คำศัพท์ภาษาไทย ขึ้นต้นด้วย ต



พยัญชนะตัวที่ ๒๑ นับเป็นพวกอักษรกลาง ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่นจิต เมตตา ฟุต.

ตก
ก. กิริยาที่ลดลงสู่ระดับตํ่าในอาการอย่างพลัดลง หล่นลงเช่น ตกบันได ตกต้นตาล เครื่องบินตก; ไหลลง, หยดลงมา, เช่น นํ้าตก ฝนตก เหงื่อตก; ลดลง เช่น ฝีมือตก มือตกเสียงตก; เพาะข้าวลงในตากล้า เรียกว่า ตกกล้า; เอาเบ็ดเกี่ยวเหยื่อหย่อนลงไปให้ปลาหรือกุ้งกินแล้ววัดหรือสาวขึ้นมา เช่น ตกปลา ตกกุ้ง; ย่างเข้า เช่น ตกเย็น ตกคํ่า ตกฤดูหนาว; เรียกสีที่ละลายออกหรือจางไปในเวลาซักหรือถูกแดดเป็นต้นว่า สีตก; ได้, ถึง, เช่นตกทุกข์ ตกระกําลําบาก;มาถึง เช่น คําสั่งยังไม่ตก ของที่สั่งตกมาแล้ว;ขาดหายไปเช่น เขียนหนังสือตก; เขียนคําที่ขาดเติมลง เช่น ตกหนังสือ;ไม่ได้ขึ้นยานพาหนะเพราะไปไม่ทันหรือไม่มีค่าโดยสารเช่น ตกรถตกเรือ; เอาเงินหรือสิ่งของให้ไปก่อนแล้วคิดเอาเป็นพืชผลภายหลังตามแต่จะตกลงกัน เช่น ตกข้าว คือเอาเงินให้ไปก่อนแล้วคิดเอาข้าวทีหลัง; โดยปริยายหมายความว่า ลดลงตํ่า เป็นอาการแสดงว่า กลัวยอมแพ้ หรือหมดกําลัง เป็นต้น เช่น คอตก หัวตก หางตก. ว. สำเร็จเช่น แก้ตก ปลงตก คิดตก.

ตกกระ
ว. มีลักษณะเป็นจุดดํา ๆ เล็กบ้างโตบ้างที่ผิวกายคน สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ.

ตกกระไดพลอยโจน
(สํา) จําเป็นที่จะต้องยอมเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีทางเลี่ยง.

ตกขอบ
ว. ที่สุดข้างใดข้างหนึ่ง เช่น ขวาตกขอบ, เต็มที่ เช่น ฮาตกขอบ.

ตกขาว
น. โรคระดูขาว, มุตกิด ก็เรียก.

ตกข่าว
ก. ไม่รู้ข่าวที่คนอื่น ๆ รู้.

ตกข้าว
น. วิธีการที่นายทุนให้เงินชาวนากู้ก่อนที่จะลงมือทำนา โดยตกลงกันว่าชาวนาจะให้ข้าวเปลือกแก่นายทุนแทนเงิน หลังจากนวดข้าวเสร็จแล้ว.

ตกขุย
ก. ออกดอกเป็นเมล็ด (ใช้แก่ไม้ไผ่).

ตกเขียว
น. วิธีการที่นายทุนให้เงินแก่ชาวนาหรือชาวไร่กู้เมื่อข้าวในนาลัดใบหรือลำไยมีลูกขนาดหัวแมลงวันแล้ว โดยตกลงกันว่าชาวนาชาวไร่จะให้ข้าวเปลือกหรือลำไยแก่นายทุนแทนเงินหลังจากนวดข้าวแล้วหรือหลังจากเก็บลำไยได้แล้ว, โดยปริยายหมายถึงการที่พ่อแม่รับเงินจากนายทุนซึ่งจ่ายให้เป็นค่าตัวเด็กผู้หญิงซึ่งยังเรียนหนังสือไม่จบไว้ล่วงหน้า เมื่อเรียนจบแล้วนายทุนจะมารับตัวเด็กไปเพื่อค้าประเวณีเป็นการใช้หนี้คืนให้แก่นายทุน.

ตกคลัก
ก. อาการที่ปลาเป็นต้นมารวมกันอยู่ในบ่อหรือหนองที่นํ้างวด, ตกปลักก็ว่า; ในการเล่นดวดหมายถึงลักษณะที่หมาก ๓ ตัวเดินไปถึงที่สุดมารวมกันอยู่ในตาที่จะสุกจวนจะออกแล้วแต่ทอดแต้มออกไม่ได้;โดยปริยายหมายถึงอาการที่คนมารวมกันมาก ๆ ไปไหนไม่ได้.

ตกค้าง
ว. หลงเหลืออยู่.

ตกเครือ
ก. ออกเครือ (ใช้แก่กล้วย).

ตกงาน
ก. ว่างงาน, ไม่มีงานทํา.

ตกจั่น
ก. ออกดอก (ใช้แก่หมากและมะพร้าว).

ตกใจ
ก. สะดุ้งขึ้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินเสียงดัง ๆ หรือมีใครมาถูกต้องตัว,ใจหาย.

ตกดิน
ก. อาการที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป.

ตกตะกอน
ก. มีตะกอนนอนก้น.

ตกตะลึง
ก. ตกใจจนพูดไม่ออก, แสดงอาการงงงัน.

ตกต่ำ
ก. มีฐานะหรือค่าลดลงกว่าเดิม.

ตกแต่ง
ก. ประดับ, ปรุงจัดให้ดี, ทําให้งาม.

ตกใต้เถรเทวทัต
(สํา) ก. ตกนรกขุมตํ่าสุด.

ตกถังข้าวสาร
ดู หนูตกถังข้าวสาร.

ตกทอง
น. วิธีการหลอกลวงด้วยการใช้ทองปลอมที่มีน้ำหนักมากกว่าไปแลกเป็นทองแท้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า.

ตกท้องช้าง
ก. ลักษณะที่สายป่านว่าวเป็นต้นมีนํ้าหนักมากถ่วงลงเกินควร.

ตกทอด
ก. ตกสืบกันมาเป็นทอด ๆ, สืบจากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่ง, เช่นมรดกตกทอด; เรียกบําเหน็จบํานาญที่ตกแก่ทายาทของผู้รับบําเหน็จบํานาญว่า บําเหน็จตกทอด หรือ บํานาญตกทอด.

ตกที่นั่ง
ก. ตกอยู่ในฐานะ, ตกอยู่ในภาวะ, เช่น ตกที่นั่งลําบาก ตกที่นั่งเสียเงิน.

ตกนรกทั้งเป็น
(สํา) ก. ได้รับความลําบากแสนสาหัส เช่นคนที่ได้รับโทษทัณฑ์ในเรือนจํา.

ตกน้ำมัน
ว. เรียกเสาหรือประตูเรือนที่มีนํ้ามันซึมออกมาว่า เสาตกนํ้ามันหรือ ประตูตกนํ้ามัน.

ตกน้ำไม่ว่าย
(สํา) ก. ไม่ช่วยตัวเอง.

ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
(สํา) ก. ตกอยู่ในที่คับขันอย่างไรก็ไม่เป็นอันตราย, เป็นคําเปรียบเทียบหมายความว่า ตกอยู่ที่ใดก็ไม่สูญหาย เช่น ของหลวงตกนํ้าไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้.

ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
(สํา) ก. ตกอยู่ในที่คับขันอย่างไรก็ไม่เป็นอันตราย, เป็นคําเปรียบเทียบหมายความว่า ตกอยู่ที่ใดก็ไม่สูญหาย เช่น ของหลวงตกนํ้าไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้.

ตกใน
ก. อาการที่เลือดไม่ไหลออกข้างนอก ตกลงภายในเมื่อถูกแทงหรือฟันเป็นต้น เรียกว่า เลือดตกใน; โดยปริยายใช้เรียกอาการที่ต้องกลํ้ากลืนความทุกข์ไว้ ไม่แสดงออกมาว่า นํ้าตาตกใน.

ตกเบ็ด
ก. หย่อนเบ็ดล่อปลา, โดยปริยายหมายความว่า ล่อให้หลงโดยมีเครื่องล่อ. น. ชื่อการพนันอย่างหนึ่ง.

ตกเบิก
ก. ได้รับเงินที่ค้างจ่ายย้อนหลัง.

ตกประหม่า
ก. รู้สึกสะทกสะท้านพรั่นใจ.

ตกปลอก
ก. สวมปลอกที่ตีนคู่หน้าของช้าง เพื่อไม่ให้ไปหากินไกลหลังจากที่ใช้งานแล้ว.

ตกปลัก
ก. อาการที่ปลาเป็นต้นมารวมกันอยู่ในบ่อหรือหนองที่นํ้างวด,ตกคลัก ก็ว่า.

ตกปากตกคำ
ก. ตกลง, รับรอง, ตกปากลงคํา ก็ว่า.

ตกเป็น
ก. กลายเป็น เช่น ตกเป็นของเขา ตกเป็นข่าว ตกเป็นจําเลย.

ตกเป็นเบี้ยล่าง
(สํา) ก. ตกเป็นรองเขา, เสียเปรียบเขา.

ตกเป็นพับ
ก. นับเป็นสูญ.

ตกผลึก
ก. กลายเป็นผลึก (ใช้แก่สารละลาย).

ตกพุ่มม่าย
ก. อยู่ในฐานะที่เป็นม่าย. ว. เรียกชายหรือหญิงที่หย่าขาดจากความเป็นผัวเมียกันหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายจากไป, เป็นม่าย ก็ว่า.

ตกฟอง
ก. ออกไข่ เช่น ไก่ตกฟอง.

ตกฟาก
ก. เกิด, เรียกเวลาที่เด็กออกพ้นครรภ์มารดาว่า เวลาตกฟาก (พื้นเรือนโบราณโดยมากเป็นฟาก); โดยปริยายใช้ในลักษณะที่พูดคําเถียงคําไม่หยุดปากว่า เถียงคําไม่ตกฟาก.

ตกมัน
ว. ลักษณะที่ต่อมน้ำมันที่ขมับของช้างบวมโตและมีน้ำมันใส ๆ ไหลออกมา ช้างตัวผู้จะมีอารมณ์รุนแรง ก้าวร้าว ดุร้าย มีกลิ่นสาบฉุน,เรียกช้างที่มีอาการเช่นนั้นว่า ช้างตกมัน.

ตกม้าตาย
(สำ) ว. แพ้เร็ว, ยุติเร็ว, เรียกเต็มว่า สามเพลงตกม้าตาย.

ตกมูก
ก. อาการที่นํ้าเมือกไหลออกทางทวารหนัก.

ตกยาก
ก. ลําบาก, ยากจน, ขัดสน.

ตกรางวัล
ก. ให้รางวัล.

ตกลง
ก. ยินยอมพร้อมใจ, ปลงใจ.

ตกล่องปล่องชิ้น
(สํา) ก. ตัดสินใจที่จะร่วมมือหรือร่วมชีวิตด้วย.

ตกลูก
ก. ออกลูก (ใช้แก่สัตว์สี่เท้า).

ตกเลือด
ก. แท้งลูก, อาการที่เลือดออกผิดธรรมดาเนื่องจากแท้งลูก เป็นต้น,ราชาศัพท์ว่า ตกพระโลหิต.

ตกว่า
ว. คือ, คือว่า, รวมความว่า, ลงความว่า, ถือเอาว่า, บางทีใช้ว่า ตกก็มี เช่น ตกมีฤทธิไกรกว่าพี่ยา. (อิเหนา).

ตกสนับ
ก. อาการที่หญ้าโทรมทับหญ้าที่ขึ้นใหม่อีก.

ตกสะเก็ด
ก. อาการที่เลือดและนํ้าเหลืองแห้งติดกรังอยู่ที่ปากแผล.

ตกแสก
ว. ที่หวีแหวกกลางศีรษะ (ใช้แก่ผม).

ตกหนัก
ก. รับทุกข์, รับเคราะห์, รับภาระหรือหน้าที่หนัก.

ตกหมก
ก. อาการที่เลือดระดูเสียที่หมักหมมอยู่ข้างในไหลออกมา.

ตกหล่น
ก. ขาดตกไปโดยไม่ตั้งใจ.

ตกหลุม, ตกหลุมพราง
(สํา) ก. ถูกลวงด้วยเล่ห์กลหรืออุบาย, เสียรู้, หลงกล.

ตกหลุม, ตกหลุมพราง
(สํา) ก. ถูกลวงด้วยเล่ห์กลหรืออุบาย, เสียรู้, หลงกล.

ตกอับ
ก. ถึงที่อับจน, ถึงคราวชะตาตก.

ต๊กโต
(ถิ่น-พายัพ) น. ตุ๊กแก. (ดู ตุ๊กแก ๑).

ตง ๑
น. ไม้เครื่องเรือนที่วางบนรอดหรือคานสําหรับรองพื้นกระดานหรือฟาก.

ตง ๒
น. ชื่อไผ่ชนิด Dendrocalamus asper (Schult. f.) Heyne ในวงศ์Gramineae ลําต้นใหญ่ ไม่มีหนาม หน่อกินได้.

ต๋ง ๑
ก. ชักเอาเงินไว้จากขาไพ่ที่เป็นผู้กินหรือลูกค้าที่แทงถูกในการพนันบางชนิดเช่นถั่ว โป, เรียกเงินที่ได้โดยวิธีนี้ว่า เงินค่าต๋ง. (จ. ต๋งจุ้ย).

ต๋ง ๒
ก. อาการที่เอาเชือกผูกของหนัก ๆ เช่นเรือนแพ แพซุง ยึดหรือพันไว้กับหลักเป็นต้นแล้วค่อย ๆ ผ่อนไป, เอาเชือกเป็นต้นผูกของหนัก ๆเช่นเสาไว้แล้วค่อย ๆ พยุงให้ตั้งขึ้นแล้วผ่อนลงหลุม, ขัดไว้ไม่ให้เลื่อนหลุดออกอย่างขัดไม้ขันชะเนาะ.

ตงฉิน
ว. ซื่อตรง, ซื่อสัตย์. (จ. ตงฉิน ว่า อํามาตย์ซื่อสัตย์).

ตงิด
[ตะหฺงิด] ว. เล็กน้อย, ทีละน้อย ๆ, (ใช้แก่อาการเกี่ยวกับความรู้สึก)เช่น โกรธตงิด ๆ หิวตงิด ๆ.

ตงุ่น
[ตะหฺงุ่น] ว. เรียกนํ้าตาลที่เคี่ยวจนเป็นยางอย่างนํ้าผึ้งว่า นํ้าตาลตงุ่น.

ตจ-
[ตะจะ-] น. หนัง, เปลือกไม้. (ป.).

ตจปัญจกกรรมฐาน
[ตะจะปันจะกะกำมะถาน] น. กรรมฐานอันบัณฑิตกําหนดด้วยอาการมีหนังเป็นที่ ๕ เป็นอารมณ์ คือ กรรมฐานที่ท่านสอนให้พิจารณาส่วนต่าง ๆของร่างกายตั้งแต่ผม ขน เล็บ ฟัน ไปถึงหนังเป็น ๕ อย่าง. (ป.).

ตจสาร
[ตะจะสาน] น. ต้นไม้มีผิวเปลือกแข็งเช่นต้นไผ่. (ป. ตจสาร ว่า ต้นไม้มีเปลือกเป็นแก่น).

ตด ๑
ก. อาการที่ลมระบายออกทางทวารหนัก, ผายลม. น. ลมที่ออกจากทวารหนัก เช่น เหม็นตด.

ตด ๒
น. ชื่อแมลงพวกด้วงปีกแข็งหลายชนิดหลายสกุล เช่น สกุล Pherosophus,Brachinus ในวงศ์ Carabidae หัวและอกเล็ก แคบ ท้องโต ปีกแข็งคลุมส่วนท้องไม่หมด ลําตัวยาว ๒-๓ เซนติเมตร ท้องกว้าง๕-๘ มิลลิเมตร สีนํ้าตาลอมเหลืองหรือนํ้าตาลแก่ มีลายสีเข้มตามหัว อก และท้อง เมื่อถูกรบกวนสามารถปล่อยสารพิษประเภทควินอลออกมาทางก้นได้ ที่สําคัญได้แก่ ชนิด P. siamensis,P. occipitalis และ P. javanus, พายัพเรียก ขี้ตด.

ตดหมูตดหมา
ดู ย่านพาโหม.

ตติย-
[ตะติยะ-] ว. ที่ ๓, คํารบ ๓, มักใช้ประกอบหน้าคําอื่น เช่น ตติยวาร. (ป.).

ตถาคต
[ตะถาคด] น. พระนามพระพุทธเจ้า. (ป. ตถาคต ว่า พระผู้ไปแล้วอย่างนั้น เป็นคําที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกพระองค์เอง).

ตน
น. ตัว (ตัวคน) เช่น ตนเป็นที่พึ่งของตน; ลักษณนามใช้เรียกเทวดายักษ์ หรือพวกกายสิทธิ์ เป็นต้น เช่น ยักษ์ตนหนึ่ง เทวดา ๒ ตน.

ต้น
น. ลําของต้นไม้, เป็นชื่อรวมทั่วไปของต้นไม้และพืชผักต่าง ๆเช่น ต้นมะขาม ต้นสัก ต้นหญ้า ต้นผักชี ต้นข้าว, ลักษณนามว่าต้น เช่น มะม่วงต้นหนึ่ง ผักชี ๒ ต้น; เรียกผู้ที่นับกันว่าเป็นผู้เริ่มต้นวงศ์สกุลว่า ต้นวงศ์ต้นสกุล; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) คํานําหน้าชื่อพระภิกษุสามัญ; เบื้องต้นของสิ่งที่มีลักษณะกลมยาว เช่น ต้นขา ต้นแขน;ตอนแรก ๆ เช่น ต้นสัปดาห์ ต้นเดือนต้นปี; ใช้ประกอบหน้าคําอื่นแปลว่า ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจให้มีหน้าที่รักษาสิ่งของหรือทํากิจการประจํา เช่น ต้นกุญแจ ต้นห้อง; ชื่อเพลงไทยจําพวกหนึ่งมีชื่อขึ้นต้นด้วยคําว่า ต้น เช่น ต้นเพลงฉิ่ง ต้นเพลงยาว ต้นเพลงรํา.(ดึกดําบรรพ์). ว. แรก เช่น หน้าต้น; แรกเริ่ม เช่น แต่ต้น; เนื่องในพระเจ้าแผ่นดิน เช่น ประพาสต้น กฐินต้น ช้างต้น ม้าต้น.

ต้นกล
น. หัวหน้าช่างกลในเรือเดินทะเล เรือรบ เป็นต้น.

ต้นขั้ว
น. ส่วนต้นของใบเสร็จ เช็ค สลากกินแบ่ง เป็นต้น ที่ติดอยู่ในเล่มเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน, หัวขั้ว ก็ว่า.

ต้นคอ
น. ส่วนของคอที่ถัดไหล่ขึ้นไปถึงบริเวณก้านคอ.

ต้นคิด
น. ผู้ประดิษฐ์แบบขึ้นใหม่, ผู้ริเริ่ม.

ต้นเงิน
น. เงินที่ให้กู้ยืมโดยไม่รวมดอกเบี้ย, เงินต้น ก็ว่า, บางทีก็พูดสั้น ๆว่า ต้น เช่น ต้นชนดอก.

ต้นฉบับ
น. ฉบับจริงของเรื่องที่ประพันธ์ไว้เดิม, ฉบับที่เขียนหรือดีดพิมพ์ไว้เดิมก่อนตีพิมพ์, ต้นสําเนา.

ต้นชนดอก
น. ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจนมีจํานวนเท่า ๆ กับเงินต้น, ดอกชนต้น ก็ว่า.

ต้นเชือก
น. ตําแหน่งมหาดเล็กชั้นหุ้มแพร.

ต้นตระกูล
น. บรรพบุรุษดั้งเดิม.

ต้นตอ
น. เรื่องเดิม, เหตุเดิม, ที่เกิด.

ต้นตำรับ
น. ผู้เป็นต้นคิดในการประดิษฐ์หรือสร้างแบบแผนขึ้น.

ต้นทาง
น. ปากทางเข้าออกอย่างทางเข้าบ่อนการพนันเป็นต้น เช่น ดูต้นทาง.

ต้นทุน
น. ทุนเดิมสําหรับทํากิจการค้าเป็นต้น.

ต้นเทียม
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นกระเทียม. (ดู กระเทียม).

ต้นน้ำ
น. แหล่งที่เกิดของลํานํ้า, ยอดนํ้า ก็เรียก.

ต้นแบบ
น. แบบดั้งเดิม, แบบที่มีมาแต่แรก, แบบที่ทําขึ้นไว้แต่แรก, สิ่งที่สร้างขึ้นเป็นแบบฉบับ ใช้เป็นต้นเค้าสําหรับสร้างสิ่งอื่นให้มีลักษณะเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน.

ต้นบท
น. คนบอกบทให้คนรํารู้ว่าจะรําอย่างไร หรือให้คนร้องรู้ว่าจะร้องอย่างไร.

ต้นเพลิง
น. คนหรือสิ่งที่เป็นเหตุทําให้เกิดไฟไหม้; ผู้ที่จุดไฟเผาศพคนแรก.

ต้นมือ
น. ตอนแรก ๆ.

ต้นไม้
น. คํารวมเรียกพืชทั่วไปโดยปรกติชนิดมีลําต้น ใช้ในความหมายที่แคบกว่า คําว่า ต้น หมายถึง พืชชนิดที่มีลําต้นใหญ่มีกิ่งแยกออกไป.

ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง
น. เครื่องราชบรรณาการที่ทำเป็นต้นไม้เงินต้นไม้ทองเป็นคู่ ซึ่งเมืองขึ้นส่งมาถวายแก่พระเจ้าแผ่นดินทุก ๆ ๓ ปี; เครื่องสักการะที่เจ้านายหรือขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ตั้งแต่เจ้าพระยาขึ้นไปถวายพระเจ้าแผ่นดินเมื่อได้รับสถาปนาให้ทรงกรมหรือเลื่อนกรมให้สูงขึ้นหรือเมื่อได้รับพระราชทานตั้งยศ.

ต้นร่าง
น. ฉบับที่ร่างไว้เดิม.

ต้นร้ายปลายดี
(สํา) น. ตอนแรกประพฤติตัวไม่ดี แต่ภายหลังกลับสํานึกตัวได้แล้วประพฤติดีตลอดไป, ตอนต้นไม่ดีไปดีเอาตอนหลัง.

ต้นเรือ
น. รองผู้บังคับการเรือ.

ต้นเรื่อง
น. มูลเหตุที่ทําให้เกิดเรื่องนั้น ๆ, เรื่องเดิม.

ต้นวายปลายดก
(สํา) น. ตอนต้นไม่ดีไปดีเอาตอนหลัง.

ต้นสังกัด
น. ส่วนราชการระดับสูงที่ข้าราชการนั้น ๆ สังกัดอยู่ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นต้นสังกัดของข้าราชการตำรวจทุกคน.

ต้นสายปลายเหตุ
น. ความเป็นมาของเรื่อง.

ต้นเสียง
น. คนร้องนํา.

ต้นหน
น. เจ้าหน้าที่ชี้ทิศทางเดินเรือทะเลหรือเดินอากาศยาน, (โบ) คนนําทางเช่น ต้นหนบอกตําบล. (ลอ).

ต้นเหตุ
น. คนหรือสัตว์เป็นต้นที่ทําให้เกิดเหตุเกิดเรื่อง.

ต้นตายใบเป็น
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Kalanchoe pinnata Pers. ในวงศ์ Crassulaceae,คว่ำตายหงายเป็น โคนตายปลายเป็น หรือ ส้มเช้า ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก กะเร.

ตนัย
[ตะไน] (แบบ) น. ลูกชาย. (ป., ส.).

ตนุ ๑
[ตะนุ] (แบบ) น. ตัว, ตน. ส. ฉัน, ข้าพเจ้า. (ป., ส.).

ตนุมัธยมา, ตนุมัธยา
[-มัดทะยะ-] น. ชื่อฉันท์ชนิดหนึ่ง. (ส.; ป. ตนุมชฺฌา).

ตนุมัธยมา, ตนุมัธยา
[-มัดทะยะ-] น. ชื่อฉันท์ชนิดหนึ่ง. (ส.; ป. ตนุมชฺฌา).

ตนุ ๒
[ตะหฺนุ] น. ชื่อเต่าทะเลชนิด Chelonia mydas ในวงศ์ Cheloniidaeตีนแบนเป็นพาย ตีนหน้าใหญ่ยาวใช้เป็นหลักในการว่ายนํ้า เกล็ดบนหลังแต่ละเกล็ดมีลายเป็นทางคล้ายแสงอาทิตย์ จึงมีผู้เรียกว่าเต่าแสงอาทิตย์ ปรกติอาศัยอยู่ในทะเล จะขึ้นมาตามชายหาดเฉพาะเมื่อจะวางไข่เท่านั้น.

ตบ ๑
น. ชื่อไม้นํ้าในวงศ์ Pontederiaceae มี ๒ ชนิด คือ ชนิด Monochoriahastata (L.) Solms ขึ้นตามท้องนาที่แฉะและนํ้านิ่ง ดอกสีนํ้าเงินยอดอ่อนและดอกกินได้, คำสุภาพเรียกว่า ผักสามหาว, และชนิดEichhornia crassipes (C. Martius) Solms-Laub. ขึ้นตามลํานํ้าทั่วไป ดอกสีม่วงอ่อน เรียกว่า ผักตบชวา.

ตบ ๒
ก. เอาฝ่ามือหรือของแบน ๆ เป็นต้นตีอย่างแรง เช่น ตบหน้า ตบลูกเทนนิส,เอาฝ่ามือแตะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู เช่น ตบหัวเด็ก.

ตบตา
(สํา) ก. หลอกหรือลวงให้เข้าใจผิด.

ตบแต่ง
ก. ทําให้งาม; จัดให้ลูกสาวมีเรือนตามประเพณี เช่น ตบแต่งลูกสาวให้เป็นฝั่งเป็นฝา.

ตบเท้า
ก. อาการเดินกระแทกตีนกับพื้นแรง ๆ ของทหารหรือตํารวจเป็นต้นเรียกว่า เดินตบเท้า.

ตบแผละ
[-แผฺละ] น. การเล่นชนิดหนึ่ง มีคนเล่น ๒ คน หันหน้าเข้าหากันแต่ละฝ่ายตบเข่าและตบมือของตัวเองก่อน จึงใช้มือซ้ายตบมือซ้ายและมือขวาตบมือขวาของอีกฝ่ายหนึ่งสลับกันกับตบมือและตบเข่า.

ตบมือ
ก. เอาฝ่ามือตีกันให้เกิดเสียงเพื่อแสดงความยินดีเป็นต้น, ปรบมือก็ว่า.

ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
(สํา) ก. ทําอะไรฝ่ายเดียวไม่เกิดผล.

ตบหัวกลางศาลา ขอขมาที่บ้าน
(สํา) ก. ยอมรับผิดไม่สมกับความผิดที่ทําไว้, ใช้เพี้ยนว่า ตบหัวที่ศาลา ขอขมาที่บ้าน ก็มี.

ตบหัวลูบหลัง
(สํา) ก. ทําหรือพูดให้กระทบกระเทือนใจในตอนแรกแล้วกลับทําหรือพูดเป็นการปลอบใจในตอนหลัง.

ตบยุง
น. ชื่อนกในวงศ์ Caprimulgidae ขนนุ่มสีนํ้าตาลเทา ลายกระขาววางไข่บนพื้นดิน หากินแมลงตามลําพังในเวลากลางคืน กลางวันจะพรางตัวซ่อนอยู่ตามพื้นดิน มีหลายชนิด เช่น ตบยุงหางยาว(Caprimulgus macrurus) ตบยุงเล็ก (C. asiaticus), กระบ่า หรือกระบ้า ก็เรียก.

ตบะ
น. พิธีข่มกิเลสโดยทรมานตัว; การบําเพ็ญเพื่อให้กิเลสเบาบาง, การข่มกิเลส, เป็นธรรมข้อ ๑ ในทศพิธราชธรรม. (ดู ทศพิธราชธรรม).(ป., ส. ตป ว่า ความเพียรเครื่องเผาผลาญกิเลส).

ตบะแตก
ก. บำเพ็ญตบะต่อไปไม่ได้เพราะทนต่อสิ่งเย้ายวนไม่ไหว, หมดความอดกลั้น, สิ้นความอดทน.

ตปนียะ
น. ทองคํา. (ป., ส.).

ตม- ๑, ตโม-
[ตะมะ-] น. ความมืด, ความเศร้าหมอง, ความเขลา. (ป.; ส. ตมสฺ).

ตม- ๑, ตโม-
[ตะมะ-] น. ความมืด, ความเศร้าหมอง, ความเขลา. (ป.; ส. ตมสฺ).

ตโมนุท
น. พระอาทิตย์, พระจันทร์. (ส. ตโมนุท ว่า ผู้ขจัดความมืด).

ตโมไพรี
น. ไฟ. (ส. ตโมไพรี ว่า ศัตรูของความมืด).

ตโมหร
น. พระจันทร์. (ส. ตโมหร ว่า ผู้คลายความมืด).

ตม ๒
น. ดินเปียกที่เหนียวกว่าเลน.

ต้ม ๑
ก. กิริยาที่เอาของเหลวเช่นนํ้าใส่ภาชนะแล้วทําให้ร้อนให้เดือดหรือให้สุกเช่น ต้มนํ้า ต้มข้าว ต้มมัน; ทําให้สะอาดและสุกปลั่ง เช่น ต้มผ้า ต้มทองต้มเงิน. ว. เรียกสิ่งที่ต้มแล้ว เช่น นํ้าต้ม ข้าวต้ม มันต้ม; (ปาก) โดยปริยายใช้ว่าล่อลวงให้หลง, ผู้ถูกล่อลวงให้หลง เรียกว่า ผู้ถูกต้ม.

ต้มจนสุก, ต้มเสียสุก
(ปาก) ก. ล่อลวงให้หลงได้สำเร็จ.

ต้มจนสุก, ต้มเสียสุก
(ปาก) ก. ล่อลวงให้หลงได้สำเร็จ.

ต้ม ๒
น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นลูกกลม ๆ ถ้าใส่ไส้นํ้าตาลปึกตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมหรือไส้หน้ากระฉีกแล้วคลุกมะพร้าวข้างนอก เรียกว่า ขนมต้มขาว, ถ้าต้มเคี่ยวกับนํ้าตาลปึกและมะพร้าวอย่างหน้ากระฉีก เรียกว่า ขนมต้มแดง.

ต้มกะทิ
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ใช้เนื้อเค็ม หรือปลาแห้ง หรือปลาสลิดเป็นต้นต้มในนํ้ากะทิ ใส่หัวหอมกับส้มมะขาม มี ๓ รส เปรี้ยว เค็ม หวาน; เรียกผักชนิดต่าง ๆ ที่ต้มกับกะทิ สำหรับกินกับน้ำพริกกะปิ ว่า ผักต้มกะทิ.

ต้มกะปิ
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ปรุงด้วยหัวหอม กะปิ พริกไทย อย่างแกงเลียง.

ต้มข่า
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง มีลักษณะคล้ายต้มยํากะทิ แต่มักใช้เนื้อไก่ ใส่ข่าอ่อน ปรุงรสด้วยนํ้าพริกเผา นํ้าปลา มะนาว พริกขี้หนู.

ต้มเค็ม
น. ชื่ออาหารคาวอย่างหนึ่ง ใช้ปลาหรือเนื้อสัตว์อื่นมีหมูเป็นต้น เคี่ยวให้เข้าไส้หรือให้เปื่อย, ถ้าต้มตามแบบจีนมีรสเค็ม แต่ถ้าต้มตามแบบไทยมีรสหวานเค็ม.

ต้มโคล้ง
[-โคฺล้ง] น. ชื่อแกงชนิดหนึ่ง ใช้ปลาแห้งหรือหัวปลาแห้งเป็นต้นต้มกับหัวหอม ส้มมะขามหรือใบมะขามอ่อน แล้วเติมเกลือ ให้ออกรสเปรี้ยวเค็ม, โฮกอือ ก็เรียก.

ต้มปลาร้า
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ใช้หัวตาลหรือหน่อไม้เป็นต้นเป็นผัก มีลักษณะคล้ายแกงเลียง แต่ใส่ปลาร้า.

ต้มเปรต
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ทําคล้ายต้มยํา แต่ใช้ปลาไหลทั้งตัวโดยมาก.

ต้มเปอะ
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ใช้หัวตาลหรือหน่อไม้หรือใบขี้เหล็กเป็นต้นคล้ายแกงขี้เหล็ก แต่ไม่ใส่กะทิ ใส่ข้าวคั่วกับปลาร้าผสมด้วย.

ต้มยำ
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ใช้เนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์อื่นต้มในนํ้าเปล่าหรือในกะทิ ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด และปรุงรสเปรี้ยวเค็มด้วยนํ้าพริกเผาหรือนํ้าพริก.

ต้มยำกะทิ
น. ชื่อแกงต้มยําที่ใส่กะทิแทนนํ้าเปล่า.

ต้มส้ม
น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง ใช้เนื้อปลาต้มในนํ้าแกงที่ปรุงด้วยกะปิ ขิงหัวหอม พริกไทย ส้มมะขาม และนํ้าตาล มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน.

ตมูก
[ตะหฺมูก] (ปาก) น. จมูก.

ตยาค
[ตะยาก] (แบบ) น. การสละ, การให้ปัน, เช่น อันมีใจตยาคนั้น.(ม. คําหลวง กุมาร). (ส.).

ตยาคี
[ตะยา-] น. ผู้บริจาค, วีรบุรุษ, นักพรต, เช่น พระศรีศรีสรศาสดา มีพระมหิมานุภาพพ้นตยาคี. (สมุทรโฆษ). (ส.).

ตยุติ
[ตะยุติ] (แบบ) ก. เคลื่อน, ตาย, (โดยมากใช้แก่เทวดา) เช่น ก็จะจยรตยุติลงเกอด. (ม. คําหลวง ทศพร). (ส.; ป. จุติ).

ตรง, ตรง ๆ
[ตฺรง] ว. ไม่คดโค้ง เช่น ทางตรง, ไม่งอ เช่น นั่งตัวตรง, ไม่เอียง เช่นตั้งเสาให้ตรง ยืนตรง ๆ; ซื่อ, ไม่โกง, เช่น เขาเป็นคนตรง; เที่ยงตามกําหนด เช่นเวลา ๓ โมงตรง นาฬิกาเดินตรงเวลา; เปิดเผยไม่มีลับลมคมใน, ไม่ปิดบังอําพราง, ไม่อ้อมค้อม, เช่น พูดตรงไปตรงมาบอกมาตรง ๆ; รี่, ปรี่, เช่น ตรงเข้าใส่; ถูกต้องตาม เช่น ตรงเป้าหมาย. บ. ที่แห่งใดแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ตรงนี้ ตรงนั้น.

ตรง, ตรง ๆ
[ตฺรง] ว. ไม่คดโค้ง เช่น ทางตรง, ไม่งอ เช่น นั่งตัวตรง, ไม่เอียง เช่นตั้งเสาให้ตรง ยืนตรง ๆ; ซื่อ, ไม่โกง, เช่น เขาเป็นคนตรง; เที่ยงตามกําหนด เช่นเวลา ๓ โมงตรง นาฬิกาเดินตรงเวลา; เปิดเผยไม่มีลับลมคมใน, ไม่ปิดบังอําพราง, ไม่อ้อมค้อม, เช่น พูดตรงไปตรงมาบอกมาตรง ๆ; รี่, ปรี่, เช่น ตรงเข้าใส่; ถูกต้องตาม เช่น ตรงเป้าหมาย. บ. ที่แห่งใดแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ตรงนี้ ตรงนั้น.

ตรงกัน
ว. เหมือนกัน เช่น ความคิดตรงกัน, เป็นแนวเดียวกัน เช่น เข้าแถวให้ตรงกัน.

ตรงกันข้าม
ว. คนละฝ่ายคนละพวก; มีความหมายต่างกันอย่างขาวกับดํา ดีกับชั่ว.

ตรณี
[ตะระนี] (แบบ) น. เรือ. (ป., ส.).

ตรม
[ตฺรม] ก. ระทม, เจ็บอยู่ภายในเรื่อยไป, เช่น ตรมใจ; กลัด เช่น ตรมหนอง,กรม ก็ว่า.

ตรมตรอม
[-ตฺรอม] ก. ระทมใจจนเหี่ยวแห้ง, กรมกรอม ก็ว่า.

ตรมเตรียม
[-เตฺรียม] ก. ระทมใจจนหม่นไหม้, ใช้เป็น กรมเกรียม เกรียมกรม หรือเตรียมตรม ก็ได้.

ตรมวล
[ตฺรม-วน] (โบ) น. ตําบล เช่น เขาแก้วว่าวงกาจล ตรมวลใดท้าวธบอก.(ม. คําหลวง วนปเวสน์).

ตรรก-, ตรรกะ
[ตักกะ] (แบบ) น. ความตรึก, ความคิด. (ส. ตรฺก; ป. ตกฺก).

ตรรก-, ตรรกะ
[ตักกะ] (แบบ) น. ความตรึก, ความคิด. (ส. ตรฺก; ป. ตกฺก).

ตรรกวิทยา
น. ตรรกศาสตร์.

ตรรกศาสตร์
น. ปรัชญาสาขาหนึ่งว่าด้วยการคิดหาเหตุผลว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่, ใช้ว่า ตรรกวิทยา ก็มี. (อ. logic).

ตรลบ
[ตฺระหฺลบ] (กลอน) ก. ตลบ, เอาข่ายครอบนก. ว. หกหลังมา; กลับย้อนหลัง; ฟุ้ง.

ตรลอด
[ตฺระหฺลอด] (กลอน) บ. ตลอด, สิ้น, ทั่ว, แต่ต้นจนปลาย.

ตรละ ๑
[ตะระละ] (แบบ) น. ข้าวต้ม. (ป., ส.).

ตรละ ๒
[ตะระละ] (แบบ) น. พลอยเม็ดกลางของเครื่องสร้อยคอ, สร้อยคอ;เพชร, เหล็ก; พื้นล่าง, พื้นราบ; ส่วนลึก. ว. กลับกลอก; หวั่นไหว,สั่น. (ป., ส.).

ตรลา
[ตะระลา] (แบบ) น. ข้าวต้ม; นํ้าผึ้ง; เหล้า. (ป., ส. ตรล).

ตรลาด
[ตฺระหฺลาด] (กลอน) น. ตลาด, ที่ชุมนุมซื้อขายของต่าง ๆ.

ตรเลิด
[ตฺระเหฺลิด] (กลอน) ก. เตลิด, กระเจิดกระเจิง, กระจัดกระจาย.

ตรวจ
[ตฺรวด] ก. พิจารณาดูความเรียบร้อย เช่น ตรวจพล ตรวจราชการ,พิจารณาดูว่าถูกหรือผิด ดีหรือร้าย เป็นต้น เช่น ตรวจบัญชี ตรวจแบบฝึกหัด ตรวจดวงชะตา, พิจารณาหาสมุฏฐาน เช่น ตรวจโรค,สํารวจ เช่น ตรวจพื้นที่. น. ชื่อเรือชนิดหนึ่ง.

ตรวจการ
ก. ตรวจดูการงานให้ดำเนินไปโดยเรียบร้อย เช่น ชุดตรวจการ,ตรวจราชการ ก็ว่า.

ตรวจการณ์
ก. ตรวจค้นด้วยสายตาหรือใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าช่วยเพื่อรวบรวมข่าวสารหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ.

ตรวจข่าว
ก. พิจารณาข่าวว่าควรอนุญาตให้พิมพ์ได้หรือไม่, พิจารณาข่าวที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์แล้ว.

ตรวจตรา
ก. พิจารณาดูให้รอบคอบถี่ถ้วน.

ตรวจราชการ
ก. ตรวจดูการงานให้ดำเนินไปโดยเรียบร้อย เช่น ผู้ตรวจราชการภาค,ตรวจการ ก็ว่า.

ตรวจเลือด
ก. ตรวจดูว่าเลือดอยู่ในกลุ่มไหน หรือมีเชื้อโรคอยู่ในเลือดหรือไม่หรือเพื่อทราบโรคบางอย่าง เป็นต้น.

ตรวด
[ตฺรวด] (กลอน) ว. กรวด, สูงชัน, เช่น เฒ่าก็วิ่งตรวดตรงขึ้นต้นไม้.(ม. ร่ายยาว ชูชก).

ตรวน
[ตฺรวน] น. เครื่องจองจํานักโทษชนิดหนึ่ง เป็นห่วงเหล็ก ใช้สวมขานักโทษมีโซ่ล่ามถึงกัน.

ตรวย
[ตฺรวย] ก. พุ่งตรงมา เช่น บ้างเป็นเสาตรวยตรงลงถึงดิน. (อิเหนา).

ตรอก
[ตฺรอก] น. ทางที่แยกจากถนนใหญ่และมีขนาดเล็กกว่าถนน.

ตรอง
[ตฺรอง] ก. คิดทบทวน.

ตรอมใจ, ตรอมตรม
[ตฺรอม-, -ตฺรม] ก. ระทมใจจนเหี่ยวแห้ง, กรอมใจ หรือ กรอมกรม ก็ว่า.

ตรอมใจ, ตรอมตรม
[ตฺรอม-, -ตฺรม] ก. ระทมใจจนเหี่ยวแห้ง, กรอมใจ หรือ กรอมกรม ก็ว่า.

ตระ ๑
[ตฺระ] น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.

ตระเชิญ
น. ชื่อเพลงหน้าพาทย์ที่ใช้อัญเชิญเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่าเพลงตระเชิญ.

ตระ ๒
[ตฺระ] น. แถบ, แปลง, (ใช้แก่ที่).

ตระกล
[ตฺระกน] ว. มีมาก; งาม.

ตระกวน
[ตฺระ-] น. ผักบุ้ง. (ข. ตฺรกวน).

ตระกอง
[ตฺระ-] ก. กอด, เกี่ยวพัน, กระกอง ก็ว่า. (ข. ตฺรกง).

ตระกัด
[ตฺระ-] (โบ) ก. ใคร่, อยาก, ยินดี, เช่น พ่อเอ๋ย ใช่ตั้งใจแก่ความกําหนัดในความตระกัดกรีธา. (ม. คําหลวง กุมาร), กระกัด ก็ว่า.

ตระการ
[ตฺระ-] ว. งาม; ประหลาด, แปลก ๆ; หลาก, มีต่าง ๆ.

ตระกูล
[ตฺระ-] น. สกุล, วงศ์, เชื้อสาย, เผ่าพันธุ์.

ตระกูลมูลชาติ
[-มูนชาด] (สํา) น. ตระกูลผู้ดี เช่น หญิงมีตระกูลมูลชาติ ถ้าแม้ขาดขันหมากก็ขายหน้า. (ท้าวแสนปม), สกุลรุนชาติ ก็ว่า.

ตระคัร
[ตฺระคัน] (แบบ) น. ไม้กฤษณา เช่น กฤษณาขาวและตระคัร ก็มี.(ม. คําหลวง มหาพน). (ป.; ส. ตคร).

ตระง่อง
[ตฺระ-] ก. จ้อง, คอยดู, (โบ) ในบทร้อยกรองใช้ว่า กระหง่อง กระหน่องตระหง่อง หรือ ตระหน่อง ก็มี.

ตระจัก
[ตฺระ-] ว. ตระชัก, เย็น. (ข. ตรฺชาก่).

ตระชัก
[ตฺระ-] ว. เย็น, บางทีใช้ ตระจัก ตามเสียงเขมร. (ข. ตฺรชาก่).

ตระดก
[ตฺระ-] (กลอน) ก. หวาด, ผวา, สะดุ้ง, ตกใจ.

ตระดาษ
[ตฺระ-] (กลอน) ว. ขาว, เผือก, เช่น อนนขาวตระดาษดุจสังข์.(ม. คําหลวง นครกัณฑ์).

ตระเตรียม
[ตฺระเตฺรียม] ก. จัดแจงไว้ให้เรียบร้อย, โบราณใช้ว่า กระเกรียม.

ตระแตร้น, ตะแตร้น
[ตฺระแตฺร้น, -แตฺร้น] (กลอน) ว. เสียงช้างร้อง.

ตระแตร้น, ตะแตร้น
[ตฺระแตฺร้น, -แตฺร้น] (กลอน) ว. เสียงช้างร้อง.

ตระทรวง
[ตฺระซวง] (โบ) น. กระทรวง. (สามดวง).

ตระนาว
[ตฺระ-] น. เรียกกระแจะชนิดหนึ่ง.

ตระไน
[ตฺระ-] (กลอน) น. นกกระไน เช่น เขาคุ่มกระตรุมกระไตร ตระไนนี่สนั่นเสียง. (สรรพสิทธิ์). (ดู กระไน).

ตระบก
[ตฺระ-] ดู กระบก.

ตระบอก
[ตฺระ-] (กลอน) น. ดอกไม้, กลีบดอกไม้, เช่น ตระบอกบววศรีไสกลีบกล้ยง. (กำสรวล). (ข. ตฺรบก).

ตระบอง
[ตฺระ-] น. ตะบอง เช่น ครั้นพ้นขึ้นมาเปนเปรตถือตระบองเหลกลุกเปนเปลวเพลิง. (สามดวง), กระบอง ก็ว่า.

ตระบัด ๑
[ตฺระ-] ว. ประเดี๋ยว, บัดใจ, ทันใด, กระบัด ก็ใช้. ก. พลันไป.

ตระบัด ๒
[ตฺระ-] (โบ) ก. ฉ้อโกง เช่น บ่อยู่ในสัตย์ ตระบัดอาธรรม์. (เสือโค), กระบัดประบัด หรือ สะบัด ก็ใช้, ยืมหรือกู้เอาทรัพย์เขาไปแล้วโกงเอาเสีย, ยักยอก,ใช้อย่าง สะบัด ก็มี.

ตระบัดสัตย์
ก. ไม่รักษาคํามั่นสัญญา.

ตระบัน
[ตฺระ-] (กลอน) น. กลีบซ้อน.

ตระเบ็ง
[ตฺระ-] (กลอน) ก. กลั้นใจดันเบ่งเสียงออกให้ดัง, อัดใจให้ท้องป่องขึ้น,กระเบง.

ตระแบ่
[ตฺระ-] (โบ) ก. แผ่. (อนันตวิภาค).

ตระแบก
[ตฺระ-] (กลอน) น. ต้นตะแบก, กระแบก ก็เรียก.

ตระแบง ๑
[ตฺระ-] (กลอน) ก. สะแบง, สะพาย, เช่น ตาวตระแบง.

ตระแบง ๒
[ตฺระ-] ก. ผูกไขว้, ผูกบิด. (ข. ตฺรแบง ว่า ผูกไขว้ด้วยไม้ขันชะเนาะ).

ตระแบน, ตระแบ่น
[ตฺระ-] (กลอน) ก. ทิ้งลง, ตกลง, โผลง, เช่น ตระแบนไว้กลางดิน. (โบ)น. แผ่น. (อนันตวิภาค).

ตระแบน, ตระแบ่น
[ตฺระ-] (กลอน) ก. ทิ้งลง, ตกลง, โผลง, เช่น ตระแบนไว้กลางดิน. (โบ)น. แผ่น. (อนันตวิภาค).

ตระโบม
[ตฺระ-] (กลอน) ก. โลมเล้า, กอด, กระโบม ก็ว่า.

ตระพอง
[ตฺระ-] น. ส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างศีรษะช้าง, กะพอง กระพอง หรือตะพอง ก็ว่า.

ตระพัง
[ตฺระ-] น. แอ่ง, บ่อ, หนอง, ตะพัง กระพัง หรือ สะพัง ก็ว่า. (เทียบข. ตฺรพําง ว่า บ่อที่เกิดเอง).

ตระมื่น
[ตฺระ-] (กลอน) ว. สูงใหญ่, ทะมื่น ก็ใช้.

ตระโมจ
[ตฺระโหฺมด] ว. ว้าเหว่, เปลี่ยวใจ, โดดเดี่ยว. (ข. สฺรโมจ).

ตระลาการ
[ตฺระ-] (โบ) น. ตําแหน่งพนักงานศาลผู้มีหน้าที่ชําระเอาความเท็จจริง.

ตระวัน
[ตฺระ-] (กลอน) น. ตะวัน, ดวงอาทิตย์.

ตระเว็ด
[ตฺระเหฺว็ด] น. รูปเทพารักษ์ที่ประดิษฐานไว้ในศาลพระภูมิหรือศาลเจ้า,ใช้ว่า เจว็ด หรือ เตว็ด ก็มี.

ตระเวน
[ตฺระ-] ก. ไปทั่ว ๆ รอบบริเวณ เช่น ตระเวนป่า พาตระเวนไปทั้งวัน, เที่ยวตรวจตรา เช่น พลตระเวน, พาไปทั่ว ๆ เพื่อประจาน ในความว่า นํานักโทษตระเวนไปทั่วเมือง, ใช้ว่า กระเวน ตะเวน หรือ ทะเวน ก็มี.

ตระเวนเวหา
น. วิธีรำละครท่าหนึ่ง อยู่ในอันดับว่า สารถีชักรถ กลดพระสุเมรุตระเวนเวหา. (ฟ้อน).

ตระเวนไพร, ตระเวนวัน
ดู ระวังไพร, ระวังวัน.

ตระเวนไพร, ตระเวนวัน
ดู ระวังไพร, ระวังวัน.

ตระสัก
[ตฺระ-] (กลอน) ว. งามสง่า; ไพเราะ.

ตระหง่อง, ตระหน่อง
[ตฺระ-] (โบ; กลอน) ก. จ้อง, คอยดู, เช่น ตาเรียมตระหง่องตั้ง ตาเรือ แม่ฮา.(ทวาทศมาส), เขียนเป็น ตรง่อง ก็มี เช่น อันว่าพระมหาสัตวก็ต้งงตาแลตรง่อง ซึ่งช้นนช่องมรรคา ที่มีผู้จะมาน้นน โสดแล. (ม. คําหลวง กุมาร),กระหง่อง หรือ กระหน่อง ก็ใช้.

ตระหง่อง, ตระหน่อง
[ตฺระ-] (โบ; กลอน) ก. จ้อง, คอยดู, เช่น ตาเรียมตระหง่องตั้ง ตาเรือ แม่ฮา.(ทวาทศมาส), เขียนเป็น ตรง่อง ก็มี เช่น อันว่าพระมหาสัตวก็ต้งงตาแลตรง่อง ซึ่งช้นนช่องมรรคา ที่มีผู้จะมาน้นน โสดแล. (ม. คําหลวง กุมาร),กระหง่อง หรือ กระหน่อง ก็ใช้.

ตระหง่าน
[ตฺระหฺง่าน] ว. สูงเด่นเป็นสง่า.

ตระหนก
[ตฺระหฺนก] ก. หวาด, ผวา, สะดุ้ง, ตกใจ.

ตระหนัก
[ตฺระหฺนัก] ก. รู้ประจักษ์ชัด, รู้ชัดแจ้ง.

ตระหน่ำ
[ตฺระหฺนํ่า] (กลอน) ก. กระหนํ่า.

ตระหนี่
[ตฺระหฺนี่] ว. หวงไม่อยากให้ง่าย ๆ เช่น ตระหนี่ทรัพย์ ตระหนี่ความรู้.

ตระหนี่ตัว
ก. หวงตัว ไม่ยอมให้ใครอุ้ม (ใช้แก่เด็ก).

ตระอร
[ตฺระออน] ก. ทําให้ชอบใจ; ประคับประคอง เช่น เกื้อกามตระอร.(กฤษณา).

ตระอาล
[ตฺระอาน] (กลอน) ว. หวั่นไหว เช่น พยงแผ่นดินบตระอาล. (ม. คําหลวงกุมาร). (ข. ตรฺอาล ว่า ยินดี, สบายใจ).

ตระโอม
[ตฺระ-] (กลอน) ก. โอบกอด.

ตรัง
[ตฺรัง] (โบ) ก. ติดอยู่ เช่น สิ่งสินตรังตรา. (ม. คําหลวง มหาราช), ต้องกวางทรายตายเหลือตรัง. (อนิรุทธ์).

ตรังค-, ตรังค์
[ตะรังคะ-, ตะรัง] (แบบ) น. ลูกคลื่น. (ป., ส.).

ตรังค-, ตรังค์
[ตะรังคะ-, ตะรัง] (แบบ) น. ลูกคลื่น. (ป., ส.).

ตรังคนที, ตรังควชิราวดี
น. ชื่อกาพย์ชนิดหนึ่ง, คู่กับ มหาตรังคนที.

ตรังคนที, ตรังควชิราวดี
น. ชื่อกาพย์ชนิดหนึ่ง, คู่กับ มหาตรังคนที.

ตรับ, ตรับฟัง
[ตฺรับ] ก. เอาใจใส่คอยฟังข่าวคราวทุกข์สุขหรือความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นต้น, มักใช้เข้าคู่กับคำ สดับ เป็น สดับตรับฟัง.

ตรับ, ตรับฟัง
[ตฺรับ] ก. เอาใจใส่คอยฟังข่าวคราวทุกข์สุขหรือความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นต้น, มักใช้เข้าคู่กับคำ สดับ เป็น สดับตรับฟัง.

ตรัย
[ไตฺร] ว. สาม, หมวด ๓, ใช้ในคําสมาส เช่น ตรัยตรึงศ์ รัตนตรัย. (ส.).

ตรัยตรึงศ์
[ไตฺรตฺรึง] น. ดาวดึงส์, สวรรค์ชั้นที่ ๒ แห่งสวรรค์ ๖ ชั้นที่พระอินทร์ครอง.(ส. ตฺรยสฺตฺรึศตฺ; ป. เตตฺตึส ว่า สามสิบสาม).

ตรัส
(ราชา) ก. พูด. ว. แจ้ง, สว่าง, ชัดเจน.

ตรัสรู้
[ตฺรัดสะ-] ก. รู้แจ้ง (ใช้เฉพาะพระพุทธเจ้า); โดยปริยายหมายความว่ารู้เอาเองว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้.

ตรัสสา
[ตฺรัดสา] น. คํายกย่องเรียกเจ้านายฝ่ายในชั้นเจ้าฟ้า. (พระราชวิจารณ์).

ตรา
[ตฺรา] น. เครื่องหมายที่มีลวดลายและทําเป็นรูปต่าง ๆ สําหรับประทับเป็นสําคัญ เช่น ตราพระราชสีห์ ตราพระคชสีห์ ตราบัวแก้ว, สําหรับเป็นเครื่องประดับในจําพวกราชอิสริยาภรณ์ เช่น ตราช้างเผือก, สําหรับเป็นเครื่องหมายเช่น ผ้าตรานกอินทรี. ก. ประทับเป็นสําคัญ เช่น ตราไว้; กําหนดไว้, จดจําไว้,เช่น ตราเอาไว้ที; ตั้งไว้ เช่น ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้.

ตราขุนพล
น. ลายที่ขีดเป็นกากบาทที่ก้นหม้อตาลสําหรับปักไว้กันผี.

ตราจอง
(กฎ; เลิก) น. ใบอนุญาตให้จับจองที่ดิน ซึ่งกําหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องทําประโยชน์ในที่ดินให้แล้วภายใน ๓ ปี.

ตราแดง
(โบ) น. หนังสือสําคัญซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อนุญาตให้จับจองที่นา ใช้ในบางจังหวัด แทนตราจอง แต่ไม่กําหนดเวลา ๓ ปี ออกให้ในสมัยหนึ่งแล้วงดไม่ออกอีก เพื่อเก็บอากรค่านาเป็นนาคู่โค แทนที่เคยเป็นนาฟางลอย.

ตราตั้ง
น. เอกสารแต่งตั้ง เช่น ตราตั้งพระอุปัชฌายะ ตราตั้งที่พระราชทานให้แก่ธนาคารหรือบริษัทห้างร้านเป็นต้นที่ทําประโยชน์ในราชการส่วนพระองค์หรือประเทศชาติ มีสิทธิที่จะใช้ตราครุฑเพื่อแสดงว่าได้รับพระบรมราชานุญาต.

ตราบาป
น. บาปติดตัว, ความรู้สึกว่าเป็นบาปซึ่งมีฝังอยู่ในจิตใจตลอดไป.

ตราไปรษณียากร
น. แสตมป์, (กฎ) บัตรตราใด ๆ ซึ่งจัดให้มีขึ้น เพื่อใช้เป็นค่าไปรษณียากรหรือค่าธรรมเนียมอื่น หรือจํานวนเงินที่จะต้องเสียในการส่งไปรษณียภัณฑ์รวมทั้งตราไปรษณียากรสําหรับผนึก หรือตราไปรษณียากรที่พิมพ์ ดุนหรือแสดงไว้โดยวิธีอื่นบนซอง กระดาษห่อ ไปรษณียบัตร หรือสิ่งอื่น ๆ.

ตราภูมิ
(โบ) น. หนังสือประจำตัวสำหรับคุ้มค่าน้ำค่าตลาดสมพัตสรได้เพียงราคา ๑ ตำลึง. (ประกาศ ร. ๔), มักใช้เข้าคู่กับคำ คุ้มห้าม เป็นตราภูมิคุ้มห้าม.

ตรายาง
น. ตราที่ทําด้วยยางสําหรับประทับบนกระดาษเป็นต้น.

ตราสาร
(กฎ) น. หนังสือสําคัญซึ่งเป็นเอกสารแสดงสิทธิต่าง ๆ เช่น โฉนดที่ดินตั๋วเงิน.

ตราสารจัดตั้ง
(กฎ) น. หนังสือสำคัญก่อตั้งนิติบุคคลที่กำหนดขอบเขตแห่งอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลนั้น.

ตราสิน
ก. แจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน, จดทะเบียน, เช่น ตราสินหนังสือพิมพ์ตราสินชื่อย่อโทรเลข.

ตราหน้า
ก. หมายหน้าไว้; หยามหน้า, สบประมาท.

ตรากตรำ
[ตฺรากตฺรํา] ว. ทนทําอย่างไม่คิดถึงความยากลําบาก เช่น ทํางานอย่างตรากตรํา; อย่างสมบุกสมบัน, อย่างไม่ปรานีปราศรัย, เช่น ใช้อย่างตรากตรํา.

ตราชู
[ตฺรา-] น. เครื่องชั่งชนิดที่มีถาดชั่งห้อยอยู่ ๒ ข้างคันชั่ง มีตุ้มน้ำหนักบอกนํ้าหนักของของที่ชั่ง.

ตราบ
[ตฺราบ] น. ข้าง, ฟาก, ริม. สัน. จนถึง, เมื่อ, เช่น ยังมีลมหายใจอยู่ตราบใดก็ถือว่ายังมีชีวิตอยู่ตราบนั้น.

ตราบเท่า
บ. ตลอด, ถึง, จวบจวน, เช่น รักษาเอกราชมาได้จนตราบเท่าทุกวันนี้.สัน. ตลอด, ถึง, จวบจวน, เช่น เราจะจงรักภักดีต่อประเทศชาติตราบเท่าชีวิตจะหาไม่, ตราบท้าว ก็ว่า.

ตราสัง
ก. มัดศพ, ผูกศพให้เป็นเปลาะ ๆ ด้วยด้ายดิบเป็นต้น.

ตรำ
[ตฺรํา] ว. ปล่อยทิ้งตากแดดตากฝนไว้นาน ๆ เช่น ตัดไม้ทิ้งตรําแดดตรําฝนไว้,สู้ทนลําบาก เช่น ทํางานตรําแดดตรําฝน ตรํางาน, กรํา ก็ว่า.

ตร่ำ
[ตฺรํ่า] ก. เอาพร้าหวดตัดตอหญ้าที่เหลืออยู่ให้เตียน, กรํ่า ก็ว่า.

ตริ ๑
[ตฺริ] ก. คิด, ตรึกตรอง.

ตริตรอง
[-ตฺรอง] ก. ใคร่ครวญ, คิดทบทวน, ตรึกตรอง.

ตริ ๒
[ตฺริ] ใช้ประกอบหน้าศัพท์ แปลว่า สาม เช่น ตริโกณ คือ รูปสามเหลี่ยม.(ดู ตรี ๓).

ตริว
[ตฺริว] น. เต่า, กริว หรือ จริว ก็ว่า. (พจน. ๒๔๙๓).

ตรี ๑
[ตฺรี] น. ปลา. (ข.).

ตรี ๒
[ตฺรี] น. คําตัดมาจาก ตรีศูล.

ตรี ๓
[ตฺรี] ว. สาม เช่น ตรีเนตร, ชั้นที่ ๓ (ใช้เกี่ยวกับลําดับชั้นหรือขั้นของยศตําแหน่ง คุณภาพ หรือ วิทยฐานะ ตํ่ากว่า โท สูงกว่า จัตวา) เช่น ร้อยตรีข้าราชการชั้นตรี ปริญญาตรี; เรียกเครื่องหมายวรรณยุกต์รูปดังนี้ ?ว่าไม้ตรี. (ส. ตฺริ).

ตรีกฏุก
น. ของเผ็ดร้อน ๓ ชนิด คือ พริกไทย ดีปลี ขิงแห้ง.

ตรีกันสวาต
[-สะหฺวาด] น. กลิ่นแก้ลม ๓ อย่าง คือ ผลเร่วใหญ่ ผลจันทน์เทศ กานพลู.

ตรีกาย
น. พระกายทั้ง ๓ ของพระพุทธเจ้าตามคติพระพุทธศาสนา นิกายมหายานได้แก่ ๑. ธรรมกาย (พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า) ๒. สัมโภคกาย(กายทิพย์หรือกายละเอียดของพระพุทธเจ้า) และ ๓. นิรมาณกาย (กายที่เป็นขันธ์ ๕ และปรากฏแก่มนุษย์ทั่วไป ซึ่งบางทีเรียกว่า รูปกาย).

ตรีกาล
น. กาลทั้ง ๓ คือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต, เวลาทั้ง ๓ คือ เช้า กลางวัน เย็น.

ตรีกาฬพิษ
[-กาละพิด, -กานละพิด] น. พิษกาฬ ๓ อย่าง คือ กระชาย รากข่ารากกะเพรา.

ตรีกูฏ
น. ชื่อเขา ๓ ยอดในไตรภูมิ, โบราณเรียกว่า ผาสามเส้า. (ส. ตฺริกูฏ ว่ามี ๓ ยอด).

ตรีเกสรมาศ
น. เกสรทอง ๓ อย่าง คือ ผลมะตูมอ่อน เปลือกฝิ่น เกสรบัวหลวง.

ตรีโกณ
น. รูปสามเหลี่ยม. (ส. ตฺริโกณ).

ตรีโกณมิติ
[ตฺรีโกน-] น. คณิตศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยฟังก์ชันของตัวแปรจริง ซึ่งแทนขนาดของมุมใด ๆ, คณิตศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยการใช้ฟังก์ชันของมุมเป็นรากฐานในการศึกษาสมบัติของรูปสามเหลี่ยมหรือรูปอื่นใดที่ทอนลงมาเป็นรูปสามเหลี่ยมได้. (อ. trigonometry).

ตรีคูณ
น. ๓ เท่า. (ส. ตฺริคุณ).

ตรีจีวร
น. ผ้า ๓ ผืน หมายถึง ผ้าของภิกษุ คือ อันตรวาสก (สบง) อุตราสงค์ (จีวร)และสังฆาฏิ (ผ้าทาบ), แต่โดยมากใช้ไตรจีวร เรียกสั้น ๆ ว่า ผ้าไตร. (ส. ตฺริจีวร;ป. ติจีวร).

ตรีฉินทลามกา
[-ฉินทะลามะกา] น. ของแก้ลามกให้ขาดไป ๓ อย่าง คือ โกฐนํ้าเต้า สมอไทยรงทอง.

ตรีชาต
น. วัตถุ ๓ คือ ดอกจันทน์ กระวาน อบเชย.

ตรีญาณรส
[-ยานนะรด] น. รสสําหรับรู้ ๓ อย่าง คือ ไส้หมาก รากสะเดา เถาบอระเพ็ด.

ตรีทศ
น. เทวดา ๓๓ องค์ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มิได้แยกว่าใครเป็นใคร หมายถึงพระอินทร์และบริวารพระอินทร์ ๓๒ องค์, ไตรทศ ก็เรียก. (ส. ตฺริทศ ว่าสามสิบ).

ตรีทิพ
น. สวรรค์ชั้นดาวดึงส์, สวรรค์ชั้นที่ ๒ หรือชั้นวิเศษสุด, สวรรค์ทั่วไป, เรียกไตรทิพ หรือ ไตรทิพย์ ก็ได้. (ส. ตฺริทิว).

ตรีทิพยรส
[-ทิบพะยะรด] น. รสทิพย์ ๓ อย่าง คือ โกฐกระดูก เนื้อไม้ อบเชยไทย.

ตรีทุรวสา
น. ของแก้มันเหลวเสีย ๓ อย่าง คือ เมล็ดโหระพา ผลกระวาน ผลราชดัด.

ตรีทูต
น. ผู้แทนคนที่ ๓; ลักษณะบอกอาการของคนเจ็บหนักใกล้จะตาย.

ตรีเทวตรีคันธา
[-ทะเวตฺรี-] น. กลิ่นสามสองสาม คือ แก่น ดอก ราก แห่งมะซางและบุนนาค.(ศัพท์คัมภีร์แพทย์).

ตรีโทษ
น. อาการไข้ที่ลม เสมหะ เลือด ประชุมกัน ๓ อย่างให้โทษ, ไข้หนักจวนจะตาย.(ส. ตฺริ + โทษ).

ตรีธารทิพย์
น. ของทิพย์ที่ทน ๓ อย่าง คือ รากไทรย้อย รากราชพฤกษ์ รากมะขามเทศ.

ตรีนิศก
(โบ) น. ตรีศก.

ตรีเนตร
น. ชื่อหนึ่งของพระอิศวร แปลว่า ผู้มีนัยน์ตา ๓ ตา โบราณมักเรียกว่าพระอินสวน และเขียนเป็น พระอินศวร ต่อมาจึงใช้เพี้ยนไป หมายถึงพระอินทร์. (ส. ตฺริเนตฺร).

ตรีบถ
น. ที่ซึ่งทางทั้ง ๓ มาจดกัน, ทางสามแพร่ง. (ส. ตฺริปถ).

ตรีบูร
น. เมืองอันมีป้อมค่าย ๓ ชั้น, ๓ ชั้น เช่น เมืองสุโขทัยนี้ตรีบูรได้สามพันสี่ร้อยวา.(จารึกสยาม), อยุธยาไพโรจน์ใต้ ตรีบูร. (กําสรวล). (ส. ตฺริปุร ว่า ป้อม ๓ ชั้น).

ตรีปิฎก
น. พระธรรมคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งมี ๓ หมวดใหญ่ หมวดหนึ่งเรียกว่าปิฎกหนึ่ง คือ พระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรมซึ่งโดยมากเรียกว่า ปรมัตถ์,ใช้ว่า ไตรปิฎก ก็ได้. (ส. ตฺริปิฏก; ป. ติปิฏก ว่า ตะกร้า ๓).

ตรีปิตผล
[-ปิตะผน] น. ผลแก้ดี ๓ อย่าง คือ เจตมูลเพลิงเทศ ผักแพวแดง รากกะเพรา.

ตรีผลธาตุ
น. ผลแก้ธาตุ ๓ อย่าง คือ กะทือ ไพล รากตะไคร้.

ตรีผลสมุตถาน
[-สะหฺมุดถาน] น. ที่เกิดแห่งผล ๓ อย่าง คือ ผลมะตูม ผลยอ ผลผักชีลา.

ตรีผลา
[-ผะลา] น. ชื่อผลไม้ ๓ อย่างประกอบขึ้นใช้ในตํารายาไทย หมายเอาสมอไทยสมอพิเภก มะขามป้อม. (ส. ตฺริผลา).

ตรีพิษจักร
[-พิดสะจัก] น. จักรพิษ ๓ อย่าง คือ กานพลู ผักชีล้อม ผลจันทน์เทศ.

ตรีเพชรสมคุณ
[-เพ็ดสะมะคุน] น. คุณเสมอเพชร ๓ อย่าง คือ ว่านหางจระเข้ ฝักราชพฤกษ์รงทอง.

ตรีภพ
น. ภพทั้ง ๓ คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ, ตามไสยศาสตร์ว่าได้แก่ สวรรค์มนุษยโลก บาดาล, ไตรภพ ก็ใช้. (ส. ตฺริภว).

ตรีภพนาถ
น. ที่พึ่งแห่งภพ ๓, พระพุทธเจ้า, พระอินทร์, ใช้ทั่วไปถึงผู้อื่นด้วย เช่นกษัตริย์ ก็มี.

ตรีภูมิ, ไตรภูมิ
น. ตรีภพ. (ส. ตฺริภูมิ).

ตรีภูวะ
[-พูวะ] น. ตรีภพ. (ส. ตฺริภูว).

ตรีมธุระ
[-มะทุระ] น. ของมีรสดี ๓ อย่าง คือ นํ้าตาล นํ้าผึ้ง นํ้ามันเนย.

ตรีมูรติ
ว. มีรูป ๓ คือ รูปพระพรหม รูปพระวิษณุ รูปพระศิวะ. น. ชื่อเรียกเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ มี ๓ องค์ คือ พระพรหม (พระผู้สร้าง) พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ (พระผู้รักษา) และพระศิวะหรือพระอิศวร (พระผู้ทําลาย).(ส. ตฺริมูรฺติ).

ตรีรัตน์
น. แก้วทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์, โดยมากใช้ ไตรรัตน์. (ส. ตฺริรตน).

ตรีโลก
น. ตรีภพ, ไตรโลก ก็ใช้. (ส. ตฺริโลก).

ตรีโลกนาถ
[-โลกกะนาด] น. พระพุทธเจ้า, พระอินทร์, พระศิวะ. (ส. ตฺริโลกนาถ).

ตรีโลเกศ
น. พระวิษณุ, พระอาทิตย์. (ส. ตฺริโลเกศ).

ตรีโลจน์
น. พระศิวะ. (ส. ตฺริโลจน ว่า มี ๓ ตา).

ตรีโลหก
[-หก] น. แร่ทั้ง ๓ คือ ทองคํา เงิน ทองแดง. (ส. ตฺริโลหก).

ตรีโลหะ
น. แร่ทั้ง ๓ คือ ทองแดง ทองเหลือง ทองหล่อระฆัง, หรืออีกตําราหนึ่งว่าทองคํา เงิน ทองแดง. (ส. ตฺริโลห).

ตรีวาตผล
[-วาตะผน] น. ผลแก้ลม ๓ อย่าง คือ ผลสะค้าน รากพริกไทย ข่า.

ตรีศก
น. เรียกปีจุลศักราชที่ลงท้ายด้วยเลข ๓ เช่น ปีระกาตรีศก จุลศักราช ๑๓๔๓.

ตรีศูล
น. หลาวสามง่ามเป็นศัสตราประจําหัตถ์พระอิศวร.

ตรีสมอ
น. สมอ ๓ อย่าง คือ สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ.

ตรีสมุตถาน
[-สะหฺมุดถาน] น. สมุตถาน ๓ อย่าง คือ ดี เสมหะ ลม.

ตรีสัตกุลา
[-สัดตะ-] น. ตระกูลอันสามารถ ๓ อย่าง คือ เทียนดํา ผักชีลา ขิงสด.

ตรีสันนิบาตผล
น. ผลแก้สันนิบาต ๓ อย่าง คือ ผลดีปลี รากกะเพรา รากพริกไทย.

ตรีสาร
น. แก่น ๓ อย่าง คือ แสมสาร แสมทะเล ขี้เหล็ก, หรืออีกอย่างหนึ่ง รส ๓อย่าง เป็นคําแพทย์ใช้ในตํารายาไทย ประสงค์เอา เจตมูลเพลิง สะค้านช้าพลู. (ส.).

ตรีสินธุรส
น. รสนํ้า ๓ อย่าง คือ รากมะตูม เทียนขาว นํ้าตาลกรวด.

ตรีสุคนธ์
น. กลิ่นหอม ๓ อย่าง คือ ใบกระวาน อบเชยเทศ รากพิมเสน.

ตรีสุรผล
น. ยามีผลกล้า ๓ อย่าง คือ สมุลแว้ง เนื้อไม้ เทพทาโร.

ตรีเสมหผล
น. ผลแก้เสมหะ ๓ อย่าง คือ ผลช้าพลู รากดีปลี รากมะกลํ่า.

ตรีอมฤต
[-อะมะริด, -อะมะรึด] น. ของไม่ตาย ๓ อย่าง คือ รากกล้วยตีบ รากกระดอมมะกอก.

ตรีอากาศผล
น. ผลแก้อากาศธาตุ ๓ อย่าง คือ ขิง กระลําพัก อบเชยเทศ.

ตรีเอกภาพ, ตรีเอกานุภาพ
น. คติความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่ว่าพระบิดา พระบุตร และพระจิต (คาทอลิก)หรือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ (โปรเตสแตนต์) เป็น ๓ บุคคลที่รวมเป็นหนึ่ง ซึ่งความจริงก็คือพระเป็นเจ้าองค์เดียวกันนั่นเอง.

ตรีเอกภาพ, ตรีเอกานุภาพ
น. คติความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่ว่าพระบิดา พระบุตร และพระจิต (คาทอลิก)หรือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ (โปรเตสแตนต์) เป็น ๓ บุคคลที่รวมเป็นหนึ่ง ซึ่งความจริงก็คือพระเป็นเจ้าองค์เดียวกันนั่นเอง.

ตรีประดับ
น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง.

ตรีปวาย
[ตฺรีปะ-] น. พิธีพราหมณ์กระทํารับพระนารายณ์ ที่เรียกเป็นสามัญว่า พิธีแห่พระนารายณ์ ซึ่งกระทําในวันแรมคํ่า ๑ ถึงแรม ๕ คํ่า เดือนยี่. (เทียบทมิฬติรุปปาไว).

ตรีพิธพรรณ
[ตฺรีพิดทะพัน] น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง; ชื่อโคลง ๔ ประเภทหนึ่ง.

ตรีเพชรทัณฑี
[ตฺรีเพ็ดทันที] น. ชื่อโคลงชนิดหนึ่ง.

ตรีเพชรพวง
น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง.

ตรียมก
[ตฺรียะมก] น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง.

ตรียัมปวาย
[ตฺรียําปะ-] น. พิธีพราหมณ์ฝ่ายใต้กระทํารับพระอิศวร ที่เรียกเป็นสามัญว่า พิธีโล้ชิงช้า ซึ่งกระทําในวันขึ้น ๗ คํ่าตอนเช้า ขึ้น ๙ คํ่าตอนเย็น เดือนยี่.(เทียบทมิฬ ติรุเวมปาไว).

ตรึก ๑
[ตฺรึก] ก. นึก, คิด. (ส. ตรฺก; ป. ตกฺก).

ตรึกตรอง
[ตฺรึกตฺรอง] ก. ใคร่ครวญ, คิดทบทวน, ตริตรอง.

ตรึก ๒
[ตฺรึก] ก. หมด, สิ้น, เปลือง, น้อย, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่ตรึก, มิตรึก,เช่น จึงองค์มิสาระปันหยี จึงตอบว่าข้าจะให้ไก่ดีดี ของเรามีไม่ตรึกอย่าร้อนใจ. (อิเหนา), ท่านก็ไม่ขัดสนจนพราย มากมายตามพรูอยู่มิตรึกแรกรักจะรําพันให้ครั่นครึก. (ขุนช้างขุนแผน), ฤๅจะใคร่ได้เมียสาว ๆขาว ๆ ดี ๆ มีไม่ตรึก. (มณีพิชัย).

ตรึกถอง
[ตฺรึก-] (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. น้อย, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่ตรึกถอง หรือไม่ตรึกไม่ถอง เช่น มีทรัพย์สมบัติไม่ตรึกถอง นับไม่ตรึกไม่ถอง.

ตรึง
[ตฺรึง] ก. ทําให้อยู่กับที่ เช่น ตรึงตะปู ตรึงที่นอน ตรึงข้าศึก, ทําให้อยู่คงที่เช่น ตรึงราคาสินค้าไว้, ติดอยู่ เช่น ตรึงใจ.

ตรึงตรา
ก. ติดแน่น.

ตรึงศ-
[ตฺรึงสะ-] (แบบ) ว. สามสิบ. (ส. ตฺรึศตฺ; ป. ตึส).

ตรุ ๑
[ตฺรุ] น. ที่ขังคน, ตะราง, เรือนจํานักโทษ, คุก.

ตรุ ๒
[ตะรุ] (แบบ) น. ต้นไม้. (ป., ส.).

ตรุณ, ตรุณะ
[ตะรุน, ตะรุนะ] (แบบ) น. เด็กรุ่น. ว. ดรุณ, หนุ่ม, อ่อน, รุ่น, เพศหญิงใช้ว่าตรุณี. (ป., ส.).

ตรุณ, ตรุณะ
[ตะรุน, ตะรุนะ] (แบบ) น. เด็กรุ่น. ว. ดรุณ, หนุ่ม, อ่อน, รุ่น, เพศหญิงใช้ว่าตรุณี. (ป., ส.).

ตรุย
[ตฺรุย] (โบ) น. กรุย เช่น มีตรุยปัก. (สามดวง).

ตรุษ, ตรุษไทย
[ตฺรุด] น. เทศกาลเนื่องในการสิ้นปี ตรุษไทยกําหนดตามจันทรคติ ตรงกับวันแรม ๑๕ คํ่า เดือน ๔.

ตรุษ, ตรุษไทย
[ตฺรุด] น. เทศกาลเนื่องในการสิ้นปี ตรุษไทยกําหนดตามจันทรคติ ตรงกับวันแรม ๑๕ คํ่า เดือน ๔.

ตรุษจีน
[ตฺรุด-] น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Bougainvillea glabra Choisyในวงศ์ Nyctaginaceae ใบประดับสีม่วงแดง กลีบดอกสีขาวรวมติดกันปลูกเป็นไม้ประดับ.

ตรู
[ตฺรู] ว. งาม.

ตรู่
[ตฺรู่] น. เวลาสาง ๆ เริ่มเห็นแสงเงินแสงทอง.

ตฤณ, ตฤณ-
[ตฺริน, ตฺรินนะ-] (แบบ) น. หญ้า. (ส.; ป. ติณ).

ตฤณ, ตฤณ-
[ตฺริน, ตฺรินนะ-] (แบบ) น. หญ้า. (ส.; ป. ติณ).

ตฤณชาติ
น. หญ้าต่าง ๆ. (ส.).

ตฤณมัย
ว. แล้วไปด้วยหญ้า, ทําด้วยหญ้า. น. สนามหญ้า. (ส.).

ตฤตีย-, ตฤตียะ
[ตฺริตียะ-] (แบบ) ว. ที่ ๓. (ส.; ป. ตติย).

ตฤตีย-, ตฤตียะ
[ตฺริตียะ-] (แบบ) ว. ที่ ๓. (ส.; ป. ตติย).

ตฤท
[ตฺริด] (แบบ) ก. เจาะ, แทง. (ส.; ป. ตุท).

ตฤป
[ตฺริบ] (แบบ) ก. อิ่ม, ให้อิ่ม, ให้กิน, เลี้ยง, กิน เช่น ตฤปตฤณ. (ส.; ป. ตปฺป).

ตฤษณา
[ตฺริดสะหฺนา] (แบบ) น. ความปรารถนา, ความอยาก, ความดิ้นรน.(ส.; ป. ตณฺหา).

ตฤๅ
[ตฺรี] น. ปลา, โดยมากใช้ ตรี. (ข. ตฺรี).

ตลก
[ตะหฺลก] ก. ทําให้คนอื่นขบขันด้วยคําพูดหรือกิริยาท่าทางเป็นต้น;โดยปริยายหมายความว่า แกล้งทําให้คนอื่นเข้าใจผิด เช่น เล่นตลก. ว. ขบขัน, ที่ทําให้คนอื่นขบขันด้วยคําพูดหรือกิริยาท่าทาง เป็นต้นเช่นหนังตลก, เรียกผู้ที่ทําให้คนอื่นขบขันว่า ตัวตลก, เรียกเรื่องที่ทําให้ขบขันหรือเข้าใจผิดว่า เรื่องตลก.

ตลกคะนอง
ว. อาการที่พูดหรือทําให้ขบขันด้วยกิริยาวาจาที่ไม่สุภาพ.

ตลกโปกฮา
ว. อาการที่พูดชวนให้ขบขันเฮฮา.

ตลกหัวเราะ
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.

ตลกบาตร
[ตะหฺลก-] น. ถุงบาตรที่มีสายคล้องบ่า (สายโยก), ถลกบาตร ก็ว่า.

ตลบ
[ตะหฺลบ] ก. เอาสิ่งที่เป็นแผ่นเป็นผืนเช่นชายม่านตีนมุ้งที่อยู่ข้างล่างหกกลับไปพาดไว้ข้างบนทั้งผืนทั้งแผ่น เช่น ตลบม่าน ตลบมุ้ง; ยกกลับ, หกกลับ, เช่นตีตลบ; ย้อนกลับไปกลับมา เช่น เดินเสียหลายตลบ ฝุ่นตลบ; ฟุ้งไป, กระจายไป,(ใช้แก่กลิ่น), กลบ ก็ว่า.

ตลบตะแลง
ว. พลิกแพลงด้วยเล่ห์เหลี่ยมให้หลงเชื่อ, ปลิ้นปล้อน.

ตลบนก
ก. จับนกโดยการขึงตาข่ายดักไว้ เมื่อนกบินมาก็ตลบตาข่ายแล้วม้วนตาข่ายรวบนกเข้าไว้.

ตลบหลัง
ก. ปล่อยให้ล่วงลํ้าเข้าไปแล้วย้อนกลับมาตีหรือทําร้ายภายหลัง.

ตลอด
[ตะหฺลอด] บ. แต่ต้นไปจนถึงปลาย, แต่ต้นจนจบ, แต่จุดหนึ่งไปจนถึงอีกจุดหนึ่ง, เช่น ตลอดวันตลอดคืน ดูแลให้ตลอด ทําไปไม่ตลอด, ทั่วเช่น ดูแลไม่ตลอด.

ตลอดรอดฝั่ง
ว. ถึงจุดหมายปลายทาง, พ้นอันตราย, ผ่านอุปสรรคมาได้.

ตละ ๑
[ตะละ] ว. เช่น, เหมือน, ดุจ, เช่น ตละยักษ์.

ตละ ๒
[ตะละ] น. เจ้า. (ต.).

ตละ ๓
[ตะละ] น. พื้น, ชั้น. (ป.).

ตลับ ๑
[ตะหฺลับ] น. ภาชนะอย่างหนึ่ง สําหรับใส่สิ่งของเช่นขี้ผึ้งสีปากหรือยาโดยมากมีรูปกลม ๆ ขนาดไม่ใหญ่นัก มีฝาปิด. (เทียบมลายู ตลป ว่ากล่องเล็ก ๆ สําหรับใส่หมาก).

ตลับ ๒
[ตะหฺลับ] น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ในสกุล Meretrix วงศ์ Veneridae เปลือกหนาคล้ายรูปสามเหลี่ยม เป็นมัน มีสีต่าง ๆ กัน ฝังตัวอยู่ตามพื้นที่เป็นทรายหรือโคลนในทะเล.

ตลับนาก
[ตะหฺลับ-] น. ชื่อมะม่วงพันธุ์หนึ่ง ผลค่อนข้างกลม กลิ่นหอม.

ตลาด
[ตะหฺลาด] น. ที่ชุมนุมเพื่อซื้อขายของต่าง ๆ; (กฎ) สถานที่ซึ่งปรกติจัดไว้ให้ผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมนุมเพื่อจําหน่ายสินค้าประเภทสัตว์ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารอันมีสภาพเป็นของสด ประกอบหรือปรุงแล้ว หรือของเสียง่าย ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีการจําหน่ายสินค้าประเภทอื่นด้วยหรือไม่ก็ตาม และหมายความรวมถึงบริเวณซึ่งจัดไว้สําหรับให้ผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมนุมเพื่อจําหน่ายสินค้าประเภทดังกล่าวเป็นประจําหรือเป็นครั้งคราวหรือตามวันที่กําหนด.

ตลาดเงิน
น. ที่แลกเปลี่ยนกู้ยืมเงิน.

ตลาดท้องน้ำ
น. ตลาดนํ้า.

ตลาดนัด
น. ที่ชุมนุมเพื่อซื้อขายของต่าง ๆ ซึ่งมิได้ตั้งอยู่ประจํา จัดให้มีขึ้นเฉพาะในวันที่กําหนดเท่านั้น.

ตลาดน้ำ
น. ที่ชุมนุมเพื่อซื้อขายของต่าง ๆ ทางนํ้า มีเรือเป็นพาหนะบรรทุกสิ่งของ,ตลาดท้องนํ้า ก็ว่า.

ตลาดมืด
น. ตลาดที่แอบซื้อขายกันลับ ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อกําหนดที่ทางการได้วางไว้.

ตลาดยี่สาน
น. ตลาดที่ขายของแห้งเช่นผ้า.

ตลาดสด
น. ตลาดที่ขายของสด.

ตลาดหน้าคุก
(สํา) ว. แพง. น. ตลาดที่ถือโอกาสขายโก่งราคาแพงกว่าปรกติและผู้ซื้อจําเป็นต้องซื้อ.

ตลาดหลักทรัพย์
(กฎ) น. ตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหลักทรัพย์,(ปาก) ตลาดหุ้น.

ตลาดหุ้น
(ปาก) น. ตลาดหลักทรัพย์.

ตลิ่ง
[ตะหฺลิ่ง] น. ส่วนของฝั่งที่ไม่ลาดริมแม่นํ้าลําคลอง.

ตลึง
[ตะลึง] น. ต้นอัญชัน. (ช.).

ตลุก
[ตะหฺลุก] (ถิ่น) น. ปลักควาย, แอ่งน้ำตามลำห้วยที่ขาดเป็นช่วง ๆ ในหน้าแล้ง. (ข. ถฺลุก).

ตวง
ก. ตักด้วยภาชนะต่าง ๆ เพื่อให้รู้จํานวนหรือปริมาณ; (โบ) นับ, กะ,ประมาณ, ทําให้เต็ม, เช่น ช่วยมันตวงเป็นบ้านเป็นเมือง. (จารึกสยาม).

ตวงพระธาตุ
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.

ต่วน
น. ชื่อแพรชนิดหนึ่ง เนื้อเกลี้ยงเป็นมันด้านเดียว ทอเป็นลายสอง.

ต้วมเตี้ยม
ว. อาการที่ค่อย ๆ เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ (ใช้แก่กริยาเดินหรือคลาน), กระต้วมกระเตี้ยม ก็ว่า.

ตวัก
[ตะหฺวัก] น. เครื่องใช้ตักแกงหรือตักข้าว ทําด้วยกะลามะพร้าว มีด้ามถือ,กระจ่า จวัก หรือ จ่า ก็ว่า.

ตวัด
[ตะหฺวัด] ก. วัดให้ม้วนเข้ามาโดยเร็ว เช่น ตวัดผ้าที่ห้อยอยู่ขึ้นบ่า ตวัดชายกระเบน, โอบรัดเข้ามาโดยเร็ว เช่น ตวัดคอ, แกว่งไม้หรือเชือกให้ปลายม้วนเข้ามา เช่น ตวัดแส้.

ตวาด
[ตะหฺวาด] ก. ขู่เต็มเสียง, คุกคามด้วยแผดเสียง, พูดเสียงดังด้วยความโกรธ.

ตอ
น. โคนของต้นไม้ที่ลําต้นถูกตัดหรือหักลงแล้ว, สิ่งบางอย่างเช่นเสาหรือหลักที่ปักไว้หรือที่ยังเหลืออยู่แต่โคนเมื่อบางส่วนถูกตัด หัก หรือกร่อนไป,โดยปริยายเรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น.

ตอม่อ
น. เสาขนาดสั้น มักใช้ไม้ไผ่ปักขึ้นสำหรับรับรอดในเรือนเครื่องผูก, ส่วนบนของฐานรากที่รองรับโครงสิ่งก่อสร้าง, เสาตอม่อ ก็ว่า, โดยปริยายหมายถึงมีรูปร่างล่ำเตี้ย เช่น เตี้ยม่อต้อเหมือนตอม่อค้ำยุ้ง; เสาชาน เสาแคร่หรือเสาช่วยค้ำจุนเรือนโดยปักแนบกับเสาเรือน, เสาตอม่อ หรือ เสาหมอ ก็ว่า; ใช้ว่าตะม่อ ก็มี.(รูปภาพ ตอม่อ)

ต่อ ๑
น. ชื่อแมลงขนาดกลางถึงขนาดใหญ่หลายวงศ์ มีปีก ๒ คู่ ลักษณะเป็นแผ่นบางใส ปีกคู่หลังเล็กกว่าปากเป็นชนิดกัดกิน เอวคอดกิ่ว ตัวเมียมีเหล็กในสําหรับต่อยปล่อยนํ้าพิษทําให้เจ็บปวดได้ บางชนิดอยู่อย่างปีกคู่หน้าโดดเดี่ยวแต่บางชนิดรวมกลุ่มเป็นฝูง ทํารัง ที่สําคัญได้แก่ วงศ์ Vespidae เช่น ต่อหลวง(Vespa cincta).

ต่อ ๒
ก. เพิ่มให้ยืดออกไป เช่น ต่อเวลาออกไป ต่อหนังสือสัญญา, เพิ่มให้ยาวออกไป เช่น; ต่อเชือก ทําให้ติดกันเป็นอันเดียว เช่น ต่อสะพาน, เชื่อมให้ติดต่อกัน เช่น ต่อคำ ต่อความ; เอาวัตถุเช่นไม้มาประกอบเข้าเป็นรูป เช่นต่อกรง ต่อเรือ, เรียกเรือชนิดที่ทําด้วยไม้กระดานโดยนํามาต่อขึ้นเป็นรูปเรืออาศัยกงหรือมือลิงเป็นเครื่องยึด ตัวเรือป่อง หัวและท้ายเรือเรียวเชิดขึ้นตามส่วนเช่นเรือสําปั้น เรือบด เรืออีแปะ ว่า เรือต่อ; ทําให้ติดอย่างไฟเช่น ต่อไฟ; ต่อเทียน; ขอลดราคาให้น้อยลง เช่น ต่อราคา ต่อของ; ท้าพนันโดยยอมลดเปรียบให้ เช่น ต่อให้, ฝ่ายเห็นว่าได้เปรียบเป็นฝ่ายต่อ ฝ่ายเห็นว่าสู้ได้เป็นฝ่ายรอง; นําสัตว์เลี้ยงไปล่อสัตว์ป่าในคำว่า ต่อนก ต่อไก่.น. เท่าตัว, เท่าทุน, เช่น กิน ๒ ต่อ ใช้ ๒ ต่อ, ทอด เช่น ขึ้นรถ ๒ ต่อ. ว.ออกจะ, น่าจะ, ท่าจะ, เช่น มันต่อจะชอบกลเจ้ามณฑา. (สังข์ทอง); ถัดไป,สืบไป, ติดต่อกันไป, เช่น ต่อนี้ไป ต่อไป อ่านต่อ วิ่งต่อ, เพิ่มขึ้น เช่น เรียนต่อ;เรียกสัตว์เลี้ยงที่นําไปล่อสัตว์ป่า เช่น ไก่ต่อ นกต่อ ช้างต่อ; เรียก'สิ่งที่เชื่อมเข้าด้วยกัน เช่น คําต่อ (คือ คําบุรพบทและคําสันธาน) ข้อต่อ. บ. เฉพาะ, ประจันหน้า, เช่น ต่อหน้า ยื่นต่ออําเภอ; เมื่อถึง เช่น มาต่อปีหน้า; แต่ละ,ราย, เช่น ต่อคน ต่อปี; เทียบส่วนกัน เช่น ๓ ต่อ ๑; ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ศิษย์เป็นการเฉพาะ เช่น ครูต่อหนังสือให้ นักเรียนเพลงต่อเพลงให้ศิษย์,เรียนวิชาบางอย่างจากครูเป็นการเฉพาะ เช่น นักเรียนไปต่อหนังสือกับครูศิษย์ไปต่อเพลงกับครูเพลง.

ต่อกิ่ง
ก. นําเอากิ่งของต้นไม้ต้นหนึ่งไปเสียบลงที่ตอของต้นไม้อีกต้นหนึ่งในวงศ์เดียวกันแล้วเอาผ้ายางเป็นต้นพันตรงที่ต่อไม่ให้นํ้าซึมเข้า.

ต่อความยาวสาวความยืด
ก. พูดกันไปพูดกันมาให้มากเรื่องเกินสมควร.

ต่อตัว
ก. อาการที่คนหนึ่งขึ้นไปยืนบนบ่าของอีกคนหนึ่ง เช่น ต่อตัวปีนกำแพง. น. ชื่อการแสดงกายกรรมแบบหนึ่งที่ผู้แสดงคนหนึ่งหรือหลายคนขึ้นไปยืนเลี้ยงตัวบนตัวของผู้แสดงอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นหลักเป็นต้น.

ต่อตา
ก. ขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีตัดเอาส่วนตาของพันธุ์ไม้ที่ต้องการไปติดกับส่วนตาของไม้อีกต้นหนึ่งในประเภทเดียวกัน.

ต่อตาม
ก. พูดเกี่ยงราคาในเรื่องซื้อขาย, พูดเกี่ยงผลประโยชน์ในการทําความตกลงกัน.

ต่อตี
ก. ตีประชันหน้าเข้าไป.

ต่อเติม
ก. ขยายหรือเพิ่มให้มากหรือใหญ่ขึ้น เช่น ต่อเติมข้อความ ต่อเติมบ้าน.

ต่อแต้ม
น. เครื่องเล่นการพนันอย่างหนึ่ง ทําเป็นรูปไม้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ๒ ตอน มีแต้มตั้งแต่ ๑ ถึง ๖; การเล่นไพ่ป๊อกฝรั่งระหว่าง ๒ หรือ ๔ คน โดยเรียงแต้มไพ่จากรูป ๗ แล้วต่อแต้มสูงขึ้นไปหรือต่อแต้มตํ่าลงมา.

ต่อโทรศัพท์
ก. เดินสายเพื่อติดตั้งโทรศัพท์; ติดต่อสื่อสารโดยการหมุนหรือกดเลขหมายบนหน้าปัดเครื่องโทรศัพท์.

ต่อนัดต่อแนง, ต่อนัดต่อแนม
ก. ต่อราคาของเล็ก ๆ น้อย ๆ; เถียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่รู้จักจบ.

ต่อนัดต่อแนง, ต่อนัดต่อแนม
ก. ต่อราคาของเล็ก ๆ น้อย ๆ; เถียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่รู้จักจบ.

ต่อบุหรี่
ก. นำบุหรี่ของผู้อื่นที่ติดไฟแล้วมาจ่อกับบุหรี่ของตน แล้วดูด เพื่อให้บุหรี่ของตนติดไฟ.

ต่อปาก
ก. เล่าสืบกันมา; พูดยันกันเพื่อสอบสวนฝ่ายผิดฝ่ายถูก.

ต่อปากต่อคำ, ต่อปากหลากคำ
ก. เฝ้าเถียงกันไม่รู้จักจบ, พูดยันกันเพื่อพิสูจน์ความ.

ต่อปากต่อคำ, ต่อปากหลากคำ
ก. เฝ้าเถียงกันไม่รู้จักจบ, พูดยันกันเพื่อพิสูจน์ความ.

ต่อล้อต่อเถียง
ว. โต้เถียงกันไปมาไม่หยุดหย่อน.

ต่อว่า, ต่อว่าต่อขาน
ก. ท้วงถามเหตุผลต่อผู้ที่ทําให้ตนไม่พอใจ, ว่ากล่าวเพราะไม่ทําตามที่พูดหรือที่ให้สัญญาไว้.

ต่อว่า, ต่อว่าต่อขาน
ก. ท้วงถามเหตุผลต่อผู้ที่ทําให้ตนไม่พอใจ, ว่ากล่าวเพราะไม่ทําตามที่พูดหรือที่ให้สัญญาไว้.

ต่อหน้า, ต่อหน้าต่อตา
ว. ซึ่งหน้า, เฉพาะหน้า.

ต่อหน้า, ต่อหน้าต่อตา
ว. ซึ่งหน้า, เฉพาะหน้า.

ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก
(สํา) ว. ต่อหน้าทำเป็นดี แต่พอลับหลังก็นินทาหรือหาทางทำร้าย, หน้าไหว้หลังหลอก ก็ว่า.

ต่ออายุ
ก. ทําพิธีเพื่อให้มีอายุยืนตามความเชื่อทางไสยศาสตร์.

ต่อ ๓
(กลอน) ก. รบ เช่น ซึ่งเจ้ามาต่อด้วยพ่อได้. (รามเกียรติ์ ร. ๑).

ต่อสู้
ก. สู้เฉพาะหน้า, รบกัน, ตีรันกัน.

ต้อ ๑
น. โรคอย่างหนึ่งเกิดที่ลูกตา ทําให้ตาพิการมองอะไรไม่เห็นชัดเจน หรืออาจทําให้ตาบอดได้ มีหลายชนิด.

ต้อกระจก
น. โรคตาซึ่งเกิดจากแก้วตาขุ่น. (อ. cataract).

ต้อเนื้อ, ต้อลิ้นหมา
น. โรคตาซึ่งเกิดจากเยื่อตางอกไปบนกระจกตา. (อ. pterygium).

ต้อเนื้อ, ต้อลิ้นหมา
น. โรคตาซึ่งเกิดจากเยื่อตางอกไปบนกระจกตา. (อ. pterygium).

ต้อลำไย
น. โรคตาซึ่งเกิดจากกระจกตาขุ่น. (อ. leucoma corneae).

ต้อหิน
น. โรคตาซึ่งเกิดจากความดันภายในลูกตาสูง เป็นผลให้ประสาทตาเสีย.(อ. glaucoma).

ต้อ ๒
ว. อ้วนสั้น, อ้วนเตี้ย, เช่น ขวดต้อ พลูต้อ.

ตอก ๑
ก. เอาค้อนหรือสิ่งอื่นตีตะปูหรือหลักเป็นต้นให้เข้าไป; เร่งให้วัวควายวิ่งใช้ว่า ตอกวัว ตอกควาย น. ไม้ไผ่ที่จักเป็นเส้นแบนยาว ขนาดหนาหรือบางตามต้องการ สําหรับผูกมัดหรือสานสิ่งต่าง ๆ; ชื่อมีดชนิดหนึ่ง ปลายแหลมคล้ายมีดเหน็บ แต่สั้นกว่า ด้ามยาวและงอน.

ตอกลิ่ม
ก. ทำให้แยกโดยใช้ลิ่ม, โดยปริยายหมายความว่า ทำให้บุคคล ๒ ฝ่ายแตกแยกกันหรือบาดหมางกันยิ่งขึ้น เช่น ตอกลิ่มให้ทั้ง ๒ ฝ่ายทะเลาะกัน.

ตอกหน้า
(ปาก) ก. ว่าใส่หน้าอย่างไม่ไว้หน้า.

ตอกหมัน
ก. ตอกลูกประสักกำกับให้กระดานเรือติดกับกงเป็นต้น.

ตอก ๒
ก. แตก. น. เรียกข้าวเปลือกข้าวเจ้าที่เอามาคั่วให้แตกบานเป็นดอกว่าข้าวตอก.

ต๊อก ๑
น. เรียกกลองเล็ก ๆ สําหรับเคาะจังหวะดังต๊อก ๆ ว่า กลองต๊อก.

ต๊อก ๒
น. ชื่อไก่ชนิด Numida meleagris ในวงศ์ Numididae ตัวสีเทาลายขาวเหนียงสีแดง มีถิ่นกําเนิดในทวีปแอฟริกา.

ต๊อก ๓, ต๊อก ๆ
ว. เสียงดังเช่นนั้น; อาการที่เดินเรื่อย ๆ ไปหรืออาการที่วิ่งไปวิ่งมาอย่างเด็กวิ่งเล่น เช่น เดินต๊อก ๆ วิ่งต๊อก ๆ.

ต๊อก ๓, ต๊อก ๆ
ว. เสียงดังเช่นนั้น; อาการที่เดินเรื่อย ๆ ไปหรืออาการที่วิ่งไปวิ่งมาอย่างเด็กวิ่งเล่น เช่น เดินต๊อก ๆ วิ่งต๊อก ๆ.

ต๊อกต๋อย
ว. ซอมซ่อ.

ต่อกร
[-กอน] (ปาก) ก. สู้กัน.

ตอง ๑
น. ใบไม้ขนาดใหญ่ใช้ห่อของได้ เช่น ตองกล้วย; เรียกไพ่ไทยชนิดหนึ่งโดยปรกติเล่นกัน ๖ ขา ว่า ไพ่ตอง, จํานวนไพ่ที่มีเหมือนกัน ๓ ใบเรียกว่า ตอง, ลักษณนามเรียกไพ่ที่เหมือนกัน ๓ ใบ เช่น ไพ่ตองหนึ่งไพ่ ๒ ตอง.

ตอง ๒
ดู สลาด.

ต้อง
ก. ถูก เช่น ต้องชะตา ต้องใจ; เป็นกริยาช่วยบอกความแน่ใจหรือบังคับ เช่นต้องกิน ต้องนอน ต้องทํา. น. เรียกต้นข้าวในนาที่โศกใบเหลืองไป ซึ่งถือกันว่าถูกผีกระทําว่า ข้าวต้อง.

ต้องกัน
ว. ตรงกัน, พ้องกัน, ถูกกัน.

ต้องคดี
(กฎ) ก. ถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้องในคดีอาญา.

ต้องใจ
ก. ชอบ, ถูกใจ.

ต้องตา
ก. ถูกตา. ว. น่าดู.

ต้องโทษ
ก. ถูกตัดสินให้ลงโทษในคดีอาญา.

ต้องธรณีสาร
ก. เป็นเสนียดจัญไร.

ต้องหา
ก. ถูกกล่าวหาในคดีอาญา.

ตองกราย
ดู กราย ๑.

ต้องการ
ก. อยากได้, ใคร่ได้, ประสงค์.

ตองตอย
ว. ซอมซ่อ (มักใช้แก่การแต่งกาย), กรองกรอย ก็ว่า; (โบ) แคระ, ไม่สมประกอบ,ไม่สมบูรณ์, (ใช้แก่ต้นไม้ที่ไม่เจริญสมอายุ).

ตองตึง
ดู พลวง ๒.

ต้องเต
น. ชื่อการเล่นของเด็กอย่างหนึ่ง, จ้องเต ก็ว่า.

ตองแตก
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Baliospermum montanum (Willd.) Muell. Arg. ในวงศ์Euphorbiaceae รากใช้ทํายาได้ แต่มีสารพิษอยู่ด้วย เมล็ดมีพิษ, ทนดีก็เรียก.

ต่องแต่ง
ว. อาการที่แขวนหรือห้อยแกว่งไปแกว่งมา, กระต่องกระแต่ง ก็ว่า.

ตองเปรียง
[-เปฺรียง] น. จองเปรียง คือพิธีอย่างหนึ่งของพราหมณ์ เป็นพิธีจุดโคมรับพระเจ้าทําในวันเพ็ญเดือน ๑๒. (สามดวง).

ต้องสู้
น. ชนชาติกะเหรี่ยงหรือยางพวกหนึ่ง.

ตองเหลือง
น. ชนชาติข่าพวกหนึ่ง, ผีตองเหลือง ก็เรียก.

ตอด ๑
ก. เอาปากงับกัดทึ้งโดยเร็วอย่างปลาตอด, โดยปริยายหมายถึงอาการเหน็บแนม เช่น พูดตอดเล็กตอดน้อย.

ตอด ๒
(กลอน) น. ต้นสลอด.

ตอด ๓
น. การบรรเลงดนตรีอย่างหนึ่ง ทําเสียงกระตุกสั้น ๆ สลับจังหวะทํานองเพลง, ลูกตอด ก็ว่า.

ตอดต่อ
น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).

ต่อต้าน
ก. ปะทะไว้, ต้านทานไว้, สู้รบป้องกันไว้.

ตอน
น. ห้วง, ชุด, ท่อน, ระยะ, วรรค; ส่วนหนึ่ง ๆ ที่แบ่งออกจากส่วนใหญ่ เช่นแม่นํ้าสายนี้แบ่งออกเป็น ๓ ตอน ถนนพหลโยธินตอนที่ผ่านดอนเมือง หนังสือเล่มนี้มี ๑๐ ตอน โขนแสดงตอนหนุมานเผาลงกา ขอให้มาตอนเช้า ตอนเหนือของประเทศไทย; วิธีขยายพันธุ์ต้นไม้แบบหนึ่ง ใช้มีดควั่นกิ่งและเลาะเปลือกออกแล้วเอาดินพอก ใช้ใบตองหรือกาบมะพร้าวหุ้ม มัดหัวท้ายไว้ เมื่อรากงอกดีแล้วตัดกิ่งออกจากต้นนำไปปลูก. ก. ขยายพันธุ์โดยวิธีการเช่นนั้น; ตัดหรือทําลายอวัยวะซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของการสืบพันธุ์เพื่อไม่ให้เกิดลูกเป็นต้น.

ต้อน
ก. สกัดกั้นให้ไปตามที่ต้องการ, ไล่ไปโดยวิธีกันไม่ให้แตกฝูง, เช่น ต้อนควายเข้าคอก, ดักหน้าดักหลัง เช่น รําต้อน, โดยปริยายหมายถึงกิริยาอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ต้อนเข้ามุม ต้อนให้ จนมุม. น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าตามริมฝั่งชนิดหนึ่งใช้เฝือกกั้นเป็นคอก ๓ ด้าน ด้านหนึ่งมีประตู เปิดปิดได้ในคอกสะด้วยกิ่งไม้เพื่อล่อให้ปลาเข้าอยู่, กะตํ้า ก็ว่า.

ต้อนรับ
ก. รับรอง, รับแขก.

ต้อนรับขับสู้
(สํา) ก. ต้อนรับอย่างแข็งขัน.

ต้อนหมูเข้าเล้า
(สํา) ก. บังคับคนที่ไม่มีทางสู้.

ตอบ
ก. ทําหรือพูดโต้ในทํานองเดียวกับที่มีผู้ทําหรือพูดมา เช่น ชกตอบ ตีตอบด่าตอบ เยี่ยมตอบ, กล่าวแก้ เช่น ตอบปัญหา, กล่าวเมื่อมีผู้ถาม เช่น ตอบคําถาม, แจ้งกลับไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง รู้ เช่น ตอบจดหมาย. ว. เรียกแก้มที่มีลักษณะยุบลึกเข้าไปว่า แก้มตอบ.

ตอบโต้
ก. โต้กลับไป, ตอบแทนการกระทําของฝ่ายตรงข้าม, แก้แค้น.

ตอบแทน
ก. ทําทดแทนแก่ผู้ทําก่อน, ให้ทดแทนแก่ผู้ให้ก่อน, เช่น ตอบแทนบุญคุณ,บางทีใช้สั้น ๆ ว่า ตอบ เช่น เลี้ยงตอบ.

ตอเบา
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นกระถิน. (ดู กระถิน).

ตอม
ก. กิริยาที่แมลงตัวเล็ก ๆ เช่นแมลงวันเป็นต้นมาเกาะหรือจับหรือบินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ, โดยปริยายหมายถึงกิริยาอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ผู้ชายตอมผู้หญิง.

ต่อม
น. เม็ดตุ่มที่ขึ้นตามตัว; (สรีร) อวัยวะของคนและสัตว์ ทําหน้าที่สร้างและหลั่งสารที่มีประโยชน์และมีโทษต่อร่างกาย มี ๒ ชนิด คือ ต่อมไร้ท่อ และ ต่อมมีท่อ.

ต่อมน้ำ ๑
น. ฟองอากาศที่ผุดขึ้นปุด ๆ เหนือนํ้า.

ต่อมโลหิต
น. เลือดระดูผู้หญิง.

ต๋อม
ว. เสียงอย่างของหนักขนาดเล็กตกลงไปในนํ้า, โดยปริยายหมายความว่าเงียบไป (ใช้แก่กริยาหาย ว่า หายต๋อม).

ต่อมน้ำ ๑
ดูใน ต่อม.

ต่อมน้ำ ๒
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์จิตรา มี ๑ ดวง, ดาวตาจระเข้ ดาวไต้ไฟ หรือ ดาวเสือก็เรียก.

ต่อย
ก. ชก เช่น ต่อยปาก, เอาของแข็งหรือของหนักตีหรือทุบให้ลิ ให้แตก ให้หลุดออกเช่น ต่อยหิน ต่อยมะพร้าว; ใช้เหล็กในที่ก้นแทงเอา เช่น ผึ้งต่อย มดตะนอยต่อย;โดยปริยายหมายความว่า ทําให้แตก เช่น เด็กเอาจานไปต่อยเสียแล้ว. น. ชื่อเพลงไทยจำพวกหนึ่ง มีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า ต่อย เช่น ต่อยมวย ต่อยรูป.

ต้อย ๑
ว. จ้อย, เตี้ย, เล็ก, น้อย, เช่น ไก่ต้อย.

ต้อย ๒, ต้อย ๆ
ว. หย่อย ๆ, ตามกันไปติด ๆ, ตามหลังไปติด ๆ, เช่น เดินตามต้อย ๆ.

ต้อย ๒, ต้อย ๆ
ว. หย่อย ๆ, ตามกันไปติด ๆ, ตามหลังไปติด ๆ, เช่น เดินตามต้อย ๆ.

ต้อยตริ่ง
[-ตะหฺริ่ง] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

ต้อยติ่ง
น. ชื่อไม้ล้มลุก ๒ ชนิดในวงศ์ Acanthaceae คือ ชนิด Hygrophila erectaHochr. ดอกเล็ก สีม่วงแดง เมล็ดใช้ทํายาพอกฝี และชนิด Ruellia tuberosaL. ดอกใหญ่ สีม่วงนํ้าเงิน, อังกาบฝรั่ง ก็เรียก.

ต้อยตีวิด
น. ชื่อนกชนิด Vanellus indicus ในวงศ์ Charadriidae ตัวขนาดนกเขาใหญ่หัวสีดําขนบริเวณหูสีขาว มีติ่งเนื้อสีแดงพาดทางด้านหน้าจากขอบตาหนึ่งไปอีกขอบตาหนึ่ง ปากยาว ขายาวสีเหลือง ตีนมี ๔ นิ้ว นิ้วหลังเป็นติ่งเล็กร้องเสียงแหลม 'แตแต้แว้ด' กินสัตว์ขนาดเล็ก วางไข่ในแอ่งตื้น ๆ บนพื้นดิน,กระต้อยตีวิด กระแตแต้แว้ด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก.

ต่อยหอย
ว. ฉอด ๆ, ไม่รู้จักหยุด, (ใช้แก่กริยาพูด) เช่น พูดเป็นต่อยหอย.

ตอแย
ก. ยั่วให้เกิดความรําคาญหรือให้โกรธ, สนใจ, (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่นอย่าไปตอแยด้วย.

ต่อแย้ง
ก. เกี่ยงกันไว้, สู้รบขัดขืนไว้.

ตอร์ปิโด
น. เครื่องกลจําพวกลูกระเบิดที่ปล่อยให้แล่นไปในนํ้า เพื่อทําลายที่หมายในการศึก, ลักษณนามว่า ลูก. (อ. torpedo).

ต่อไส้
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Allophylus cobbe (L.) Raeusch ในวงศ์ Sapindaceaeใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ ใช้ทํายาได้.

ตอแหล ๑
[-แหฺล] เป็นคําด่าคนที่พูดเท็จ (มักใช้แก่ผู้หญิง); ช่างพูดและแสดงกิริยาน่ารัก(ใช้เฉพาะเด็กที่สอนพูด).

ตอแหล ๒
[-แหฺล] ว. เรียกต้นไม้ที่ให้ผลเร็วผิดปรกติ เช่น มะเขือตอแหล.

ตะ
ก. ทา, ฉาบ, แตะ, กะไหล่ เช่น ตะทอง ว่า กะไหล่ทอง, ตะทองลาย ว่า กะไหล่ทองเป็นดวง ๆ, หรือ ตะถม เป็นต้น.

ตะกรน ๑
[-กฺรน] น. อุปกรณ์ของเครื่องทอผ้า ใช้อย่างกระสวย แต่เป็นกระบอกมีหลอดด้ายอยู่ข้างใน.

ตะกรน ๒
[-กฺรน] น. ขี้ตะกอนที่จับเกรอะอยู่ที่ก้นภาชนะ, กากโลหะที่หลอมแล้วติดอยู่ตามก้นเบ้า, ตะกรัน ก็ว่า.

ตะกรวย
[-กฺรวย] (โบ) น. กรวย เช่น สานตะกร้อตะกรวยครอบศีรษะ. (สามดวง).

ตะกร้อ
[-กฺร้อ] น. ลูกกลมสานด้วยหวายเป็นต้นเป็นตา ๆ สําหรับเตะ; เครื่องมือสอยผลไม้ มีด้ามยาว ทําด้วยไม้หวาย หรือไม้ไผ่เป็นซี่ รูปป่องยาวรีคล้ายกาบปลีตรงปากมีฟันสําหรับสอย; เครื่องสานยาชัน รูปคล้ายปุ้งกี๋ แต่เล็กกว่า ใช้วิดนํ้าเรือ, กร้อ ก็เรียก; เครื่องสานรูปทรงกระบอก สําหรับใส่ไว้ในกระถางยาดองและกะปิเป็นต้น เพื่อกั้นเนื้อ ให้แต่นํ้าซึมเข้า ข้างใน; เครื่องสานมีรูปคล้ายคลึงเช่นนั้น สําหรับสวมปากม้าหรือปากหมาเป็นต้น; (โบ) เครื่องดับไฟสานเป็นรูปตะกร้อ พันผ้าชุบนํ้า มีด้ามยาว สําหรับดับและคลึงลูกไฟที่มาติดหลังคา ผู้ดับนั่งบนอกไก่หลังคา, กระตร้อ ก็เรียก.

ตะกร่อม
[-กฺร่อม] น. เครื่องมือจับปูทะเล. (ดู กะกร่อม).

ตะกรัน
[-กฺรัน] ดู ตะกรน ๒.

ตะกรับ ๑
[-กฺรับ] น. ดินเผาหรือเหล็กเป็นแผ่นเจาะเป็นรู ๆ สําหรับรองถ่านเพื่อให้ลมเดินผ่านได้ และขี้เถ้าตกลงข้างล่าง (โดยมากใช้กับเตาอั้งโล่หรือเตาหม้อนํ้าเรือกลไฟเป็นต้น), รังผึ้ง ก็ว่า; เหล็กทําเป็นซี่ ๆ มีด้ามจับ สําหรับปิ้งปลาเป็นต้น.

ตะกรับ ๒
[-กฺรับ] น. ชื่อกกชนิด Cyperus procerus Rottb. ในวงศ์ Cyperaceaeลําต้นเป็นสามเหลี่ยม ใบยาวและแคบ ดอกสีนํ้าตาล.

ตะกรับ ๓
[-กฺรับ] น. (๑) ชื่อปลาทะเลหรือนํ้ากร่อยชนิด Scatophagus argus ในวงศ์Scatophagidae รูปร่างสั้น แบนข้างและกว้างมาก หัวทู่ ปากเล็ก หางมนเกล็ดเล็ก สากมือ สีพื้นลําตัวมี แตกต่างกันมากอาจเป็นสีเขียว เทาหรือนํ้าตาลครึ่งบนของลําตัวสีเข้มกว่าและมีแถบสีเทาเข้มหรือดํา พาดขวางหลายแนวและแตกเป็นจุดที่ด้านล่างหรือเป็นแต้มเป็นจุดทั่วตัว ครีบต่าง ๆ มีสีเหลืองอ่อนอมเทาอยู่ได้ทั้งในนํ้าจืดและทะเล, กระทะ หรือ เสือดาว ก็เรียก. (๒) ดู หมอช้างเหยียบ.

ตะกร้า
[-กฺร้า] น. ภาชนะสานโปร่งสําหรับใส่สิ่งของ มีรูปต่าง ๆ บางชนิดมีหูหิ้วบางชนิดไม่มี.

ตะกราม
[-กฺราม] น. ชื่อนกกระสาชนิด Leptoptilos dubius ในวงศ์ Ciconiidae เป็นนกกระสาที่ใหญ่ที่สุด ตัวสีเทา หัวสีแดงส้ม ตลอดหัวและลําคอไม่มีขน ปากใหญ่แข็งแรงปลายแหลมตรง ขายาว มีถุงลมสีส้มห้อยอยู่ด้านหน้าของลําคอและมีพู่ขนสีขาวรอบฐานคอ กินปลาและสัตว์นํ้าขนาดเล็ก.

ตะกรุด
[-กฺรุด] น. เครื่องรางอย่างหนึ่ง ทําด้วยโลหะหรือใบลานเป็นต้น โดยปรกติลงคาถาอาคม แล้วม้วนเป็นรูปกลมยาวและกลวง, กะตรุด ก็ว่า.

ตะกรุม ๑
[-กฺรุม] น. ชื่อนกกระสาชนิด Leptoptilos javanicus ในวงศ์ Ciconiidaeรูปร่างคล้ายนกตะกราม แต่ขนาดเล็กกว่า หัวและคอสีเหลือง ไม่มีถุงลมและพู่ขนสีขาว ที่คอ.

ตะกรุม ๒
[-กฺรุม] น. ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง ใช้ทํายาได้. (พจน. ๒๔๙๓).

ตะกรุมตะกราม
[-กฺรุม-กฺราม] ก. กิริยาที่ทําไปอย่างผลีผลาม ขาดการพินิจพิจารณาเนื่องในการบริโภค เป็นต้น.

ตะกละ, ตะกลาม
[-กฺละ, -กฺลาม] ว. มักกิน, กินไม่เลือก, เห็นแก่กิน, มักใช้รวมกันว่า ตะกละตะกลาม ก็มี, จะกละจะกลาม ก็ว่า, โดยปริยายหมายความว่า อยากได้มาก ๆ.

ตะกละ, ตะกลาม
[-กฺละ, -กฺลาม] ว. มักกิน, กินไม่เลือก, เห็นแก่กิน, มักใช้รวมกันว่า ตะกละตะกลาม ก็มี, จะกละจะกลาม ก็ว่า, โดยปริยายหมายความว่า อยากได้มาก ๆ.

ตะกวด
น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานชนิด Varanus bengalensis ในวงศ์ Varanidae ตัวสีนํ้าตาลเหลืองปากแหลม ลิ้นยาวแยกเป็น ๒ แฉก หางยาวใช้ฟาดเพื่อต่อสู้ป้องกันตัว อาศัยตามป่าโปร่งมากกว่าป่าทึบหากินตามพื้นดิน ขึ้นต้นไม้เก่งพาดตัวนอนผึ่งแดดตามกิ่งไม้, แลน หรือ จะกวด ก็เรียก.

ตะกอ ๑
น. ส่วนของเครื่องทอผ้าทําด้วยเส้นด้ายร้อยกับกรอบไม้ สําหรับแยกเส้นด้ายยืนให้ขึ้นลงเพื่อให้ขัดกับเส้นด้ายพุ่ง.

ตะกอ ๒
ว. หนุ่ม, รุ่น, มักใช้เข้าคู่กับคํา รุ่น และ หนุ่ม เป็น รุ่นตะกอ หนุ่มตะกอ, ใช้ว่าสะกอ ก็มี.

ตะกอน
น. สิ่งที่ละลายปนอยู่ในนํ้าหรือของเหลวอื่นแล้วตกจมลงนอนก้นภาชนะเป็นต้น; (ภูมิ) สารต่าง ๆ ที่ผุพังทําลายโดยทางวิธีกล ทางเคมี หรือทางพัฒนาการของชีวิตแล้วตกจมทับถมเนื่องจากการกระทําของนํ้า ลม หรือธารนํ้าแข็ง.

ตะกัง
น. ชื่อโรคลมชนิดหนึ่ง ตามตําราแพทย์แผนโบราณว่า ทําให้มีอาการปวดหัวเวลาเช้า ๆ ปวดกระบอกตา เมื่อเห็นแดดจะลืมตาไม่ขึ้น เรียกว่า ลมตะกัง,ปะกัง ก็ว่า.

ตะกั่ว
น. แร่จําพวกโลหะ มีลักษณะอ่อน ละลายตัวง่าย มีหลายชนิดด้วยกัน ได้แก่ตะกั่วเกรียบ คือ ตะกั่วกรอบ ตะกั่วนม คือ ตะกั่วอ่อน; (โบ) ดีบุก เช่น ตะกั่วทุ่งตะกั่วป่า (วิทยา) ธาตุลําดับที่ ๘๒ สัญลักษณ์ Pb เป็นโลหะสีขาวแกมนํ้าเงินลักษณะเป็นของแข็งเนื้ออ่อน หลอมละลายที่ ๓๒๗.๔?ซ. ใช้ประโยชน์ผสมกับโลหะอื่นให้เป็นโลหะเจือ สารประกอบของตะกั่วใช้ในอุตสาหกรรมสีทา ตะกั่วและสารประกอบของตะกั่วเป็นพิษต่อร่างกาย. (อ. lead).

ตะกั่วเกรียบ
น. ตะกั่วที่ประสมโลหะบางอย่างเพื่อให้แข็ง.

ตะกั่วแดง
น. สารประกอบประเภทออกไซด์ของตะกั่ว มีสูตร Pb3O4 ลักษณะเป็นผงละเอียดสีแดงเข้ม ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมทําสีทา และทําแก้ว, เสนก็เรียก. (อ. red lead, minium).

ตะกั่วตัด
ว. สีนกพิราบหรือสีเทาอมฟ้า.

ตะกาง
น. เครื่องดักจระเข้อย่างหนึ่ง มีเงี่ยง ๒ ข้างสำหรับผูกเหยื่อลอยน้ำไว้;เครื่องล่อใจ; สะกาง ก็เรียก.

ตะกาด ๑
น. ที่ดินซึ่งอยู่หลังหาดชายทะเลขึ้นไป แต่มีนํ้าเค็มซึมขึ้นไปถึงได้.

ตะกาด ๒
น. ชื่อกุ้งขนาดเล็กหลายชนิดในวงศ์ Penaeidae อันดับ Decapodaเช่น ชนิด Metapenaeus ensis พบในบริเวณนํ้ากร่อยและชายฝั่งทะเล, ชันกาด ก็เรียก.

ตะกาย
ก. ป่ายปีน เช่น แมวตะกายฝา หมาตะกายเจ้าของ.

ตะกาว
น. ขอสําหรับเกี่ยวเรือ.

ตะกุกตะกัก
ว. ติด ๆ ขัด ๆ, ไม่สะดวก, ไม่ราบรื่น, (มักใช้แก่การอ่านหรือพูด).

ตะกุย
ก. เอามือหรือเท้าเป็นต้นคุ้ยหรือข่วน.

ตะกุยตะกาย
ก. พยายามป่ายปีนให้พ้นอันตราย.

ตะกู
ดู กระทุ่ม ๑.

ตะกูด
น. หางเสือเรือ, จะกูด หรือ จังกูด ก็ว่า.

ตะเกียกตะกาย
ก. พยายามป่ายปีนไป, พยายามทุกทางเพื่อให้ประสบความสําเร็จ.

ตะเกียง ๑
น. เครื่องใช้สําหรับตามไฟ มีรูปต่าง ๆ บางชนิดมีหลอดบังลม, ลักษณนามว่า ดวง.

ตะเกียงแก๊ส
น. ตะเกียงที่ใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ทําปฏิกิริยากับนํ้าได้แก๊สอะเซทิลีนซึ่งจุดไฟติดให้ความสว่าง.

ตะเกียงเจ้าพายุ
น. ตะเกียงชนิดหนึ่ง เมื่อเผาไส้แล้วสูบลมให้ดันน้ำมันเป็นไอขึ้นไปเลี้ยงไส้ทำให้เกิดแสงสว่างนวลจ้า.

ตะเกียงรั้ว
น. ตะเกียงหิ้วที่มีลวดพันรอบครอบแก้วซึ่งครอบดวงไฟ.

ตะเกียงลาน
น. ตะเกียงชนิดไขลานให้ใบพัดหมุนเป่าลมไล่ควันและช่วยให้ไฟสว่างนวล.

ตะเกียง ๒
น. หน่อสับปะรดที่แตกออกจากโคนขั้วของผล, หน่อกล้วยไม้ประเภทหวายที่แตกออกจากข้อ.

ตะเกียบ
น. เครื่องใช้สําหรับคีบอาหารทําด้วยไม้หรืองาเป็นต้นเป็นคู่ ๆ; ชื่อเสาสั้นคู่หนึ่งที่ฝังลงดินสำหรับขนาบเสากลางซึ่งอยู่เหนือพื้นดินอย่างเสาดอกไม้พุ่ม เสาหงส์ เสาโคม เสาธง ให้ ตั้งตรงมีสลัก ๒ อัน เมื่อถอดสลักอันหนึ่งออกแล้วโน้มเสากลางลงมาได้; โดยปริยายใช้เรียก ของที่เป็นคู่สําหรับคีบเช่น ตะเกียบรถจักรยาน; ครีบคู่ที่อยู่ตรงอกปลา, ขาม้า ก็เรียก; เรียกขาคนที่ ลีบเล็กว่าขาตะเกียบ; ส่วนล่างของกระดูกเชิงกรานที่แตะพื้นในเวลานั่ง;กระดูกอ่อน ๒ อันที่ก้น ของสัตว์ปีกมีนก เป็นต้น.

ตะแก, ตะแก่
น. ตัวแก เช่น ตะแก่เสียจริตผิดแล้วเหวย. (สังข์ทอง).

ตะแก, ตะแก่
น. ตัวแก เช่น ตะแก่เสียจริตผิดแล้วเหวย. (สังข์ทอง).

ตะแกรง
[-แกฺรง] น. ภาชนะสานรูปแบน ขอบกลม มีตาห่าง สําหรับร่อนสิ่งของหรือช้อนกุ้งปลาเป็นต้น, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นเช่น ตะแกรงหน้าหัวรถจักร.

ตะโก ๑
น. ชื่อไม้ต้นหลายชนิดในสกุล Diospyros วงศ์ Ebenaceae เปลือกสีดําคลํ้า เช่น ตะโกสวน (D. malabarica Kostel.) ผลคล้ายมะพลับ ตะโกนา(D. rhodocalyx Kurz) ผลเล็ก ผล เปลือก และเนื้อไม้ใช้ทํายาได้.

ตะโก ๒
น. เสือ เช่น ทับตะโก ว่า ถิ่นของเสือ. (กะเหรี่ยง).

ตะโก้ ๑
น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งเท้ายายม่อมกวนเข้ากับนํ้าตาล ใส่แห้วหรือข้าวโพดเป็นต้นก็ได้ หยอดหน้าด้วยกะทิกวนกับแป้ง.

ตะโก้ ๒
น. ชื่อลมทะเลพัดจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มักมีในปลายฤดูฝน, ลมพัดหลวง ก็เรียก.

ตะโกก ๑
น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดกลางบางชนิดและบางสกุล ในวงศ์ Cyprinidaeหัวเสี้ยม ลําตัวยาวเรียว แบนข้างเล็กน้อย ครีบหลังมีก้านครีบตอนหน้าแข็ง ยาวคล้ายเงี่ยง พื้นลําตัวด้านหลังและ ครีบสีเทาอมฟ้าส่วนอื่นสีเงินที่สําคัญได้แก่ชนิดในสกุล Cyclocheilichthys เช่น ชนิด C. enoplos,C. dumeriliiสกุลอื่น ๆ เช่น ชนิด Cosmochilus harmandi,Albulichthys alburoides.

ตะโกก ๒
น. ไม้รูปโค้งปลายทั้ง ๒ ข้างงอขึ้นเล็กน้อย ใช้พาดคอวัวหรือคอควายสําหรับลากเลื่อน เป็นต้น, โกก คอม หรือ ตะโหงก ก็เรียก.

ตะโกขาว
ดู ล้อมปรวด.

ตะโกดำ
ดู กระดูกค่าง.

ตะโกน
ก. ออกเสียงดังกว่าปรกติเพื่อให้ได้ยิน.

ตะโกรง
[-โกฺรง] ก. ทะเยอทะยาน, อยากได้. ว. อาการวิ่งโทง ๆ; เต็มไปด้วยความอยาก, ตะกลาม, เช่น ลูกเมียแปรไปเป็นอื่นตื่นตะโกรง. (สุ. สอนเด็ก).

ตะโกรม
[-โกฺรม] น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ในสกุล Crassostrea วงศ์ Ostreidae ลักษณะเหมือนหอยนางรม แต่มีขนาดใหญ่ มีหลายชนิด เช่น ชนิด Crassostrea iredalei,C. belcheri, นางรมใหญ่ ก็เรียก.

ตะโกส้ม
ดู กระทุ่ม ๑.

ตะไกร ๑
[-ไกฺร] น. เครื่องมือสําหรับตัดโดยใช้หนีบ มี ๒ ขา, ลักษณนามว่า เล่ม,เขียนเป็น กรรไกร หรือ กรรไตร ก็มี.

ตะไกร ๒
[-ไกฺร] น. คําเรียกเหยี่ยวชนิดหนึ่งว่า เหยี่ยวตะไกร. (พจน. ๒๔๙๓).

ตะขบ
น. (๑) ชื่อไม้ต้นหลายชนิดในสกุล Flacourtia วงศ์ Flacourtiaceae เช่นตะขบไทย (F. rukam Zoll. et Moritzi) ต้นมีหนาม ผลกลม สุกสีม่วงแดงหรือแดงเข้ม รสหวาน รากใช้ทํายาได้. (๒) ชื่อไม้ต้นชนิด Muntingia calaburaL. ในวงศ์ Tiliaceae ต้นไม่มีหนาม ผลกลม เล็กกว่าตะขบไทย สุกสีม่วงแดงรสหวาน, ตะขบฝรั่ง ก็เรียก.

ตะขบฝรั่ง
ดู ตะขบ (๒).

ตะขอ
ดู ตาขอ ที่ ตา ๒.

ตะขาบ ๑
น. ชื่อสัตว์ที่มีลําตัวและขาเป็นปล้อง มีหลายวงศ์ หัวและลําตัวยาวแบนหรือค่อนข้างแบน มีจํานวนปล้อง ๑๕-๒๓ ปล้อง แต่ละปล้องมีขา ๑ คู่ไปจนถึงปล้องสุดท้ายหรือเกือบสุด ท้ายขามี ๕-๗ ปล้อง ทอดออกไป ด้านข้างของลําตัวทั้ง ๒ ข้าง มีเขี้ยวซึ่งเป็นขาคู่แรกบางชนิดมีนํ้าพิษ ทําให้ผู้ถูกกัดเจ็บปวด เช่น ตะขาบไฟ (Scolopendra morsitans) ในวงศ์Scolopendridae, กระแอบ หรือ จะขาบ ก็เรียก.

ตะขาบ ๒
น. ชื่อนกในวงศ์ Coraciidae ตัวป้อม หัวใหญ่ ปากใหญ่สั้นโค้ง เกาะอยู่ตามสายไฟและกิ่งไม้แห้งเพื่อคอยจ้องโฉบแมลงหรือสัตว์เล็ก ๆ ตามพื้นดิน อยู่ตามลําพัง ทํารังในโพรง ไม้' ในประเทศไทยมี ๒ ชนิด คือ ตะขาบทุ่ง (Coraciasbenghalensis) ตัวสีนํ้าตาลหัวและปีกสีฟ้า ปากสีดํา และตะขาบดง(Eurystomus orientalis) ตัวสีนํ้าเงินเข้มหรือเขียวอมน้ำเงินโดยตลอดปากสีแดง.

ตะขาบ ๓
น. เครื่องตีบอกจังหวะ; ไม้ไผ่ที่ผ่าขังปล้องแขวนไว้ตามยอดไม้สําหรับชักให้มีเสียงดังเพื่อไล่ค้างคาวเป็นต้น และที่พวกตลกลิเกละครเป็นต้นใช้ตีกันเล่น, จะขาบ ก็เรียก; ธงชนิดหนึ่งทําด้วยแผ่นผ้าเป็นชิ้น ๆ เย็บติดกันไปเป็นพืด มีไม้สอดระหว่างชิ้นทําให้มีลักษณะคล้ายตัวตะขาบ ขนาดกว้างยาวตามต้องการ มักแขวนไว้ยอดเสาหงส์ตามหน้าวัดเป็นพุทธบูชา.

ตะขิดตะขวง
ก. อาการที่ทําโดยไม่สนิทใจหรือไม่สะดวกใจเพราะกระดากอายเป็นต้น.

ตะเข้ ๑
(ปาก) น. จระเข้.

ตะเข้ ๒
น. ตัวไม้จากกลางจั่วบ้านตรงมายังชายคา พาดเป็นมุม ๔ มุม มีเฉพาะบ้านทรงปั้นหยาหรือทรงมนิลา; ไม้ยึดเสาเรือนหรือเสาเขื่อน.

ตะเข้ขบฟัน
น. เรียกข้อไม้ตะพดที่ซ้อนกันและมีตาขบกัน.

ตะเข็บ ๑
น. ชื่อสัตว์พวกเดียวกับตะขาบ แต่เรียกแยกโดยถือเอาพวกที่มีขนาดเล็กเช่น ยาวตํ่ากว่า ๕-๖ เซนติเมตรลงไป ลําตัวเล็ก มีจำนวนปล้อง ๓๑-๑๗๓ปล้องแต่ละปล้องมีขา ๑ คู่ และขายาวกว่าปล้องลําตัวมาก ที่แพร่หลายเช่น สกุล Geophilus ในวงศ์ Geophilidae, จะเข็บ หรือ ขี้เข็บ ก็เรียก.

ตะเข็บ ๒
น. ชื่อกุ้งทะเลขนาดเล็กหลายชนิดในสกุล Metapenaeus วงศ์Penaeidae ตัวแบน.

ตะเข็บ ๓
น. ชื่อไม้เถาชนิด Pothos scandens L. ในวงศ์ Araceae เกาะติดกับต้นไม้ใหญ่, หวายตะมอย ก็เรียก.

ตะเข็บ ๔
น. แนวผ้าหรือสิ่งอื่นตอนที่เย็บติดกัน, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ตะเข็บรอยต่อจังหวัด.

ตะเข็บไต่ขอน
น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง.

ตะเขิง
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง. (เงาะป่า).

ตะโขง
น. ชื่อจระเข้ชนิด Tomistoma schlegelii ในวงศ์ Crocodylidae มีขนาดใหญ่มากขนาดยาวได้ถึง ๔.๕ เมตร ตัวสีนํ้าตาลแดงมีลายสีนํ้าตาลเข้มปากเรียวยาวคล้ายปากปลา เข็มหางแบนใหญ่ใช้ว่ายนํ้า อาศัยตามป่าเลนชายนํ้ากร่อย ในประเทศไทยพบเฉพาะทางภาคใต้เท่านั้น, จระเข้ปากกระทุงเหว ก็เรียก.

ตะคร้อ
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Schleichera oleosa (Lour.) Okenในวงศ์ Sapindaceae ผลรสเปรี้ยวอมหวาน, สะคร้อ ก็เรียก.

ตะครอง
[-คฺรอง] น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Ziziphus cambodiana Pierreในวงศ์ Rhamnaceae กิ่งมีหนาม ผลกลม รสฝาด.

ตะครั่นตะครอ
ว. อาการครั่นเนื้อครั่นตัวสะบัดร้อนสะบัดหนาวเวลาเริ่มจะเป็นไข้หรือคล้ายจะเป็นไข้.

ตะคร้ำ
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Garuga pinnata Roxb. ในวงศ์ Burseraceaeดอกออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่ง ผลเล็ก เป็นร่องตามยาว.

ตะคริว, ตะคิว
น. อาการหดตัวของกล้ามเนื้อและค้างอยู่ ทําให้เกิดการเจ็บปวด.

ตะคริว, ตะคิว
น. อาการหดตัวของกล้ามเนื้อและค้างอยู่ ทําให้เกิดการเจ็บปวด.

ตะครุบ
ก. เอามือตะปบลงจับโดยเร็ว.

ตะครุบกบ
ก. หกล้มเอามือเท้าพื้น.

ตะคลับตะคล้าย
ก. คลับคล้าย. (ดึกดําบรรพ์).

ตะคอก
ก. ตวาด, ขู่เสียงดัง.

ตะคัน
น. เครื่องปั้นดินเผารูปคล้ายจาน สําหรับวางเทียนอบ หรือเผากํายานเมื่อเวลาอบนํ้าทํานํ้าอบไทยเป็นต้น หรือใช้ใส่นํ้ามันตามไฟต่างตะเกียง.(รูปภาพ ตะคัน)

ตะค้า
น. ชื่อหวายชนิด Calamus tigrinus Kurz ในวงศ์ Palmae ผิวเป็นมันเนื้อเหนียว ใช้ผูกสิ่งของ.

ตะค้าทอง
น. ชื่อหวายชนิด Calamus caesius Blume ในวงศ์ Palmae ผิวเป็นมันใช้จักสานทําภาชนะและเครื่องเรือนชั้นดี.

ตะคาก
น. แง่กระดูกเชิงกรานที่อยู่ใต้บั้นเอว, หัวตะคาก ก็เรียก.

ตะคาง
น. เม็ดผดที่เกิดขึ้นตามขาด้วยระคายต้นหญ้าหรือขนกระบือ, ระคาง ก็ว่า.

ตะค้าน
ดู สะค้าน.

ตะคุ่ม, ตะคุ่ม ๆ
ว. ที่เห็นเป็นเงาดํา ๆ เพราะอยู่ในที่หรือในระยะที่เห็นไม่ถนัด.

ตะคุ่ม, ตะคุ่ม ๆ
ว. ที่เห็นเป็นเงาดํา ๆ เพราะอยู่ในที่หรือในระยะที่เห็นไม่ถนัด.

ตะเครียว, ตะเคียว ๑
[-เคฺรียว] น. ถุงที่ถักด้วยด้ายหรือไหมเป็นตาโปร่งมีหูรูด.

ตะเครียว, ตะเคียว ๑
[-เคฺรียว] น. ถุงที่ถักด้วยด้ายหรือไหมเป็นตาโปร่งมีหูรูด.

ตะเคียว ๒
น. อาการที่ลูกบาศก์หรือลูกเต๋าเป็นต้นพิงตะแคงไม่ลงหน้าเรียบ.

ตะเคียน, ตะเคียนทอง
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Hopea odorata Roxb. ในวงศ์ Dipterocarpaceaeเนื้อไม้แข็ง ใช้เลื่อยเป็นกระดาน และขุดทําเรือ.

ตะเคียน, ตะเคียนทอง
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Hopea odorata Roxb. ในวงศ์ Dipterocarpaceaeเนื้อไม้แข็ง ใช้เลื่อยเป็นกระดาน และขุดทําเรือ.

ตะเคียนเผือก
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Homalium grandiflorum Benth. var.grandiflorum ในวงศ์ Flacourtiaceae มักขึ้นริมนํ้าและที่ชุ่มชื้นดอกคล้ายดอกพิกุล, ไก๊ หรือ พิกุลป่า ก็ เรียก.

ตะแคง
ก. เอาข้างลง เช่น นอนตะแคง, หันข้างเข้า เช่น ตะแคงตัวเข้าไป.

ตะไคร่
[-ไคฺร่] น. พืชสีเขียวที่เกิดติดอยู่ตามต้นไม้ บางทีก็เกิดในนํ้าและตามพื้นดินหรือกําแพง ที่ชุ่มชื้น.

ตะไคร้
[-ไคฺร้] น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Cymbopogon citratus (DC.) Stapf ในวงศ์ Gramineaeขึ้นเป็นกอ กลิ่นหอม ใช้ปรุงอาหารได้.

ตะไคร้แดง, ตะไคร้หอม
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Cymbopogon nardus (L.) Rendle ในวงศ์ Gramineaeต้นใหญ่กว่าตะไคร้ กาบและขอบใบสีแดง กลิ่นหอม.

ตะไคร้แดง, ตะไคร้หอม
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Cymbopogon nardus (L.) Rendle ในวงศ์ Gramineaeต้นใหญ่กว่าตะไคร้ กาบและขอบใบสีแดง กลิ่นหอม.

ตะไคร้น้ำ
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Homonoia riparia Lour. ในวงศ์ Euphorbiaceae ใบเรียวเล็ก มักขึ้นตามซอกหินในลําธารและริมนํ้า.

ตะไคร้บก
ดู สนุ่น ๑.

ตะไคร้หางนาค
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Rotula aquatica Lour. ในวงศ์ Ehretiaceae ขึ้นเป็นกอตามซอกหินริมลําธาร กิ่งเรียวกลมเหนียวมาก.

ตะเฆ่
น. เครื่องลากเข็นของหนัก รูปเตี้ย ๆ มีล้อ.

ตะแง้
น. เรียกแขนงของทะลายหมากหรือแขนงของรวงข้าว ว่า ตะแง้หมากตะแง้ข้าว, ระแง้ ก็เรียก.

ตะติน
(กลอน) ว. เตาะแตะ, ต้อย ๆ, บอกอาการเดิน เช่น แล่นตะตินยงงท่า.(ม. คําหลวง ชูชก).

ตะนอย
น. ชื่อมดหลายสกุลในวงศ์ Formicidae เช่น สกุล Diacamma, Leptogenys,Lobopeltaทุกชนิดมีอวัยวะสําหรับต่อยปล่อยนํ้าพิษทําให้เจ็บปวดได้ ที่พบทั่วไป คือ ชนิด D. rugosum ซึ่งมีลําตัวยาว ๑-๑.๒ เซนติเมตร สีดํา ทํารังอยู่เป็นฝูงตามกอหญ้า ใต้ก้อนหิน หรือใต้ ดินที่ชื้นต่าง ๆ.

ตะนาว ๑
น. ชื่อกระแจะเครื่องหอมชนิดหนึ่ง.

ตะนาว ๒
น. ชื่อเพลงไทยจำพวกหนึ่ง มีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า ตะนาว เช่น ตะนาวแปลง.

ตะบม
ว. รํ่าไป, ไม่หยุดหย่อน, เช่น เที่ยวตะบม.

ตะบอง
น. ไม้สําหรับถือ ใช้ตี โดยมากมีรูปกลม, ที่มีขนาดยาวประมาณ ๔ ศอกเรียกว่า ตะบองยาว ที่มีขนาดยาวประมาณ ๑ ศอก เรียกว่า ตะบองสั้น,กระบอง หรือ ตระบอง ก็ว่า.

ตะบองแดง
(โบ) น. ตะบองอาญาสิทธิ์ สำหรับถือไปเก็บสมุนไพรเพื่อทํายาของหลวง.

ตะบองกัน
น. ชื่อเพลงกลองชนิดหนึ่ง, กระบองกัน ก็ว่า.

ตะบองเพชร ๑
น. ใบตาลที่ขมวดปลายลงอักขระ สำหรับใช้ในพิธีตรุษและโกนจุก,กระบองเพชร ก็เรียก.

ตะบองเพชร ๒
ดู กระบองเพชร ๒.

ตะบอย
ว. อาการที่ทําอย่างชักช้ารํ่าไร.

ตะบัน ๑
น. เครื่องตําหมากของคนแก่ มีรูปคล้ายกระบอก โดยมากทําด้วยทองเหลืองมีลูกตะบัน สําหรับตําและมีดากอุดก้น. (เทียบ ข. ตฺบาล่). ก. ทิ่มหรือแทงกดลงไป, กระทุ้ง; (ปาก) ดึงดัน เช่น ตะบันเถียง. ว. คําประกอบกริยาหมายความว่า ไม่มียับยั้ง, เรื่อยไป, เช่น เที่ยวตะบัน เถียงตะบัน.(รูป ภาพ ตะบัน)

ตะบันน้ำกิน
(สำ) ว. แก่มากจนเคี้ยวของกินไม่ไหว.

ตะบันไฟ
น. ของอย่างหนึ่งรูปคล้ายตะบัน ทําด้วยเขาควายเป็นต้น มีลูกตะบันสําหรับตบลงไปในกระบอกโดยเร็วเพื่อให้เกิดไฟติดเชื้อที่ปลายลูกตะบันนั้น.(รูปภาพ ตะบันไฟ)

ตะบัน ๒
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Xylocarpus rumphii (Kostel.) Mabb. ในวงศ์Meliaceae ขึ้นตามโขดหินชายทะเล.

ตะบิ้ง
น. นาที่เป็นกระทงเล็ก ๆ, กระบิ้ง ก็เรียก.

ตะบิด
ก. บิด เช่น โพกผ้าพันตะบิดถือกริชกราย. (อิเหนา).

ตะบิดตะบอย
ว. แกล้งให้ชักช้า, ชักช้ารํ่าไร.

ตะบี้ตะบัน
(ปาก) ว. ซํ้า ๆ ซาก ๆ, ไม่รู้จักจบจักสิ้น, ไม่เปลี่ยนแปลง, เช่น เถียงตะบี้ตะบัน.

ตะบึง
ว. รีบเร่งไปไม่หยุดหย่อน เช่น ควบม้าตะบึงไป.

ตะบุ้ย, ตะบุ้ย ๆ
(ปาก) ว. อาการที่บอกส่ง ๆ ไปหรือทําให้พ้น ๆ ไป.

ตะบุ้ย, ตะบุ้ย ๆ
(ปาก) ว. อาการที่บอกส่ง ๆ ไปหรือทําให้พ้น ๆ ไป.

ตะบูน
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ในสกุล Xylocarpus วงศ์ Meliaceae ขึ้นตามป่าชายเลนและริมแม่นํ้าที่นํ้าเค็มขึ้นถึง มี ๒ ชนิด คือ ตะบูนขาว หรือ กระบูน (X. granatumKoenig) เปลือกสีนํ้าตาลแกมแดง ผลขนาดส้มโอ และ ตะบูนดํา [X. moluccensis(Lam.) M. Roem.] เปลือกสีนํ้าตาลแกมดํา ผลขนาดส้มเกลี้ยง.

ตะเบ็ง
ก. เบ่งเสียงออกให้ดังเกินสมควร.

ตะเบ็งมาน
ว. วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง ๒ ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ,ตะแบงมาน ก็ว่า.

ตะเบ๊ะ
(ปาก) ก. ทำความเคารพอย่างคนในเครื่องแบบ คือ ทำวันทยหัตถ์.

ตะแบก
น. ชื่อไม้ต้นหลายชนิดในสกุลLagerstroemia วงศ์ Lythraceae ผิวเปลือกเรียบล่อนเป็นสะเก็ด ดอกสีม่วง เช่น ตะแบกนา (L. floribunda Jack).

ตะแบง ๑
ว. อาการที่พูดหรือเถียงเฉไฉหรือดันไปข้าง ๆ คู ๆ.

ตะแบงมาน
ว. วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง ๒ ไขว้ไปผูกที่ ต้นคอ, ตะเบ็งมาน ก็ว่า.

ตะแบง ๒
ดู กราด ๔.

ตะโบม
ก. เล้าโลม, โอบกอด.

ตะไบ
น. เหล็กเครื่องมือใช้ถูไม้หรือโลหะอื่น ๆ ให้เกลี้ยงเกลาเป็นต้น มีหลายชนิดเช่น ตะไบท้องปลิง ตะไบหางหนู. ก. ถูด้วยตะไบ เช่น ตะไบเล็บ.

ตะไบเล็บ
น. อุปกรณ์แต่งเล็บมักทำด้วยโลหะ มีลักษณะแบนยาวที่ผิวหน้าทั้ง ๒ ด้านบั้งเป็นรอยหยาบ ๆ สำหรับถูเล็บ.

ตะปบ
ก. ตบด้วยอุ้งมือหรืออุ้งเท้าหน้า เช่น เสือตะปบ, ปบ ก็ว่า.

ตะปลิง
น. เหล็กที่ทำเป็นหมุดแหลมโค้งสำหรับตอกเพลาะกระดานยึดให้แน่นสนิทเช่น ตะปูตะปลิงยิงตรึงกระชับชิด. (ม. ร่ายยาว กุมาร), เขี้ยวตะขาบ ตัวปลิงหรือ ปลิง ก็เรียก.

ตะปัดตะป่อง
ว. สะบัดสะบิ้ง, แสนงอน, กระตุ้งกระติ้ง, ตุปัดตุป่อง ก็ใช้.

ตะปิ้ง
น. เครื่องปิดของลับของเด็กหญิง ทําด้วยเงิน ทอง หรือนาก เป็นต้น, กระจับปิ้งจะปิ้ง จับปิ้ง หรือ ตับปิ้ง ก็เรียก.

ตะปุ่มตะป่ำ
ว. นูนขึ้นเป็นปม ๆ, เป็นปุ่มเป็นปมขรุขระอย่างผิวมะกรูด, ปุ่มป่ำ ก็ว่า.

ตะปู
น. สิ่งทําด้วยโลหะ มีปลายแหลม หัวมนแบน ขนาดต่าง ๆ กัน สําหรับตรึงสิ่งอื่นให้แน่นโดยใช้ค้อนเป็นต้นตอกลงไป, ตาปู ก็เรียก.

ตะปูเข็ม
น. ตะปูที่มีขนาดเล็กมาก.

ตะปูควง
น. ตะปูที่มีเกลียว หัวเป็นร่องหรือเป็น ๔ แฉก ใช้ไขควงไข.

ตะปูหัวเห็ด
น. ตะปูที่มีหัวบานเหมือนดอกเห็ด สําหรับตอกสังกะสีเป็นต้น.

ตะพง
(แบบ) ว. ตะโพง เช่น แล้วตะพงพายรีบกลับไป. (นิ. เมืองเทศ).

ตะพด
น. ไม้ถืออย่างหนึ่งทําด้วยไม้รวกเป็นต้น ยาวประมาณ ๑ เมตร.

ตะพอง
น. ส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างศีรษะช้าง, กระพอง กะพอง หรือ ตระพอง ก็ว่า.

ตะพัก
น. ที่ราบใต้น้ำข้างตลิ่ง มีลักษณะเป็นขั้น ๆ แคบ ๆ ลดต่ำลง เกิดจากแผ่นดินสูงขึ้นหรือ ต่ำลงเป็นครั้งคราว หรือเกิดจากถูกคลื่นเซาะ อาจสูงหลายเมตรก็ได้;ตะกอนที่ทับถมในทะเล เป็นรูปขั้นบันได, ผาชันในทะเลที่ถูกคลื่นกัดเซาะขยายตัวออกไปจนเป็นลาน ซึ่งเรียกว่า ลานตะพักคลื่นเซาะ; โขดหินหรือไหล่เขาที่เป็นขั้น ๆ พอพักได้, ใช้ว่า กระพัก ก็มี, เช่น บ้างก็เป็นกระพัก กระเพิงกระพังพุ.(ม. ร่ายยาว กุมาร).

ตะพัง
น. แอ่ง, บ่อ, หนอง, กระพัง ตระพัง หรือ สะพัง ก็เรียก. (เทียบ ข. ตฺรพำง ว่าบ่อที่เกิด เอง).

ตะพัด ๑
ว. อาการที่เคลื่อนไหวเรื่อยไปอย่างรวดเร็วดุจกระแสนํ้าไหล, สะพัด ก็ว่า.

ตะพัด ๒
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Scleropages formosus ในวงศ์ Osteoglossidae หรือชนิดอื่นในสกุลเดียวกันที่พบในประเทศข้างเคียง เป็นปลาโบราณที่ยังมีพืชพันธุ์สืบมาจนถึงปัจจุบัน ลําตัวยาว แบนข้างตลอด แนวด้านข้างของสันหลังตรงโดยตลอดแนวสันท้องโค้ง ปากเชิดขึ้น ครีบหลังและครีบก้นอยู่ใกล้ครีบหางมาก ขอบหางกลมเกล็ดใหญ่ เส้นข้างตัวอยู่ใกล้แนวสันท้องพื้นลําตัวเป็นสีเงินอมเทาหรือสีฟ้า พบเฉพาะบริเวณแหล่งนํ้าเขตภูเขาในจังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง รวมทั้งบางจังหวัดในเขตภาคใต้ เช่นสุราษฎร์ธานี ขนาดยาวได้ถึง ๙๐ เซนติเมตร.

ตะพั้น
น. ชื่อโรคชนิดหนึ่ง มักเกิดแก่เด็กอ่อนหรือเด็กเล็ก ๆ มีอาการชัก มือเท้ากําตามตํารา แพทย์แผนโบราณว่ามักเกิดเพราะผิดอากาศเป็นต้น, สะพั้น ก็ว่า.

ตะพาก
น. ชื่อปลาตะเพียนขนาดกลางชนิด Puntius daruphani ในวงศ์ Cyprinidaeเกล็ดใหญ่สีเหลือง พบตามแม่นํ้าสายใหญ่ ๆ, กระพาก ก็เรียก.

ตะพาน
น. สิ่งปลูกสร้างที่ทําสําหรับข้ามแม่นํ้าลําคลองเป็นต้น บางทีทํายื่นลงไปในนํ้าสําหรับขึ้นลง, โดยปริยายหมายความว่า สื่อเชื่อมโยง, สะพาน ก็ว่า.

ตะพานช้าง
น. สะพานที่ทําแข็งแรงสําหรับให้ช้างข้ามในสมัยโบราณ.

ตะพานหนู
น. สะพานหนู.

ตะพาบ, ตะพาบน้ำ
น. ชื่อเต่านํ้าจืดกระดองอ่อนหลายสกุลในวงศ์ Trionychidae กระดองอ่อนนิ่มมีเชิงแผ่กว้าง ตีนเป็นแผ่นแบนคล้ายพาย หลายชนิดมีจมูกยื่นยาว ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ตะพาบ (Amyda cartilageneus)ม่านลาย (Chitra chitra), กริว กราว จราว จมูกหลอด หรือปลาฝา ก็เรียก.

ตะพาบ, ตะพาบน้ำ
น. ชื่อเต่านํ้าจืดกระดองอ่อนหลายสกุลในวงศ์ Trionychidae กระดองอ่อนนิ่มมีเชิงแผ่กว้าง ตีนเป็นแผ่นแบนคล้ายพาย หลายชนิดมีจมูกยื่นยาว ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ตะพาบ (Amyda cartilageneus)ม่านลาย (Chitra chitra), กริว กราว จราว จมูกหลอด หรือปลาฝา ก็เรียก.

ตะพาย
ก. แขวนบ่า, ห้อยเฉียงบ่า, เช่น ตะพายย่าม, สะพาย ก็ว่า; เรียกกิริยาที่เอาเชือกร้อยช่องจมูกวัวควายที่เจาะว่า สนตะพาย, ใช้โดยปริยายแก่คนว่า ถูกสนตะพาย หรือ ยอมให้เขาสนตะพาย หมายความว่าถูกบังคับให้ยอมทำตามด้วยความจำใจ ความหลง หรือความโง่เขลาเบาปัญญา;เรียกเชือกที่ร้อยจมูกวัวควายว่า สายตะพาย. น. ช่องจมูกวัวควายที่เจาะสําหรับร้อยเชือก; เรียกลายที่เป็นทางแต่จมูกขึ้นไปทั้ง ๒ ข้างแห่งนกกระทา.

ตะพายแล่ง
ว. ลักษณะที่ถูกฟันขาดเฉียงบ่า เรียกว่า ขาดตะพายแล่ง, สะพายแล่ง ก็ว่า.

ตะพึด
ว. ตะบึงไป, ไม่หยุดหย่อน, เช่น ขอตะพึด.

ตะพึดตะพือ
ว. รํ่าไป, เรื่อยไป, ดึงดันทําเรื่อยไป.

ตะพุ่น ๑
(โบ) น. พวกคนหลวงที่ถูกเกณฑ์ให้เกี่ยวหญ้าเลี้ยงช้าง.

ตะพุ่นหญ้าช้าง
(โบ) น. โทษอาญาหลวงสมัยโบราณ; คนที่ถูกลงโทษให้เกี่ยวหญ้าเลี้ยงช้าง.

ตะพุ่น ๒
ว. สีชนิดหนึ่งคล้ายสีครามจาง เรียกว่า สีตะพุ่น.

ตะเพรา
[-เพฺรา] น. ไม้ขอสําหรับเกี่ยวให้เรือเข้าหรือคํ้าไม่ให้เรือชนกัน เรียกว่า ขอตะเพรา;ลูกกลม ๆ ที่ถักด้วยหวายแล้วยัดด้วยกาบมะพร้าวเป็นต้น แขวนไว้ข้างเรือเพื่อกันกระแทกเรียกว่า ลูกตะเพรา.

ตะเพิง
น. เงื้อมเขาที่งอกงุ้มลงมา.

ตะเพิด
ก. ตวาดให้หนีไป, ร้องให้ตกใจหนีไป, ไล่ส่งไป, โบราณเขียนเป็น กระเพลิด ก็มี.

ตะเพิ่น
ว. พล่านไป, เจิ่นไป.

ตะเพียน
น. ชื่อปลานํ้าจืดบางชนิดของบางสกุลในวงศ์ Cyprinidae ส่วนใหญ่อยู่ในสกุลPuntius และ Cyclocheilichthys หนวดสั้น เกล็ดสีขาวเงินขอบเรียบ ที่มีลําตัวสั้นป้อม แบนข้าง เช่น ตะเพียนขาว (P. gonionotus) ตะเพียนทอง (P. altus)ตะเพียนหางแดง หรือ กระแห (P. schwanenfeldi) ส่วนที่มีลําตัวเรียวกว่า เช่นตะเพียนทราย(P. leiacanthus, C. apogon).

ตะเพียนทอง
ดู พิมพา.

ตะเพียนน้ำเค็ม
ดู โคก ๒.

ตะเพียนหางแดง
ดู กระแห, กระแหทอง.

ตะโพก
น. ส่วนของร่างกายเบื้องหลังถัดบั้นเอวลงไป มีเนื้อเป็นกระพุ้งทั้ง ๒ ข้าง,กล้ามเนื้อส่วนบนที่นูนขึ้นของโคนขาสัตว์สองเท้าหรือโคนขาหลังของสัตว์สี่เท้า, สะโพก ก็ว่า.

ตะโพกสุดเสียงสังข์
(สำ) น. เรียกตะโพกหญิงที่ผายออกมาก.

ตะโพง
ว. อาการวิ่งก้าวยาว ๆ หรือวิ่งอย่างกระโดด; โทง ๆ, โหย่ง ๆ, เช่น ก็จะทําคลุมโปง ตะโพงดัน. (ปกีรณําพจนาดถ์), วิ่งตะโพงกอดบาท. (นิทราชาคริต),ตะพง ก็ว่า.

ตะโพน
น. กลองสองหน้า รูปหัวสอบท้ายสอบกลางป่อง ขึงด้วยหนังทั้ง ๒ หน้า มีขารอง ตีด้วย ฝ่ามือ.

ตะเภา ๑
น. ชื่อเรือเดินทะเลชนิดหนึ่งแบบจีน ใช้แล่นด้วยใบ, สะเภา หรือ สําเภาก็เรียก เรียกลมชนิดหนึ่งพัดมาจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือในกลางฤดูร้อนว่า ลมตะเภา.

ตะเภาเดียวกัน
(สํา) น. พวกเดียวกัน, อย่างเดียวกัน.

ตะเภา ๒
น. ชื่อไก่ชนิดเดียวกับไก่บ้าน ตัวอ้วนป้อม เหนียงสั้นและกลม มีขนมากทั้งขนแข็งและขนอุยหลายสีมีหางสั้นและแผ่กว้างที่ฐาน เป็นไก่ที่บรรทุกมากับเรือสำเภาหรือเรือตะเภาจากประเทศจีน จึงเรียก ไก่ตะเภา.

ตะเภา ๓
น. ชื่อหนูชนิด Cavia porcellus ในวงศ์ Caviidae ลำตัวอ้วนป้อม ขนปุยหางสั้น มีหลายสี เช่น ขาว นํ้าตาล ดํา มีถิ่นกําเนิดในประเทศเปรู มักใช้ในการทดลองทางการแพทย์.

ตะเภา ๔
น. (๑) เรียกอ้อยพันธุ์ที่ลําโต ปล้องสั้น สีขาว เปราะ ว่า อ้อยตะเภา, อ้อยสําลีก็เรียก. (๒) ชื่อหมากพันธุ์ต้นเตี้ย.

ตะเภา ๕
น. ชื่อขันนํ้าชนิดหนึ่ง.

ตะใภ้
(ปาก) น. สะใภ้.

ตะม่อ
(ปาก) น. ตอม่อ.

ตะมอย ๑
น. ชื่อฝีชนิดหนึ่งขึ้นที่ปลายนิ้ว เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียก่อหนอง.

ตะมอย ๒
น. ชื่อหวายชนิดหนึ่ง ใช้ทํายาได้. (พจน. ๒๔๙๓).

ตะยองสะลา
น. งูบ้องตะลา.

ตะรัง
ก. ดั้นไป, เดาไป, ตะบึงไป, เช่น แล้วดําเนินเดินดุ่มสุ่มตะรัง. (คาวี).

ตะรังกะนู
น. เรียกของบางอย่างที่มาจากเมืองตะรังกะนู เช่น ส้มตะรังกะนู พิมเสนตะรังกะนู. (ปัจจุบัน คือ รัฐตรังกานูในประเทศมาเลเซีย).

ตะรังตังกวาง
น. ชื่อไม้เถาชนิด Cnesmone javanica Blume. ในวงศ์ Euphorbiaceae มีขนหยาบคลุมทั่วทั้งต้น ถูกเข้าจะคันและเป็นผื่นตามผิวหนัง.

ตะรังตังช้าง
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Dendrocnide sinuata (Blume) Chew ในวงศ์Urticaceae ใบใหญ่ ขอบจัก ถูกเข้าจะปวดคันและเป็นผื่นตามผิวหนัง.

ตะราง
น. ที่คุมขังนักโทษ.

ตะลอง
น. อัตราตวงของโบราณ มีพิกัดเท่ากับ ๔ กระชุก, และ ๔ ตะลอง เป็น ๑ เกวียน.

ตะลอน
(ปาก) ก. เที่ยวไปเรื่อย ๆ.

ตะล่อม ๑
ก. ทําให้รวมกันเข้ามาเป็นกอง, ทําให้กลมเข้า. ว. ลักษณะการพูดหว่านล้อมหรือรวบรัดให้เข้าสู่จุดหมายหรือเข้าประเด็น เช่น พูดตะล่อม.

ตะล่อมข้าว
น. ที่สําหรับใส่ข้าวเปลือกเป็นต้น ใช้ไม้ไผ่ซีกเล็ก ๆ มาขัดแตะทําเป็นวงล้อมรอบแล้วยาด้วยขี้ควาย ขนาดเล็กกว่ายุ้ง.

ตะล่อม ๒
น. อัตราตวงของโบราณ มีพิกัดเท่ากับ ๔ เกวียน, และ ๕ ตะล่อม เป็น ๑ ยุ้ง.

ตะล่อมป้อม
ว. กลม ๆ ป้อม ๆ.

ตะละ
(กลอน) ว. ดุจ, เหมือน, เช่น ลําต้นตะละคันฉัตร; แต่ละ เช่น ตะละคน.

ตะลาน ๑
น. ชื่องูชนิด Ptyas korros ในวงศ์ Colubridae ตัวยาวประมาณ ๑ เมตร ตาโตเลื้อยเร็ว ออกหากินเวลากลางวัน ส่วนมากจะหากินตามพื้นดิน ไม่มีพิษ,สิงตาโต หรือ ตาลาน ก็เรียก.

ตะลาน ๒
น. ชื่อมดหลายชนิดในวงศ์ Formicidae ตัวสีนํ้าตาลแดงคล้ายมดแดง ยาว๔-๕ มิลลิเมตร ขายาว วิ่งเร็ว ไม่มีพิษ ส่วนใหญ่เป็นชนิด Anoplolepsis longipes,ตาลาน หรือ ตะลีตะลาน ก็เรียก.

ตะลิงปลิง
[-ปฺลิง] น. ชื่อไม้ต้นชนิด Averrhoa bilimbi L. ในวงศ์ Oxalidaceae ใบคล้ายใบมะยม ผลยาวคล้ายมะดันแต่มีร่องตื้น ๆ รสเปรี้ยว.

ตะลิบ
ว. ลิบ, ไกล, เช่น ตะลิบหายไปไม่เห็นตัว. (ม. กาพย์ กุมารบรรพ).

ตะลีตะลาน ๑
ว. รีบร้อนลนลาน, ลุกลน.

ตะลีตะลาน ๒
ดู ตะลาน ๒.

ตะลึง
ก. อาการที่ชะงักงันนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งเพราะคาดไม่ถึง.

ตะลึงพรึงเพริด
ก. ตะลึงจนลืมตัว.

ตะลุง ๑
น. ชื่อมหรสพอย่างหนึ่ง ใช้หนังสลักเป็นรูปภาพขนาดเล็ก คีบด้วยไม้ตับอันเดียวเชิดภายในโรงให้แสงไฟส่องผ่านตัวหนังสร้างเงาให้ปรากฏบนจอผ้าขาวหน้าโรงใช้ปี่ กลอง และฆ้องคู่บรรเลงประกอบ ผู้เชิดเป็นผู้พากย์เรียกว่า หนังตะลุง; จังหวัดพัทลุง เช่น ชาตรีมีแต่ล้วนชาวตะลุง. (อิเหนา).

ตะลุง ๒
น. เรียกไม้ท่อนกลม หัวเสากลึงเป็นรูปหัวเม็ดทรงมัณฑ์ ปักเป็นหลักคู่หนึ่งสำหรับล่ามช้างหรือผูกช้างเครื่องยืนแท่น ว่า เสาตะลุง.

ตะลุ่ม
น. ภาชนะมีเชิงคล้ายพาน แต่ปากคลุ่ม สําหรับใส่ของ.

ตะลุ่มนก
ดู กําแพงเจ็ดชั้น ๒ (๒).

ตะลุมบอน
ก. รบประจัญบาน, ต่อสู้กันด้วยอาวุธอย่างชุลมุน, ต่อสู้กันอย่างชุลมุน.

ตะลุ่มโปง
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.

ตะลุมพอ
ดู หลุมพอ.

ตะลุมพุก ๑
น. ไม้ท่อนกลม ๆ มีด้ามคล้ายค้อน แต่ใหญ่กว่ามาก สําหรับตําข้าว; ไม้ท่อนขนาดเล็กที่มีด้ามสั้นตัวสั้น สําหรับทุบผ้าให้เรียบ, กระลุมพุก ก็ใช้.

ตะลุมพุก ๒
น. ชื่อปลาทะเลชนิด Tenualosa toli ในวงศ์ Clupeidae ที่ว่ายเข้านํ้าจืดเพื่อสืบพันธุ์ ลําตัว ยาวรี แบนข้างมาก ครีบหางเป็นแฉกลึก ท้องเป็นสันแหลมเกล็ดใหญ่ ขอบเรียบ เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อยพื้นลําตัวสีเงิน หลังสีนํ้าเงินอมเทา ขนาดยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร, กระลุมพุกก็เรียก.

ตะลุมพุก ๓
น. ชื่อไม้ต้นกึ่งไม้พุ่มชนิด Thamilnadia uliginosa (Retz.) Tirveng. et Sastreในวงศ์ Rubiaceae, กระลําพุก หรือ กระลุมพุก ก็เรียก.

ตะลุ่มอิด
ดู ไก่ไห้ (๑).

ตะลุย
ว. อาการที่ตีหรือบุกดะเข้าไปไม่รั้งรอ, อาการที่อ่านเรื่อยไปโดยไม่พินิจพิจารณา.

ตะเลง
น. มอญ.

ตะแลงแกง
น. ทางสี่แพร่ง, ต่อมาเลือนไปหมายถึงที่สําหรับฆ่านักโทษในสมัยโบราณ.

ตะโล้ดโป๊ด
น. ชื่อกลองสองหน้าชนิดหนึ่ง ยาวประมาณ ๗๘ เซนติเมตร ใช้ตีประกอบการฟ้อนและการเล่นพื้นเมืองทางภาคเหนือ, คู่กับ กลองแอว.

ตะไล ๒
น. ถ้วยกระเบื้องเล็ก ๆ ชนิดหนึ่ง สําหรับใส่ขนมแล้วนึ่งเป็นต้น เรียกว่า ถ้วยตะไล.

ตะไล ๓
(ถิ่น-ราชบุรี) น. ต้นคงคาเดือด. (ดู คงคาเดือด).

ตะวัน
น. ดวงอาทิตย์.

ตะวันขึ้น
ก. ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า, ตรงข้ามกับ ตะวันตก.

ตะวันตก
ก. ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า, ตรงข้ามกับ ตะวันขึ้น, ตะวันตกดิน ก็เรียก; เรียกทิศที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าว่า ทิศตะวันตก, ตรงข้ามกับ ทิศตะวันออก; เรียกลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออกในกลางฤดูฝนว่า ลมตะวันตก;เรียกประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรปและอเมริกาว่า ประเทศตะวันตก, เรียกประชาชนโดยเฉพาะพวกผิวขาว ตลอดจนวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศต่าง ๆในทวีปยุโรปและอเมริกา ว่า ชาวตะวันตก วัฒนธรรมตะวันตก เป็นต้น.

ตะวันยอแสง
ก. ลักษณะที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่ยังเห็นแสงตะวันจับขอบฟ้าเป็นสีแดงเข้ม.

ตะวันออก
ว. เรียกทิศที่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าว่า ทิศตะวันออก, ตรงข้ามกับทิศตะวันตก; เรียกลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกในปลายฤดูฝนว่า ลมตะวันออก; เรียกประชาชนที่อยู่ในทวีปเอเชีย ส่วนมากเป็นพวกผิวเหลือง ว่า ชาวตะวันออก.

ตะวันออกกลาง
น. กลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอินเดียและปากีสถาน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา, เดิมหมายรวมถึงประเทศอัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดียและพม่าด้วย.

ตะวันออกใกล้
น. กลุ่มประเทศในคาบสมุทรบอลข่านของทวีปยุโรปและในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ได้แก่ กรีซ ยูโกสลาเวีย โรมาเนีย แอลเบเนีย ตุรกีเลบานอน ซีเรีย อิสรา เอล จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และประเทศอื่น ๆ ในคาบสมุทรอาหรับ บางทีก็หมายรวมถึงอียิปต์และซู ดานด้วย.

ตะวันออกไกล
น. กลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันออกของทวีปเอเชีย ซึ่งอยู่ห่างไกลจากทวีปยุโรปมากคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มองโกเลีย และไซบีเรีย บางทีก็รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอ เชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ พม่า ไทย ลาวกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินโดนี เซียด้วย.

ตะวันอ้อมข้าว
ก. ลักษณะที่ดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้โคจรอ้อมลงสู่ขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยวข้าว.

ตะวาง
น. ชื่อหญ้าชนิดหนึ่งคล้ายต้นแขม ขึ้นตามทุ่งนา. (พจน. ๒๔๙๓).

ตะเวน
(ปาก) ก. ตระเวน.

ตะหนึ่งรัด
ว. เป็นใหญ่. (ช.).

ตะหลิว
น. เครื่องมือทําด้วยเหล็ก ใช้แซะหรือตักของที่ทอดหรือผัดในกระทะ. (เทียบจ. เตี้ยะ ว่า กระทะ + หลิว ว่า เครื่องแซะ, เครื่องตัก).

ตะหลุง
น. ไม้แก่นเจาะเป็นรูสําหรับฝังหัวดุมท้ายดุมสอดเพลาเพื่อไม่ให้เพลาแกว่ง.

ตะเหลนเป๋น
ว. ใช้ประกอบคํา สูง หรือ ยาว หมายความว่า สูงผิดส่วน ยาวผิดส่วน.

ตะเหลาะเปาะ
ว. กลมน่าดู, กะเหลาะเปาะ ก็ว่า.

ตะแหง่ว, ตะแหง่ว ๆ
ว. รบเร้าออดอ้อนเรื่อยไปจนน่ารําคาญ.

ตะแหง่ว, ตะแหง่ว ๆ
ว. รบเร้าออดอ้อนเรื่อยไปจนน่ารําคาญ.

ตะแหมะแขะ
[-แหฺมะ-] ว. ใช้ประกอบคํา เตี้ย หมายความว่า เตี้ยผิดส่วน.

ตะแหลนแป๋น
[-แหฺลน-] ว. ใช้ประกอบคํา แบน หมายความว่า แบนผิดส่วน.

ตะโหงก ๑
[-โหฺงก] น. เครื่องจองจําอย่างหนึ่ง ใช้ไม้ ๒ อันหนีบคออย่างคา.

ตะโหงก ๒
[-โหฺงก] น. โคนทางมะพร้าวแห้ง; สิ่งที่นูนโหนกขึ้นจากพื้นราบ เช่น หัวตะโหงกตอไม้; ก้อนเนื้อที่ต้นคอของสัตว์บางชนิดเช่นวัว, หนอก ก็ว่า.

ตะโหงก ๓
[-โหฺงก] น. ไม้รูปโค้งปลายทั้ง ๒ ข้างงอขึ้นเล็กน้อย ใช้พาดคอวัวหรือคอควายสําหรับลากเลื่อนเป็นต้น, โกก คอม หรือ ตะโกก ก็เรียก.

ตัก ๑
น. หน้าขาตอนเข่าถึงโคนขาในเวลานั่ง.

ตัก ๒
ก. เอาภาชนะช้อนสิ่งของขึ้นจากที่เดิม เช่น ตักนํ้า ตักแกง ตักดิน.

ตักตวง
ก. หาประโยชน์ใส่ตัว, กอบโกยมาเป็นของตนเมื่อมีโอกาส.

ตักน้ำรดหัวตอ
(สํา) ก. แนะนําพรํ่าสอนเท่าไรก็ไม่ได้ผล, ตักนํ้ารดหัวสาก ก็ว่า.

ตักน้ำรดหัวสาก
(สํา) ก. แนะนําพรํ่าสอนเท่าไรก็ไม่ได้ผล เช่น นํ้ารดหัวสาก สอนเด็กปากมาก เลี้ยงลูกใจแข็ง. (สุบิน กลอนสวด), ตักนํ้ารดหัวตอ ก็ว่า.

ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา
(สํา) ก. ให้รู้จักฐานะของตนและเจียมตัว.

ตักบาตร
ก. เอาของใส่บาตรพระ. (เทียบ ข. ฎาก่ ว่า วางลง).

ตักบาตรอย่าถามพระ
(สํา) ก. จะให้อะไรแก่ผู้ที่เต็มใจรับอยู่แล้ว ไม่ควรถาม.

ตักกะ
(แบบ) น. ตรรก, ความตรึก, ความคิด. (ป. ตกฺก).

ตักเตือน
ก. สั่งสอนให้รู้สํานึกตัว.

ตั๊กแตน
[ตั๊กกะ-] น. ชื่อแมลงหลายชนิดในหลายวงศ์ ลําตัวยาว มีขนาดต่าง ๆ กันอาจมีปีกหรือไม่มีก็ได้ พวกที่มีปีกจะมี ๒ คู่ คู่แรกค่อนข้างหนา ยาวและแคบคู่หลังบางและกว้างใหญ่ พับไปอยู่ใต้ปีกคู่แรกได้ปากเป็นชนิดกัดกิน อกมีลักษณะต่างกันมาก อาจกว้างใหญ่ แคบ ยาว หรือสั้นก็มี ขาอาจ เหมือนกันหมดหรือมีขาหน้าหรือขาหลังใหญ่กว่าคู่อื่น ๆ เช่น ตั๊กแตนผี (Aularchis miliaris)ในวงศ์ Acrididae ตั๊กแตนตําข้าว (เช่น ชนิด Hierodula membranaceus) ในวงศ์Mantidae ตั๊กแตนใบไม้ เช่น ชนิด (Phyllium pulcherifolium) ในวงศ์ Phasmidae.

ตักษณะ
(แบบ) น. เครื่องตัดและกรางสิ่งของ เช่น มีด พร้า บุ้ง ตะไบ; การตัด, การปอก,การทอน. (ส.).

ตักษณี
น. ผึ่ง, ขวาน. (ส.; ป. ตจฺฉนี).

ตักษัย
(กลอน; ตัดมาจาก ชีวิตักษัย) ก. สิ้นชีวิต, ตาย.

ตัง ๑
น. ยางไม้ที่ประสมกับสิ่งอื่น แล้วทําให้เหนียวสําหรับดักนกเป็นต้น.

ตัง ๒
ว. เสียงดังอย่างของหนัก ๆ ตกกระทบพื้นแข็ง.

ตั่ง
น. ที่สําหรับนั่ง ไม่มีพนัก อาจมีขาหรือไม่มีขาก็ได้.

ตั้ง
ก. ชูตัว, ชูตัวหรือทําให้ทรงตัวในลักษณะที่ไม่ใช่นอนหรือล้ม, เช่น ขนตั้งชันต้นข้าวเอนแล้วกลับตั้งขึ้น ตั้งขวด ตั้งตุ๊กตา; ทรง, ดํารง, เช่น ตั้งอยู่ในคลองธรรม ตั้งอยู่ในศีลในธรรม; ทําให้มีขึ้น, สร้างให้มีขึ้น, เช่น ตั้งตําแหน่งใหม่ ตั้งบ้านตั้งเรือน; ยกฐานะให้สูงขึ้น เช่น ตั้งพระราชาคณะ ตั้ง เปรียญ;กําหนด เช่น ตั้งราคา; วาง เช่น ตั้งสํารับ; วางซ้อนกันมาก ๆ เช่น ตั้งหนังสือเป็นกองสูง; เริ่ม, เริ่มมี, เช่น ตั้งครรภ์ ตั้งเค้า ตั้งท้อง. บ. คําแสดงความหมายว่า มาก หรือ นาน เช่น เสียตั้งชั่ง ไปตั้งปี. น. ลักษณนามเรียกของที่วางซ้อนกันมาก ๆ เช่น หนังสือตั้งหนึ่ง หนังสือ ๒ ตั้ง, ครั้ง เช่น มาลองกันดูสักตั้ง.

ตั้งกรม
ก. สถาปนาเจ้านายขึ้นทรงกรม.

ตั้งเข็ม, ตั้งเป้าหมาย
ก. ตั้งความมุ่งหมาย, กําหนดจุดมุ่งหมาย.

ตั้งเข็ม, ตั้งเป้าหมาย
ก. ตั้งความมุ่งหมาย, กําหนดจุดมุ่งหมาย.

ตั้งไข่
ก. สอนยืน (ใช้แก่เด็ก).

ตั้งเค้า
ก. เริ่มแสดงท่าทีให้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่น ฝนตั้งเค้า.

ตั้งแง่
ก. ทําชั้นเชิง, ไม่ตรงไปตรงมา, คอยหาเรื่องจับผิด.

ตั้งใจ, ตั้งอกตั้งใจ
ก. เอาใจจดใจจ่อ.

ตั้งใจ, ตั้งอกตั้งใจ
ก. เอาใจจดใจจ่อ.

ตั้งต้น
ก. เริ่มทํา, ขึ้นต้น.

ตั้งตัว
ก. ตั้งฐานะหรือตั้งหลักฐาน; ยกย่องตัว, สถาปนาตัว, เช่น ตั้งตัวเป็นหัวหน้าตั้งตัวเป็นใหญ่.

ตั้งตาคอย
ก. เฝ้าคอย.

ตั้งแต่
บ. นับจากเวลาหนึ่งหรือสถานที่หนึ่งเป็นต้นไป (มักใช้เข้าคู่กับคำ จนถึง หรือจนกระทั่ง).

ตั้งแต่ง
ก. ยกขึ้น, สถาปนา.

ตั้งโต๊ะ
ก. จัดโต๊ะอาหาร; จัดโต๊ะหมู่บูชา.

ตั้งท้อง
ว. เรียกข้าวที่มีรวงอ่อน ๆ ว่า ข้าวตั้งท้อง.

ตั้งท่า
ก. วางท่า; เตรียมตัวพร้อม, คอยทีอยู่.

ตั้งธาตุ
ก. จัดระบบการย่อยอาหารให้เป็นปรกติ.

ตั้งนาฬิกา
ก. เทียบนาฬิกาให้ตรงเวลา.

ตั้งนาฬิกาปลุก
ก. ตั้งเวลาให้นาฬิกาปลุกตามที่ต้องการ.

ตั้งหน้า, ตั้งหน้าตั้งตา
ก. มุ่งหน้า; ตั้งใจทํา, ทําอย่างจริงจัง, มุ่งมั่น.

ตั้งหน้า, ตั้งหน้าตั้งตา
ก. มุ่งหน้า; ตั้งใจทํา, ทําอย่างจริงจัง, มุ่งมั่น.

ตั้งหัวเรือ
ก. ทําให้เรืออยู่ในแนว ไม่ให้หัวเรือส่ายไปมา.

ตั้งอกตั้งใจ
ก. เอาใจจดจ่อ, ตั้งใจ ก็ว่า.

ตังเก
น. ชื่อเรือต่อชนิดหนึ่ง ใช้จับปลาตามชายฝั่งทะเล ทางด้านค่อนมาทางหัวเรือมีเก๋ง ๒ ชั้น ชั้นล่างเป็นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ ชั้นบนเป็นที่สําหรับผู้ควบคุมเรือใช้ดูทิศทาง มีเสากระโดง บนเสากระโดงมีแป้นกลมสําหรับคนขึ้นไปยืนสังเกตการณ์ เรียกว่า รังกา ด้านท้ายเรือมีที่สําหรับโรยอวน และด้านหัวเรือมีที่สําหรับกว้านอวน.

ตังฉ่าย
น. ผักดองแห้งแบบจีนชนิดหนึ่ง ใช้ปรุงอาหาร. (จ.).

ตังติด
ดู มวก.

ตังเม
น. นํ้าตาลหรือนํ้าอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียว, แตงเม ก็ว่า; โดยปริยายหมายความว่าตระหนี่.

ตังวาย
(กลอน; แผลงมาจาก ถวาย) ก. ให้, ถวาย. น. ของถวาย. (ข.).

ตังโอ๋
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Chrysanthemum coronarium L. ในวงศ์ Compositaeใบเล็กหนา กลิ่นหอม กินได้ เป็นพรรณไม้ต่างประเทศ, งาไซ ก็เรียก. (จ.).

ตัจฉก
[-ฉก] (แบบ) น. ช่างไม้. (ป.; ส. ตกฺษก).

ตัจฉนี
[-ฉะนี] (แบบ) น. ผึ่ง, ขวาน. (ป.; ส. ตกฺษณี).

ตัณฑุละ
[ตันดุละ] (แบบ) น. ข้าวสาร. (ป., ส.).

ตัณหักษัย
(แบบ) ว. ผู้สิ้นตัณหา เช่น แด่ท้าวผู้ตัณหักษัย. (ม. คําหลวง วนปเวสน์).(ป. ตณฺหา + ส. กฺษย).

ตัณหา
[ตันหา] น. ความทะยานอยาก, โดยทั่วไปใช้หมายถึงความใคร่ในกาม.(ป.; ส. ตฺฤษฺณา).

ตัด
ก. ทําให้ขาดด้วยของมีคม เช่น ตัดกระดาษ ตัดผ้า; ทอน เช่น ตัดเงินเดือน,ลัด เช่น เดิน ตัดทาง; ตัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งทําให้เป็นสิ่งสําเร็จรูป เช่น ตัดเสื้อตัดรองเท้า; โดยปริยายหมายถึง ลักษณะที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ตัดญาติตัดกิเลส.

ตัดกัน
ก. ขัดกัน, ไม่กินกัน, ไม่กลมกลืนกัน, (ใช้แก่สี); ตัดผ่านขวางกัน เช่น ถนนตัดกัน.

ตัดขาด
ก. เลิกติดต่อคบหากัน.

ตัดใจ
ก. ห้ามใจไม่ให้คิดในเหตุที่เกิดขึ้น.

ตัดช่องน้อยแต่พอตัว
(สํา) ก. เอาตัวรอดแต่ผู้เดียว.

ตัดช่องย่องเบา
(ปาก) ก. ลักลอบเข้าไปในบ้านเรือนของผู้อื่นเพื่อขโมยของ.

ตัดเชือก
(สํา) ก. ตัดความสัมพันธ์ ไม่ยอมให้ความช่วยเหลืออีกต่อไป.

ตัดญาติขาดมิตร
(สํา) ก. ตัดขาดจากกัน.

ตัดต้นไฟ
ก. ตัดสิ่งที่เป็นเหตุไม่ให้ลุกลามต่อเนื่องไป.

ตัดตอน
ก. แบ่งหรือตัดเอามาบางส่วน.

ตัดถนน
ก. สร้างถนน.

ตัดทอน
ก. ทำให้ลดลงหรือทำให้สั้นลง เช่น ตัดทอนอำนาจ.

ตัดทาง, ตัดหนทาง
ก. ทําให้หมดช่องทาง เช่น ตัดทางทํามาหากิน; ทําให้มีทาง เช่น ตัดทางพอให้ผ่านไปได้.

ตัดทาง, ตัดหนทาง
ก. ทําให้หมดช่องทาง เช่น ตัดทางทํามาหากิน; ทําให้มีทาง เช่น ตัดทางพอให้ผ่านไปได้.

ตัดบท
ก. พูดให้ยุติเรื่องกัน; แยกคําออก.

ตัดประเด็น
ก. ตัดข้อความสําคัญของเรื่องที่หยิบยกขึ้นพิจารณาออกเสียบ้าง.

ตัดเป็นตัดตาย
(สํา) ก. ตัดขาดจากกันอย่างเด็ดขาด.

ตัดพ้อ
ก. พูดต่อว่าด้วยความน้อยใจ, พ้อ หรือ ตัดพ้อต่อว่า ก็ใช้.

ตัดไพ่
ก. บ่งไพ่ที่สับไพ่ไว้แล้วออกเป็นกอง ๆ.

ตัดไฟต้นลม, ตัดไฟแต่ต้นลม, ตัดไฟหัวลม
(สํา) ก. ตัดต้นเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามต่อไป.

ตัดไฟต้นลม, ตัดไฟแต่ต้นลม, ตัดไฟหัวลม
(สํา) ก. ตัดต้นเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามต่อไป.

ตัดไฟต้นลม, ตัดไฟแต่ต้นลม, ตัดไฟหัวลม
(สํา) ก. ตัดต้นเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามต่อไป.

ตัดไม้ข่มนาม
ก. ทําพิธีทางไสยศาสตร์ก่อนออกสงคราม โดยหาไม้ที่มีชื่อเหมือนหรือสําเนียงคล้ายชื่อข้าศึกมาตัดให้ขาดเพื่อเอาชัย. น. เรียกพิธีกรรมอย่างนั้นหรือที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า พิธีตัดไม้ข่มนาม.

ตัดรอน
ก. ตัดขาด, ตัดไมตรี.

ตัดราคา
ก. ลดราคาให้ตํ่ากว่าคู่แข่งขัน.

ตัดรำคาญ
ก. ทำให้ความรำคาญหมดไป เช่น เขามาเคี่ยวเข็ญให้ซื้อของอยู่นานจนต้องซื้อเพื่อตัดรำคาญ, เสียรำคาญ ก็ว่า.

ตัดสิน
ก. ลงความเห็นชี้ขาด.

ตัดสินใจ
ก. ตกลงใจ.

ตัดเส้น
ก. แต่งเส้นริมภาพทําให้ดูเด่นชัดและเรียบร้อยขึ้น.

ตัดหน้า
ก. ชิงทําเสียก่อน; ผ่านหน้าในระยะกระชั้นชิด เช่น วิ่งตัดหน้ารถ.

ตัดหน้าฉาน
ก. เดินผ่านหน้าที่ประทับ.

ตัดหนามอย่าไว้หน่อ
(สํา) ก. ทําลายให้ถึงต้นตอ.

ตัดหัวคั่วแห้ง
(สำ) ก. ฆ่าให้ตายเพื่อให้หายแค้น.

ตัดหางปล่อยวัด
(สํา) ก. ตัดขาดไม่เกี่ยวข้อง ไม่เอาเป็นธุระอีกต่อไป.

ตัตว-
[ตัดตะวะ-] (แบบ) น. ความเป็นอย่างนั้น, ความเป็นจริง. (ส. ตตฺตฺว).

ตัตวศาสตร์
น. วิชาว่าด้วยความจริง. (ส. ตตฺตฺว + ศาสฺตฺร).

ตัถย์
[ตัด] (แบบ) น. ความเป็นอย่างนั้น, ความจริง. ว. เป็นอย่างนั้นจริง. (ส.).

ตัน ๑
ว. ไม่กลวง, ไม่ทะลุตลอด, เช่น คลองตัน ตรอกตัน ท่อตัน; โดยปริยายหมายความว่า ติด ขัด, ไม่มีทางออก, เช่น ตําแหน่งตัน, ไม่ปลอดโปร่งเช่น สมองตัน.

ตันคอหอย
(ปาก) ก. พูดไม่ออกด้วยความดีใจหรือเสียใจ.

ตันปัญญา
ก. จนปัญญา, คิดอะไรไม่ออก.

ตันอกตันใจ
ก. อึดอัดใจ, ตัดสินใจไม่ถูก.

ตัน ๒
น. มาตรานํ้าหนักและมาตราวัด มีหลายอัตราแล้วแต่วัตถุที่ใช้ คือ๑. เมตริกตัน มาตราชั่ง เท่ากับนํ้าหนัก ๑,๐๐๐ กิโลกรัม หรือ ๑๖ (เศษ๒ ส่วน ๓) หาบหลวง หรือเป็นมาตราวัดเท่ากับ ๑.๑๓ ลูกบาศก์เมตรหรือ ๔๐ ลูกบาศก์ฟุต. ๒. ตันระวางเรือ ถ้าคํานวณระวางบรรทุกสินค้าและห้องทั่วไปเรียก ตันกรอส, ถ้ารบคํานวณเฉพาะบรรทุกสินค้า เรียกตันเน็ต, และถ้าคํานวณนํ้าหนักทั้ง ลําเรือเช่นเรือเรียก ตันระวางขับน้ำ,ทั้ง ๓ นี้วัด ๑๐๐ ลูกบาศก์ฟุต เป็นตันหนึ่งเช่นเดียวกัน. ๓. ตัน ระวางบรรทุกอื่น ๆ ถ้าของหนักคิด ๑,๐๑๖.๐๔๗ กิโลกรัม เป็นตันหนึ่ง ถ้าเป็นของเบาคิดวัด ๑.๑๓ ลูกบาศก์ เมตร หรือ ๔๐ ลูกบาศก์ฟุต เป็นตันหนึ่ง.(อ. ton).

ตันตระ ๑
[-ตฺระ] (แบบ) น. ส่วนสําคัญ, หัวข้อ, คําสอน. (ส.).

ตันตระ ๒
[-ตฺระ] น. ลัทธิฮินดูยุคหลัง ว่าด้วยพิธีกรรมเพื่อบูชาพระศิวะและศักติของพระองค์; ชื่อคัมภีร์หนึ่งในลัทธิตันตระ.

ตันติ
(แบบ) น. แบบแผน; เชือก, เส้นด้าย, สายเชือก. (ป., ส.).

ตันติภาษา
น. ภาษาที่มีแบบแผน. (ส.; ป. ตนฺติภาสา).

ตันหยง
น. (๑) ดอกพิกุล. (จินดามณี). (๒) ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Caesalpinia coriaria(Jacq.) Willd. ในวงศ์ Leguminosae ดอกเล็ก สีขาว กลิ่นหอม.

ตันเหิม
(โบ; กลอน) ก. รื่นเริง, บันเทิงใจ.

ตับ ๑
น. อวัยวะประเภทต่อมของระบบทางเดินอาหารของคนและสัตว์ อยู่ในช่องท้อง ทําหน้าที่ทําลายพิษ สร้างนํ้าดีและโปรตีนบางชนิด เป็นต้น.

ตับแข็ง
น. ชื่อโรคเรื้อรังที่เกิดแก่ตับ ทําให้เนื้อเยื่อของตับหดตัวและมีจํานวนน้อยลงส่วนเนื้อเยื่อยึดต่อมีจํานวนมากขึ้นผิดปรกติ มักทําให้เกิดอาการบวมที่ท้องตาเหลือง ซึม หมดสติ และอาเจียนเป็นโลหิต.

ตับแลบ
(ปาก) ว. มีอาการเหนื่อยมาก เช่น วิ่งเสียจนตับแลบ.

ตับเหล็ก
น. ม้ามของหมู.

ตับอ่อน
น. อวัยวะประเภทต่อมของระบบทางเดินอาหารของคนและสัตว์อยู่ในช่องท้อง ทําหน้าที่สร้างและขับนํ้าย่อยอาหาร สร้างฮอร์โมน เช่น อินซูลิน.

ตับ ๒
น. ไม้สําหรับหนีบปลาหรือไก่เป็นต้นปิ้งไฟ; เรียกของที่ผูก ตั้ง หรือวางเรียงกันเป็นแถว เช่น ตับจาก ตับพลุ ตับลูกปืน; ลักษณนามเรียกของที่เรียงกันเป็นแถว เช่น ปลาย่างตับหนึ่ง ปลาย่าง ๒ ตับ.

ตับเพลง
น. เพลงที่นำมารวมขับร้องและบรรเลงติดต่อกัน ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่ในอัตราเดียวกันชุดหนึ่งบรรเลงประมาณ ๓-๑๐ เพลง เช่น ตับลาวเจริญศรี.

ตับเรื่อง
น. เพลงที่นำมารวมขับร้องและบรรเลงติดต่อกัน มีบทร้องที่เป็นเรื่องเดียวกันและดำเนินไปโดยลำดับ แต่อาจเป็นทำนองเพลงคนละอัตราก็ได้ เช่นตับนางลอย ตับนาคบาศ.

ตับเต่า
น. (๑) ชื่อไม้นํ้าชนิด Mimulus orbicularis Benth. ในวงศ์ Scrophulariaceaeใบกลม ดอกสีม่วงอ่อน ใบใช้เป็นผัก, ผักอีแปะ ก็เรียก. (๒) ชื่อไม้นํ้าชนิดHydrocharis dubia (Blume) Backer ในวงศ์ Hydrocharitaceae ลําต้นกลมดอกสีขาว ใบกินได้. (๓) ชื่อเห็ดหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Boletaceaeขึ้นตามพื้นดินใต้พุ่มไม้ยืนต้นหลายชนิด ดอกเห็ดใหญ่ สีนํ้าตาลเข้ม ด้านล่างมีรูสีเหลืองอมเขียวหม่นไปจนถึงสีนํ้าตาลอมเขียวหม่น โคนก้านใหญ่ กินได้.

ตับเต่าขาว
น. เห็ดตับเต่าขาว. [ดู จั่น ๕ (๒)].

ตับปิ้ง
น. เครื่องปิดของลับของเด็กหญิง ทําด้วยเงิน ทอง หรือนาก เป็นต้น, กระจับปิ้งจะปิ้ง จับปิ้ง หรือ ตะปิ้ง ก็เรียก.

ตับเป็ด ๑
น. ชื่อหินชนิดหนึ่งสีดํา เนื้อแข็ง, เรียกสีดําเจือแดงว่า สีตับเป็ด หรือ ดําตับเป็ด.

ตับเป็ด ๒
น. ชื่อมะม่วงพันธุ์หนึ่งของชนิด Mangifera indica L. ผลค่อนข้างแบนเนื้อแน่น.

ตัว ๑
น. รูป, ตน, ตนเอง, คําใช้เรียกแทนคน สัตว์ และสิ่งของบางอย่าง เช่น ตัวละครตัวหนังสือ; ลักษณนามใช้เรียกสัตว์และสิ่งของบางอย่าง เช่น ม้า ๕ ตัว ตะปู๓ ตัว เสื้อ ๒ ตัว; ใช้เรียกผู้ที่ตนพูดด้วยในฐานะคนเสมอกันที่สนิทกัน เช่นตัวจะไปไหม.

ตัวกลั่น
น. ผู้ที่เลือกสรรแล้ว.

ตัวกลาง
(วิทยา) น. สิ่งที่แสงหรือเสียงหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต้องเคลื่อนที่ผ่าน.

ตัวการ
น. ผู้ก่อเหตุ; (กฎ) ตามกฎหมายอาญา ตัวการหมายความถึงบุคคลตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป ซึ่งร่วมกระทำความผิดด้วยกัน; ตามกฎหมายแพ่งตัวการหมายความถึงบุคคลซึ่งมอบอำนาจโดยตรงหรือโดยปริยายให้บุคคลอีกคนหนึ่งทำการแทนตน.

ตัวเก็ง
น. ผู้ ตัว หรือสิ่งที่คาดหมายไว้อย่างมั่นใจ.

ตัวโค
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์อารทรา มี ๑ ดวง, ดาวตาสําเภา ดาวอทระ หรือดาวอัททา ก็เรียก.

ตัวใครตัวมัน
ว. ต่างคนต่างเอาตัวรอดแต่ลําพัง.

ตัวเงิน
น. เงินสด.

ตัวเงินตัวทอง
(ปาก) น. เหี้ย.

ตัวจักรใหญ่
(สํา) น. บุคคลซึ่งเป็นสมองหรือเป็นหัวหน้าในการดําเนินกิจการ.

ตัวจำนำ
น. ตัวแทนที่ให้อยู่เป็นประกันในความซื่อตรงมั่นคงของผู้เป็นหัวหน้าหรือประมุข.

ตัวเชิด
น. ผู้ที่ถูกใช้ให้ออกหน้าแทน.

ตัวดี
น. ตัวสําคัญ, ตัวต้นเหตุ, (มักใช้ในเชิงประชด).

ตัวต่อตัว
น. หนึ่งต่อหนึ่ง (มักใช้ในการต่อสู้).

ตัวตั้ง ๑
(ปาก) น. คําตั้ง.

ตัวตั้งตัวตี
น. ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทํากิจกรรมต่าง ๆ, ผู้ที่ตั้งตัวเป็นหัวหน้าในการทํางานอย่างออกหน้าออกตา.

ตัวตายตัวแทน
(สํา) น. ผู้ที่รับช่วงทํางานติดต่อกันไปไม่ขาดตอน.

ตัวเต็ง
น. ตัวที่มีนํ้าหนักในการคาดหมายว่าจะชนะมากกว่าตัวอื่น ๆ.

ตัวถัง
น. ส่วนของรถยนต์ที่ใช้รับน้ำหนักบรรทุก มี ๒ ประเภท คือ ตัวถังแบบมีโครงแชสซีและตัวถังแบบไม่มีโครงแชสซี.

ตัวแทน
(กฎ) น. บุคคลผู้มีอํานาจทําการแทนบุคคลอื่น; ชื่อสัญญาซึ่งให้บุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ตัวแทน มีอํานาจทําการแทนบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าตัวการ และตัวแทนตกลงจะทําการนั้น.

ตัวแทนค้าต่าง
(กฎ) น. บุคคลซึ่งในทางค้าขาย ทําการซื้อ หรือขายทรัพย์สินหรือรับจัดทํากิจการค้าอย่างอื่นในนามของตนเองต่างตัวการ.

ตัวแทนช่วง
(กฎ) น. บุคคลซึ่งได้รับแต่งตั้งจากตัวแทนอีกต่อหนึ่งให้กระทําการแทนตัวการ.

ตัวแทนเชิด
(กฎ) น. ตัวแทนที่ไม่ได้รับแต่งตั้งจากตัวการโดยตรง แต่ถูกตัวการเชิดให้เป็นตัวแทนของตน หรือตัวการรู้แล้วยอมให้ตัวแทนเชิดตัวเองออกแสดงเป็นตัวแทน.

ตัวนาง
น. ผู้แสดงละครรําหรือระบํา เข้าเครื่องละครรํา ใช้ลีลาท่ารําแบบหญิง,นางเอกในเรื่องลิเก ละคร.

ตัวนำ
(ฟิสิกส์) น. สารที่กระแสไฟฟ้าหรือความร้อนผ่านไปได้ง่าย.

ตัวประกอบ ๑
น. ผู้แสดงบทบาทไม่สําคัญในภาพยนตร์ ละคร เป็นต้น เพียงประกอบบทบาทของตัวเอกเท่านั้น.

ตัวประกัน
น. บุคคลที่ถูกยึดหน่วงตัวไว้เพื่อใช้ต่อรอง.

ตัวปลิง
น. เหล็กที่ทำเป็นหมุดแหลมโค้งสำหรับตอกเพลาะกระดานยึดให้แน่นสนิท,เขี้ยวตะขาบ ตะปลิง หรือ ปลิง ก็เรียก.

ตัวเป็นเกลียว
(สํา) ว. อาการที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งมากจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน;แสดงกิริยาท่าทางด้วยความรู้สึกรุนแรง เช่น ครั้นได้ข่าวผัวตัวเป็นเกลียว.(ไกรทอง).

ตัวเปล่า
ว. ยังไม่มีครอบครัว เช่น ฉันยังตัวเปล่าอยู่, ตัวเปล่าเล่าเปลือย ก็ว่า, ลําพังตัวไม่ได้มีอะไรมาด้วย เช่น มาตัวเปล่า เดินตัวเปล่า.

ตัวเปล่าเล่าเปลือย
ว. ยังไม่มีครอบครัว เช่น เธอไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยนะ, ตัวเปล่า ก็ว่า,ไร้ญาติขาดมิตร เช่น เขาเป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือย.

ตัวผู้
น. เพศผู้ (ใช้เฉพาะสัตว์และพืชบางชนิด) เช่น แมวตัวผู้; เรียกสิ่งของบางอย่างที่มีรูปแหลมยาว เช่น เกลือตัวผู้, เรียกสิ่งที่มีเดือยสําหรับสอด เช่น กระเบื้องตัวผู้นอตตัวผู้, เรียกต้นไม้ที่ไม่มีผลตลอดไป เช่น มะละกอตัวผู้.

ตัวพระ
น. ผู้แสดงละครรําหรือระบํา เข้าเครื่องละครรํา ใช้ลีลาท่ารําแบบชาย,พระเอกในเรื่องลิเก ละคร.

ตัวพิมพ์
น. ตัวอักษรที่หล่อด้วยตะกั่วใช้เรียงพิมพ์ มีหลายชนิด เช่น ตัวโป้ง ตัวฝรั่งเศส;เรียกตัวพิมพ์ใหญ่ในภาษาอังกฤษ.

ตัวเมีย
น. เพศเมีย (ใช้เฉพาะสัตว์และพืชบางชนิด) เช่น แมวตัวเมีย; เรียกสิ่งของบางอย่างที่มีรูหรือขอรับให้สิ่งอื่นเกาะหรือสอดเข้าได้ เช่น กระเบื้องตัวเมียนอตตัวเมีย.

ตัวเมือง
น. ย่านใจกลางเมือง มักมีแม่นํ้าหรือกําแพงล้อมรอบ.

ตัวไม้
น. ไม้ที่แต่งไว้เพื่อคุมกันเข้าเป็นเรือนเป็นต้น.

ตัวยืน
น. ผู้ที่ถูกกําหนดให้เป็นตัวหลัก สําหรับให้คนอื่นมาเป็นคู่ชิงตําแหน่ง(ใช้แก่กีฬา); ผู้ที่เป็นหลักในการงานอย่างใดอย่างหนึ่ง, ตัวยืนโรง หรือตัวยืนพื้น ก็ว่า.

ตัวร้อน
น. อาการของร่างกายที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปรกติ.

ตัวละคร
(วรรณ) น. ผู้มีบทบาทในวรรณกรรมประเภทละคร นวนิยายเรื่องสั้นและเรื่องแต่งประเภทต่าง ๆ.

ตัวสะกด
น. พยัญชนะท้ายคําหรือพยางค์ที่ทําหน้าที่บังคับเสียงให้เป็นไปตามมาตราต่าง ๆ เช่น น เป็นตัวสะกดในมาตรากน.

ตัวสำคัญ
(ปาก) น. ตัวร้าย เช่น เด็กคนนี้แหละตัวสำคัญนัก ชอบรังแกเพื่อน.

ตัวหนังสือ
น. สัญลักษณ์แทนเสียงหรือคําพูด.

ตัวอย่าง
น. สิ่งที่นํามาอ้างเพื่อแสดงให้เห็นลักษณะที่เป็นส่วนรวมทั้งหมด เช่นยกตัวอย่าง. ว. ที่แสดงแบบอย่างหรือคุณภาพเป็นต้นแทนส่วนทั้งหมดของสิ่งนั้น ๆ เช่น ของตัวอย่าง, ที่ทําให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น ครูตัวอย่างนาตัวอย่าง.

ตัวเอ้
น. หัวโจก.

ตัวเอก
น. ผู้ที่มีบทบาทเด่นในเรื่องลิเก ละคร เป็นต้น.

ตัว ๒
(คณิต) น. เรียกเลขในวิธีทําว่า ตัว เช่น ตัวบวก ตัวลบ ตัวคูณ ตัวหาร.

ตัวคูณร่วมน้อย
น. จํานวนเต็มบวกที่มีค่าน้อยที่สุดซึ่งนําไปหารด้วยจํานวนเต็มบวกอื่น ๆตั้งแต่ ๒ จํานวนขึ้นไป แล้วจะได้ผลลัพธ์ลงตัวพอดี เช่น ๗๐ เป็นตัวคูณร่วมน้อยของ ๑๔ และ ๓๕, ใช้อักษรย่อว่า ค.ร.น.

ตัวตั้ง ๒
น. จํานวนเลขที่ตั้งไว้ก่อนสําหรับบวกลบคูณหาร.

ตัวประกอบ ๒
น. จํานวนที่เมื่อคูณกันแล้วทําให้เกิดอีกจํานวนหนึ่ง เช่น ๒ x ๓ = ๖ ๒และ ๓ ต่างเป็นตัวประกอบของ ๖.

ตัวแปร
น. จํานวนจริงหรือจํานวนเชิงซ้อนที่มีค่าได้หลาย ๆ ค่าในช่วงหรือเซตที่กําหนดให้. (อ. variable).

ตัวเลข
น. สัญลักษณ์ที่ใช้แทนจํานวนจริง เช่น ๑๒ 53 VIII. (อ. numeral).

ตัวหารร่วมมาก
น. จํานวนเต็มบวกที่มีค่ามากที่สุดซึ่งนําไปหารจํานวนเต็มบวกอื่น ๆตั้งแต่ ๒ จํานวนขึ้นไปได้ลงตัวพอดี เช่น ๗ เป็นตัวหารร่วมมากของ๑๔ และ ๓๕, ใช้อักษรย่อว่า ห.ร.ม.

ตั๋ว
น. บัตรบางอย่างที่แสดงสิทธิของผู้ใช้ เช่น ตั๋วรถ ตั๋วหนัง. (จ.).

ตั๋วเงิน
(กฎ) น. หนังสือตราสารซึ่งสั่งให้จ่ายเงินหรือสัญญาว่าจะจ่ายเงินตามกฎหมาย มี ๓ ประเภท คือ ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน และเช็ค.

ตั๋วเงินคลัง
น. ตั๋วเงินซึ่งออกโดยกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นหลักฐานการกู้เงินระยะสั้นของรัฐบาล.

ตั๋วเงินจ่าย
(บัญชี) น. ตั๋วแลกเงินของฝ่ายลูกหนี้ที่ต้องใช้เงินตามสัญญาลงบัญชีในช่องหนี้สิน.

ตั๋วเงินรับ
(บัญชี) น. ตั๋วแลกเงินของฝ่ายเจ้าหนี้ที่จะได้รับเงินตามสัญญาลงบัญชีในช่องทรัพย์สิน.

ตั๋วรูปพรรณ
(กฎ) น. เอกสารแสดงตำหนิรูปพรรณสัตว์พาหนะ.

ตั๋วแลกเงิน
(กฎ) น. หนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้สั่งจ่ายสั่งบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้จ่าย ให้ใช้เงินจํานวนหนึ่งแก่บุคคลคนหนึ่งหรือให้ใช้ตามคําสั่งของบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับเงิน.

ตั๋วสัญญาใช้เงิน
(กฎ) น. หนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ออกตั๋วให้คํามั่นสัญญาว่าจะใช้เงินจํานวนหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือใช้ให้ตามคําสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับเงิน.

ตัวจี๊ด
น. ชื่อพยาธิชนิด Gnathostoma spinigerum ในวงศ์ Gnathostomatidaeลําตัวสีแดง ยาว ๑๐-๕๐ มิลลิเมตร ตัวเต็มวัยพบในกระเพาะของสุนัขแมว และเสือ ตัวอ่อนพบในปลา ไก่ กบ หรือสัตว์เลื้อยคลาน ติดต่อถึงคนได้เมื่อกินสัตว์เหล่านี้ที่ยังดิบซึ่งมีตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้อยู่ ตัวอ่อนเมื่ออยู่ในคนสามารถเคลื่อนตัวไปตามเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ได้อาจเป็นตุ่มนูนขึ้นมาตามผิวหนังและปวดบวม, หนอนด้น ก็เรียก.

ตัวตืด
น. ชื่อพยาธิในชั้น Cestoda ตัวแบนเป็นปล้องเรียงต่อกันเป็นแถบยาว หัวมีอวัยวะใช้เกาะยึด ถัดจากหัวเป็นคอซึ่งเป็นส่วนที่สร้างปล้องออกมาเรื่อย ๆบางชนิดมีเพียง ๒-๓ ปล้อง บางชนิดมีถึง ๑,๐๐๐ ปล้อง ปล้องท้ายสุดเกิดก่อนปล้องถัดจากคอเกิดหลังสุด แต่ละปล้องมีอวัยวะทั้งเพศผู้และเพศเมียรวมอยู่ด้วยกัน มักอาศัยดูดอาหารในลําไส้ของมนุษย์และสัตว์มีกระดูกสันหลังทําให้เป็นโรคโลหิตจาง ถ้ามีจํานวนมากจะไปกั้นทางเดินอาหาร ทําให้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีหลายชนิดและหลายวงศ์ เช่น ชนิด Taenia solium ซึ่งตัวอ่อนเรียก เม็ดสาคู อยู่ในเนื้อหมู ชนิด T. saginata ซึ่งตัวอ่อนอยู่ในเนื้อวัว,ทั้ง ๒ ชนิดอยู่ในวงศ์ Taeniidae และเป็นพยาธิในลําไส้เล็กของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด.

ตั้วโผ
น. หัวหน้าคณะมหรสพ มีละคร งิ้ว เป็นต้น, โต้โผ ก็เรียก. (จ.).

ตั้วสิว
ก. ซ่อมแซม เช่น ต้องตั้วสิวสําเภาเอาเข้าอู่. (จ.).

ตั้วเหี่ย
น. ตําแหน่งหัวหน้าอั้งยี่, อั้งยี่. (จ.).

ตา ๑
น. พ่อของแม่, ผัวของยาย, ชายที่เป็นญาติชั้นเดียวกับพ่อของแม่หรือที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับตา, (ปาก) คําเรียกชายสูงอายุที่ตนไม่ค่อยเคารพนับถือเช่น ตาเถร ตาแก่ หรือเรียกชายรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างเป็นกันเอง เช่น ตาเกิ้น ตาโย่ง หรือเรียกเด็กชายที่ตนเอ็นดูรักใคร่ เช่นตาหนู.

ตาทวด
น. พ่อของตาหรือของยาย.

ตามีตามา, ตาสีตาสา
(สํา) น. ชาวบ้านทั่ว ๆ ไป.

ตามีตามา, ตาสีตาสา
(สํา) น. ชาวบ้านทั่ว ๆ ไป.

ตา ๒
น. ส่วนหนึ่งของร่างกายคนและสัตว์ ทําหน้าที่เป็นเครื่องดูรูป; ส่วนหนึ่งของต้นไม้ตรงที่แตกกิ่ง, รอยของต้นไม้ตรงที่เคยแตกกิ่ง; ช่องที่เกิดจากการถัก สาน หรือลากเส้นผ่านกัน เช่น ตาร่างแห ตาตะแกรง ตาตาราง;คราว เช่น ตานี้ ถึงตาฉันบ้างละนะ; เรียกลายที่เป็นตาตามรูปต่าง ๆตามลักษณะของสิ่งของ เช่น ตาสมุก ตาราชวัติ ตาเมล็ดงา ตาเม็ดบัวตาหมากรุก.

ตากบ ๑
ว. มีลักษณะคล้ายตากบ ใช้เปรียบข้าวที่หุงดิบ ๆ สุก ๆ, ตากบตาเขียดก็เรียก.

ตากบตาเขียด
ว. มีลักษณะคล้ายตากบ ใช้เปรียบข้าวที่หุงดิบ ๆ สุก ๆ, ตากบ ก็เรียก.

ตากล้อง
(ปาก) น. ผู้ทําหน้าที่ถ่ายภาพ.

ตากลับ
ว. ลักษณะที่ตาเหลือกขึ้นจนไม่แลเห็นตาดํา; ลักษณะที่สายตาคนมีอายุกลับเห็นชัดเจนขึ้น.

ตากล้า
น. พื้นดินที่ยกเป็นคันแบ่งเป็นช่อง ๆ สําหรับตกกล้า, ตาตกกล้า ก็ว่า.

ตากุ้ง
ว. สีเหมือนตาของกุ้ง, สีม่วงอมเทา.

ตาโก้ง
น. ชื่อผ้าชนิดหนึ่งที่ทอเป็นตาโต ๆ.

ตาไก่
น. ชื่อเครื่องหมายชนิดหนึ่ง มีรูปคล้ายตาไก่ ดังนี้ ๏ ในหนังสือเก่าสําหรับเขียนขึ้นต้นวรรคหรือต้นบรรทัด, ฟองมัน ก็เรียก; โลหะที่ทําเป็นรูใช้เลี่ยมรูผ้าหรือรูหนังเพื่อกันช่องสึก, ถ้าขนาดใหญ่เรียกว่า ตางัว.

ตาขวาง
ว. เริ่มแสดงอาการคลั่ง; ขุ่นเคือง, ไม่พอใจ.

ตาขอ
น. ไม้หรือเหล็กที่งอ ๆ สําหรับชัก เกี่ยว แขวน หรือสับ, ขอ หรือ ตะขอ ก็ว่า.

ตาข่าย
น. เครื่องดักสัตว์มีนกหรือกระต่ายเป็นต้น ถักเป็นตาร่างแห, เรียกลวดหรือด้ายที่ถักเป็นตา ๆ อย่างข่ายว่า ลวดตาข่าย ฯลฯ.

ตาขาว
ว. แสดงอาการขลาดกลัว.

ตาขุ่นตาเขียว
ว. แสดงอาการโกรธจัด, ตาเขียว ก็ว่า.

ตาเข
น. ตาเหล่น้อย.

ตาเขียว
ว. แสดงอาการโกรธจัด, ตาขุ่นตาเขียว ก็ว่า.

ตาแข็ง
ว. ไม่ง่วง, ไม่กะพริบง่าย.

ตาคม
น. ตาที่มีลักษณะอย่างของมีคม อาจบาดหรือแทงใจได้.

ตาค้าง
ว. อาการที่ตาเหลือกขึ้นและไม่กลับลงมาตามเดิม, อาการที่นอนหลับหรือตายลืมตา, อาการที่ตาไม่กะพริบ.

ตางัว ๑
น. ชื่อโคมชนิดหนึ่ง; โลหะที่ทําเป็นรูใช้เลี่ยมรูผ้าหรือรูหนังเพื่อกันช่องสึก,ถ้าขนาดเล็กเรียกว่า ตาไก่.

ตาจระเข้
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์จิตรา มี ๑ ดวง, ดาวไต้ไฟ ดาวเสือ หรือ ดาวต่อมนํ้าก็เรียก; ตาคนที่มีรูปยาวเหมือนตาของจระเข้.

ตาเจ้าชู้
(สำ) น. ตาที่แสดงอาการกรุ้มกริ่มเป็นเชิงทอดไมตรีในทางชู้สาว.

ตาชั่ง
น. เครื่องชั่งสําหรับชั่งสิ่งของต่าง ๆ มีหลายชนิด เช่น ตราชู ชั่งจีน ชั่งสปริง.

ตาแดง
น. โรคเยื่อหุ้มลูกตาอักเสบ.

ตาตกกล้า
น. ตากล้า.

ตาตั๊กแตน ๑
ว. มีลักษณะที่ใสแจ๋ว.

ตาตั้ง
ว. อาการที่ตาแข็งและเหลือกในเวลาชัก.

ตาตาราง
น. ช่องสี่เหลี่ยมที่เกิดจากเส้นขนานในแนวยืนกับแนวนอนตัดกัน, ตารางก็ว่า.

ตาตี่
น. ตาที่หนังตาบนตกลงมาจนเกือบปิด ทําให้เบิกตากว้างไม่ได้.

ตาตุ่ม ๑
น. อวัยวะส่วนที่เป็นปุ่มกลม ๆ ที่ข้อเท้าทั้ง ๒ ข้าง.

ตาเต็ง
น. เครื่องชั่งหรือตาชั่งขนาดเล็กชนิดหนึ่ง มีถาดห้อยอยู่ทางหัวคันที่เป็นไม้หรืองาช้าง มีตุ้มถ่วงห้อยเลื่อนไปมาตามคันได้ เดิมใช้สําหรับชั่งทอง เงินเพชร และพลอย, เต็ง ก็เรียก. (เทียบ จ. เต็ง).

ตาโต ๑
(สํา) ว. อาการที่ตาเบิกกว้างเพราะอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น, แสดงอาการอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น, ตาพอง ตาลุก หรือ ตาลุกตาชัน ก็ว่า.

ตาถั่ว
น. ตาที่มีจุดขาวมัว ๆ อยู่กลางตาดํา ทําให้มองไม่ค่อยเห็น, โดยปริยายหมายความว่า เซ่อ เช่น ของวางอยู่ตรงหน้า ไม่เห็นก็ตาถั่วแล้ว.

ตาทัพ
น. ทางที่กองทัพเดิน ซึ่งเปรียบด้วยตาหรือแต้มหมากรุก.

ตาทิพย์
น. ตาที่สามารถดูอะไรเห็นได้หมด.

ตานกแก้ว
น. อวัยวะส่วนที่เป็นปุ่มกลมที่ข้อมือทั้ง ๒ ข้าง.

ตาน้ำ
น. ทางนํ้าใต้ดินที่มีนํ้าไหลไม่ขาดสาย.

ตาบอด
น. ตามืด, ตามองไม่เห็น, โดยปริยายหมายถึงหลงผิดไปชั่วคราว ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก เช่น เพราะความรักเลยทำให้เขาตาบอดไปชั่วระยะหนึ่ง.

ตาบอดคลำช้าง
(สํา) น. คนที่รู้อะไรด้านเดียวหรือนัยเดียวแล้วเข้าใจว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างนั้น.

ตาบอดได้แว่น
(สํา) น. ผู้ที่ได้สิ่งซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่ตน มักพูดเข้าคู่กับ หัวล้านได้หวีเป็น หัวล้านได้หวี ตาบอดได้แว่น.

ตาบอดตาใส
น. ตาบอดอย่างที่ตาดูเหมือนเป็นปรกติ แต่มองไม่เห็น.

ตาบอดสอดตาเห็น
(สํา) อวดรู้ในเรื่องที่ตนไม่รู้.

ตาบอดสี
น. ตาที่มองเห็นสีผิดไปจากสีที่เป็นจริง เนื่องจากประสาทตาที่รับรู้สีพิการหรือเจริญไม่เต็มที่.

ตาปลา
น. เนื้อซึ่งด้านเป็นไตแข็งคล้ายตาของปลา มักเป็นที่ฝ่าเท้าหรือนิ้วเท้า.

ตาปลาดุก
น. ตาที่มีลักษณะเล็กเรียว.

ตาปู
น. ตะปู.

ตาเป็นมัน
(สํา) ว. อาการที่จับตามองจ้องดูสิ่งที่ต้องใจอย่างจดจ่อ.

ตาเป็นสับปะรด
(สํา) ว. มีพรรคพวกที่คอยสอดส่องเหตุการณ์ให้อยู่รอบข้าง.

ตาโป่ง
น. ตาหมากรุกที่เดินผิดกติกา โดยเดินทแยง ๔๕ องศาไป ๓ ตาตาราง(มักใช้แก่การเดินหมากม้าในหมากรุกไทย).

ตาฝาด
ว. เห็นผิดพลาดไป, เห็นคลาดเคลื่อนไปจากของเดิม.

ตาพร่า
ว. อาการที่เห็นไม่ชัดเจน.

ตาพอง ๑
น. ตาที่มีลักษณะโป่งโตขึ้นมา. (สํา) ว. อาการที่ตาเบิกกว้างเพราะอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น, แสดงอาการอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น, ตาโต ตาลุกหรือ ตาลุกตาชัน ก็ว่า.

ตาโพลง
ว. เบิกตากว้าง เช่น ตกใจลืมตาโพลง.

ตาฟาง
น. ตาที่มองอะไรเห็นไม่ชัดเจน.

ตาฟางไก่
น. ตาที่มองเห็นเฉพาะในเวลากลางวัน ในเวลากลางคืนมองอะไรไม่เห็น.

ตาเฟื้องตาสลึง
(สํา) น. ตาที่แสดงอาการว่าชอบพอรักใคร่ เป็นการทอดไมตรีในทางชู้สาว (มักใช้แก่หญิงสาว).

ตามด
น. รูเล็ก ๆ ที่นํ้าซึมออกได้อย่างรูรั่วตามก้นหม้อเป็นต้น.

ตาแมว
น. ชื่อชันชนิดหนึ่ง เรียกว่า ชันตาแมว; คดที่ได้จากตาแมว; แก้วมีค่าชนิดหนึ่ง เรียกว่าเพชรตาแมว; แก้วสะท้อนแสงชนิดหนึ่งที่ฝังไว้กลางถนนเป็นระยะ ๆ.

ตาไม่มีแวว
(สำ) ว. ไม่รู้จักของดี เช่น เขาเป็นคนตาไม่มีแวว มีของดีมาให้เลือกยังไม่ยอมเลือก.

ตาราง
น. ช่องสี่เหลี่ยมที่เกิดจากเส้นขนานในแนวยืนกับแนวนอนตัดกัน,ตาตาราง ก็ว่า; ใช้เป็นคํานําหน้าคํามาตราวัดที่เป็นหน่วยมาตรฐานหมายความว่า สี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น ตารางวา หมายความว่าวาสี่เหลี่ยมจัตุรัส.

ตารางสอน
น. ตารางที่บรรจุรายการสอนว่า วันใด เวลาใด สอนวิชาใด.

ตารางเหลี่ยม
(เลิก) น. ชื่อมาตราวัดพื้นผิวที่เป็นหน่วยมาตรฐาน คือพื้นที่กําหนดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น ๑ เมตรตารางเหลี่ยม เท่ากับ กว้าง๑ เมตร ยาว๑ เมตร หรือ ๑ ตารางเมตร.

ตาร้าย
น. เรียกผู้ที่มองดูคนอื่นแล้วถือว่าให้โทษแก่คนนั้น, ดูร้าย ก็ว่า; ที่เดือดร้อนในคําว่า เข้าตาร้าย.

ตาริ้ว
น. แถวซึ่งตั้งเป็น ๒ แถวหรือ ๔ แถวขนานกัน เช่นแถวกระบวนแห่เป็นต้น.

ตาเริด
ว. อาการที่นอนตาค้างหรือนอนไม่หลับ.

ตาลม
น. โรคตาชนิดหนึ่ง.

ตาลอ
น. ตาถั่ว.

ตาลอย
ว. อาการที่ตาเหม่อ.

ตาลาย
ว. อาการที่มองเห็นอะไรไม่ชัดพร่าลายไปหมด.

ตาลีตาเหลือก
ว. อาการรีบร้อนลนลาน, ตื่นกลัว, ตาเหลือก ก็ว่า.

ตาลุก ๑
ก. ลืมตาโพลงด้วยความสนใจ.

ตาลุก ๒, ตาลุกตาชัน
(สํา) ว. อาการที่ตาเบิกกว้างเพราะอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น,แสดงอาการอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น, ตาโต หรือ ตาพอง ก็ว่า.

ตาลุก ๒, ตาลุกตาชัน
(สํา) ว. อาการที่ตาเบิกกว้างเพราะอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น,แสดงอาการอยากได้เมื่อเห็นเงินเป็นต้น, ตาโต หรือ ตาพอง ก็ว่า.

ตาเล็กตาน้อย
(สํา) น. ตาที่แสดงอาการว่าชอบพอรักใคร่ เป็นการทอดไมตรีในทางชู้สาว (มักใช้แก่หญิงสาว), ตาที่แสดงอาการประจบประแจง (มักใช้แก่เด็ก).

ตาวาว
ว. อาการที่จ้องมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความอยากได้ เช่น พอเห็นเงินก็ตาวาว เด็ก ๆ พอเห็นขนมก็ตาวาว.

ตาแวว
ว. ลักษณะของตาที่มีความไวในการเห็นภัยอันตราย, หวาดระแวง,เช่น กาตาแววเห็นธนู.

ตาไว
ว. ลักษณะของตาที่เห็นอะไรได้รวดเร็ว เช่น ตาไวเห็นคนรู้จักนั่งรถผ่านไป.

ตาโศก
น. ตามีลักษณะเศร้า ชวนให้เอ็นดู.

ตาสว่าง
น. ตามองเห็นชัดเจน เช่น พอหยอดยา ก็รู้สึกว่าตาสว่างขึ้น; ไม่ง่วงงัวเงีย,นอนต่อไม่หลับ, เช่น ตื่นขึ้นมากลางดึก เลยตาสว่าง นอนไม่หลับอีก;โดยปริยายหมายความว่า เข้าใจแล้วว่าอะไรผิดอะไรถูก เช่น เดี๋ยวนี้เขาตาสว่างแล้วหลังจากที่หลงผิดมานาน.

ตาส่อน
น. ตาที่มีตาดําอยู่ไม่ตรงที่ตามปรกติ.

ตาสำเภา
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์อารทรา มี ๑ ดวง, ดาวตัวโค ดาวอทระ หรือดาวอัททา ก็เรียก.

ตาหมากรุก
น. เรียกผ้าที่มีลายเป็นตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบกระดานหมากรุกมีสีสลับกันว่าผ้าตาหมากรุก.

ตาหยี
น. ตาหรี่, ตาที่แคบเรียวเล็ก.

ตาหวาน ๑
น. ตาที่มีแววน่ารักน่าเอ็นดู, ตาแสดงอาการน่ารักน่าเอ็นดู.

ตาเหล่
น. ตาเขมาก.

ตาเหลือก ๑
น. ตาที่เบิกกว้าง, ตาที่กลอกขึ้น, ตาที่ตาดําอยู่ข้างบน. ว. อาการรีบร้อนลนลาน, ตื่นกลัว, ตาลีตาเหลือก ก็ว่า.

ตาเหลือกตาพอง
ว. อาการที่แสดงความตกใจกลัว.

ตาแหลม
ว. มีสายตาคมพอมองเห็นก็รู้ทันทีว่าอะไรดีมีคุณค่า เช่น ผู้หญิงคนนี้ตาแหลมพอมองเห็นหัวแหวนก็รู้ว่าเป็นเพชรแท้หรือเพชรเทียม.

ตาแหวน
น. ตาที่มีเส้นสีขาวหรือสีงาช้างเวียนรอบขอบตาดํา (มักใช้แก่ม้า วัวควาย).

ตาอ้อย
น. ชื่อลายชนิดหนึ่ง.

ตาเอก
น. ตาที่มีตาดําอยู่ไม่ตรงที่.

ตาก
ก. ผึ่งให้แห้ง เช่น ตากผ้า, ปล่อยทิ้งไว้กลางแจ้ง เช่น ตากแดดตากฝน; ตรํา, สู้ทน, เช่น เดินตากฝน นอนตากยุง. ว. ห่าง,แบะออก, เช่น ควายเขาตาก คือ ปลายเขาไม่รวมเข้าหากัน;ที่ผึ่งแดดจนแห้ง เช่น ข้าวตาก กล้วยตาก; เรียกหลังคาเรือนที่ชันน้อยว่า หลังคาตาก.

ตากตน
ก. นอนแผ่, นอนหงาย, เช่น ผลักให้ตากตนอยียด ชรดียดด้าวดิ้นดรนอนอยู่แล. (ม. คำหลวง กุมาร).

ตากสมอง
ก. พักผ่อนเพื่อคลายความเคร่งเครียดโดยไปอยู่ในที่สงบหรือที่มีอากาศปลอดโปร่ง.

ตากหน้า
ก. สู้ทนอาย.

ตากอากาศ
ก. ไปพักผ่อนในที่ที่มีอากาศดี.

ตากบ ๑
ดูใน ตา ๒.

ตากบ ๒
น. เทียนตากบ. (ดู เทียนตากบ ที่ เทียน ๓).

ตากวาง
[ตา–กฺวาง] น. ชื่อไผ่ชนิด Gigantochloa kurzii Gamble และชนิด G. apus (Roem. et Schult.) Kurz ในวงศ์ Gramineae.

ตาง
(โบ; กลอน) ส. คําใช้แทนนามหลายฝ่ายให้แยกออกเป็นส่วน ๆ เช่น ทุกทั่วสัตวตื่นตาง แตกเต้า. (ตะเลงพ่าย),ต่าง ก็ว่า.

ต่าง ๑
น. ภาชนะสําหรับบรรทุกสิ่งของมีคานพาดไว้บนหลังสัตว์พาหนะมีวัวและลาเป็นต้น ให้ห้อยลงมาทั้ง ๒ ข้าง, เรียกโคลา ที่ใช้บรรทุกสิ่งของในลักษณะเช่นนั้นว่า โคต่าง ลาต่าง. ก. บรรทุก เช่น ต่างข้าวเข้ามาส่ง, ใช้อย่างมาตราตวงก็ได้เช่น ได้ข้าวไม่ถึง ๕ ต่าง.

ต่างหู
น. ตุ้มหู.

ต่าง ๒
ส. คําใช้แทนนามหลายฝ่ายให้แยกออกเป็นส่วน ๆเช่น คนทั้งหลายต่างก็ทําหน้าที่ของตน, ในบทกลอนใช้ว่า ตาง ก็มี. ว. ผิดแผก, ไม่เหมือนเดิม, เช่น สีต่างไป; แทน, เหมือน, เช่น ว่าต่าง แก้ต่าง ดูต่างหน้า; อื่นเช่น ต่างประเทศ; คนละ เช่น ต่างพ่อ ต่างแม่.

ต่าง ๆ
ว. หลายอย่างซึ่งผิดกัน.

ต่างจิตต่างใจ
ว. ต่างคนก็ต่างความคิด.

ต่างด้าว
ว. เรียกชาวต่างประเทศที่มีถิ่นฐานอยู่ในอีกประเทศหนึ่งว่า คนต่างด้าว.

ต่างว่า
สัน. เหมือนว่า, เปรียบว่า, สมมุติว่า.

ต่างหาก
ว. อีกส่วนหนึ่ง, อีกแผนกหนึ่ง.

ตางัว ๑
ดูใน ตา ๒.

ตางัว ๒
น. ชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยวหลายชนิดในสกุล Turboวงศ์ Turbinidae เช่น ชนิด T. marmoratus, T. bruneusเปลือกรูปทรงอ้วนป้อม แผ่นปิดกลมหนา ด้านนอกโค้งใช้แผ่นปิดเป็นเบี้ยตางัวสําหรับเล่นหมากรุก.

ตางัว ๓
น. ชื่อไม้ดอกชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).

ตาช้าง
น. มะกลํ่าตาช้าง. (ดู มะกลํ่า).

ตาด ๑
น. ชื่อผ้าชนิดหนึ่ง ทอด้วยไหมควบกับเงินแล่งหรือทองแล่งจํานวนเท่ากัน, เรียกชื่อตามลักษณะของลาย เช่น ตาดลายคดกริช ตาดตาตั๊กแตน, ถ้ามีไหมปักทับลงไปอีกเป็นดอก ๆเรียกว่า ตาดระกําไหม.

ตาด ๒
น. ที่ที่มีนํ้าตก.

ตาด ๓
(กลอน) น. ต้นมะตาด.

ตาด ๔
น. ชื่อมองโกลเผ่าหนึ่งที่ชอบรบราฆ่าฟันและอพยพเร่ร่อนอยู่เสมอ บางทีก็เรียกว่า ตาดมองโกล, ชื่อภาษาของพวกตาด ใช้พูดกันในดินแดนตั้งแต่ทิวเขาอูราลทางตะวันตกไปจนถึงทิวเขาอัลไตทางตะวันออก.

ตาเดียว ๑
น. ชื่อปลาในอันดับ Pleuronectiformes พบทั้งในทะเลนํ้ากร่อย และนํ้าจืด เมื่อเกิดใหม่ตาจะอยู่คนละข้างกันเหมือนลูกปลาทั่วไป แต่เมื่อเจริญเติบโตขึ้นกะโหลกจะบิดไปข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กล้ามเนื้อข้างหนึ่งบิดตามไปด้วย จึงทำให้ตาทั้ง ๒ ข้างอยู่ด้านเดียวกัน มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น ลิ้นหมา ใบขนุน ซีกเดียว ลิ้นเสือ จักรผานยอดม่วง ลิ้นหมาหงอนยาว ลิ้นควาย.

ตาเดียว ๒
น. ชื่อปลาทะเลหลายชนิด หลายสกุล หลายวงศ์ เช่น ชนิดBrachypleura novaezeelandiae, Cynoglossus lingua, Psettodes erumei, Solea ovata ตัวแบนใหญ่ ด้านบนมีสีดำด้านล่างมีสีขาว ตาทั้ง ๒ ข้างอยู่ด้านบนด้วยกัน ขนาดตัวยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร กว้างถึง ๒๐ เซนติเมตร เนื้อนุ่มหากินตามพื้นท้องน้ำ.

ตาตั๊กแตน ๑
ดูใน ตา ๒.

ตาตั๊กแตน ๒
น. เทียนตาตั๊กแตน. (ดู เทียนตาตั๊กแตน ที่ เทียน ๓).

ตาตุ่ม ๑
ดูใน ตา ๒.

ตาตุ่ม ๒
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Excoecaria agallocha L. ในวงศ์Euphorbiaceae ยางมีพิษ กินทําให้ท้องเดิน เข้าตาทําให้ตาบอด.

ตาโต ๑
ดูใน ตา ๒.

ตาโต ๒
ดู ตาพอง ๓.

ตาโต ๓
ดู ตะลาน ๑.

ตาน ๑
น. ชื่อโรคชนิดหนึ่งมักเป็นแก่เด็ก ๆ.

ตานขโมย ๑
น. ชื่อโรคพยาธิลําไส้อย่างหนึ่ง มักเป็นแก่เด็กอายุประมาณ ๕ ขวบขึ้นไป มีลักษณะผอม ท้องป่อง ก้นปอด แต่กินอาหารได้มาก มีอาการปวดท้องและซึม.

ตาน ๒
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Xyris complanata R. Br. ในวงศ์Xyridaceae ใบแคบขึ้นเป็นกอ ดอกสีเหลือง ก้านช่อดอกยาว กาบดอกซ้อนกันแน่น.

ต่าน
ว. ชิดทางนอก (บอกควายเวลาไถนา).

ต้าน
ก. ยันหรือรับไว้เพื่อไม่ให้ลํ้าแนวเข้ามา เช่น ต้านข้าศึก,ปะทะ เช่น เรือต้านลม.

ต้านทาน
ก. ขัดขวาง, ยับยั้ง, ต่อสู้ยันไว้.

ตานขโมย ๑
ดูใน ตาน ๑.

ตานขโมย ๒
น. (๑) ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Tournefortia intonsa Kerrในวงศ์ Boraginaceae เป็นไม้มีพิษ. (๒) ชื่อไม้ต้นชนิดVatica philastreana Pierre ในวงศ์ Dipterocarpaceaeต้นสีดํา ผลใช้ทํายาได้.

ตานจอมทอง
ดู ทอง ๒.

ตานนกกด
ดู ตานเหลือง.

ตานเสี้ยน
น. ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในสกุล Xantolis วงศ์ Sapotaceaeคือ ชนิด X. siamensis (H.R. Fletch.) P. Royen และชนิดX. burmanica (Collett et Hemsl.) P. Royen ดอกสีขาวออกเป็นกระจุกตามกิ่ง ผลกลมรี ปลายมีติ่งแหลม ชนิดหลังก้านใบและก้านดอกยาวกว่าชนิดแรก.

ตานหก
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Litsea pierrei Lec. ในวงศ์ Lauraceae.

ตานหม่อน
น. ชื่อไม้เถาชนิด Vernonia elliptica DC. ในวงศ์Compositae ช่อดอกเป็นกระจุกสีขาวปนม่วง ใช้ทํายาได้.

ตานเหลือง
น. ชื่อไม้พุ่มหรือไม้ต้นชนิด Ochna integerrima (Lour.)Merr. ในวงศ์ Ochnaceae ขึ้นในป่าเบญจพรรณแล้งเปลือกสีนํ้าตาลแก่ ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อสั้น ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ เซนติเมตร กลิ่นหอมอ่อนผลัดใบขณะมีดอก, กําลังช้างสาร ช้างน้าว หรือ ตานนกกดก็เรียก.

ตานี ๑
น. ชื่อกล้วยชนิด Musa balbisiana Colla ในวงศ์ Musaceaeใบเหนียวกว่ากล้วยชนิดอื่น มีเมล็ดทั่วทั้งผล, เรียกผีผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องสิงอยู่ในต้นกล้วยตานีว่า พรายตานี.

ตานี ๒
น. ชื่อนํ้ามันชนิดหนึ่งข้น ๆ ใช้ใส่ผม, โดยปริยายเรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า มีลักษณะเป็นนํ้ามันตานีเช่นนํ้าตาลเยิ้มในขนมอาลัว หรือไข่ที่ต้มเป็นยางมะตูม.

ตาบ
น. เครื่องประดับคอหรืออกเป็นแผ่น ๆ ถ้าเป็นตาบสําหรับม้าประดับที่หน้าผาก.(รูปภาพ ตาบ)

ตาบทับ
น. ทับทรวง, ตาบหน้า ก็ว่า.

ตาบทิศ
น. ตาบที่ติดกับสังวาลอยู่ที่สะเอวและข้างหลัง.

ตาปี
ว. ตลอดปี, มักใช้เข้าคู่กับคำ ชั่วนา เป็น ชั่วนาตาปี.

ตาปีตาชาติ
ว. เสมอไป, เรื่อยไป.

ตาฝั่ง
(โบ; กลอน) น. ท่าที่ฝั่ง เช่น เขาก็ไปชุมนุมกันในตาฝั่ง.(ม. คําหลวง ชูชก).

ตาพอง ๑
ดูใน ตา ๒.

ตาพอง ๒
ดู เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร.

ตาพอง ๓
น. ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในสกุล Priacanthus วงศ์Priacanthidae ลําตัวป้อม แบนข้าง ปากเชิดขึ้นคางยื่น ตาโตคลุมด้วยเยื่อใส เกล็ดเล็กสากมือลําตัวและครีบสีแดงสด อาศัยอยู่ใกล้พื้นท้องนํ้าหรือในระดับนํ้าลึก ที่ชุกชุมได้แก่ชนิด P. tayenus ขนาดโตได้ถึง ๓๐ เซนติเมตร, ตาโต หรือ ตาหวานก็เรียก.

ตาม
ก. ไปหรือมาข้างหลังหรือภายหลังโดยลําดับของสิ่งหรือเหตุการณ์ที่มีมาก่อน เช่น ตามเขาไป แล้วจึงค่อยตามมา ตามเหตุการณ์; เรียกตัวมา เช่น ไปตามนายก มา, เชิญมา เช่น ไปตามหมอ; เที่ยวค้นหาสิ่งที่หายไป เช่น ตามเรื่อง ตามวัว; จุดให้ไฟติดไว้ เช่น ตามไฟตามตะเกียง ตามประทีป. ว. อาการที่เลียนแบบหรือเอาอย่าง เช่น ทําตาม คล้อยตาม; ควรแก่, เหมาะแก่,เช่น ตามกําลังความสามารถ; เหมือน, อย่าง, ดัง, เช่นตามเคย ตามปรกติ ตามธรรมดา; แล้วแต่, สุดแต่, เช่นตามใจ ตามอัธยาศัย ตามกรรม; ไม่ทวนกระแส (ใช้แก่กระแสนํ้าหรือกระแสลม) ในคําว่า ตามนํ้า ตามลม; ไม่ขัด, ไม่ฝ่าฝืน, ไม่ฝืน, เช่น ทําตามคําสั่ง ปฏิบัติตามกฎหมาย ตามสมัยนิยม. บ. แถว, แนว, ถิ่น, ที่, เช่น มีอยู่ตามป่า ปิดไว้ตามกําแพง; โดย เช่น ตามที่ปรากฏว่า.

ตามกวาง
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง, เรียกชื่อเต็มว่า พระรามตามกวาง. (เงาะป่า; ศกุนตลา; ราชาธิราช).

ตามควาย
ว. รีบร้อน ในสํานวนว่า เดินอย่างตามควาย.

ตามใจ
ก. แล้วแต่ใจ.

ตามใจปากมากหนี้
(สํา) ก. เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก.

ตามใจปากลำบากท้อง
(สํา) ก. เห็นแก่กินมักจะเดือดร้อน.

ตามที
ว. แล้วแต่จะเป็นไป.

ตามเนื้อผ้า
ว. ตามที่ปรากฏ เช่น เทศน์ตามเนื้อผ้า, ตามข้อเท็จจริง เช่น ว่าไปตามเนื้อผ้า.

ตามบุญตามกรรม
ว. ตามแต่จะเป็นไป.

ตามเพลง
(สํา) ว. สุดแต่จะเป็นไป, ตามเรื่องตามราว.

ตามไฟ
ก. จุดให้ไฟติดไว้, สุมไฟที่ขอนไม้ให้ติดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ผู้อื่นต่อไฟไปใช้หรือเพื่อแก้หนาว.

ตามมี
ว. สมควรแก่ที่มีอยู่.

ตามมีตามเกิด
ว. สุดแต่กําลังความสามารถอันน้อยเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น.

ตามยถากรรม
(สํา) ว. เป็นไปตามกรรม, สุดแต่จะเป็นไป.

ตามเรื่องตามราว
(สํา) ว. ปล่อยให้เป็นไปเอง, สุดแต่จะเป็นไป.

ตามลมตามแล้ง
(สํา) ว. สุดแต่จะเป็นไป.

ตามลำพัง
ว. โดดเดี่ยว, เฉพาะตัวเอง, ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น.

ตามอำเภอใจ
ว. เอาแต่ใจตัว ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น.

ตามพ–, ตามพะ
[ตามพะ–] (แบบ) น. ทองแดง. (ป. ตมฺพ; ส. ตามฺร).ตามพหัตถี [ตามพะ–] น. ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ตระกูล กายสีทองแดง. (ดู กาฬาวก).

ตามพ–, ตามพะ
[ตามพะ–] (แบบ) น. ทองแดง. (ป. ตมฺพ; ส. ตามฺร).ตามพหัตถี [ตามพะ–] น. ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ตระกูล กายสีทองแดง. (ดู กาฬาวก).

ตามะแน
ดู เนื้อทราย ที่ เนื้อ ๒.

ตามิน
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Amblyrhynchichthys truncatus ในวงศ์ Cyprinidae ลําตัวยาวเพรียว แบนข้าง หัวเล็กมีลักษณะเด่นที่จะงอยปากสั้นและปลายตัดตรง ปากเล็กอยู่ตํ่า ตาโต พื้นลําตัวสีเงิน ครีบต่าง ๆ สีเทา ขนาดยาวไม่เกิน ๒๐ เซนติเมตร, ตาเหลือก หรือ หนามหลังก็เรียก.

ตาย ๑
ก. สิ้นใจ, สิ้นชีวิต, ไม่เป็นอยู่ต่อไป, สิ้นสภาพของการมีชีวิต, เช่น สภาวะสมองตาย; เคลื่อนไหวไม่ได้ เช่น มือตาย ตีนตาย; ไม่เดินเพราะเครื่องเสียหรือหยุดเป็นต้นเช่น รถยนต์ตาย นาฬิกาตาย; ยืนแต้มอยู่อย่างเดียวเช่น ลูกเต๋าตายหก; ลักษณะที่ประตูในการเล่นการพนันบางประเภท เช่น โป ถั่ว ไม่ออกเลย หรือนาน ๆ จึงจะออกสักครั้งหนึ่ง; ผิดตามที่กติกากำหนดไว้ในการเล่นกีฬาหรือการละเล่นบางชนิด.

ตายขาน
ก. ยืนต้นตายเป็นแถว ๆ (ใช้แก่ต้นไม้) ในความว่าไม้ตายขาน.

ตายขุย
ก. ออกดอกเป็นเมล็ดแล้วตาย (ใช้แก่ไม้ในจําพวกไผ่).

ตายคาที่
ก. ตายทันทีตรงที่เกิดเหตุ.

ตายโคม
น. เรียกไข่ที่ตัวตายในระหว่างฟักว่า ไข่ตายโคม.

ตายใจ
ก. หลงเชื่ออย่างไม่สงสัย.

ตายซาก
ก. ตายทิ้งร่างแห้งอยู่ (ใช้แก่สัตว์บางอย่าง เช่นคางคก จิ้งจก).

ตายด้าน
ก. หมดความรู้สึกทางสัมผัส, ไม่มีความรู้สึกเหมือนอย่างที่เคยมี; โดยปริยายหมายความว่า หยุดเจริญก้าวหน้า ติดอยู่แค่นั้น.

ตายดาบหน้า
ก. มุ่งเสี่ยงไปข้างหน้า, เสี่ยงหนีเหตุการณ์ร้ายปัจจุบันไปเผชิญชีวิตข้างหน้า, มีทิฐิมานะที่จะต่อสู้กับเคราะห์กรรมเอาข้างหน้า, เสี่ยงทําไปก่อน แล้วค่อยคิดแก้เหตุการณ์ภายหลัง.

ตายตัว
ก. คงที่อยู่อย่างนั้น เช่น ราคาตายตัว อัตราตายตัว.

ตายทั้งกลม
ว. ตายทั้งหมด, ตายทั้งแม่ทั้งลูก, เรียกหญิงที่ตายพร้อมกับลูกที่อยู่ในท้องว่า หญิงตายทั้งกลม.

ตายน้อย
ว. เกือบตาย.

ตายนึ่ง
ก. เฉาหรือเหี่ยวเพราะถูกแดดหรือไอร้อนอย่างถูกนึ่ง.

ตายประชดป่าช้า
(สํา) ก. แกล้งทําหรือพูดแดกดันประชดอีกฝ่ายหนึ่งแต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเสียหายจากการทําหรือพูดนั้น.

ตายเป็นเบือ
ก. ตายมากมายเกลื่อนกลาดไปเหมือนถูกยาเบื่อ.

ตายฝอย
ก. แห้งตายไปเพราะแล้ง (ใช้แก่ข้าวกล้า).

ตายฝังยังเลี้ยง
ก. เลี้ยงดูตามบุญตามกรรม.

ตายพราย
ก. ตายเสียแต่ยังไม่ออกผล (ใช้แก่ต้นไม้บางชนิดซึ่งกําลังจะมีผล เช่น กล้วย ถั่วแระ), ยืนต้น (ใช้แก่ต้นไม้บางชนิด เช่น คูน).

ตายรัง
ว. ในที่สุดก็ต้องหวนกลับมาอยู่กับครอบครัวตามเดิม (ใช้แก่สามี) เช่น กลับมาตายรัง.

ตายราบ
ว. ไม่มีทางสู้, ไม่พ้นมือไปได้.

ตายเรียบ
(ปาก) ว. ตายทั้งหมด.

ตายลาภ
(แบบ) ว. เป็นลาภแน่ ๆ, หนีไม่พ้น, เช่น นางนี้ดีร้ายตายลาภเรา. (มณีพิชัย).

ตายห่า
ก. ตายด้วยอหิวาตกโรคหรือกาฬโรค.

ตายโหง
ก. ตายผิดธรรมดาโดยอาการร้าย เช่น ถูกฆ่าตายตกนํ้าตาย.

ตายอดตายอยาก
ก. อดอยากมานาน.

ตาย ๒
ว. คําประกอบท้ายประโยคหรือหน้าประโยค หมายความว่าแย่, เต็มที, ยิ่งนัก, เช่น ร้อนจะตาย ตายละทีนี้, คําเปล่งเสียงแสดงความตกใจหรือประหลาดใจเป็นต้น เช่น อุ๊ยตาย ตายแล้ว.

ต้าย
(โบ) น. เสาเขื่อน.

ตาราไต
น. ดอกบัว. (ช.).

ตาเรือ
น. ชื่อต้นไม้ยืนต้น. (พจน. ๒๔๙๓).

ตาเรือชัย
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ปุนัพสุ มี ๓ ดวง, ดาวหัวสําเภา ดาวสะเภา ดาวสําเภาทอง ดาวยามเกาหรือ ดาวปุนัพพสู ก็เรียก.

ตาล
[ตาน] น. ชื่อปาล์มชนิด Borassus flabellifer L. ในวงศ์Palmae ใบใหญ่ ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้น ต้นเพศผู้ออกดอกเป็นงวงคล้ายมะพร้าว ไม่มีผล ต้นเพศเมียออกดอกเป็นช่อเดี่ยว ๆ ผลใหญ่กลมโตเป็นทะลาย น้ำหวานที่ออกจากงวงของต้นเพศผู้ เรียกว่า น้ำตาลสด ใช้ทำน้ำตาลได้ตอนหัวของผลอ่อน เรียกว่า หัวตาล ต้มแกงกินได้ เมื่อเต้ายังอ่อน เรียกว่า ลอนตาล นิยมกินสดหรือกินกับนํ้าเชื่อมเนื้อในตาลอ่อนที่เฉาะออกมาจากเต้า เรียกว่า ตาลเฉาะจาวที่เกิดจากเมล็ดแก่ที่งอกแล้ว เรียกว่า จาวตาล เชื่อมกินได้, ตาลโตนด ก็เรียก; เรียกขนมที่ทําด้วยแป้งผสมนํ้าคั้นจากลูกตาลสุกว่า ขนมตาล.

ตาลปัตร
[ตาละปัด] น. พัดใบตาล มีด้ามยาว สําหรับพระใช้ในพิธีกรรมเช่นในเวลาให้ศีล ต่อมาอนุโลมเรียกพัดที่ทําด้วยผ้าหรือไหมซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า ตาลปัตร ด้วย, ตาลิปัตร ก็ว่า.

ตาลปัตรบังเพลิง
[–เพฺลิง] น. ตาลปัตรที่มีลักษณะเช่นเดียวกับพัดยศของพระสงฆ์ ใช้ประดับสถานที่ในงานพระเมรุชั้นพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ชั้นสูง นิยมทําเป็นรูปตุ๊กตาเทวดานั่งคุกเข่าถือตาลปัตรรายรอบบริเวณพระเมรุ, ตาลิปัตรบังเพลิง ก็เรียก.(รูปภาพ ตาลปัตรบังเพลิง)

ตาลยอดด้วน
(สํา) น. คนที่ไม่มีทางเจริญก้าวหน้าต่อไปอีกแล้ว;คนที่ไม่มีบุตรสืบตระกูล.

ตาลปัตรฤๅษี
น. (๑) ชื่อไม้พุ่มชนิด Opuntia cochenillifera (L.)Miller ในวงศ์ Cactaceae กิ่งแบนอวบ ใบลดขนาดลงเป็นกระจุก ขนค่อนข้างแข็ง เป็นไม้ต่างประเทศปลูกเป็นไม้ประดับ. (๒) ชื่อไม้พุ่มชนิด Cycas siamensisMiq. ในวงศ์ Cycadaceae. (๓) ดู กาสัก ๒.

ตาลาน ๑
ดู ตะลาน ๑.

ตาลาน ๒
ดู ตะลาน ๒.

ตาลิปัตร
น. ตาลปัตร. (ดูใน ตาล).

ตาลิปัตรบังเพลิง
น. ตาลปัตรบังเพลิง. (ดูใน ตาล).

ตาลุ
(แบบ) น. เพดานปาก. (ป., ส.).

ตาลุชะ
(ไว) น. อักษรในภาษาบาลีและสันสกฤตที่มีเสียงเกิดจากเพดานแข็ง ได้แก่พยัญชนะวรรค จ คือ จฉ ช ฌ ญ และอักษร ย สระอิ อี รวมทั้ง ศ ในภาษาสันสกฤต. (ป.; ส. ตาลวฺย).

ตาว ๑
(โบ) น. ดาบ, มีดยาว.

ตาว ๒, ต๋าว
น. ชื่อปาล์มชนิด Arenga pinnata (Wurmb) Merr.ในวงศ์ Palmae ใบคล้ายใบมะพร้าว ด้านล่างมีนวลขาว จั่นเป็นพวงห้อย ให้นํ้าตาลทํานองมะพร้าว ออกผลเป็นทะลาย เนื้อในเมล็ดอ่อนเรียกว่า ลูกชิด เชื่อมกินได้.

ตาว ๒, ต๋าว
น. ชื่อปาล์มชนิด Arenga pinnata (Wurmb) Merr.ในวงศ์ Palmae ใบคล้ายใบมะพร้าว ด้านล่างมีนวลขาว จั่นเป็นพวงห้อย ให้นํ้าตาลทํานองมะพร้าว ออกผลเป็นทะลาย เนื้อในเมล็ดอ่อนเรียกว่า ลูกชิด เชื่อมกินได้.

ตาเสือ
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Aphanamixis polystachya (Wall.)R. Parker ในวงศ์ Meliaceae เนื้อไม้สีแดง แข็งและหนัก ใช้ในการก่อสร้าง.

ตาหนู ๑
น. มะกลํ่าตาหนู. (ดู มะกลํ่า).

ตาหนู ๒
ลักษณะของสิ่งของที่อยู่ภายในแพลมออกมาข้างนอกแต่เล็กน้อย.

ตาหลิ่ง
[–หฺลิ่ง] (กลอน) น. ตลิ่ง.

ตาหวาน ๑
ดูใน ตา ๒.

ตาหวาน ๒
ดู ตาพอง ๓.

ตาเหลว
(กลอน) น. เฉลว เช่น ตาหลิ่งตาเหลวปัก ปิดไว้.(นิ. นรินทร์).

ตาเหลือก ๑
ดูใน ตา ๒.

ตาเหลือก ๒
น. ชื่อปลาที่มีตาโตคลุมด้วยเยื่อใส เกล็ดเรียบหลายชนิด หลายสกุล ที่เป็นปลาทะเลหรือนํ้ากร่อย ได้แก่ทุกชนิดในสกุล Ilisha วงศ์ Clupeidaeลําตัวยาวเรียว แบนข้าง ท้องเป็นสันแหลม เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย,อีปุด หรือ ปุด ก็เรียก; ที่เป็นปลานํ้ากร่อยแต่อยู่ได้ในนํ้าจืดได้แก่ ตาเหลือกนํ้าจืด หรือ ข้าวเหนียวบูด(Megalops cyprinoides) ในวงศ์ Megalopidaeและ ตาเหลือกยาว (Elops saurus) ในวงศ์Elopidae, ทั้ง ๒ ชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายกัน ปากกว้างที่ใต้คางระหว่างกระดูกขากรรไกรล่างมีแผ่นกระดูกแข็ง ๑ ชิ้น สําหรับชนิดแรกตัวป้อมกว่า และมีก้านครีบหลังอันสุดท้ายยื่นยาวเป็นเส้น; ส่วนที่เป็นปลานํ้าจืดได้แก่ ตามิน (Amblyrhynchichthys truncatus).(ดู ตามิน).

ตาฬะ
(แบบ) น. ลูกกุญแจ, กลอนประตู, ลูกดาล. (ป., ส.).

ตำ
ก. ทิ่ม, แทง, เช่น หนามตํา; ใช้สากหรือสิ่งอื่นที่คล้ายคลึงเช่นนั้นทิ่มลงไปอย่างแรงเรื่อย ๆ เช่น ตําข้าว ตํานํ้าพริก.

ตำข้าวสารกรอกหม้อ
(สํา) ก. หาเพียงแค่พอกินไปมื้อหนึ่ง ๆ, ทําพอให้เสร็จไปชั่วครั้งหนึ่ง ๆ.

ตำตา
ว. ปรากฏชัดแก่ตา, ตําหูตําตา ก็ว่า.

ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
(สํา) ลงทุนไปโดยได้ผลประโยชน์ไม่คุ้มทุน, ใช้จ่ายทรัพย์ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์, เสียทรัพย์ไปโดยไม่ได้ประโยชน์อะไร.

ตำส้ม
(ถิ่น) น. ส้มตํา.

ตำหูตำตา
ว. ปรากฏชัดแก่ตา, ตำตา ก็ว่า.

ต่ำ ๑
ว. ตรงข้ามกับสูง, มีระดับด้อยหรือน้อยกว่าปรกติเช่น ความดันโลหิตตํ่า.

ต่ำใจ
ก. น้อยใจ, เสียใจ, ใช้คู่กับ น้อยเนื้อ เป็น น้อยเนื้อตํ่าใจ.

ต่ำช้า
ว. เลวทราม.

ต่ำตน
(โบ) ก. ถ่อมตน.

ต่ำต้อย
ว. มีฐานะความเป็นอยู่หรือตําแหน่งหน้าที่ด้อยกว่ากันมากจนเทียบกันไม่ได้, มีฐานะไม่เท่าเทียมเพื่อน.

ต่ำสุด
ว. น้อยที่สุด เช่น ตัวเลขต่ำสุด คะแนนนิยมต่ำสุด.

ต่ำ ๒
(ถิ่น–อีสาน) ก. ทอ เช่น ต่ำหูก.

ตำนาน
น. เรื่องแสดงกิจการอันมีมาแล้วแต่ปางหลัง, เรื่องราวนมนานที่เล่ากันสืบ ๆ มา, เช่น ตํานานพุทธเจดีย์สยาม; เรียกพระปริตรบทหนึ่ง ๆ ว่า ตํานาน ในคําว่าเจ็ดตํานาน สิบสองตํานาน.

ตำเนิน ๑
ว. ห่ามจวนสุก เช่น กล้วยตําเนิน, แก่ยังไม่จัดเช่น แตงโมตําเนิน ทุเรียนตําเนิน, ดําเนิน ก็ว่า.

ตำเนิน ๒
(กลอน) ก. ดําเนิน.

ตำเนียน
(กลอน) ก. ดําเนียน, ติเตียน.

ตำบล
(กฎ) น. ท้องที่ที่รวมหมู่บ้านหลายหมู่บ้านเข้าด้วยกันและมีประกาศจัดตั้งเป็นตําบล มีกํานันเป็นหัวหน้าปกครอง.

ตำแบ
น. ชื่อปลาแห้งชนิดหนึ่งที่ไม่เป็นริ้ว, จําแบ ก็ว่า.

ต้ำปุก
ว. เสียงของหนัก ๆ ทึบ ๆ ตกลงจากที่สูง.

ต้ำผาง
ว. เสียงดังของวัตถุแบน ๆ ที่ตกลงหรือกระทบกัน.

ต้ำพรวด
[–พฺรวด] ว. เสียงของตกลงไปในที่รกหรือในที่เหลว ๆ.

ตำแย ๑
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Laportea interrupta Chewในวงศ์ Urticaceae มีขนตามลําต้นและใบ ถูกเข้าจะคันและเป็นผื่นตามผิวหนัง, ตําแยตัวเมีย หรือกะลังตังไก่ ก็เรียก.

ตำแย ๒
ว. เรียกหญิงผู้ทําคลอดตามแผนโบราณว่า หมอตําแย. (มาจาก มหาเถรตําแย ผู้ทําตําราว่าด้วยวิชานี้).

ตำแยตัวผู้, ตำแยแมว
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Acalypha indica L. ในวงศ์Euphorbiaceae ลักษณะคล้ายตําแยแต่ไม่มีขนถูกเข้าไม่คัน ใช้ทํายาได้, อเนกคุณ ก็เรียก.

ตำแยตัวผู้, ตำแยแมว
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Acalypha indica L. ในวงศ์Euphorbiaceae ลักษณะคล้ายตําแยแต่ไม่มีขนถูกเข้าไม่คัน ใช้ทํายาได้, อเนกคุณ ก็เรียก.

ตำแยตัวเมีย
ดู ตำแย ๑.

ตำรวจ
[–หฺรวด] น. เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทําผิดกฎหมายเรียกชื่อตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น ตํารวจสันติบาลตํารวจกองปราบ ตํารวจดับเพลิง ตํารวจนํ้า ตํารวจรถไฟ ตํารวจป่าไม้. (ข. ฎํรวต, ตมฺรวต).

ตำรวจนครบาล
น. ตํารวจผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพมหานคร.

ตำรวจภูธร
น. ตํารวจผู้มีหน้าที่ระวังและระงับเหตุการณ์ทางอาญาภายนอกกรุงเทพมหานคร.

ตำรวจวัง
น. ข้าราชการในพระองค์ มีหน้าที่ตรวจตรารักษาพระราชวัง และดูแลไม่ให้มีการละเมิดระเบียบประเพณีวังเป็นต้น.

ตำรวจหลวง
น. ข้าราชการในพระองค์ มีหน้าที่พิทักษ์รักษาองค์พระมหากษัตริย์และพระราชินีในงานพระราชพิธี.

ตำรับ
[–หฺรับ] น. ตําราที่กําหนดไว้เป็นเฉพาะแต่ละเรื่องละราย เช่น ตํารับหอสมุดแห่งชาติ; ใบสั่งยา (ใช้เฉพาะแพทยศาสตร์). (ข. ฎํราบ่, ตมฺราบ่).

ตำรา
น. แบบแผนที่ว่าด้วยหลักวิชาต่าง ๆ, ตํารับตําราก็ว่า. (ข. ฎํรา, ตมฺรา).

ตำรุ
[–หฺรุ] น. ตรุ.

ตำลึง ๑
น. ชื่อไม้เถาชนิด Coccinia grandis (L.) J. Voigtในวงศ์ Cucurbitaceae มีมือเกาะ ใช้ใบและยอดเป็นผัก.

ตำลึง ๒
น. มาตราเงินตามวิธีประเพณี ๔ บาท เท่ากับ ๑ ตําลึง,เขียนตามวิธีโบราณดังนี้ (อักขระพิเศษ) หมายความว่า๔ ตําลึง; ชื่อมาตราชั่งตามวิธีประเพณี สําหรับกําหนดนํ้าหนักเท่ากับเงินหนัก ๔ บาท หรือ ๖๐ กรัม. (ข. ฎํฬึง,ตมฺลึง).

ตำเสา
ดู กันเกรา.

ตำหนัก
น. เรือนของเจ้านาย, กุฏิของสมเด็จพระสังฆราช.(ข. ฎํณาก่).

ตำหนักน้ำ
น. ตําหนักที่ปลูกในนํ้า.

ตำหนักแพ
น. ตําหนักที่ตั้งอยู่บนแพ.

ตำหนิ
น. รอยแผลเป็นหรือไฝปานเป็นต้นที่เป็นเครื่องหมายให้สังเกตเห็นได้, รอยเสียที่ผลไม้หรือสิ่งของ. ก. ติเตียน.

ตำหระ
(โบ) น. แถบ, ซีก, แปลง, (ใช้แก่ที่ดินหรือร่างกาย).

ตำแหน่ง
[–แหฺน่ง] น. ที่อยู่ เช่น ตําแหน่งของดวงดาว;แห่งที่; หน้าที่การงาน; ฐานะ เช่น ตําแหน่งผู้จัดการ; ลักษณนามเรียกจํานวนตัวเลขหลังจุดทศนิยม ยกเว้นเลขศูนย์ที่ไม่มีตัวเลขอื่นตามหลัง เช่น ๕.๐๔ เรียกว่า ทศนิยม ๒ ตําแหน่ง๖.๑๐๘ เรียกว่า ทศนิยม ๓ ตําแหน่ง; (คณิต)สิ่งที่บ่งระบุระดับความถูกต้องในการแสดงค่าของจํานวนจริงในรูปของทศนิยม เช่น ทศนิยม๓ ตําแหน่ง หมายถึง ระดับความถูกต้องชนิดที่มีความคลาดเคลื่อนไม่เกิน ๑ ใน ๑,๐๐๐.

ตำแหน่งที่ตั้ง
(คณิต) น. พิกัดหรือจํานวนจริงชุดหนึ่ง ซึ่งแสดงระยะที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ห่างจากแกนอ้างอิงที่กําหนดไว้แล้ว, ตําแหน่งที่ ก็เรียก.

ติ
ก. ชี้ข้อบกพร่อง.

ติเตียน
ก. ยกโทษขึ้นพูด, กล่าวร้าย.

ติเรือทั้งโกลน
(สํา) ก. ตําหนิสิ่งที่ยังทําไม่เสร็จหรือที่ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร, ติพล่อย ๆ ไปเสียก่อนที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร.

ติก–, ติกะ
[ติกะ–] (แบบ) น. หมวด ๓ คือ ที่รวมวัตถุหรือธรรมะอย่างละ ๓. (ป.).

ติก–, ติกะ
[ติกะ–] (แบบ) น. หมวด ๓ คือ ที่รวมวัตถุหรือธรรมะอย่างละ ๓. (ป.).

ติกาหรัง
[–หฺรัง] น. เรือนแก้ว. (ช.).

ติง ๑
ก. ทักไว้, ท้วงไว้.

ติงทุเลา
(โบ) ก. ขัดข้อง, แย้งขอให้ระงับไว้ก่อน.

ติง ๒
(ถิ่น–พายัพ, อีสาน) ก. ขยับเขยื้อน, ไหว.

ติ่ง ๑
น. เนื้อหรือสิ่งที่งอกหรือยื่นออกมาเล็ก ๆ จากส่วนใหญ่.

ติ่ง ๒
ดู ตุ่น ๑.

ติ๋ง, ติ๋ง ๆ
ว. เสียงนํ้าหยด, เสียงร้องเรียกลูกสุนัข.

ติ๋ง, ติ๋ง ๆ
ว. เสียงนํ้าหยด, เสียงร้องเรียกลูกสุนัข.

ติ่งตั่ง
น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Getonia floribunda (Roxb.)Lam. ในวงศ์ Combretaceae ดอกสีเขียวอมขาว ออกดอกเวลาผลัดใบ.

ติ๋งต่าง
ก. ต่างว่า, สมมุติว่า, ตีต่าง ตี๊ต่าง หรือ ตี๋ต่าง ก็ว่า.

ติงส–, ติงสติ
[ติงสะ–] (แบบ) ว. สามสิบ, โดยมากใช้ว่า ดึงส์.(ป. ต??ส, ต??สติ).

ติงส–, ติงสติ
[ติงสะ–] (แบบ) ว. สามสิบ, โดยมากใช้ว่า ดึงส์.(ป. ต??ส, ต??สติ).

ติงสติม–
[ติงสะติมะ–] (แบบ) ว. ที่ ๓๐ เช่น ติงสติมสุรทิน. (ป.).

ติ่งหาย
ดู หิ่งหาย.

ติณ, ติณ–
[ติน, ตินะ–, ตินนะ–] น. หญ้า. (ป.).

ติณ, ติณ–
[ติน, ตินะ–, ตินนะ–] น. หญ้า. (ป.).

ติณชาติ
น. หญ้า, พืชจําพวกหญ้า.

ติด ๑
ก. อาการที่ข้องอยู่ เช่น ติดอยู่ในโลก ติดอยู่ในกิเลส;ประดับ เช่น ติดเหรียญ ติดตรา เอาดอกไม้ติดผม;แนบอยู่ เช่น เนื้อติดมัน เนื้อติดกระดูก; ทําให้เกิดขัดอยู่หรือข้องอยู่จนไม่อาจให้เคลื่อนไปได้ เช่น ติดขบวนแห่ ติดไฟแดง ติดฝน; ชอบอย่างขาดไม่ได้ เช่น ติดบุหรี่ติดฝิ่น; อาศัยไปด้วยหรือมาด้วย เช่น ติดรถไปด้วย;ผนึก เช่น ติดแสตมป์ ติดประกาศ ติดกาว; จุด เช่น ติดไฟ ติดตะเกียง ติดเตาฟู่; ต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด เช่น ห้องติดกัน; ได้รับเชื้อโรค เช่น ติดหิด; คงอยู่หรือทําให้คงอยู่เช่น สีติดเสื้อ เสื้อติดสี; ไม่ร่วง, ไม่หลุด, (ใช้แก่ผลไม้) เช่นมะม่วงปีนี้ติดมาก; อยู่ในที่คุมขัง เช่น ติดคุก ติดตะราง;กักบริเวณ เช่น ติดสนม; คล้าย, ใกล้ข้าง, เช่น หน้าตาติดไปทางพ่อ; (ปาก) มีหนี้สินติดค้างกันอยู่ เช่น ติดเงิน.

ติดกระดุม
ก. เย็บลูกกระดุมติดกับเสื้อผ้า, กลัดลูกกระดุม.

ติดกัณฑ์เทศน์
ก. เอาเงินติดเทียนบูชากัณฑ์เทศน์, เอาเงินหรือสิ่งของบูชาธรรมเนื่องในการเทศน์.

ติดเก้ง
ก. อาการสมจรของสุนัขซึ่งกําลังติดกัน, ติดเต้งหรือ ติดเป้ง ก็ว่า.

ติดขัด
ก. ขัดข้อง.

ติดเครื่อง
ก. ทําให้เครื่องจักรกลติดหรือเดิน.

ติดจะ
ว. ค่อนข้าง, ใกล้ข้าง, เช่น เห็นรอยขาดอยู่นิดติดจะเก่า. (อิเหนา).

ติดจักรยาน
ก. ขี่จักรยานแล้วบังคับให้อยู่กับที่.

ติดใจ
ก. ชอบ, ฝังอยู่ในใจ; ข้องใจ.

ติดเชื้อ
ก. รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และเชื้อนั้นเจริญในร่างกาย มักแสดงอาการเจ็บป่วย เช่น เขาติดเชื้อมาจากผู้อื่น; (ปาก) รับเอานิสัยหรือพฤติกรรมบางอย่างของคนที่อยู่รอบข้างเป็นต้นมาใช้หรือเป็นแบบอย่างเช่น เขาติดเชื้อพูดคำหยาบมาจากเพื่อน. ว. ลักษณะของโรคที่รับเชื้อมาจากผู้อื่นหรือสิ่งอื่น, เรียกโรคที่มีลักษณะเช่นนั้นว่า โรคติดเชื้อ.

ติดตลก
ก. เอาตัวตลกมาเล่นแทรกเพื่อให้ตัวละครหรือคนร้องพัก, มักพูดใช้สํานวนโวหารหรือแสดงท่าทางชวนให้คนหัวเราะขบขัน.

ติดตลาด
ก. จัดให้มีตลาดขึ้น; เป็นที่นิยมกันทั่วไป เช่น สินค้าติดตลาด.

ติดต่อ
ก. ไปมาหาสู่กัน, พูดจาเพื่อทําความตกลง, สื่อสาร. ว. ลักษณะของโรคติดเชื้อเมื่อเป็นแก่ผู้หนึ่งแล้วสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้, เรียกโรคที่มีลักษณะเช่นนั้นว่า โรคติดต่อ เช่น วัณโรคเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง.

ติดต้อยห้อยตาม
(สํา) ก. เดินตามไปติด ๆ เช่น อุตส่าห์สู้ติดต้อยห้อยตาม. (สังข์ทอง).

ติดตะกร้อ
ก. บังคับตะกร้อให้ติดอยู่บนเข่าหรือแขนเป็นต้น.

ติดตั้ง
ก. ประกอบเครื่องยนต์กลไกเป็นต้นเข้าด้วยกันเพื่อให้ใช้การได้ เช่น ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน, นำเครื่องยนต์กลไกเป็นต้นมาตั้งไว้เพื่อทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ติดตั้งเครื่องยนต์ในโรงงาน.

ติดตัว
ก. มีอยู่กับตัว เช่น มีเงินติดตัว มีอาวุธติดตัว.

ติดตา
น. วิธีขยายพันธุ์ต้นไม้แบบหนึ่ง ด้วยการแซะตาของต้นที่ต้องการขยายพันธุ์ไปติดที่ต้นหรือกิ่งของอีกต้นหนึ่งที่เป็นชนิดเดียวกัน โดยกรีดเปลือกตรงที่ต้องการจะนำตาไปติดให้เผยออก สอดตาให้แนบกับเนื้อไม้ ใช้แถบพลาสติกพันให้แน่นเว้นเฉพาะส่วนที่เป็นตา. ก.ยังรู้สึกนึกเห็นภาพอยู่ไม่รู้เลือน; ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเช่นนั้น.

ติดตาม
ก. ไปด้วย, มาด้วย; แสวงหาเพิ่มเติม, สดับตรับฟังความเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ, เช่น ติดตามข่าว; ตามหาเช่น ตํารวจติดตามผู้ร้าย.

ติดตื้น
ก. ติดอยู่ในที่ที่มีนํ้าตื้น ไม่พอที่เรือจะไปได้.

ติดเต้ง
ก. ติดเก้ง.

ติดบวก
ก. เพิ่มจํานวน (ใช้เฉพาะการบัญชี).

ติดบ่อน
ก. ตั้งบ่อนการพนัน.

ติดปาก
ก. ใช้คําใดคําหนึ่งบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย.

ติดเป้ง
ก. ติดเก้ง.

ติดพัน
ก. เกี่ยวข้อง, เกี่ยวเนื่องกัน, เช่น การรบติดพัน;รักใคร่ชอบพอ เช่น ติดพันผู้หญิง.

ติดไฟ
ก. ก่อไฟ, ประดับไฟ.

ติดมือ, ติดไม้ติดมือ
ก. ถือหรือนําไปด้วย.

ติดมือ, ติดไม้ติดมือ
ก. ถือหรือนําไปด้วย.

ติดร่างแห
ก. พลอยติดไปด้วย (มักใช้ในทางไม่ดี), ติดหลังแหก็ว่า.

ติดลบ
(ปาก) ก. มีรายจ่ายเกินรายได้; ขาดจํานวน (ใช้แก่เลขและการบัญชี).

ติดลม
ก. อาการที่ว่าวขึ้นไปสูงได้ลมพยุงให้ทรงตัวอยู่;โดยปริยายหมายความว่า พูดมากเรื่อยไปไม่รู้จักจบ.

ติดศัพท์
ก. พูดใช้ศัพท์ยากหลาย ๆ คํา, พูดใช้ศัพท์คําใดคําหนึ่งบ่อย ๆ; แปลศัพท์ไม่ออก.

ติดสนม
(โบ) ก. ถูกกักบริเวณในเขตพระราชฐานโดยอยู่ในความดูแลของพวกสนม ใช้แก่ผู้มีฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์ หรือข้าทูลละอองธุลีพระบาทชั้นผู้ใหญ่.

ติดสอยห้อยตาม
ก. ติดตามไปรับใช้.

ติดสัด
ก. อาการสืบพันธุ์ของสัตว์ที่เป็นไปตามฤดูกาล.

ติดสำนวน
ก. พูดใช้สํานวนมาก ๆ, พูดจาเล่นสํานวน.

ติดสินบน
ก. ให้สินบน.

ติดหน้าตามหลัง
ก. ห้อมล้อมติดตามไป.

ติดหมัด
ว. ทันทีทันใด (เลียนจากภาษามวย คือต่อยไปแล้วบวมหรือโนตามหมัดขึ้นมา).

ติดหลังแห
ก. พลอยติดไปด้วย (มักใช้ในทางไม่ดี), ติดร่างแหก็ว่า.

ติดแห้ง
ก. ติดอยู่ในที่ที่นํ้าแห้งลง ไม่พอที่เรือจะไปได้.

ติดอันดับ
ก. เข้าขั้นหรือลําดับที่กําหนดไว้.

ติดอ่าง
ว. อาการที่พูดไม่ใคร่ออกทันใจ คือกว่าจะพูดได้แต่ละคําต้องยํ้าคําต้นอยู่นาน จึงพูดต่อไปได้.

ติด ๒
ก. ในการแทงโปโดยวิธีเลี่ยม ลูกค้าติดประตูข้างเคียงได้ ๑ ประตู โปออกประตูที่ลูกค้าแทงเลี่ยมไว้เจ้ามือจ่าย ๒ ต่อ ถ้าออกประตูที่ลูกค้าแทงติดไว้ไม่ได้ไม่เสีย ถ้าออกประตูอื่นนอกจากนั้น เจ้ามือกินเช่น ลูกค้าแทงเลี่ยม ๒ ติด ๓ โปออก ๒ เจ้ามือจ่าย๒ ต่อ ถ้าออก ๓ ไม่ได้ไม่เสีย ถ้าออกหน่วยหรือครบเจ้ามือกิน.

ติด ๓
น. ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในวงศ์ Echeneidae เช่น สกุลEcheneis และ Remora มีลักษณะเฉพาะเด่นกว่าปลาอื่น ๆ ทั้งหมด คือ ที่ด้านบนของส่วนหัวมีอวัยวะรูปวงรีลักษณะเป็นซี่เรียงตัวในแนวขวางคล้ายบานเกล็ด ใช้เป็นส่วนยึดเกาะแน่นกับปลาหรือสัตว์อื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าหรือวัตถุลอยนํ้า ปากเชิดขึ้นอยู่ปลายสุดของหัว ที่พบเสมอได้แก่ ชนิด E. naucrates, เหา เหาทะเล หรือเหาฉลาม ก็เรียก.

ติด ๆ
ว. กระชั้นชิด เช่น วิ่งติด ๆ กันไป.

ติ๊ดเดียว, ติ๊ดหนึ่ง
(ปาก) ว. เล็กน้อย, เล็กนิดเดียว, เช่น แหวนวงนี้เพชรเม็ดติ๊ดเดียว น้ำในแก้วมีอยู่ติ๊ดหนึ่ง ไม่พอกิน, กระติ๊ดกระติ๊ดเดียว หรือ กระติ๊ดหนึ่ง ก็ว่า.

ติ๊ดเดียว, ติ๊ดหนึ่ง
(ปาก) ว. เล็กน้อย, เล็กนิดเดียว, เช่น แหวนวงนี้เพชรเม็ดติ๊ดเดียว น้ำในแก้วมีอยู่ติ๊ดหนึ่ง ไม่พอกิน, กระติ๊ดกระติ๊ดเดียว หรือ กระติ๊ดหนึ่ง ก็ว่า.

ติตติกะ
[ติด–] (แบบ) ว. มีรสขม. (ป.).

ติตติระ
[ติด–] (แบบ) น. นกกระทา. (ป.).

ติตถะ
[ติด–] (แบบ) น. ดิตถ์, ท่านํ้า. (ป.).

ติถี
(แบบ) น. ดิถี, วันตามจันทรคติ เช่น ขึ้นคํ่าหนึ่งแรม ๒ คํ่า. (ป., ส. ติถิ).

ติปา
ก. ตก. (ช.).

ติปาถะ
ว. จิปาถะ, สารพัด, ไม่เลือกว่าอะไร.

ติมิ, ติมิงคละ
[–คะละ] น. ชื่อปลาในคัมภีร์ไตรภูมิ. (ป., ส.).

ติมิ, ติมิงคละ
[–คะละ] น. ชื่อปลาในคัมภีร์ไตรภูมิ. (ป., ส.).

ติระ
(แบบ) น. ฝั่ง. (ป., ส.).

ติรัจฉาน
[–รัด–] น. ดิรัจฉาน, สัตว์เดรัจฉาน. (ป. ติรจฺฉานคตว่า สัตว์มีร่างกายเจริญโดยขวาง).

ติลก ๑
[–หฺลก] ว. ดิลก, ยอด, เลิศ. น. เครื่องหมายที่เจิมที่หน้าผากของพวกพราหมณ์เป็นเครื่องหมายนิกาย.(ป., ส.).

ติลก ๒
[–หฺลก] (แบบ) น. ต้นโลท. (ป.).

ติละ
(แบบ) น. พืชงา, เมล็ดงา. (ป., ส.).

ติ้ว ๑
น. ชื่อไม้ต้นหลายชนิดในสกุล Cratoxylum วงศ์Guttiferae เช่น ติ้วเกลี้ยง (C. cochinchinense Blume), ขี้ติ้ว หรือ ติ้วใบเลื่อม ก็เรียก.

ติ้ว ๒
น. ไม้ซี่เล็ก ๆ ใช้สําหรับเป็นคะแนน เช่น ปักติ้ว นับติ้วสําหรับเสี่ยงทาย เช่น สั่นติ้วเซียมซี หรือสําหรับใช้แทนสลาก เช่น เอาติ้วไปขึ้นของ.

ติ้ว ๓
ว. ตึงเกินไป, แน่นเกินไป, เช่น รัดติ้ว คับติ้ว; สั้นกว่าปรกติ เช่น สาแหรกติ้ว; รวดเร็ว เช่น หมุนติ้ว.

ติ้วใบเลื่อม
ดู ติ้ว ๑.

ตี
ก. เอามือหรือไม้เป็นต้นฟาดหรือเข่นลงไป เช่น ตีเด็กตีดาบ, ตบเบา ๆ เช่น นอนตีพุง; บุให้เข้ารูป เช่น ตีขันตีบาตร; แผ่ให้แบน เช่น ตีทอง; ทําให้เกิดเสียง เช่น ตีระฆัง; กด, ประทับ, เช่น ตีพิมพ์ ตีตรา; ทําให้เข้ากันเช่น ตีเกลียวเชือก ตีไข่; กําหนด เช่น ตีราคา; ทิ้งให้เห็น เช่น ตีไพ่; ชักว่าวให้ไปในทิศทางที่ตนต้องการเช่น ตีว่าวไปทางซ้าย ตีว่าวหนี ตีว่าวแยกกัน. น. วิธีนับเวลาตามประเพณีในเวลากลางคืน หลังเที่ยงคืนตั้งแต่ ๑ นาฬิกา ถึง ๖ นาฬิกา เรียกว่า ตี ๑ ถึง ตี ๖,แต่ตี ๖ นิยมเรียกว่า ยํ่ารุ่ง.

ตีกรรเชียง
[–กัน–] ก. อาการที่นั่งหันหน้าไปทางท้ายเรือแล้วใช้มือเหนี่ยวกรรเชียงพุ้ยนํ้าให้เรือแล่นไป, เรียกท่าว่ายนํ้าโดยนอนหงายแล้วใช้แขนทั้ง ๒ พุ้ยนํ้าให้ตัวเลื่อนไป, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้นเช่น ชกแบบตีกรรเชียง, ตีกระเชียง ก็ว่า.

ตีกลับ
ก. ย้อนกลับคืนผู้ส่ง (ใช้แก่หนังสือหรือจดหมาย) เช่นหนังสือถูกตีกลับ จดหมายถูกตีกลับเพราะหาผู้รับไม่ได้.

ตีกาก
ก. ทําเสียงประกอบเพลงอย่างหนึ่ง. (รามเกียรติ์ ร. ๒).

ตีกิน
ก. ฉวยโอกาสเอาประโยชน์ที่ไม่ควรจะได้.

ตีเกล็ด
ก. ทบผ้า ๒ ชั้นแล้วเย็บเป็นแนว เพื่อการตกแต่ง;ตีฝาซ้อนเหลื่อมกันตามแนวนอน.

ตีเกลียว
ก. หมุนบิดให้เชือกเขม็งขึ้น.

ตีไก่
ก. ให้ไก่ตีกันหรือชนกัน, โดยปริยายเรียกการเล่นของเด็กที่เอาดอกหญ้าแพรกมาตีกันว่า ตีไก่.

ตีขนาบ
ก. ทําให้ขึ้นมาขนาบข้าง.

ตีขลุม
ก. ตู่หรือหยิบฉวยเอาของผู้อื่นโดยทึกทักเอาว่าเป็นของตน, แสดงอาการเป็นเชิงรับสมอ้างเพื่อประโยชน์แก่ตน.

ตีข่าว
(ปาก) ก. ตีพิมพ์ข่าว (ใช้แก่หนังสือพิมพ์) เช่นหนังสือพิมพ์นิยมตีข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชน.

ตีความ
ก. ชี้หรือกําหนดความหมาย; ให้ความหมายหรืออธิบาย; ใช้หรือปรับให้เข้าใจเจตนาและความมุ่งหมายเพื่อความถูกต้อง; (กฎ) วิเคราะห์ถ้อยคําหรือข้อความในบทกฎหมาย นิติกรรม สัญญา หรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีปัญหาสงสัย หรือที่มีความหมายไม่ชัดเจน เพื่อกําหนดความหมายอันแท้จริงของถ้อยคําหรือข้อความนั้น ๆ เช่น ตีความกฎหมาย.

ตีคอ
ก. พูดให้ต้องใจหรือให้ถูกอกถูกใจเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง.

ตีคู่
ก. ทําให้ขึ้นมาเป็นคู่.

ตีงูให้กากิน
(สํา) ก. ทําสิ่งใด ๆ ไว้แล้ว แต่ผลไปตกแก่ผู้อื่น,ทําสิ่งที่ตนควรจะได้รับประโยชน์ แต่กลับไม่ได้.

ตีงูให้หลังหัก
(สํา) ก. กระทําการสิ่งใดแก่ศัตรูโดยไม่เด็ดขาดจริงจังย่อมจะได้รับผลร้ายในภายหลัง เช่น ประเวณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทําร้ายเมื่อภายหลัง. (อภัย).

ตีจาก
ก. ทําตัวออกหาก, แยกตัวออกไป, พยายามทอดทิ้ง,หนีไป, เลิกคบกัน.

ตีชิง
ก. ทําร้ายเจ้าทรัพย์แล้วแย่งเอาของไป.

ตีตนก่อนไข้, ตีตนตายก่อนไข้
(สํา) ก. กังวลทุกข์ร้อนหรือหวาดกลัวในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น.

ตีตนก่อนไข้, ตีตนตายก่อนไข้
(สํา) ก. กังวลทุกข์ร้อนหรือหวาดกลัวในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น.

ตีตรวน
ก. ใส่ตรวน จําตรวนที่ขาโดยวิธีตียํ้าหัวตะปูที่ห่วงเหล็กสวมขาเพื่อไม่ให้ถ่างออกได้.

ตีตัวออกหาก
ก. ห่างเหินไปไม่ร่วมมือร่วมใจเหมือนเดิม, ตีตนจากไป, ปลีกตัวออกไป, เอาใจออกหาก ก็ว่า.

ตีตั๋ว
ก. ซื้อตั๋ว.

ตีตื้น
ก. ค่อยดีขึ้น (ใช้ในลักษณะเช่นการแข่งขันที่ตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบแล้วกลับฟื้นตัวขึ้น).

ตีแตะ
ก. ขัดแตะโดยเอาไม้ไผ่ผ่าให้เป็นซีก ๆ แล้วขัดและตีให้แน่น ในการทํารั้วบ้านและฝาเรือน.

ตีโต้
ก. ตีกลับไป.

ตีทะเบียน
ก. จดทะเบียน.

ตีท้ายครัว
ก. เข้าติดต่อตีสนิททางภรรยา (มักใช้ในทางชู้สาว).

ตีท้ายน้ำ
(สํา) ก. เข้าทําในตอนหลังหรือในระยะหลัง.

ตีบทแตก
ก. แสดงได้แนบเนียนสมบทบาท.

ตีบรรทัด
ก. ทําให้เป็นเส้นบรรทัดตามแนวนอน.

ตีบังกั้น
ก. ช่วยปกป้องและออกรับแทน.

ตีปลาหน้าไซ
(สํา) ก. พูดหรือทําให้กิจการของผู้อื่นซึ่งกําลังดําเนินไปด้วยดีกลับเสียไป.

ตีป่า
ก. ตีดะ, ตีไม่เลือก.

ตีป่าให้เสือกลัว
(สํา) ก. ขู่ให้กลัว.

ตีปีก
ก. แสดงความดีใจโดยงอข้อศอกแล้วตีสีข้างอย่างไก่ตีปีก, แสดงอาการลิงโลดด้วยความดีใจ.

ตีแปลง
[–แปฺลง] ก. ทําดินโคลนให้เป็นแอ่งสําหรับนอนเกลือก (ใช้แก่ควาย หมู); อาการที่ปลากัดต้นไม้เช่นต้นข้าวสําหรับวางไข่; โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น นอนตีแปลง.

ตีผี
น. วิธีเล่นการพนันบิลเลียดชนิดหนึ่ง.

ตีผึ้ง
ก. หาผึ้ง โดยวิธีเอาควันรมแล้วตัดคอนหรือปาดเอารังลงมา; เรียกการเล่นชนิดหนึ่งทางภาคอีสานเล่นต่อจากตอนหมอลํา.

ตีแผ่
ก. ขยายออกมาอย่างชัดแจ้ง, เปิดเผยรายละเอียดอย่างชัดแจ้ง.

ตีฝีปาก
ก. อวดแสดงคารม.

ตีโพยตีพาย
ก. แกล้งร้องหรือทําโวยวายเกินสมควร,แสดงความเสียอกเสียใจจนเกินเหตุ.

ตีมอง
ก. จับปลาด้วยมอง.

ตีรวน
ก. แสดงกิริยาหรือวาจาชวนวิวาท, รวน ก็ว่า.

ตีรั้ง
ว. คล้ายคลึงกัน, เสมอกัน.

ตีลังกา
ก. หกคะเมนหงายหลังม้วนเอาหัวกลับขึ้น.

ตีลูกซึม
ก. ทำเฉย ๆ เหมือนไม่รู้เรื่อง, แสร้งทำหน้าซึมเศร้าเพื่อให้สงสารหรือเห็นอกเห็นใจ.

ตีวง
ก. ล้อมวง, ขยายวง.

ตีวัวกระทบคราด
(สํา) ก. โกรธคนหนึ่งแต่ทําอะไรเขาไม่ได้ ไพล่ไปรังควานอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องและตนสามารถทําได้.

ตีสนิท
ก. เข้าไปทําเป็นสนิทชิดชอบเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง.

ตีสองหน้า
ก. ทําให้ทั้ง ๒ ฝ่ายต่างเข้าใจผิดว่าเป็นพวกตน.

ตีสาย, ตีสายตะแล็ปแก็ป
(โบ) ก. ส่งโทรเลข.

ตีสาย, ตีสายตะแล็ปแก็ป
(โบ) ก. ส่งโทรเลข.

ตีสำนวน
ก. พูดใช้สํานวนโวหารเป็นเชิงอวดฉลาด.

ตีเส้น
ก. ทําให้เป็นแนวตรงด้วยไม้บรรทัดหรือด้ายชุบสีดําเป็นต้น.

ตีเสมอ
ก. ยกตนขึ้นเทียมท่าน โดยไม่รู้จักที่ตํ่าที่สูง.

ตีเสียง
ก. ขึ้นเสียง, ออกเสียงดังด้วยความโกรธ, (เป็นคําที่ผู้ใหญ่ใช้ว่าผู้น้อย).

ตีเสียว่า
ก. กะเอาว่า, สมมุติว่า.

ตีหน้า
ก. แกล้งทําสีหน้าให้ผิดจากใจจริง เช่น ตีหน้าเซ่อ.

ตีหน้าตาย
ก. ทําหน้าเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึกหรือไม่รู้เรื่อง.

ตีหน้ายักษ์
(สำ) ก. ทำหน้าถมึงทึงแสดงอาการเกรี้ยวกราดดุดัน, ใส่หน้ายักษ์ ก็ว่า.

ตีหลายหน้า
(สํา) ก. ตลบตะแลง, กลับกลอก.

ตีห่าง
ก. ตีตัวออกหาก, ไม่คบหาสมาคมด้วยเหมือนเดิม.

ตีไหล่
ว. เคียงคู่กันอย่างใกล้ชิดสนิทสนม เช่น ๒ คนนี้รักกันมาก เดินตีไหล่กันมาเลย.

ตีอวน
ก. จับปลาด้วยอวน.

ตีอีตื้อ
ก. นิ่งเฉย, ดื้อด้าน.

ตี่ ๑
น. การเล่นอย่างหนึ่งของเด็ก ไม่จํากัดจํานวนผู้เล่นโดยขีดเส้นแบ่งเขตระหว่างผู้เล่น ๒ ฝ่าย และจํากัดเขตด้านกว้างและด้านหลังด้วย ผู้เล่นแบ่งเป็น ๒ฝ่าย จํานวนเท่า ๆ กัน คนตี่จะวิ่งออกจากเส้นแบ่งเขตโดยกลั้นใจร้องเสียง “ตี่” ตลอดเวลาที่เข้าไปอยู่ในเขตตรงข้าม พยายามใช้มือฟันฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด และพยายามวิ่งกลับเข้าเขตของตนให้ได้ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องพยายามไม่ให้ถูกฟัน และหาโอกาสจับคนตี่ไว้มิให้กลับไปได้, ตี่จับ หรือ ตี่เสียงก็เรียก. ก. วิ่งร้องตี่ไป.

ตี่ใบ้
น. ชื่อการเล่นตี่ชนิดหนึ่งที่ผู้ตี่ไม่ทําเสียง 'ตี่' ในเวลาเล่น คือต้องหุบปากตลอดเวลาการหุบปากเท่ากับการออกเสียงตี่ อ้าปากเมื่อใดเท่ากับสิ้นเสียงตี่เมื่อนั้น.

ตี่ป้าบ
น. ชื่อการเล่นตี่ชนิดหนึ่งใช้มือตบหลังเมื่อไล่ทัน.

ตี่ ๒
(ถิ่น–อีสาน) ก. แหวกออก, ถ่างออก, เช่น ตี่ฝา ว่าถ่างฝา ตี่ตา ว่า ถ่างตา.

ตี่ ๓
น. เรียกตาที่หนังตาบนตกลงมาจนเกือบปิด ทำให้เบิกตากว้างไม่ได้ ว่า ตาตี่.

ตีทอง
น. ชื่อนกชนิด Megalaima haemacephala ในวงศ์Megalaimidae เป็นนกโพระดกที่เล็กที่สุด ตัวเขียวคอเหลือง อกแดง หน้าผากแดง ขอบตาเหลือง ทํารังในโพรงไม้ กินผลไม้ เช่น ลูกไทร มักเกาะบนต้นไม้สูงร้องเสียง “ป๊ก ๆ” เป็นจังหวะสมํ่าเสมอ.

ตีน ๑
น. อวัยวะส่วนล่างสุดของคนหรือสัตว์ นับตั้งแต่ใต้ข้อเท้าลงไป สําหรับยืนหรือเดินเป็นต้น, โดยปริยายหมายถึงสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นหรือส่วนล่างของสิ่งบางอย่าง เช่น ตีนม่าน ตีนมุ้ง; ชาย,เชิง, เช่น ตีนท่า ตีนเลน.

ตีนกา ๑
น. เครื่องหมายกากบาทมีรูปดังนี้ + หรือ x, ไม้จัตวามีรูปดังนี้ ?; เรียกรอยย่นซึ่งปรากฏที่หางตามีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า ตีนกา.

ตีนกา ๒, ตีนครุ
[–คฺรุ] น. ชื่อเครื่องหมายรูปดังนี้ + สําหรับบอกจํานวนเงิน เส้นดิ่งข้างบนเป็นหลักชั่ง เส้นดิ่งข้างล่างเป็นหลักไพ มุมบนด้านซ้ายเป็นหลักตําลึง มุมบนด้านขวาเป็นหลักบาท มุมล่างด้านซ้ายเป็นหลักเฟื้อง มุมล่างด้านขวาเป็นหลักสลึง เช่น อ่านว่า ๕ ชั่ง ๔ ตําลึง ๓ บาท๒ สลึง ๑ เฟื้อง ๒ ไพ, เฉพาะจํานวนตําลึง บาท สลึงเฟื้อง อาจเขียนย่อแต่เพียงมุมใดมุมหนึ่งที่ต้องการก็ได้เช่น (ตัวอักขระพิเศษ) = ๔ ตําลึง (ตัวอักขระพิเศษ) =๓ บาท (อักขระพิเศษ) = ๒ สลึง (อักขระพิเศษ) = ๑เฟื้อง, ปัจจุบัน แพทย์แผนโบราณยังใช้เครื่องหมายตีนกาหรือตีนครุเป็นมาตราชั่งเฉพาะที่เกี่ยวกับเครื่องยาเท่านั้น.(รูปภาพ)

ตีนกา ๒, ตีนครุ
[–คฺรุ] น. ชื่อเครื่องหมายรูปดังนี้ + สําหรับบอกจํานวนเงิน เส้นดิ่งข้างบนเป็นหลักชั่ง เส้นดิ่งข้างล่างเป็นหลักไพ มุมบนด้านซ้ายเป็นหลักตําลึง มุมบนด้านขวาเป็นหลักบาท มุมล่างด้านซ้ายเป็นหลักเฟื้อง มุมล่างด้านขวาเป็นหลักสลึง เช่น อ่านว่า ๕ ชั่ง ๔ ตําลึง ๓ บาท๒ สลึง ๑ เฟื้อง ๒ ไพ, เฉพาะจํานวนตําลึง บาท สลึงเฟื้อง อาจเขียนย่อแต่เพียงมุมใดมุมหนึ่งที่ต้องการก็ได้เช่น (ตัวอักขระพิเศษ) = ๔ ตําลึง (ตัวอักขระพิเศษ) =๓ บาท (อักขระพิเศษ) = ๒ สลึง (อักขระพิเศษ) = ๑เฟื้อง, ปัจจุบัน แพทย์แผนโบราณยังใช้เครื่องหมายตีนกาหรือตีนครุเป็นมาตราชั่งเฉพาะที่เกี่ยวกับเครื่องยาเท่านั้น.(รูปภาพ)

ตีนคู้
น. ชื่อเรียกสระอู.

ตีนจก
น. ชื่อเชิงซิ่นที่ทอจกลายโดยใช้ขนเม่นควักและใช้ด้ายหรือไหมสอดลาย แล้วนํามาเย็บติดกับซิ่น, เรียกผ้าที่มีเชิงเช่นนั้นว่า ผ้าตีนจก.

ตีนตะขาบ
น. เรียกรถชนิดหนึ่งซึ่งขับเคลื่อนด้วยสายพานสามารถขับเคลื่อนไปในภูมิประเทศที่เป็นทุ่งนาป่าเขาได้ดีกว่ารถที่ใช้ล้อธรรมดา.

ตีนถีบปากกัด
(สํา) ว. มานะพยายามทํางานทุกอย่างเพื่อปากท้องโดยไม่คํานึงถึงความเหนื่อยยาก, ปากกัดตีนถีบ ก็ว่า.

ตีนเท่าฝาหอย
(สํา) น. เด็กทารก.

ตีนผี
น. ไม้ซึ่งอยู่ใต้หางหงส์ สอดอยู่ในช่องว่างระหว่างแปหัวเสากับเชิงกลอน; ส่วนของจักรที่ใช้กดผ้าเวลาเดินจักร ยกขึ้นลงได้; ไกที่ติดอยู่ใต้กระปุกตะเกียงลาน สําหรับไขลาน มีลักษณะคล้ายกุญแจไขลานนาฬิกา; (ปาก) เรียกผู้ที่ขับรถเร็วจนน่าหวาดเสียวและไม่รักษากฎจราจรว่า พวกตีนผี.

ตีนโรงตีนศาล
ว. เรียกคนที่ชอบพลอยประสมหาเศษหาเลยหรือหารายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ตามโรงศาลว่า พวกตีนโรงตีนศาล.

ตีนเหยียด
น. ชื่อเรียกสระอุ.

ตีน ๒
น. ชื่อปลานํ้ากร่อยในวงศ์ Periophthalmidae ที่ใช้ครีบอกต่างตีน ตาโปนมองเห็นเหนือนํ้าได้ดี เช่น ชนิดPeriophthalmus barbarus, Boleophthalmus boddarti. (ดู จุมพรวด).

ตีนกา ๑
ดูใน ตีน ๑.

ตีนกา ๒, ตีนครุ
ดูใน ตีน ๑.

ตีนกา ๒, ตีนครุ
ดูใน ตีน ๑.

ตีนกา ๓
น. ชื่อหญ้าชนิด Eleusine indica Gaertn. ในวงศ์Gramineae ลําต้นแบน ช่อดอกเป็นก้านเดี่ยว ปลายก้านแตกเป็นแขนงสั้น ๆ คล้ายตีนกา ใช้ทํายาได้, หญ้าปากคอก ก็เรียก.

ตีนจ้ำ
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Ardisia aprica Fletch. ในวงศ์Myrsinaceae ยอดและใบอ่อนกินได้.

ตีนตะขาบ
น. ชื่อเฟินชนิด Nephrolepis biserrata (Sw.)Schott ในวงศ์ Nephrolepidaceae.

ตีนตุ๊กแก
น. (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Ficus pumila L. ในวงศ์ Moraceaeใบเขียว กิ่งก้านแตกรากเกาะเลื้อย ใช้ปลูกประดับผนัง,ลิ้นเสือ ก็เรียก. (๒) ชื่อไม้ล้มลุกขนาดเล็กชนิด Tridax procumbens L. ในวงศ์ Compositae ขึ้นทั่วไปตามที่รกร้าง ดอกมีก้านยาว กลีบสีเหลืองนวล. (๓) ชื่อไม้ล้มลุกอวบนํ้าชนิด Kalanchoe delagoensis Eckl. et Zeyh.ในวงศ์ Crassulaceae เป็นไม้ปลูก, ตุ๊กแกใบกลม ก็เรียก.(๔) ชื่อเฟินขนาดเล็กชนิด Selaginella helferi Warb.ในวงศ์ Selaginellaceae ใบเป็นเกล็ดเล็ก ๆ มีกลุ่มอับสปอร์เป็นแท่งที่ปลายกิ่ง. (๕) ชื่อเห็ดชนิด Schizophyllum commune Fr. ในวงศ์ Schizophyllaceae ขึ้นตามเปลือกไม้ ดอกเห็ดรูปพัดขอบจักม้วนลง สีขาวอมเทาอ่อน ด้านล่างมีครีบสีนํ้าตาลเข้ม เนื้อเหนียว กินได้, เห็ดข้าวตอก ก็เรียก,ปักษ์ใต้เรียก เห็ดแครง. (๖) ชื่อเห็ดชนิด Lopharia papyracea(Jungh.) Reid ในวงศ์ Stereaceae ขึ้นบนขอนไม้ ไม่มีก้านเป็นแผ่นบางคล้ายกระดาษ สีนํ้าตาลหม่น กินได้ และใช้ทํายา, เห็ดจิก ก็เรียก.

ตีนเต่า
น. เรียกกล้วยลูกเล็ก ๆ ที่อยู่ปลายเครือว่า กล้วยตีนเต่า.

ตีนเทียน
น. ชื่อนกชนิด Himantopus himantopus ในวงศ์Recurvirostridae ลําตัวด้านบนลายเขียว ด้านล่างสีขาว ปากสีดําและยาวเรียว ขายาวสีแดง ตัวผู้หัวสีดําตัวเมียหัวสีขาว พบอยู่ตามชายฝั่งแม่นํ้า กินกุ้งและปลา.

ตีนนก
น. (๑) ชื่อไม้ต้นชนิด Vitex pinnata L. ในวงศ์ Labiataeดอกเล็ก สีฟ้าอมขาว ออกเป็นช่อใหญ่ ผลกลมเล็ก สีดำเนื้อไม้ทนทานใช้ทำเครื่องมือ, กานน กาสามปีก โคนสมอหรือ สมอกานน ก็เรียก. (๒) ดู กาสามปีก (๑).

ตีนเป็ด
น. ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในวงศ์ Apocynaceae คือ ชนิดAlstonia scholaris (L.) R. Br. ใบออกรอบข้อ ๔–๗ ใบ ผลเป็นฝักยาว ๒ ฝัก, สัตบรรณ หรือ พญาสัตบรรณก็เรียก; และ ตีนเป็ดน้ำ (Cerbera odollam Gaertn.)เป็นไม้ต้นขนาดกลาง มักขึ้นตามชายนํ้า ดอกสีขาวผลกลม.

ตีนแรด
น. (๑) เห็ดตีนแรด. [ดู จั่น ๕ (๒)]. (๒) ชื่อต้นไม้ยืนต้น.(พจน. ๒๔๙๓).

ตีบ ๑
ว. มีอาการแคบเข้าผิดปรกติ (ใช้แก่สิ่งที่เป็นช่องกลวง)เช่น คอตีบ เส้นเลือดตีบ ไส้ตีบ.

ตีบ ๒
น. ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่งซึ่งพัฒนามาจากลูกผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี.

ตีรถะ
[ตีระ–] (แบบ) ติตถ์, ดิตถ์, ท่านํ้า. (ส.; ป. ติตฺถ).

ตีระ
(แบบ) น. ฝั่ง. (ป., ส.).

ตึ, ตึ ๆ
ว. ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อแห้ง,มักใช้ประกอบกับคํา เหม็น เป็น เหม็นตึ.

ตึ, ตึ ๆ
ว. ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อแห้ง,มักใช้ประกอบกับคํา เหม็น เป็น เหม็นตึ.

ตึตัง
ว. เหม็นตืด, ล้างไม่ค่อยหายเหม็น, ตุตัง ก็ว่า.

ตึก
น. อาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐปูนเป็นต้น.

ตึกแถว
น. อาคารที่ก่อด้วยอิฐฉาบปูนหรือคอนกรีตเป็นห้อง ๆเรียงติดกันไปเป็นแถว, ห้องแถว ก็เรียก; (กฎ) อาคารที่พักอาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ซึ่งปลูกสร้างติดต่อกันเป็นแถวเกิน ๒ ห้อง และประกอบด้วยวัตถุทนไฟเป็นส่วนใหญ่.

ตึกระฟ้า
น. อาคารที่สูงมาก.

ตึก ๆ, ตึ้ก ๆ, ตึ้กตั้ก
ว. เสียงดังอย่างเสียงหัวใจเต้นเวลาเหนื่อยหรือตกใจเป็นต้น.

ตึก ๆ, ตึ้ก ๆ, ตึ้กตั้ก
ว. เสียงดังอย่างเสียงหัวใจเต้นเวลาเหนื่อยหรือตกใจเป็นต้น.

ตึก ๆ, ตึ้ก ๆ, ตึ้กตั้ก
ว. เสียงดังอย่างเสียงหัวใจเต้นเวลาเหนื่อยหรือตกใจเป็นต้น.

ตึง ๑
ว. ไม่หย่อน เช่น เชือกตึง เส้นตึง, ค่อนข้างคับ เช่นเสื้อแขนตึง; มีอาการออกจะโกรธ ๆ เช่น หมู่นี้ดูตึงไป.

ตึงเครียด
ว. ใกล้จะถึงขั้นแตกหัก เช่น สถานการณ์ตึงเครียด.

ตึงตัว
ว. แก้ไขให้คลายความลําบากหรือความคับแค้นได้ยาก.

ตึงเปรี๊ยะ
ว. ตึงมากจนเกือบจะปริหรือขาด.

ตึง ๒, ตึง ๆ
ว. เสียงดังอย่างของหนัก ๆ ตกกระทบพื้นแข็ง.

ตึง ๒, ตึง ๆ
ว. เสียงดังอย่างของหนัก ๆ ตกกระทบพื้นแข็ง.

ตึงตัง
ว. เสียงอย่างของหนัก ๆ ตกลงบนพื้นกระดานหลาย ๆครั้ง; โดยปริยายหมายถึงมีกิริยามารยาทซุ่มซ่ามไม่เรียบร้อย เช่น ทะลึ่งตึงตัง

ตึง ๓
ดู พลวง ๒.

ตึดตื๋อ, ตึ๊ดตื๋อ
ว. มาก, ใช้ประกอบกับคำ มืด เป็น มืดตึดตื๋อ หรือมืดตึ๊ดตื๋อ.

ตึดตื๋อ, ตึ๊ดตื๋อ
ว. มาก, ใช้ประกอบกับคำ มืด เป็น มืดตึดตื๋อ หรือมืดตึ๊ดตื๋อ.

ตืด ๑
ว. กลิ่นไม่ดี, กลิ่นเหม็นที่ติดอยู่ไม่รู้หาย เรียกว่าเหม็นตืด, บางทีใช้ว่า เหม็นตืดเหม็นตัง.

ตืด ๒
ว. หนืด, ตระหนี่, มักใช้ว่า ขี้ตืด.

ตื่น
ก. ฟื้นจากหลับ เช่น ตื่นนอน, ไม่หลับ เช่น ตื่นอยู่;แสดงอาการผิดปรกติเพราะตกใจ ดีใจ หรือแปลกใจเป็นต้น เช่น วัวตื่น ควายตื่น ตื่นเวที ตื่นยศ ตื่นไฟ;รู้สิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ในคําว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตื่นแล้ว; โดยปริยายหมายความว่า รู้เท่าทัน,รู้ตัวขึ้น.

ตื่นข่าว
ก. เชื่อข่าวหรือคําเล่าลือโดยไม่มีเหตุผล.

ตื่นตัว
ก. ไหวทันเหตุการณ์, รู้ตัวทันเหตุการณ์.

ตื่นตาตื่นใจ
ก. ตื่นเต้นเพราะได้พบได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยพบเคยเห็น.

ตื่นตาย
ก. หายกลัว, หายตกใจ, เช่น ก็ตื่นตายยินดีเป็นพ้นนัก. (อิเหนา).

ตื่นตูม
ก. ตกใจโดยไม่ได้พิจารณา เช่น กระต่ายตื่นตูม.

ตื่นเต้น
ก. แสดงอาการลิงโลดด้วยดีใจหรือแปลกใจ,มีความประหม่าเพราะไม่คุ้นเคย.

ตื่นแต่ดึก สึกแต่หนุ่ม
(สํา) ก. เร่งรัดทําการงานให้เหมาะสมแก่วัยและเวลา.

ตื่นฟ้า
(กลอน) ก. แจ่มฟ้า.

ตื้น
ว. ตํ่าลงไปจากขอบน้อยกว่าปรกติ เช่น ชามก้นตื้น,หยั่งลงไปได้ไม่ไกลจากผิวหน้าหรือขอบบน เช่นนํ้าตื้น คลองตื้น, เข้าไปไม่ไกลจากขอบเป็นต้น เช่นตรอกตื้น; ผิวเผิน, ไม่ลึกซึ้ง, เช่น ความคิดตื้น, ตรงข้ามกับ ลึก.

ตื้นตัน, ตื้นตันใจ
ว. รู้สึกอัดอั้นเพราะดีใจหรือเสียใจเป็นต้น.

ตื้นตัน, ตื้นตันใจ
ว. รู้สึกอัดอั้นเพราะดีใจหรือเสียใจเป็นต้น.

ตื้อ
ว. ทึบ เช่น มืดตื้อ สมองตื้อ; แน่นอึดอัด เช่น อิ่มตื้อท้องตื้อ; เรียกดอกไม้ไฟชนิดหนึ่งว่า อ้ายตื้อ หรืออีตื้อ; เรียกข้าวเหนียวนํ้ากะทิในพิธีเลี้ยงว่า อ้ายตื้อ.

ตื๊อ
(ปาก) ก. รบเร้าจะเอาให้ได้, เซ้าซี้รบกวนรํ่าไป.

ตื๋อ
ว. เร็วมาก (ใช้แก่กริยาวิ่ง).

ตุ, ตุ ๆ
ว. ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อหรือปลาที่ตากไม่ได้แดดเป็นต้น, ใช้ประกอบกับคำ เหม็น เป็น เหม็นตุ.

ตุ, ตุ ๆ
ว. ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อหรือปลาที่ตากไม่ได้แดดเป็นต้น, ใช้ประกอบกับคำ เหม็น เป็น เหม็นตุ.

ตุตัง
ว. ตึตัง, เหม็นตืด, ล้างไม่ค่อยหายเหม็น.

ตุ๊ ๑
ว. จํ้ามํ่า, ใช้ประกอบกับคำ อ้วน เป็น อ้วนตุ๊,(มักใช้แก่เด็ก).

ตุ๊ต๊ะ
ว. อ้วนอุ้ยอ้าย.

ตุ๊ ๒
(ถิ่น–พายัพ) น. พระ.

ตุ๊กแก ๑
น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานในวงศ์ Gekkonidae หัวโตหางยาว หลายชนิดตีนเหนียวสามารถเกาะตามผนังเรียบได้ หลายชนิดร้องเสียงดัง ออกหากินในเวลากลางคืน ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่นตุ๊กแกที่พบตามบ้านเรือน (Gekko gecko) ตุ๊กแกบินหางเฟิน (Ptychozoon lionatum), พายัพเรียกต๊กโต, อีสานเรียก กับแก้. ว. มีลวดลายเป็นดอกดวงเลอะเทอะ เช่น ผ้าลายตุ๊กแก ตัวลายเป็นตุ๊กแก.

ตุ๊กแก ๒
(๑) ดู แค้. (๒) ดู เก๋า.

ตุ๊กแกใบกลม
ดู ตีนตุ๊กแก (๓).

ตุ๊กตา
[ตุ๊กกะ–] น. ของเล่นของเด็กซึ่งทําเป็นรูปคนหรือสัตว์เป็นต้น มักมีขนาดเล็กกว่าตัวจริง, ลักษณนามว่า ตัว; เงาที่ปรากฏเป็นรูปคนเล็ก ๆ เป็นต้น ในแววตา; ที่รับเพลาและข้อเสือเครื่องจักรเพื่อให้เที่ยง; ชื่อเสาที่ยันขื่อคัด; ตัวอย่างที่สมมุติขึ้นมาประกอบคําอธิบายหรือวินิจฉัยเป็นต้น เช่น ตั้งตุ๊กตามาดู.

ตุ๊กตาล้มลุก
น. ตุ๊กตาไม่มีขา ฐานโค้ง มีโลหะถ่วงอยู่ข้างในฐานเมื่อผลักให้ล้มแล้วจะกลับตั้งขึ้นมาได้เอง,โดยปริยายหมายถึงคนเจ็บไข้ที่ไม่ค่อยมีกําลังวังชา ประเดี๋ยวล้มนอน ประเดี๋ยวลุกนั่ง.

ตุ๊กตาเสียกบาล
[–เสียกะบาน] น. ตุ๊กตาที่ใส่กระบะกาบกล้วยพร้อมทั้งเครื่องเซ่นผีแล้วนําไปวางไว้ที่ทางสามแพร่งหรือลอยนํ้า.

ตุ๊กต่ำ
[ตุ๊กกะ–] น. ชื่อแร่ชนิดหนึ่งสีดําเหมือนนิล. (ปรัดเล).

ตุ๊กต่ำน้ำทอง
น. ชื่อเครื่องยาไทยชนิดหนึ่ง

ตุกติก
ว. มีชั้นเชิง, มีเล่ห์เหลี่ยมไม่ตรงไปตรงมา.

ตุ๊กติ๊ก
ว. ตุ้งติ้ง.

ตุ๊กตุ่น
[ตุ๊กกะ–] น. ของเล่นสําหรับเด็ก ทําเป็นรูปสัตว์หรือสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ขนาดเล็กกว่าตัวจริง,ใช้เข้าคู่กับคำ ตุ๊กตา เป็น ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา.

ตุ๊กตุ๋ย
[ตุ๊กกะ–] (ปาก) ว. ไม่สลักสําคัญอะไร.

ตุง
ว. เป็นกระพุ้งยื่นออกมา, นูนออกมา.

ตุ้งก่า
น. หม้อสําหรับสูบกัญชา.

ตุ้งติ้ง ๑
น. ตุ้มหูชนิดหนึ่ง มีระย้าห้อย. ว. มีกิริยาท่าทางกระชดกระช้อย, กระตุ้งกระติ้ง หรือ ดุ้งดิ้ง ก็ว่า,อาการที่วัตถุเล็ก ๆ แกว่งไปแกว่งมา, ตุ๊กติ๊ก ก็ว่า.

ตุ้งติ้ง ๒
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง, ตุ้งติ้งเปลญวน ก็เรียก.(บัญชีเพลง).

ตุ๊ดตู่ ๑
น. เหล็กสำหรับเจาะรูหรือตอกกระดาษเป็นต้นให้เป็นลูกปลารูปต่าง ๆ เช่น กลม ดอกจิก.

ตุ๊ดตู่ ๒
น. ชื่อกกชนิด Schoenoplectus mucronatus (L.) Palla ในวงศ์ Cyperaceae ขึ้นเป็นกอ สีนํ้าตาลอ่อน ลําต้นเป็นสามเหลี่ยม, กกกลมก็เรียก.

ตุ๊ดตู่ ๓
น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานชนิด Varanus dumerilii ในวงศ์ Varanidae เป็นสัตว์สกุลเดียวกับตะกวดตัวสีนวล ลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดบนคอเป็นแผ่นแบน เมื่อยังเล็กหัวสีแดง พบทางภาคใต้ของประเทศไทย.

ตุ๊ดตู่ ๔
น. ชื่อสัตว์ชนิดหนึ่ง เช่น ในบทดอกสร้อยสุภาษิตว่า 'ตุ๊ดเอ๋ยตุ๊ดตู่ ในเรี่ยวในรูช่างอยู่ได้...'.

ตุ๊ดตู่ ๕
ดู แมลงช้าง ที่ แมลง.

ตุน
ก. เก็บสะสมไว้ เช่น ซื้อของตุนไว้; เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกําไรในการค้า เช่นตุนสินค้า, กักตุน ก็ว่า. (จ.).

ตุ่น ๑
น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Talpa micrura ในวงศ์ Talpidae รูปร่างคล้ายหนูตะเภา ลำตัวอ้วนป้อม หัวเล็ก ตาเล็กมาก จมูกแหลม ขนอ่อนนุ่ม เล็บตีนหน้ายาวใหญ่เห็นได้ชัด ขุดรูเป็นที่อยู่อาศัย กินพืช, ติ่ง ก็เรียก; (ปาก) โดยปริยายหมายความว่า คนโง่ คนเซ่อ, มักใช้ว่า โง่เง่าเต่าตุ่น.

ตุ่น ๒, ตุ่น ๆ
ว. สีมัว ๆ อย่างสีเทาหม่น ๆ.

ตุ่น ๒, ตุ่น ๆ
ว. สีมัว ๆ อย่างสีเทาหม่น ๆ.

ตุ๋น
ก. ทําให้สุกด้วยวิธีเอาของใส่ภาชนะวางในภาชนะที่มีนํ้าแล้วเอาฝาครอบ ตั้งไฟให้นํ้าเดือด เช่น ตุ๋นไข่ตุ๋นข้าว, เคี่ยวให้เปื่อย เช่น ตุ๋นเนื้อ ตุ๋นเป็ด. น. เรียกสิ่งที่ทําให้สุกโดยวิธีดังกล่าว เช่น ไข่ตุ๋น เนื้อตุ๋น เป็ดตุ๋น; (ปาก) โดยปริยายหมายความว่า หลอกลวงเอาไปแทบหมดตัว, ผู้ถูกหลอกลวงเอาไปแทบหมดตัวเรียกว่า ผู้ถูกตุ๋น. (จ.).

ตุ่นต่าน
ก. ข่มขี่ เช่น พรรณหญิงมิโอมอ่าน ตุ่นต่านให้ชายกลัว. (ม. คําหลวง กุมาร).

ตุนาหงัน
[–หฺงัน] ก. หมั้นไว้ (เพื่อแต่งงาน). (ช.).

ตุบ ๆ
ว. อาการที่ชีพจรเป็นต้นเต้นเป็นระยะ ๆ.

ตุ้บ, ตุ้บ ๆ
ว. เสียงดังอย่างของหนัก ๆ หล่น หรือเสียงทุบด้วยกําปั้น.

ตุ้บ, ตุ้บ ๆ
ว. เสียงดังอย่างของหนัก ๆ หล่น หรือเสียงทุบด้วยกําปั้น.

ตุ้บตั้บ
ว. เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงทุบกัน. น. เรียกขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยถั่วกวนกับนํ้าตาลแล้วทุบให้ละเอียด ตัดเป็นชิ้น ๆ ว่า ขนมตุ้บตั้บ.

ตุ๊บป่อง
ว. อาการที่ของลอยกระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลงไปตามกระแสนํ้า.

ตุปัดตุป่อง
ว. สะบัดสะบิ้ง, แสนงอน, ตะปัดตะป่อง ก็ใช้.

ตุปัดตุเป๋
ก. เดินเฉไปเฉมาไม่ตรงทาง.

ตุ่ม ๑
น. ภาชนะสําหรับขังหรือใส่นํ้า ก้นสอบ ปากแคบกว่าโอ่ง.

ตุ่ม ๒
น. เม็ดที่ขึ้นตามผิวหนัง, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ดอกไม้ออกเป็นตุ่ม.

ตุ่ม ๓
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Puntius bulu ในวงศ์Cyprinidae อยู่ในจําพวกปลาตะเพียน ไม่มีหนวด กระโดงครีบหลังแข็งและหยักเป็นฟันเลื่อย ลําตัวมีลายพาดสีดํา เคยพบชุกชุมมากในเขตทะเลสาบสงขลาตอนในที่เรียกทะเลน้อย.

ตุ้ม ๑
ว. ป้อม ๆ, กลม ๆ. น. ของที่มีลักษณะกลม ๆ ห้อยลงมา, ลูกตุ้ม ก็ว่า.

ตุ้มมะพร้าว
น. เรียกลูกมะพร้าวเล็ก ๆ ที่เสียหล่นลงมาว่าลูกตุ้มมะพร้าว.

ตุ้มหู
น. เครื่องประดับหู, ต่างหู.

ตุ้ม ๒
ดู แมลงช้าง ที่ แมลง.

ตุ๋ม
ว. เสียงอย่างของหนักขนาดเล็กตกลงไปในนํ้า.

ตุ้มกว้าว
ดู กระท่อมขี้หมู ที่ กระท่อม ๒.

ตุ้มแซะ
ดู กระท่อมขี้หมู ที่ กระท่อม ๒.

ตุมตัง
ดู กระแจะ ๒.

ตุ้มเต๋น
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Duabanga grandiflora (DC.) Walp. ในวงศ์ Sonneratiaceae ไม้ใช้ทําหีบใส่ของเป็นต้น.

ตุ้มปี่
น. หมวกชนิดหนึ่งมีสัณฐานเหมือนดอกทับทิมควํ่า.(รูปภาพ ตุ้มปี่)

ตุมพรวด
ดู จุมพรวด.

ตุมพะ
(แบบ) น. ชื่อมาตราตวงอย่างโบราณ; หม้อนํ้ามีพวย. (ป.; ส. ตุมฺร).

ตุ่ย
ว. ลักษณะที่มีบางสิ่งบางอย่างดันให้นูนโป่งออกมาเช่น แก้มตุ่ย กระเป๋าตุ่ย.

ตุ่ย ๆ
ว. กลิ่นเหม็นน้อย ๆ.

ตุ้ย, ตุ้ย ๆ
ว. อาการที่เคี้ยวอาหารเต็มปากจนแก้มโป่งออกมาเช่น เคี้ยวตุ้ย ๆ กินตุ้ย ๆ.

ตุ้ย, ตุ้ย ๆ
ว. อาการที่เคี้ยวอาหารเต็มปากจนแก้มโป่งออกมาเช่น เคี้ยวตุ้ย ๆ กินตุ้ย ๆ.

ตุ๊ย
ก. เอาหมัดกระแทกเอา. (จ.). น. เรียกตัวตลกที่ออกมาขัดจังหวะในการสวดคฤหัสถ์ว่า ตัวตุ๊ย.

ตุ๋ยตุ่ย
น. ชื่อว่าวชนิดหนึ่ง คล้ายว่าวจุฬา แต่หัวไม่ยาวมีไม้ยื่นออกไปสําหรับผูกคันธนู เมื่อถูกลมพัด ใบธนูที่ทําด้วยใบลานจะพลิกหมุนกลับไปมาทําให้เกิดเสียงคล้ายเสียงเพลง นิยมเอาว่าวขึ้นในเวลาเย็น แล้วเอาเชือกผูกไว้ตามต้นไม้เป็นต้นเพื่อฟังเสียงในเวลากลางคืน.

ตุรคะ
[ตุระคะ] (แบบ) น. ม้า. (ป., ส.).

ตุรงค–, ตุรงค์
[ตุรงคะ–] (แบบ) น. ดุรงค์, ม้า, เช่น ตุรงคสังวัจฉร.(ป., ส.).

ตุรงค–, ตุรงค์
[ตุรงคะ–] (แบบ) น. ดุรงค์, ม้า, เช่น ตุรงคสังวัจฉร.(ป., ส.).

ตุรงคราวี
น. ชื่อโคลงโบราณ, คู่กับ มหาตุรงคราวี.

ตุริยางค์
น. ส่วนของเครื่องดีดสีตีเป่า หมายความอย่างเดียวกับดุริยะ. (ป. ตุริย + องฺค).

ตุล
น. คันชั่ง, ตราชู; ชื่อกลุ่มดาวรูปคันชั่ง เรียกว่าราศีตุล เป็นราศีที่ ๖ ในจักรราศี, ราศีดุล ก็ว่า.

ตุลสิ
[ตุน–] (แบบ) น. ต้นกะเพรา. (ป.).

ตุลา
(แบบ) น. คันชั่ง, ตราชู; ชื่อมาตราวัดนํ้าหนักมคธเท่ากับ ๑๐๐ ปละ. (ป., ส.).

ตุลาการ
(กฎ) น. ผู้มีอํานาจและหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี.

ตุลาคม
น. ชื่อเดือนที่ ๑๐ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนมกราคม มี ๓๑ วัน; (เลิก) เดือนที่ ๗ ตามสุริยคติซึ่งเริ่มด้วยเดือนเมษายน. (ป., ส. ตุลา ว่า คันชั่ง+ อาคม ว่า มา = เดือนที่อาทิตย์มาสู่ราศีตุล).

ตุหรัดตุเหร่
[–หฺรัด–เหฺร่] ก. ไปอย่างไม่มีจุดหมาย, ไม่มีที่อาศัยแน่นอน.

ตู ๑
(โบ) ส. คําใช้แทนตัวผู้พูด, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑. น. ตัว.

ตูข้า
(โบ) ส. ตัวข้า, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.

ตู ๒
ก. เต้า, ไป. (ข. เทา).

ตู่
ก. กล่าวอ้างหรือทึกทักเอาของผู้อื่นว่าเป็นของตัว,กล่าวอ้างผิดตัว ผิดสิ่ง ผิดเรื่อง.

ตู่ตัว
ว. เพี้ยนตัว, ไม่ตรง, (ใช้ในการอ่านหนังสือ เช่นอ่านตู่ตัว ด เป็นตัว ค).

ตู่พุทธพจน์
ก. อ้างพุทธพจน์ผิด ๆ ถูก ๆ.

ตู้ ๑
น. เครื่องใช้สําหรับเก็บหรือใส่สิ่งของมักมีชั้นมีบานปิดเปิดได้, โดยปริยายหมายถึงสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ตู้ยาม รถตู้.

ตู้นิรภัย
[–นิระ–] น. ตู้ที่ทําขึ้นให้แข็งแรงเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันทรัพย์สินภายในจากการโจรกรรมหรืออัคคีภัย.

ตู้พระมาลัย
น. ตู้ใส่คัมภีร์พระมาลัยซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคัมภีร์ใบลาน, หีบพระมาลัย ก็เรียก.

ตู้เสบียง
น. ตู้รถไฟที่ใช้ปรุงและจำหน่ายอาหารในขณะเดินทาง, รถเสบียง ก็ว่า.

ตู้ ๒
ว. ทู่, เรียกควายเขาสั้นหงิกเข้ามาหาหูว่า ควายเขาตู้.

ตู๊
ก. ประทัง, พอถูไถ, ชดเชย, เช่น พอตู๊ ๆ กันไป. (จ.).

ตู๊เรือ
ก. ชะลอเรือ, ทำให้เรือมีความเร็วลดลง.

ตูก
น. เรือ. (ข. ทูก).

ตูด
น. รูก้น. ว. นูนขึ้น, สูงขึ้น, เช่น เนื้อตูดขึ้นมา; ยื่นออกไป เช่น ปากตูด.

ตูดงอน
ดู ลี่ ๑.

ตูบ ๑
น. กระท่อม, กระต๊อบ, เช่น ไปตั้งตูบตีนเขา. (ม. คําหลวงชูชก), กระตูบ ก็เรียก.

ตูบ ๒
ว. หลุบลง เช่น หูตูบ.

ตูม ๑
น. มะตูม.

ตูม ๒
ว. ไม่บาน, ยังไม่บาน.

ตูม ๓, ตูม ๆ
ว. เสียงดังเช่นนั้น เช่น โดดนํ้าดังตูม เสียงปืนใหญ่ดังตูม ๆ.

ตูม ๓, ตูม ๆ
ว. เสียงดังเช่นนั้น เช่น โดดนํ้าดังตูม เสียงปืนใหญ่ดังตูม ๆ.

ตูมตาม
ว. เสียงดังเอะอะอึกทึก เช่น เสียงระเบิดตูมตาม.

ตูมกา
น. ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในสกุล Strychnos วงศ์ Strychnaceaeคือ ตูมกาขาว หรือ มะตึ่ง (S. nux-blanda A.W. Hill) เมล็ดไม่เป็นพิษ, และ ตูมกาแดง หรือ แสลงใจ (S. nux-vomica L.)เมล็ดเป็นพิษ.

ตูลิ่นฮื้อ
ดู ลิ่นฮื้อ.

ตูหนา
น. ชื่อปลาไหลนํ้าจืดชนิด Anguilla bicolor ในวงศ์Anguillidae ที่ว่ายลงทะเลเพื่อขยายพันธุ์ ลําตัวกลมยาว แบนข้างทางท่อนหาง มีครีบอก เกล็ดเล็กฝังแน่นอยู่ในหนัง ลําตัวและครีบสีนํ้าตาลหรือเกือบดําเสมอกัน พบทางเขตภาคใต้ด้านทะเลอันดามันขนาดยาวได้ถึง ๑.๕ เมตร.

ความคิดเห็น