมายถึงส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ในบริเวณปาก เช่น ปากเปื่อย; ขอบช่องแห่งสิ่งต่าง ๆ เช่น ปากหม้อ ปากไห; ต้นทางสําหรับเข้าออก เช่นปากช่อง ปากตรอก; กลีบดอกกล้วยไม้คล้ายรูปกรวยหรือหลอดที่อยู่ตรงกลางเป็นที่อยู่ของเกสร, กระเป๋า ก็เรียก; ใช้เป็นลักษณนามของสิ่งบางอย่างเช่นแหอวนหรือพยานบุคคล เช่น แหปากหนึ่ง อวน ๒ ปากพยาน ๓ ปาก. ก. พูด เช่น ดีแต่ปาก.

ปากกบ
น. รอยมุมของสิ่งที่มีรูปสี่เหลี่ยมประกบกันเป็นรอยแบ่งมุมฉากออกเป็น ๒ มุม เช่น รอยมุมสบง จีวร กรอบรูป กรอบหน้าต่าง.

ปากกระจับ
น. ชื่อพานขนาดเล็ก ปากเป็นรูปวงรีทำเป็นรูปกลีบบัวคลี่ออกคล้ายฝักกระจับ.

ปากกริว
น. รอยปากไม้คล้ายปากกบ แต่มีรอยผ่ามุมฉากไม่ตลอดเหมือนปากกบ ผ่าแค่หมดลวดเท่านั้น.

ปากกล้า
ว. พูดไม่เกรงกลัวใคร.

ปากกา ๑, ปากไก่
น. เครื่องสําหรับขีดเขียนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยตัวปากและด้ามตัวปากมักทำด้วยโลหะ เช่น ปากกาคอแร้ง ปากกาเบอร์ ๕ ใช้เสียบที่ด้ามจุ้มหมึกหรือน้ำสีอื่นเขียน.

ปากกา ๑, ปากไก่
น. เครื่องสําหรับขีดเขียนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยตัวปากและด้ามตัวปากมักทำด้วยโลหะ เช่น ปากกาคอแร้ง ปากกาเบอร์ ๕ ใช้เสียบที่ด้ามจุ้มหมึกหรือน้ำสีอื่นเขียน.

ปากกา ๒
น. เครื่องสําหรับหนีบของใช้ ทําด้วยไม้หรือเหล็กก็มี.

ปากกาลูกลื่น
น. ปากกาที่ใช้ไส้บรรจุหมึกสําเร็จรูป ปลายไส้มักทําด้วยโลหะกลมเล็ก ๆ, ปากกาหมึกแห้ง ก็เรียก.

ปากกาหมึกซึม
น. ปากกาที่มีไส้สําหรับใส่นํ้าหมึกหรือหลอดบรรจุหมึก น้ำหมึกจะค่อย ๆ ไหลซึมออกมาที่ปลายปากกาเองโดยไม่ต้องจุ้ม.

ปากกาหมึกแห้ง
น. ปากกาลูกลื่น.

ปากขม
ว. อาการที่รู้สึกขมในปากเมื่อเวลาเป็นไข้.

ปากแข็ง
ว. พูดยืนยันหรือเถียงอย่างดื้อดันไม่ยอมจํานนข้อเท็จจริง.

ปากคม
ว. พูดจาเหน็บแนมด้วยคารมคมคาย.

ปากคอ
น. ปาก เช่น ปากคออยู่ไม่สุข.

ปากคอเราะราย
ว. ชอบพูดจาชวนหาเรื่องไม่เลือกหน้า, ปากเปราะเราะราย ก็ว่า.

ปากคัน
ว. อาการที่ปากอยู่ไม่สุข ชอบพูด ชอบฟ้อง, ปากตําแย หรือปากบอน ก็ว่า.

ปากคำ
น. คําให้การ เช่น ให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่สอบปากคำจำเลย.

ปากคีบ
น. เครื่องคีบเป็นเหล็ก ๒ ขา ส่วนมากมีปลายแหลม สำหรับคีบสิ่งของ.

ปากจะขาบ
ดู ปากตะขาบ.

ปากจัด
ว. ชอบพูดจาหรือโต้เถียงด้วยถ้อยคําแข็งกร้าวไม่สุภาพ, ด่าเก่ง,ชอบพูดจาหยาบคาย.

ปากจั่น
น. ประตูน้ำอย่างโบราณที่ใช้ไม้ซุงขวาง.

ปากจิ้งจก ๑
น. ชื่อคีมชนิดหนึ่ง ปากแหลมคล้ายปากจิ้งจก ใช้คีบของเล็ก ๆที่อยู่ในที่แคบ ๆ เรียกว่า คีมปากจิ้งจก.

ปากจู๋
น. ปากที่ห่อยื่นออกมา.

ปากฉลาม, ปากช้าง
น. รูปบาดแผลหรือรอยผ้าขาดเป็นรูปสามเหลี่ยมแบะออกอย่างปากปลาฉลามหรือปากช้าง.

ปากฉลาม, ปากช้าง
น. รูปบาดแผลหรือรอยผ้าขาดเป็นรูปสามเหลี่ยมแบะออกอย่างปากปลาฉลามหรือปากช้าง.

ปากตลาด
น. ถ้อยคําที่โจษหรือเล่าลือกัน เช่น ปากตลาดเขาว่ากันมาอย่างนี้. ว. ปากจัด.

ปากต่อปาก
ก. เล่าโดยการบอกต่อ ๆ กัน; เรียนโดยการบอกด้วยปากเปล่า(มักใช้แก่ผู้ไม่รู้หนังสือ).

ปากตะกร้อ
น. เรียกมะม่วงบางชนิด เช่น มะม่วงพิมเสน มะม่วงน้ำดอกไม้ที่แก่จัดจนหัวเหลืองอยู่บนต้นว่า มะม่วงปากตะกร้อ.

ปากตะไกร
ว. ปากจัด, ชอบพูดจาเหน็บแนม.

ปากตะขาบ
น. รูปเป็นง่ามอย่างเขี้ยวตะขาบ; ชื่อกบไสไม้มีคมเป็นง่ามสําหรับไสไม้ให้เป็นลวดลาย, ปากจะขาบ ก็เรียก.

ปากตำแย
ว. อาการที่ปากอยู่ไม่สุข ชอบพูด ชอบฟ้อง, ปากคัน หรือ ปากบอน ก็ว่า.

ปากแตร ๑
น. ชื่อกระโถนชนิดหนึ่ง ปากบานอย่างปากแตรหรือดอกลําโพง.

ปากใต้
น. ปักษ์ใต้, ฝ่ายใต้.

ปากนก
น. ชื่อดาวฤกษ์บูรพาษาฒ; ชื่อหินสําหรับใช้นกสับให้เป็นประกาย.

ปากนกกระจอก
น. เรียกปากที่เป็นแผลเปื่อยขาว ๆ เหลือง ๆ ที่มุมปากว่าปากนกกระจอก.

ปากนกแก้ว
น. ชื่อคีมชนิดหนึ่ง ปากมีลักษณะโค้งเข้าหากันคล้ายปากนกแก้วใช้ถอนตะปู เรียกว่า คีมปากนกแก้ว.

ปากน้ำ
น. บริเวณที่แควไหลลงมาบรรจบลำน้ำใหญ่ เช่น ปากน้ำโพ หรือบริเวณที่ลำน้ำใหญ่ไหลลงสู่ทะเลหรือทะเลสาบ เช่น ปากน้ำเจ้าพระยา ปากน้ำบางปะกง, บางทีก็ใช้เรียกทางเข้าอ่าวจากมหาสมุทรหรือทะเลสู่ฝั่งด้วย.

ปากบอน
ว. อาการที่ปากอยู่ไม่สุข ชอบพูด ชอบฟ้อง, ปากคัน หรือ ปากตําแยก็ว่า.

ปากบาตร
น. เรียกของที่ใส่ฝาบาตรถวายพระเวลาตักบาตรว่า ของปากบาตร.

ปากเบา
ก. พูดได้เร็ว (ใช้แก่เด็กที่สอนพูด); พูดโดยไม่ยั้งคิด. น. เรียกยุงที่กัดไม่ค่อยจะรู้สึกเจ็บว่า ยุงปากเบา.

ปากแบะ
น. ปากที่มีริมฝีปากล่างยื่นห้อยออกมามาก.

ปากปราศรัยใจเชือดคอ
(สํา) ก. พูดดีแต่ใจคิดร้าย.

ปากปลา
น. ส่วนหัวของสําเภาที่ว่างอยู่ ไม่ได้อุดกระดาน.

ปากปลาร้า
(สํา) ว. ชอบพูดคําหยาบ.

ปากปลิง
น. ขั้วผลไม้ติดต่อกับก้าน โดยมากเป็นขั้วทุเรียนที่หลุดจากกันได้, ปลิง ก็เรียก.

ปากเป็ด ๑
น. ชื่อปี่ชนิดหนึ่ง มีปากแบนคล้ายปากเป็ด เรียกว่า ปี่ปากเป็ด.

ปากเป็นชักยนต์
(สํา) ก. ว่ากล่าวสั่งสอนไม่รู้จักหยุด.

ปากเปราะ
ก. พูดจาทักทายเก่ง, พูดจาว่าคนง่าย ๆ; เห่าเก่ง (ใช้แก่สุนัข).

ปากเปราะเราะราย
ว. ชอบพูดจาชวนหาเรื่องไม่เลือกหน้า, ปากคอเราะราย ก็ว่า.

ปากเปล่า
ก. ว่าโดยไม่ดูตัวหนังสือ เช่น เทศน์ปากเปล่า, เรียกวิธีสอบโดยใช้วาจาแทนการเขียนคำตอบว่า สอบปากเปล่า.

ปากเปียก, ปากเปียกปากแฉะ
น. เรียกการว่ากล่าวตักเตือนซํ้าแล้วซํ้าเล่าก็ยังไม่ได้ผลตามที่มุ่งหมาย.

ปากเปียก, ปากเปียกปากแฉะ
น. เรียกการว่ากล่าวตักเตือนซํ้าแล้วซํ้าเล่าก็ยังไม่ได้ผลตามที่มุ่งหมาย.

ปากโป้ง
ก. ชอบพูดเปิดเผยสิ่งที่ไม่สมควรออกมาโดยไม่คํานึงถึงความผิดพลาดเสียหาย.

ปากไปล่
น. ชื่อชามชนิดหนึ่ง ก้นเล็กปากบานอย่างรูปงอบหงาย.

ปากพล่อย
ก. พูดโดยไม่คำนึงว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง.

ปากม้า
ว. ปากร้าย, ชอบพูดหยาบคาย.

ปากมาก
ว. ชอบพูดว่าคนอื่นซํ้า ๆ ซาก ๆ, พูดมาก, (ในทางช่างว่า ช่างติ),พูดขยายเรื่องเล็กน้อยให้มากออกไป.

ปากไม้
น. รอยบากหรือรอยเจาะที่ตัวไม้สําหรับเอาตัวไม้นั้นประกบกัน.

ปากไม่มีหูรูด
ว. ที่พูดพล่าม พูดพล่อย หรือพูดโดยไม่ยั้งคิดเสียก่อนว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควรพูด.

ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
(สํา) ว. ยังเป็นเด็ก.

ปากร้าย
ว. มักดุด่าว่าร้าย.

ปากร้ายใจดี
ก. พูดจาดุด่าแต่น้ำใจดี.

ปากเรือ
น. ดาดฟ้าเรือ.

ปากลำโพง
ว. ชอบโพนทะนาหรือเปิดเผยเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนรู้มา.

ปากว่าตาขยิบ
(สํา) ก. พูดอย่างหนึ่งแต่ทําอีกอย่างหนึ่ง. ว. ปากกับใจไม่ตรงกัน.

ปากว่ามือถึง
(สํา) ก. พอพูดก็ทําเลย.

ปากสว่าง
ว. ชอบเปิดเผยเรื่องของผู้อื่น.

ปากเสียง
ก. โต้เถียง, ทะเลาะ, ในคำว่า เป็นปากเสียง มีปากเสียง. น. ผู้พูดหรือโต้เถียงแทน เช่น ผู้แทนราษฎรเป็นปากเสียงของประชาชน.

ปากหนัก
ว. ไม่ใคร่พูดขอร้องต่อใคร ๆ, ไม่ใคร่ทักทายใคร. ก. พูดได้ช้า(ใช้แก่เด็กที่สอนพูด). น. เรียกยุงที่กัดเจ็บมาก ว่า ยุงปากหนัก.

ปากหมา
ว. ชอบพูดจาว่าร้ายคนอื่น.

ปากหมู
น. ปากที่มีลักษณะยื่นบานเหมือนปากหมู.

ปากหวาน
ว. พูดจาไพเราะ (มักใช้ในทางที่ล่อใจหรือไม่จริงใจ); อาการที่รู้สึกหวานในปากเมื่อเวลาเป็นไข้.

ปากหวานก้นเปรี้ยว
(สํา) ก. พูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ.

ปากหอยปากปู
ว. ชอบนินทาเล็กนินทาน้อย; ไม่กล้าพูด, พูดไม่ขึ้นหรือพูดไม่มีใครสนใจฟัง (ใช้แก่ผู้น้อย).

ปากเหยี่ยวปากกา
น. ภัยอันตราย.

ปากกระบะ
น. ชื่องูพิษร้ายชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).

ปากกว้าง
น. ชื่องูนํ้าชนิด Homalopsis buccata ในวงศ์ Colubridaeกินปลาเป็นอาหาร มีพิษอ่อนมาก.

ปากขอ
น. ชื่อพยาธิตัวกลมขนาดเล็กหลายชนิดในวงศ์ Ancylostomatidaeมีส่วนหัวโค้งงอคล้ายตาขอ ในช่องปากมีฟันแหลมหรือเป็นแผ่นใช้เกาะเกี่ยวผนังลำไส้ อาศัยดูดกินเลือดมนุษย์และสัตว์ ขนาดเล็กที่สุดยาวประมาณ ๕ มิลลิเมตร ขนาดใหญ่ที่สุดยาวประมาณ ๓๐มิลลิเมตร เช่น ชนิด Necator americanus, Ancylostoma duodenaleอยู่ในลำไส้เล็กของมนุษย์ ชนิด A. braziliense, A. ceylanicum อยู่ในลำไส้เล็กของสุนัขและแมว.

ปากคอก
น. หญ้าปากคอก. (ดู ตีนกา ๓).

ปากจอบ
น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานชนิด Isopachys gyldenstolpei ในวงศ์Scincidae ตัวกลมเป็นมัน สีนํ้าตาลเหลืองลายดํา หางสั้นปลายตัดอาศัยตามดินร่วนหรือดินปนทราย, จิ้งเหลนด้วง ก็เรียก.

ปากจิ้งจก ๑
ดูใน ปาก.

ปากจิ้งจก ๒
น. ชื่องูชนิด Ahaetulla prasina ในวงศ์ Colubridae หัวและตัวเรียวยาว ส่วนมากตัวสีเขียวปลายหางสีนํ้าตาลแดง ยาวประมาณ๑.๓ เมตร ตัวสีส้มเรียก งูง่วงกลางดง ตัวสีเทาเรียก งูกล่อมนางนอนมีพิษอ่อนมาก.


ความคิดเห็น