คำศัพท์ภาษาไทย ขึ้นต้นด้วย บ


บ ๑
พยัญชนะตัวที่ ๒๖ เป็นพวกอักษรกลาง ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กบ.

บ ๒, บ่
[บอ, บ่อ] ว. ไม่, มักใช้ในหนังสือเก่าหรือกวีนิพนธ์ หรือบางท้องถิ่น,ในที่ใช้ บ เมื่อใช้ว่า บ่ ก็มีความเช่นเดียวกัน.

บมิ
(กลอน) ว. ไม่.

บราง
[บอ-] (โบ; กลอน) ก. ไม่, ไม่มี, เช่น บรางนาน บรางโทษ, ใช้ บร้าง ก็มี.

บแรง
(โบ) ก. ไม่มีกําลัง, ไม่ไหว.

บแรงภักษ์
(โบ) ก. กินไม่ไหว.

บเอ
(โบ) ว. มิใช่เอก, มิใช่หนึ่ง, มาก.

บก
น. ส่วนของผิวพื้นโลกที่ไม่ใช่ทะเลหรือแม่นํ้าลําคลองเป็นต้น, ภาคพื้นดิน เช่น ทหารบก ทางบก, ที่ที่แห้ง, ที่ที่พ้นจากนํ้า, เช่น ขึ้นบกบนบก. ว. แห้ง, พร่อง, ลดลง, เช่น นมบกอกพร่อง; ย่อยยับหมดกําลัง เช่น โจมปรปักษบกบาง. (ตะเลงพ่าย).

บกพร่อง
ก. ไม่ครบบริบูรณ์เท่าที่ควรมีควรเป็น เช่น ข้อความบกพร่อง, หย่อนความสามารถ เช่น ทํางานบกพร่อง.

บง ๑
น. ชื่อไผ่ชนิด Bambusa tulda Roxb. ในวงศ์ Gramineae ไม่มีหนามปล้องสั้น เนื้อลําหนา ใช้จักตอก.

บง ๒
(กลอน) ก. มองดู, แลดู, เช่น พลางพระบงจัตุบาท. (ตะเลงพ่าย).

บง ๓
ก. คล้อง, ห่ม, เช่น บงบ่าเฉวียง. (ม. คําหลวง จุลพน). (ข. บงกอ ว่าคล้องคอ).

บง ๔
(โบ) ก. บ่ง, ชี้, ระบุ, เช่น แถลงปางแสดงดิพรเกื้อ บุญบง บาปนา.(ยวนพ่าย).

บงการ
ก. ระบุชี้ให้ดําเนินการตาม, ควบคุมดูแลสั่งการเฉียบขาด.

บ่ง
ก. ชี้, ระบุ, อ้างหรือแสดงให้รู้โดยเจาะจง, เช่น การกระทําของเขาบ่งชัดอยู่แล้วว่าเขาเป็นผู้กระทําผิด; ใช้ของแหลม ๆ แทงที่เนื้อเพื่อเอาหนามเป็นต้นที่ฝังอยู่ในเนื้อหรือหนองออก เช่น บ่งหนาม บ่งหนอง.

บงก-, บงก์
(แบบ) น. เปือกตม, โคลน, โดยมากใช้ประกอบหน้าคําอื่น เช่นบงกช ว่า ของที่เกิดในเปือกตม คือ บัว. (ป., ส. ปงฺก).

บงก-, บงก์
(แบบ) น. เปือกตม, โคลน, โดยมากใช้ประกอบหน้าคําอื่น เช่นบงกช ว่า ของที่เกิดในเปือกตม คือ บัว. (ป., ส. ปงฺก).

บงกช
[บงกด] น. บัว. (ป., ส. ปงฺกช).

บงกชกร
[-กดชะกอน] (กลอน) น. มือมีรูปอย่างดอกบัวตูม, กระพุ่มมือ, มือเช่น กระพุ่มบงกชกร. (เพชรมงกุฎ).

บงกช
ดู บงก-, บงก์.

บงกชกร
ดู บงก-, บงก์.

บ๊งเบ๊ง
(ปาก) ว. ทําเสียงเอะอะ, ทําเสียงเอะอะจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์.

บงสุ-, บงสุ์
(แบบ) น. ฝุ่น, ละออง, ธุลี. (ป. ปํสุ; ส. ปําสุ).

บงสุ-, บงสุ์
(แบบ) น. ฝุ่น, ละออง, ธุลี. (ป. ปํสุ; ส. ปําสุ).

บงสุกุล
น. เรียกผ้าที่พระภิกษุชักออกจากศพว่า ผ้าบงสุกุล, โดยปรกติใช้ว่าบังสุกุล. (ดู บังสุกุล). (ป. ปํสุกูล ว่า ฝั่งแห่งฝุ่น, กองฝุ่น, คลุกฝุ่น).

บงสุกูลิก
น. ผู้ใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร, เป็นชื่อธุดงค์ประการหนึ่งของภิกษุผู้ใช้ผ้าเฉพาะที่เก็บได้จากกองฝุ่นกองหยากเยื่อมาทําเป็นเครื่องนุ่งห่มคือ ไม่ใช้ผ้าที่ชาวบ้านถวาย. (ป. ปํสุกูลิก).

บงอับบงรา, บ่งอับบ่งรา
ก. เข้าที่อับจน.

บงอับบงรา, บ่งอับบ่งรา
ก. เข้าที่อับจน.

บฏ
(แบบ) น. ผ้าทอ, ผืนผ้า; เรียกผืนผ้าที่มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้นและแขวนไว้เพื่อบูชาว่า พระบฏ. (ป. ปฏ).

บด ๑
ก. ทําให้เปลือกแตก เช่น บดข้าวเปลือก, ทําให้แหลก เช่น บดข้าวสุก,ทําให้เป็นผง เช่น บดยานัตถุ์, ทําให้เรียบและแน่น เช่น บดถนน.

บดขยี้
ก. ทําลายให้ย่อยยับแหลกลาญ.

บดบัง
ก. บังแสง, บังรัศมี.

บดเอื้อง
ก. อาการที่สัตว์บางจำพวกเช่นวัวควายสํารอกอาหารออกมาเคี้ยวอีกให้ละเอียด, โดยปริยายหมายความว่า ทำอะไรช้า ๆ, เคี้ยวเอื้องก็ว่า.

บด ๒
น. ชื่อเรือต่อชนิดหนึ่งรูปเพรียว หัวท้ายเรียว, ถ้าใช้กรรเชียงมักท้ายตัดอย่างเรือบดทหารเรือ.

บดินทร์
[บอดิน] น. พระเจ้าแผ่นดิน. (ส. ปติ + อินฺทฺร).

บดี
[บอดี] (แบบ) น. นาย, เจ้าของ, เจ้า, ผู้ครอง, ผู้บังคับบัญชา; ผัว. (ป., ส.ปติ), ในสันสกฤตมีเกณฑ์ว่าศัพท์นี้เมื่ออยู่เฉพาะหมายความว่า นายหรือ ผัว, ถ้ามีศัพท์อื่นมาเข้าสมาสเป็นคําท้ายด้วยหมายความแต่ผัวเช่น บดีพรต, ในบทกลอนใช้ว่า บดิ ก็มี เพื่อเข้าบังคับลหุ.

บดีธรรม
น. หน้าที่ของผัว. (ส. ปติธรฺม).

บดีพรต, บดีวรดา
น. การประพฤติซื่อสัตย์ต่อผัว คือ หญิงมอบตัวแก่ผัวเท่านั้น, ถ้าเป็นชายก็ว่า สทารสันโดษ คือ ยินดีแต่เมียตนเท่านั้น (ส. ปติวฺรต, ปติวฺรตา).

บดีพรต, บดีวรดา
น. การประพฤติซื่อสัตย์ต่อผัว คือ หญิงมอบตัวแก่ผัวเท่านั้น, ถ้าเป็นชายก็ว่า สทารสันโดษ คือ ยินดีแต่เมียตนเท่านั้น (ส. ปติวฺรต, ปติวฺรตา).

บดีศร
[บอดีสอน] (กลอน) น. นายผู้เป็นใหญ่.

บถ
(แบบ) น. ทาง เช่น กรรมบถ. (ป. ปถ).

บท ๑, บท- ๑
[บด, บดทะ-] น. ข้อความเรื่องหนึ่ง ๆ หรือตอนหนึ่ง ๆ เช่น บทที่ ๑บทที่ ๒; กําหนดคําประพันธ์ที่ลงความตอนหนึ่ง ๆ เช่น โคลง ๔สุภาพ ๔ บาท เป็น ๑ บท; คําที่ตัวละครพูด เช่น บอกบท; คําประพันธ์ที่เขียนขึ้นสําหรับเล่นละคร มีทั้งบทร้องและบทเจรจา เช่น บอกบทเขียนบท; คราว, ตอน, ในคําเช่น บทจะทําก็ทํากันใหญ่ บทจะไปก็ไปเฉย ๆ บทจะตายก็ตายง่ายเหลือเกิน. (ป. ปท).

บท ๑, บท- ๑
[บด, บดทะ-] น. ข้อความเรื่องหนึ่ง ๆ หรือตอนหนึ่ง ๆ เช่น บทที่ ๑บทที่ ๒; กําหนดคําประพันธ์ที่ลงความตอนหนึ่ง ๆ เช่น โคลง ๔สุภาพ ๔ บาท เป็น ๑ บท; คําที่ตัวละครพูด เช่น บอกบท; คําประพันธ์ที่เขียนขึ้นสําหรับเล่นละคร มีทั้งบทร้องและบทเจรจา เช่น บอกบทเขียนบท; คราว, ตอน, ในคําเช่น บทจะทําก็ทํากันใหญ่ บทจะไปก็ไปเฉย ๆ บทจะตายก็ตายง่ายเหลือเกิน. (ป. ปท).

บทกลอน
น. คําประพันธ์ที่เป็นบทร้อยกรอง.

บทกวีนิพนธ์
น. บทร้อยกรองที่กวีแต่ง.

บทกำหนดโทษ
(กฎ) น. บทบัญญัติในกฎหมายที่กําหนดโทษทางอาญา.

บทความ
น. ข้อเขียนซึ่งอาจจะเป็นรายงานหรือการแสดงความคิดเห็นมักตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ วารสาร สารานุกรม เป็นต้น.

บทคัดย่อ
น. ข้อความที่ย่อแต่ใจความสําคัญ, ข้อคัดย่อ ก็ว่า. (อ. abstract).

บทเจรจา
น. คําที่ตัวละครพูดเป็นร้อยกรองหรือถ้อยคําธรรมดา.

บทเฉพาะกาล
(กฎ) น. บทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติให้ใช้เฉพาะในช่วงเวลาหนึ่งหรือกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นก่อนวันใช้บังคับกฎหมายนั้น.

บทดอกสร้อย
น. ชื่อคําร้อยกรองชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายสักวา แต่ในวรรคที่๑ มี ๔ คํา มี เอ๋ย เป็นคําที่ ๒ เช่น แมวเอ๋ยแมวเหมียว มักมี ๔คํากลอน และคําลงจบบทให้ลงว่า เอย, ดอกสร้อย ก็ว่า.

บทนำ
น. บทบรรณาธิการ.

บทบรรณาธิการ
น. ข้อเขียนที่บรรณาธิการหรือนักเขียนชั้นนําเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นอันเป็นแนวของหนังสือนั้น ๆ, บทนํา ก็ว่า.

บทบัญญัติ
(กฎ) น. ข้อความที่กําหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในกฎหมาย.

บทบาท
[บดบาด] น. การทําท่าตามบท, การรําตามบท, โดยปริยายหมายความว่าการทําตามหน้าที่ที่กําหนดไว้ เช่น บทบาทของพ่อแม่ บทบาทของครู.

บทบาทมาก
(ปาก) ว. มีท่าทางมาก, ยืดยาดเพราะพิธีรีตองมาก, เช่น กว่าจะออกจากบ้านได้บทบาทมากเหลือเกิน.

บทบูรณ์
[บดทะ-] น. คําที่ทําให้บทประพันธ์ครบพยางค์ตามฉันทลักษณ์ไม่สู้มีความหมายอะไร เช่น แต่งอเนกนุประการ คํา 'นุ' เป็นบทบูรณ์. (ป. ปทปูรณ).

บทประพันธ์
น. เรื่องที่แต่งขึ้นเป็นร้อยแก้วหรือร้อยกรอง.

บทพากย์
น. คํากล่าวเรื่องราวเป็นทํานองเมื่อเวลาแสดงโขนหรือหนังใหญ่เป็นต้น.

บทเพลง
น. คําประพันธ์สําหรับขับร้อง, คำร้อง เนื้อร้อง หรือ บทร้อง ก็ว่า.

บทภาชน์
[บดทะ-] น. บทไขความ. (ป.).

บทภาชนีย์
[บดทะ-] น. บทที่ตั้งไว้เพื่อไขความ, บทที่ต้องอธิบาย. (ป.).

บทร้อง
น. คําประพันธ์สําหรับขับร้อง, คำร้อง เนื้อร้อง หรือ บทเพลง ก็ว่า.

บทเรียน
น. คําสอนที่กําหนดให้เรียน, ข้อที่เป็นคติเตือนใจ เช่น บทเรียนในชีวิต.

บทลงโทษ
น. ข้อบัญญัติโทษทางอาญา.

บทสนทนา
น. คําพูดที่โต้ตอบกันในการเรียนภาษา.

บทสังขยา
น. ชื่อโคลงแบบโบราณ.

บทอัศจรรย์
น. บทร้อยกรองตามธรรมเนียมนิยมในวรรณคดี พรรณนาเพศสัมพันธ์ของชายหญิง มักกล่าวให้เป็นที่เข้าใจโดยใช้โวหารเป็นสัญลักษณ์หรืออุปมาอุปไมยเป็นต้น.

บท ๒, บท- ๒
(แบบ) เท้า, รอยเท้า, เช่น จตุบท, ในบทกลอนใช้ประสมกับคําอื่น ๆหมายความว่า เท้า คือ บทบงกช บทบงสุ์ บทมาลย์ บทรัช บทศรีบทเรศ, (ดูคําแปลที่คํานั้น ๆ). (ป. ปท).

บท ๒, บท- ๒
(แบบ) เท้า, รอยเท้า, เช่น จตุบท, ในบทกลอนใช้ประสมกับคําอื่น ๆหมายความว่า เท้า คือ บทบงกช บทบงสุ์ บทมาลย์ บทรัช บทศรีบทเรศ, (ดูคําแปลที่คํานั้น ๆ). (ป. ปท).

บทจร
[บดทะ-] (กลอน) ก. เดินไป. (ป.).

บทบงกช
[บดทะ-] (กลอน) น. บัวบาท, เท้า. (ส. ปทปงฺกช).

บทบงสุ์
[บดทะ-] น. ละอองเท้า. (ป.).

บทมาลย์
[บดทะ-] (แบบ) น. เท้าผู้มีบุญ เช่นกษัตริย์.

บทรัช
[บดทะ-] (แบบ) น. ละอองเท้า เช่น นางโรยนางรื่นล้าง บทรัช. (ลอ).

บทเรศ
[บดทะ-] (กลอน) น. เท้า เช่น กราบบทเรศราชบิดา ท่านแล.(ม. คําหลวง ฉกษัตริย์).

บทวเรศ
[บดทะวะเรด] (แบบ) น. เท้า เช่น ถวายทศนัขประณตบทวเรศราชชนนี.(ม. ร่ายยาว ฉกษัตริย์).

บทวลัญช์
[บดทะวะลัน] (แบบ) น. รอยเท้า. (ป. ปทวลญฺช).

บทวาร
[บดทะวาน] (แบบ) น. ชั่วก้าวเท้า, ระยะก้าวเท้า, เช่น ทางเล็กควรบทวารผู้หนึ่งจะพึงไป. (ม. ร่ายยาว วนปเวสน์).

บทศรี
[บดทะ-] (กลอน) น. เท้า (ใช้แก่เจ้านาย).

บทามพุช
[บะทามะพุด] (แบบ) น. บัวบาท, เท้า, เช่น ทูลพระบทามพุช. (ยวนพ่าย).(ป. ปท + อมฺพุช).

บทามพุช
ดู บท ๒, บท- ๒.

บโทน
[บอ-] น. ผู้ติดหน้าตามหลัง, คนใช้.

บน ๑
ก. ขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยโดยให้คํามั่นว่าจะให้สิ่งของตอบแทนหรือทําตามที่ให้สัญญาไว้เมื่อเป็นผลสําเร็จ, บนบาน ก็ว่า.ว. เบื้องสูง, ตรงข้ามกับ เบื้องล่าง, เช่น ข้างบน ชั้นบน เบื้องบน. บ. ในที่ซึ่งอยู่สูงหรือเหนือ เช่น นั่งอยู่บนเรือน วางมือบนหนังสือมีหนังสือวางอยู่บนโต๊ะ.

บนข้าวผี ตีข้าวพระ
(สํา) ก. ขอร้องให้ผีสางเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือโดยจะแก้บนเมื่อสําเร็จประสงค์แล้ว.

บนบาน
ก. ขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยโดยให้คํามั่นว่าจะให้สิ่งของตอบแทนหรือทําตามที่ให้สัญญาไว้เมื่อเป็นผลสําเร็จ, บน ก็ว่า.

บนบานศาลกล่าว
(สํา) ก. ขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ.

บน ๒
น. คํา เช่น ให้บนถ้อยคํา. (จินดามณี); คําที่จดไว้เป็นหลักฐาน, คําให้การที่จดไว้เป็นหลักฐาน, เช่น เอาบนเขาไว้, ให้คาดบนไว้. (สามดวง).

บ่น
ก. พูดพรํ่าหรือว่ากล่าวซํ้า ๆ ซาก ๆ; กล่าวซํ้า ๆ กัน เช่น ท่องบ่นภาวนา.บ่นถึง ก. กล่าวถึงบ่อย ๆ.

บพิตร
[บอพิด] (แบบ) น. พระองค์ท่าน เช่น บํารุงฤทัยตระโบม บพิตรผู้อย่าดูเบา, โดยมากเป็นคําที่พระสงฆ์ใช้แก่เจ้านาย เช่น บรมวงศบพิตร.

บพิตรพระราชสมภาร
ส. คําที่พระสงฆ์เรียกพระมหากษัตริย์, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๒.

บพิธ
[บอพิด] ก. แต่ง, สร้าง. (ป. ป + วิ + ธา).

บ่ม
ก. ทําให้สุกหรือให้แห้งด้วยความอบอุ่น เช่น บ่มผลไม้ บ่มใบยา;โดยปริยายหมายความว่า สั่งสมอบรมให้สมบูรณ์ ในคำว่า บ่มบารมีบ่มนิสัย.

บ่มนิสัย
ก. อบรมให้มีการประพฤติปฏิบัติในทางที่ดีจนเป็นนิสัย.

บ่มบารมี
ก. บำเพ็ญบารมีให้สมบูรณ์, สั่งสมอบรมบารมีให้สมบูรณ์.

บ่มผิว
ก. ทําให้ผิวงามด้วยการอยู่ในที่ซึ่งไม่ถูกแดดถูกลมจนเกินไป.

บ่มมัน
ก. อาการที่ช้างกําลังจะตกมัน.

บ่มหนอง
ก. ทําให้ฝีกลัดหนองเต็มที่เพื่อบ่งได้ง่าย.

บร-
[บอระ-] (แบบ; กลอน) น. ฝ่ายอื่น เช่น บรเทศ, ข้าศึก เช่น บรปักษ์.(ป., ส. ปร).

บรทาร
[-ทาน] (แบบ) น. เมียเขา. (ส.).

บรทารกรรม
[-ทาระ-] (แบบ) น. การประพฤติผิดในเมียเขา. (ส.).

บรม, บรม-
[บอรมมะ-] ว. อย่างยิ่ง, ที่สุด, (มักใช้นําหน้าคําที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าพระเจ้าแผ่นดิน และพระอัครมเหสี เป็นต้น เพื่อแสดงพระเกียรติยศยิ่งใหญ่) เช่น บรมศาสดา บรมบพิตร บรมราชินี บรมมหาราชวัง. (ป., ส.ปรม); (ปาก) อย่างที่สุด เช่น ขี้เกียจบรม บรมขี้เกียจ.

บรม, บรม-
[บอรมมะ-] ว. อย่างยิ่ง, ที่สุด, (มักใช้นําหน้าคําที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าพระเจ้าแผ่นดิน และพระอัครมเหสี เป็นต้น เพื่อแสดงพระเกียรติยศยิ่งใหญ่) เช่น บรมศาสดา บรมบพิตร บรมราชินี บรมมหาราชวัง. (ป., ส.ปรม); (ปาก) อย่างที่สุด เช่น ขี้เกียจบรม บรมขี้เกียจ.

บรมครู
น. คำที่ใช้เรียกพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ.

บรมธาตุ
น. กระดูกพระพุทธเจ้า.

บรมบพิตร
[บอรมมะบอพิด] น. คําที่พระสงฆ์ใช้สําหรับแทนพระนามพระเจ้าแผ่นดินหรือพระมเหสี, เดิมใช้ว่า มหาบพิตร.

บรมวงศานุวงศ์
(ราชา) น. ญาติ.

บรมอัฐิ
น. กระดูกพระมหากษัตริย์หรือพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง.

บรมัตถ์
[บอระมัด] น. ปรมัตถ์, ประโยชน์อย่างยิ่ง, เนื้อความอย่างสูง, ความจริงที่สุด; ชื่อพระอภิธรรมปิฎก เรียกว่า บรมัตถ์, และยังใช้นําหน้าศัพท์ เช่นบรมัตถบารมี บรมัตถประโยชน์. (ป. ปรมตฺถ).

บรรกวด
[บัน-] ก. ประกวด, แข่งขัน.

บรรจง
[บัน-] ก. ตั้งใจทํา เช่น บรรจงเขียน, ทําโดยระมัดระวัง เช่น มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง. ว. อย่างประณีต เช่น เขียนบรรจง, ตัวบรรจง.

บรรจถรณ์
[บันจะถอน] (แบบ) น. เครื่องลาด, เครื่องปู, ที่นอน. (ป. ปจฺจตฺถรณ).

บรรจบ
[บัน-] ก. เพิ่มให้ครบจํานวน เช่น บรรจบให้ครบร้อย บรรจบให้ครบถ้วน;จดกัน, ใกล้ชิดติดต่อกัน, เช่น ปูกระดานให้บรรจบกัน ทาง ๒ สายมาบรรจบกัน, ทําให้เข้ากันสนิท เช่น ติดกรอบหน้าต่างให้มุมบรรจบกัน;ชนขวบ เช่น บรรจบรอบปี, ประจบ ก็ใช้.

บรรจวบ
[บัน-] ก. ประจวบ, ประสบ, พบปะ, สบเหมาะ, บังเอิญพบ.

บรรจุ
[บัน-] ก. ประจุ, ใส่ลงในขวด หีบ หรือถุง เป็นต้น, ใส่ลงไว้ในภาชนะหรือสถานที่ที่ใดที่หนึ่งที่มิดชิด เช่น บรรจุอังคาร บรรจุอัฐิ บรรจุศพ;โดยปริยายหมายความว่า ให้เข้าประจําที่, ให้เข้าประจําตําแหน่งครั้งแรก, เช่น บรรจุให้เป็นข้าราชการ, ใส่ลงไว้ตามอัตรา เช่น บรรจุเข้าไว้ในรายการ.

บรรเจิด
[บัน-] ก. เชิดสูงขึ้น, สูงเด่น, เฉิดฉาย. ว. งาม.

บรรณ, บรรณ-
[บัน, บันนะ-] น. ปีก; หนังสือ; ใบไม้. (ส. ปรฺณ; ป. ปณฺณ).

บรรณ, บรรณ-
[บัน, บันนะ-] น. ปีก; หนังสือ; ใบไม้. (ส. ปรฺณ; ป. ปณฺณ).

บรรณกุฎี
น. กระท่อมอันมุงบังด้วยใบไม้. (ส. ปรฺณ + กุฏิ).

บรรณพิภพ, บรรณโลก
(แบบ) น. วงการหนังสือ.

บรรณพิภพ, บรรณโลก
(แบบ) น. วงการหนังสือ.

บรรณศาลา
น. ที่สํานักของฤๅษีหรือผู้บําเพ็ญพรตเป็นต้น ถือกันว่ามุงบังด้วยใบไม้.(ส. ปรฺณศาลา; ป. ปณฺณสาลา ว่า โรงที่มุงและบังด้วยใบไม้).

บรรณสาร
(โบ) น. หนังสือราชการ.

บรรณาการ
[บันนากาน] น. สิ่งที่ส่งไปให้ด้วยความเคารพนับถือหรือด้วยไมตรี.(ป. ปณฺณาการ; ส. ปรฺณาการ), ในบทประพันธ์ใช้ว่า บรรณา ก็มี.

บรรณาคม
[บันนาคม] น. ห้องหนังสือ.

บรรณาธิกร
[บันนา-] (โบ) ก. รวบรวมและจัดเลือกเฟ้นเรื่องลงพิมพ์.

บรรณาธิการ
[บันนาทิกาน] น. ผู้จัดเลือกเฟ้น รวบรวม ปรับปรุง และรับผิดชอบเรื่องลงพิมพ์; (กฎ) บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการจัดทํา ตรวจแก้คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์.

บรรณานุกรม
[บันนานุกฺรม] น. บัญชีรายชื่อหนังสือที่ใช้ประกอบการค้นคว้า,บัญชีรายชื่อหนังสือในหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ยุคใดยุคหนึ่ง หรือของผู้เขียนคนใดคนหนึ่ง มักจะมีรายละเอียดหรือบทวิจารณ์สั้น ๆ ประกอบ.

บรรณารักษ์
[บันนารัก] น. บุคคลที่รับผิดชอบในการบริหารและดำเนินงานในห้องสมุด.

บรรณารักษศาสตร์
[บันนารักสะสาด, บันนารักสาด] น. วิชาที่ว่าด้วยการบริหารห้องสมุด.

บรรณาการ
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรณาคม
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรณาธิกร
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรณาธิการ
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรณานุกรม
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรณารักษ์
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรณารักษศาสตร์
ดู บรรณ, บรรณ-.

บรรดา
[บัน-] ว. ทั้งหลาย, ทั้งปวง, ทั้งหมด, (มักใช้อยู่ข้างหน้า) เช่นบรรดามนุษย์ บรรดาทรัพย์สมบัติที่มีอยู่, ประดา ก็ว่า.

บรรดามี
(ปาก) ว. ที่มีอยู่ทั้งหมด, ประดามี ก็ว่า.

บรรดาก
[บันดาก] (แบบ) น. ธง, ธงผืนผ้า. (ป. ปฏาก; ส. ปตากา).

บรรดาศักดิ์
[บันดา-] น. ฐานันดรศักดิ์ที่พระราชทานแก่ข้าราชการหรือบุคคลทั่วไป แบ่งออกเป็น เจ้าพระยา พระยา พระ หลวง ขุน หมื่น พันและทนาย โดยมีราชทินนามต่อท้าย เช่น เจ้าพระยายมราชพระยาพลเทพ.

บรรตานึก
[บันตานึก] (แบบ) น. ปัตตานึก, พลเดินเท้า, ทหารราบ. (ป., ส.ปตฺตานีก).

บรรถร
[บันถอน] (แบบ) น. ที่นอน, เครื่องปูลาด. (ป. ปตฺถร; ส. ปฺรสฺตร).

บรรทม
[บัน-] (ราชา) ก. นอน, ประทม หรือ ผทม ก็ว่า. (ข. ผทม).

บรรทัด
[บัน-] น. ข้อความที่เขียนหรือพิมพ์เป็นต้นต่อเนื่องกันเป็นแถวเป็นแนวแต่ละแนว เช่น ตัดบรรทัดที่ ๒๐ ออก, ลักษณนามว่า บรรทัดเช่น ให้เขียนเรียงความอย่างน้อย ๕๐ บรรทัด, เรียกตัวหนังสือที่เขียนเต็มช่วงระหว่างเส้นบรรทัด ๒ เส้นว่า ตัวเต็มบรรทัด, เรียกตัวหนังสือที่เขียนเพียงครึ่งหนึ่งของช่วงระหว่างเส้นบรรทัด ๒ เส้นว่า ตัวครึ่งบรรทัด, เรียกอุปกรณ์การเขียนชนิดหนึ่งทําด้วยไม้เป็นต้นสําหรับทาบเป็นแนวเพื่อขีดเส้นให้ตรง ว่า ไม้บรรทัด, เรียกเส้นที่ตีหรือพิมพ์ไว้บนกระดาษเป็นต้นเพื่อเขียนหรือพิมพ์ตัวอักษรบนเส้นใต้เส้นหรือระหว่างเส้น ว่า เส้นบรรทัด.

บรรทัดฐาน
น. แบบแผนสําหรับยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ; เหตุที่ตั้งเป็นเครื่องถึง,เหตุอันใกล้ที่สุด; ปทัสถาน หรือ ปทัฏฐาน ก็ว่า.

บรรทัดรองมือ
น. อุปกรณ์อย่างหนึ่งสำหรับจิตรกรใช้รองมือเขียนภาพ เป็นไม้แบน ๆยาว ๑-๒ ฟุต กว้างประมาณ ๑ นิ้ว หุ้มปลายข้างหนึ่งด้วยสำลีพันกระดาษฟางหรือผ้าเนื้อนุ่ม.

บรรทัดราง
น. อุปกรณ์อย่างหนึ่งของช่างไม้ เป็นเชือกพันลูกรอกอยู่ในรางไม้เมื่อดึงปลายเชือกออกจากรอก เชือกจะผ่านกระปุกซึ่งมีสีดำบรรจุอยู่ทำให้เชือกติดสี เมื่อดึงเชือกให้ตึงตรงแนวพื้นกระดานเป็นต้นที่ต้องการขีดเส้นแล้วดีด สีจากเชือกจะติดพื้นเป็นเส้นตรงตามต้องการ.

บรรทับ
[บัน-] (โบ; กลอน) ก. ประทับ เช่น ถนอมบรรทับออมชม ทราบเนื้อ.(ทวาทศมาส).

บรรทาน
[บัน-] ก. เพิ่มให้, ให้. (แผลงมาจาก ประทาน).

บรรทุก
[บัน-] ก. วางไว้ ใส่ลง หรือบรรจุลงบนยานพาหนะเป็นต้นเพื่อขนย้ายไปทีละมาก ๆ, ประทุก ก็ใช้ โดยปริยายหมายความว่า รับภาระ เช่นบรรทุกงานไว้มาก, (ปาก) กินเกินอัตรา เช่น บรรทุกเข้าไปจนท้องแทบแตก.

บรรเทา
[บัน-] ก. ทุเลาหรือทําให้ทุเลา, ผ่อนคลายหรือทําให้ผ่อนคลายลง,เบาบางหรือทําให้เบาบางลง, สงบหรือทําให้สงบ, เช่น บรรเทาทุกข์อาการโรคบรรเทาลง, ประเทา ก็ใช้.

บรรเทือง
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประเทือง) ก. ทําให้กระเตื้องขึ้น, พยุง,ทําให้ดีขึ้น.

บรรพ, บรรพ- ๑
[บับ, บับพะ-] น. ข้อ, ปล้อง, เล่ม, หมวด, ภาค, ตอน, กัณฑ์; ขั้นบันได;ระยะหรือเวลาที่กําหนด. (ป. ปพฺพ; ส. ปรฺวนฺ).

บรรพ, บรรพ- ๑
[บับ, บับพะ-] น. ข้อ, ปล้อง, เล่ม, หมวด, ภาค, ตอน, กัณฑ์; ขั้นบันได;ระยะหรือเวลาที่กําหนด. (ป. ปพฺพ; ส. ปรฺวนฺ).

บรรพภาค
(แบบ) น. ข้อมือ. (ส.).

บรรพเภท
(แบบ) น. ความปวดร้าวในข้อ. (ส.).

บรรพมูล
(แบบ) น. วันขึ้น ๑ คํ่า และวันกลางเดือนทางจันทรคติ. (ส.).

บรรพ- ๒, บรรพ์
[บันพะ-, บัน] ว. ก่อน, ทีแรก, เบื้องต้น; ตะวันออก. (ป. ปุพฺพ;ส. ปูรฺว).

บรรพ- ๒, บรรพ์
[บันพะ-, บัน] ว. ก่อน, ทีแรก, เบื้องต้น; ตะวันออก. (ป. ปุพฺพ;ส. ปูรฺว).

บรรพบุรุษ
น. ผู้เป็นต้นวงศ์ตระกูลซึ่งมีผู้สืบสายโลหิตมา, บุคคลที่นับตั้งแต่ปู่ย่าตายายขึ้นไป.

บรรพสตรี
น. หญิงผู้เป็นต้นวงศ์.

บรรพชา
[บันพะ-, บับพะ-] น. การบวช เช่น บรรพชาเป็นกิจที่ทําได้ยาก, ถ้าใช้เข้าคู่กับคํา อุปสมบท บรรพชาหมายความว่า การบวชเป็นสามเณรอุปสมบท หมายความว่า การบวชเป็นภิกษุ. ก. บวช เช่น บรรพชาเป็นสามเณร. (ป. ปพฺพชฺชา; ส. ปฺรวฺรชฺยา).

บรรพชิต
[บันพะชิด] น. นักบวชในพระพุทธศาสนา. (ป. ปพฺพชิต; ส. ปฺรวฺรชิต).

บรรพต, บรรพต-
[บันพด, บันพดตะ-] น. ภูเขา. (ส. ปรฺวต; ป. ปพฺพต).

บรรพต, บรรพต-
[บันพด, บันพดตะ-] น. ภูเขา. (ส. ปรฺวต; ป. ปพฺพต).

บรรพตกีลา
(แบบ) น. แผ่นดิน. (ส. ปรฺวต + กีลา).

บรรพตชาล
(แบบ) น. เทือกเขา, แนวเขา, ทิวเขา. (ส. ปรฺวต + ชาล).

บรรพตธาตุ
(แบบ) น. แร่. (ส. ปรฺวต + ธาตุ).

บรรพตมาลา
(แบบ) น. เทือกเขา, แนวเขา, ทิวเขา. (ส. ปรฺวต + มาลา).

บรรพตราช
(แบบ) น. พญาเขา. (ส. ปรฺวต + ราช).

บรรพตวาสี
(แบบ) น. ชาวเขา. (ส. ปรฺวต + วาสินฺ).

บรรพตศิขร
(แบบ) น. ยอดเขา. (ส. ปรฺวต + ศิขร).

บรรยง
[บัน-] ก. ทําให้งาม, ทําให้ดี.

บรรยงก์
[บัน-] น. ที่นั่ง. (ส. ปรฺยงฺก).

บรรยเวกษก์
[บันยะเวก] น. ผู้ดูแลทั่วไป เป็นตําแหน่งในวิทยาลัย. (ส. ปริ + อว +อีกฺษก).

บรรยากาศ
น. อากาศที่หุ้มห่อโลกหรือเทห์ฟากฟ้าใด ๆ, โดยปริยายหมายความถึงความรู้สึกหรือสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เช่น บรรยากาศในที่ประชุม บรรยากาศรอบ ๆ บ้าน; หน่วยของความดัน กําหนดว่า ความดัน ๑ บรรยากาศ มีค่าเท่ากับความดันของลําปรอทที่ตั้งตรงสูง ๗๖ เซนติเมตร ที่ ๐?ซ. ณ ระดับทะเลที่ละติจูด ๔๕? หรือเท่ากับความดัน ๑๐๑,๓๒๕ นิวตันต่อตารางเมตร.

บรรยาย
[บันยาย, บันระยาย] ก. ชี้แจงหรืออธิบายเรื่องให้ฟังเป็นต้น, เล่าเรื่องเช่น ภาพยนตร์มีอักษรไทยบรรยายกํากับไว้. (ส.).

บรรลัย
[บันไล] ก. ฉิบหาย, วอดวาย, ย่อยยับ, มอดม้วย, ประลัย ก็ว่า.

บรรลัยกัลป์
[บันไลกัน] น. เรียกไฟที่เชื่อกันว่าจะล้างโลกเมื่อสิ้นกัปว่า ไฟบรรลัยกัลป์,ไฟกัลป์ หรือ ไฟประลัยกัลป์ ก็ว่า.

บรรลัยจักร
[บันไลยะจัก] ว. วายวอด, มักใช้เป็นคําด่าประกอบคํา ฉิบหายเป็น ฉิบหายบรรลัยจักร.

บรรลาย ๑
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ปราย) ก. ปราย, โปรย, เช่น หยั่งหยาดวลาหกบรรลาย. (อุเทน).

บรรลาย ๒
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ปลาย) น. ยอด, ที่สุด, ตรงข้ามกับ ต้น.

บรรลุ
[บัน-] ก. ลุ, ถึง, สําเร็จ, เช่น บรรลุมรรคผล, ประลุ ก็ว่า.

บรรลุนิติภาวะ
(กฎ) ก. มีอายุถึงกําหนดที่กฎหมายให้พ้นจากภาวะผู้เยาว์และให้มีความสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้ด้วยตนเอง เช่น บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ หรือโดยการสมรสเมื่อชายและหญิงมีอายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์แล้ว.

บรรเลง
[บัน-] ก. ทําเพลงด้วยเครื่องดุริยางค์ให้เป็นที่เจริญใจ.

บรรโลม
[บัน-] (กลอน) ก. ประโลม, ทําให้พึงใจ.

บรรษัท
[บันสัด] (แบบ; แผลงมาจาก บริษัท) น. หมู่, ผู้แวดล้อม; การรวมกันเข้าหุ้นส่วนทําการค้าขาย; (กฎ) นิติบุคคลที่มีฐานะอย่างเดียวกับบริษัทจํากัด ซึ่งมีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ. (อ. corporation).

บรรสบ
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประสบ) ก. พบ.

บรรสพ
[บัน-] ก. เกิดผล, ได้. (แผลงมาจาก ประสพ).

บรรสม
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประสม) ก. รวมกันเข้า, ปน, ระคน, เจือ.

บรรสาน
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประสาน) ก. ทําให้ติดกัน, ทําให้สนิทกัน,เชื่อม, รัด, ผูกไว้.

บรรสาร
[บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประสาร) ก. คลี่ออก.

บรรหาน
[บัน-] ก. แสดง.

บรรหาร
[บันหาน] (กลอน; แผลงมาจาก บริหาร) ก. เฉลย, กล่าวแก้, ตรัสสั่ง.

บรอนซ์
น. ผงโลหะที่มีสีแวววาว ใช้ผสมสีหรือโรยบัตรเชิญเป็นต้น เช่นสีเงินบรอนซ์ สีทองบรอนซ์.

บรัด
[บะหฺรัด] ก. แต่ง. น. เครื่องแต่ง, เครื่องประดับ, เช่น อันควรบรัดแห่งพระองค์. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).

บรั่นดี
[บะหฺรั่น-] น. ชื่อสุราชนิดหนึ่งกลั่นจากเหล้าองุ่น. (อ. brandy).

บรัศว์
[บะหฺรัด] น. ข้าง, สีข้าง; ฟ้าดิน. (ส. ปารฺศฺว; ป. ปสฺส).

บรากรม
[บะรากฺรม] (แบบ) น. ความเพียร, ความบากบั่น, ความพยายาม,ความแข็งขัน, ความก้าวไปเพื่อคุณในเบื้องหน้า. (ส. ปฺรากรฺม;ป. ปรกฺกม).

บราทุกรา
[บะราทุกฺรา] (โบ; กลอน) น. รองเท้า. (ป., ส. ปาทุกา).

บราลี
[บะรา-] น. ยอดเล็ก ๆ มีสัณฐานดุจยอดพระทราย ใช้เสียบราย ๆไปตามอกไก่หลังคา หรือเสียบหลังบันแถลงบนหลังคาเครื่องยอด.

บริกรม
[บอริกฺรม] (แบบ) ก. เดินไป, ผ่านไป, พ้นไป, จากไป. (ส. ปริกฺรม).

บริกรรม
[บอริกํา] ก. สํารวมใจสวดมนต์ภาวนา, สํารวมใจร่ายมนตร์หรือเสกคาถาซํ้า ๆ หลายคาบหลายหนเพื่อให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์.(ส. ปริกรฺมนฺ; ป. ปริกมฺม).

บริกัป
[บอริกับ] (แบบ) น. ความตรึก, ความดําริ, การกําหนด. (ป. ปริกปฺป;ส. ปริกลฺป).

บริการ
[บอริกาน] ก. ปฏิบัติรับใช้, ให้ความสะดวกต่าง ๆ, เช่น ร้านนี้บริการลูกค้าดี. น. การปฏิบัติรับใช้, การให้ความสะดวกต่าง ๆ, เช่น ให้บริการ ใช้บริการ.

บริขา
[บอริ-] (แบบ) น. คู, สนามเพลาะ. (ป. ปริขา).

บริขาร
[บอริขาน] น. เครื่องใช้สอยของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา มี ๘อย่าง คือ สบง จีวร สังฆาฏิ บาตร มีดโกนหรือมีดตัดเล็บ เข็มประคดเอว กระบอก กรองนํ้า (ธมกรก) เรียกว่า อัฐบริขาร,สมณบริขาร ก็เรียก. (ป. ปริกฺขาร).

บริขารโจล
[-โจน] (แบบ) น. ท่อนผ้าสําหรับใช้สอยเล็กน้อย, ใช้ว่า บริขารโจฬก็มี. (ป.).

บริคณห์
[บอริคน] (แบบ) น. เรือน; คําที่แน่นอน, สิ่งที่ถูกต้องแล้ว; ความกําหนดถือเอา, ความยึดถือ, การจับ. ก. นับคะเน, ประมวล.(ป. ปริคฺคหณ).

บริคณห์สนธิ
(กฎ) น. เอกสารก่อตั้งบริษัทจํากัดซึ่งผู้เริ่มก่อการบริษัทจํานวนตั้งแต่๗ คนขึ้นไป เข้าชื่อกันจัดทําขึ้นตามข้อกําหนดของกฎหมายในการจัดตั้งบริษัทจํากัด เรียกว่า หนังสือบริคณห์สนธิ.

บริจาค
[บอริจาก] ก. สละให้, เสียสละ. น. การสละ, การให้, การแจก, ความเสียสละ, เป็นธรรมข้อ ๑ ในทศพิธราชธรรม. (ดู ทศพิธราชธรรม หรือราชธรรม). (ป. ปริจฺจาค).

บริจารก
[บอริจารก] น. คนใช้, คนบําเรอ. (ป., ส. ปริจารก).

บริจาริกา
[บอริ-] น. หญิงรับใช้, ประกอบกับคํา บาท เป็น บาทบริจาริกา แปลว่าเมีย, ที่ตัดใช้ว่า บริจา ก็มี เช่น บาทบริจา ทารบริจา อรรคบริจา, หรือตัดใช้ว่า บริจาริก ก็มี. (ป., ส. ปริจาริกา).

บริเฉท, บริเฉท-
[บอริเฉด, บอริเฉทะ-, บอริเฉดทะ-] น. การกําหนด; ข้อความที่รวบรวมเอามาจัดเป็นตอน ๆ, ข้อความที่กําหนดไว้เป็นหมวด ๆ.(ป. ปริจฺเฉท).

บริเฉท, บริเฉท-
[บอริเฉด, บอริเฉทะ-, บอริเฉดทะ-] น. การกําหนด; ข้อความที่รวบรวมเอามาจัดเป็นตอน ๆ, ข้อความที่กําหนดไว้เป็นหมวด ๆ.(ป. ปริจฺเฉท).

บริเฉทกาล
[บอริเฉทะกาน, บอริเฉดทะกาน] น. เวลาที่มีกําหนดลง.

บริชน
[บอริชน] (แบบ) น. คนผู้แวดล้อม, บริวาร. (ป., ส. ปริชน).

บริณายก
[บอรินายก] (แบบ) น. ปริณายก, ผู้นําบริวาร, หัวหน้า, ผู้เป็นใหญ่.(ส. ปริณายก; ป. ปรินายก).

บริณายกรัตน์
[บอรินายะกะ-] น. ขุนพลแก้ว, เป็นสมบัติประการ ๑ ในสมบัติ๗ ประการของพระเจ้าจักรพรรดิ.

บริดจ์
[บฺริด] น. กีฬาในร่มชนิดหนึ่ง มีผู้เล่น ๔ คน โดยแบ่งเป็น ๒ ฝ่ายฝ่ายละ ๒ คน ใช้ไพ่ป๊อกเต็มทั้งสํารับแจกให้คนละ ๑๓ ใบ.(อ. bridge).

บริบท
[บอริบด] (ไว) น. คําหรือข้อความแวดล้อมเพื่อช่วยให้เข้าใจความหมาย,ปริบท ก็ว่า.

บริบวรณ์
[บอริ-บวน] (โบ; กลอน) ก. บริบูรณ์.

บริบาล
[บอริบาน] ก. ดูแลรักษา, ดูแลเลี้ยงดู, เช่น บริบาลทารก. น. ผู้รักษา,ผู้ดูแล, ผู้เลี้ยงดู. (ป., ส. ปริปาล).

บริบูรณ์
[บอริบูน] ก. ครบถ้วน, เต็มที่, เต็มเปี่ยม. (ส. ปริปูรฺณ; ป. ปริปุณฺณ).

บริพนธ์
[บอริพน] (แบบ) ก. ปริพนธ์, ผูก, แต่ง, ร้อยกรอง. (ป. ปริพนฺธ).

บริพัตร
[บอริพัด] ก. หมุนเวียน, เปลี่ยนแปลง, เปลี่ยนไป, แปรไป; สืบสาย.(ส. ปริวรฺต; ป. ปริวตฺต).

บริพันธ์
[บอริพัน] ก. ผูก, แต่ง, ร้อยกรอง, ประพันธ์. (ป. ปริพนฺธ).

บริพาชก
[บอริพาชก] (แบบ) น. ปริพาชก, นักบวชผู้ชายนอกพระพุทธศาสนาประเภทหนึ่งในอินเดีย. (ป. ปริพฺพาชก).

บริพาชิกา, บริพาชี
[บอริ-] (แบบ) น. นักบวชผู้หญิงนอกพระพุทธศาสนาประเภทหนึ่งในอินเดีย. (ป. ปริพฺพาชิกา, ปริพฺพาชี).

บริพาชิกา, บริพาชี
[บอริ-] (แบบ) น. นักบวชผู้หญิงนอกพระพุทธศาสนาประเภทหนึ่งในอินเดีย. (ป. ปริพฺพาชิกา, ปริพฺพาชี).

บริพาร
[บอริพาน] น. ผู้แวดล้อม, ผู้รับใช้หรือผู้ห้อมล้อมติดตาม. (ป. ปริวาร).

บริภัณฑ์ ๑
[บอริพัน] น. วง, สิ่งแวดล้อม; เรียกภูเขาที่ล้อมเป็นวงกลมรอบเขาพระสุเมรุเป็นชั้น ๆ รวม ๗ ชั้นว่า เขาสัตบริภัณฑ์. (ป. ปริภณฺฑ).(ดู สัตบริภัณฑ์, สัตภัณฑ์).

บริภัณฑ์ ๒
[บอริพัน] น. ของใช้, เครื่องใช้, เครื่องเรือน. (ป. ปริภณฺฑ).

บริภัณฑ์ ๓
[บอริพัน] น. ผ้าทาบประกอบริมสบงหรือจีวรด้านกว้าง.

บริภาษ
[บอริพาด] ก. กล่าวติเตียน, กล่าวโทษ, ด่าว่า. (ส. ปริภาษ).

บริโภค
[บอริโพก] ก. กิน (ใช้เฉพาะอาการที่ทําให้ล่วงลําคอลงไปสู่กระเพาะ)เช่น บริโภคอาหาร, เสพ เช่น บริโภคกาม; ใช้สิ้นเปลือง, ใช้สอย, เช่นบริโภคสมบัติ, คู่กับ อุปโภค. (ป. ปริโภค).

บริโภคเจดีย์
[บอริโพกคะ-] น. เจดีย์ที่บรรจุเครื่องบริขารของพระพุทธเจ้า.

บริมาส
[บอริมาด] น. พระจันทร์เต็มดวง.

บริยาย
[บอริยาย] ก. บรรยาย, สอน, แสดง, เล่าเรื่อง.

บริรม
[บอริรม] ก. ชอบใจ, ยินดี. (ส. ปริรม).

บริรักษ์
[บอริรัก] ก. ดูแล, รักษา, ปกครอง. (ส. ปริรกฺษ; ป. ปริรกฺข).

บริราช
[บอริราด] ก. ส่องแสงทุกด้าน, ฉายรัศมีโดยรอบ. (ส. ปริราช).

บริวรรต
[บอริวัด] ก. ปริวรรต. (ส. ปริวรฺต).

บริวาร
[บอริวาน] น. ผู้แวดล้อมหรือผู้ติดตาม เช่น พระพุทธเจ้ามีภิกษุประมาณ๕๐๐ รูปเป็นบริวาร, สิ่งที่เป็นส่วนประกอบหรือสมทบสิ่งอื่นที่เป็นประธานเช่น บริวารกฐิน. ว. ที่แวดล้อม เช่น ดาวบริวาร. (ป., ส. ปริวาร).

บริวาส
[บอริวาด] น. ปริวาส. (ป., ส. ปริวาส).

บริเวณ
[บอริเวน] น. พื้นที่ภายในขอบเขตที่กําหนดไว้ เช่น บริเวณบ้านบริเวณโบสถ์ บริเวณวัด บริเวณสนามหลวง. (ป., ส. ปริเวณ).

บริษการ
[บอริสะกาน] (แบบ) น. บริขาร. (ส. ปริษฺการ; ป. ปริกฺขาร).

บริษัท
[บอริสัด] น. หมู่, คณะ, เช่น พุทธบริษัท, ที่ประชุม เช่น จะพูดอย่างไรต้องดูบริษัทเสียก่อน. (ส. ปริษทฺ; ป. ปริสา).

บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
(กฎ) น. บริษัทจํากัดที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ อันได้แก่ การให้กู้ยืมเงินโดยวิธีรับจํานองอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าปรกติหรือประกอบธุรกิจการรับซื้อฝาก หรือกิจการอื่นเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามที่กฎหมายกําหนด.

บริษัทเงินทุน
(กฎ) น. บริษัทจำกัดที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการจัดหามาซึ่งเงินทุน และใช้เงินทุนนั้นในการประกอบกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งเช่น การพาณิชย์ การพัฒนา การเคหะ.

บริษัทจำกัด
(กฎ) น. บริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่า ๆ กันโดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจํากัดเพียงไม่เกินจํานวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ.

บริษัทบริวาร
น. คนแวดล้อม เช่น เขามีบริษัทบริวารมาก.

บริษัทมหาชนจำกัด
(กฎ) น. บริษัทจำกัดซึ่งตั้งขึ้นด้วยความประสงค์ที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชน โดยผู้ถือหุ้นมีความรับผิดจํากัดไม่เกินจํานวนเงินค่าหุ้นที่ต้องชําระและบริษัทดังกล่าวได้ระบุความประสงค์เช่นนั้นไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ.

บริษัทหลักทรัพย์
(กฎ) น. บริษัทหรือสถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ เช่น การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์การจัดการกองทุนรวม.

บริสชน
[บอริสะชน] น. บริวาร.

บริสุทธิ์
[บอริสุด] ว. แท้, ไม่มีอะไรเจือปน, เช่น ทองบริสุทธิ์, ปราศจากมลทิน,ปราศจากความผิด, เช่น เป็นผู้บริสุทธิ์, หมดจดไม่มีตําหนิ เช่นเพชรบริสุทธิ์ เครื่องแก้วบริสุทธิ์; เรียกสาวพรหมจารีว่า สาวบริสุทธิ์. น. แร่ชนิดหนึ่ง ในจําพวกนวโลหะ. (ป. ปริสุทฺธิ).

บริสุทธิ์ใจ
ว. มีนํ้าใสใจจริง, มีใจใสสะอาด, เช่น ทําด้วยความบริสุทธิ์ใจ.

บริหาร
[บอริหาน] ก. ออกกําลัง เช่น บริหารร่างกาย; ปกครอง เช่น บริหารส่วนท้องถิ่น; ดําเนินการ, จัดการ, เช่น บริหารธุรกิจ; กล่าวแก้. น. ดํารัสสั่ง เช่น ราชบริหาร, คําแถลงไข เช่น พระพุทธบริหาร.(ป., ส. ปริหาร).

บริหาส
[บอริหาด] (แบบ) ก. หัวเราะ, ร่าเริง, เยาะเย้ย. (ป., ส. ปริหาส).

บฤงคพ
[บฺริงคบ] (โบ; กลอน) น. ผู้ประเสริฐ, หัวหน้า. (ป., ส. ปุงฺคว).

บล็อก
น. แม่พิมพ์ทําด้วยแผ่นโลหะ ใช้ในกิจการพิมพ์. (อ. block).

บวก
ก. เอาจํานวนหนึ่งรวมเข้ากับอีกจํานวนหนึ่งหรือหลายจํานวนให้เป็นจํานวนเพิ่มขึ้นจํานวนเดียวกัน, เพิ่มเติมเข้าไป. ว. ที่เป็นไปในทางสนับสนุน ทางดี หรือเชิงสร้างสรรค์ เช่น มองในทางบวก;ในทางคณิตศาสตร์เรียกจำนวนเลขที่มีค่ามากกว่าศูนย์ว่า จำนวนบวก. น. เรียกเครื่องหมายคณิตศาสตร์รูปดังนี้ + ว่า เครื่องหมายบวก.

บวง
ก. บูชา เช่น บวงเทพทุกเถื่อนถํ้า มณฑล ทวีปเอย. (นิ. นรินทร์), มักใช้เข้าคู่กับคําอื่น เช่น บนบวง บวงสรวง บําบวง.

บวงสรวง
[-สวง] ก. บูชาเทวดาด้วยเครื่องสังเวยและดอกไม้ธูปเทียน เป็นต้น.

บ่วง
น. เชือกที่ทําเป็นวงสําหรับคล้อง รูดเข้าออกได้, โดยปริยายหมายถึงสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น บ่วงมาร.

บ่วงบาศ
น. บ่วงสําหรับโยนไปคล้อง.

บวช ๑
ก. ถือเพศเป็นภิกษุสามเณรหรือนักพรตอื่น ๆ.

บวชชี
ก. ถือเพศเป็นชี. น. ชื่อของหวานชนิดหนึ่ง ทําด้วยกล้วย ต้มกับกะทิ.

บวช ๒
(ปาก) ก. หลอก, ล่อลวง, ทําอุบายให้หลงเชื่อ, เช่น ถูกเขาบวชเช้าบวชเย็นรํ่าไป. (อิเหนา ร. ๕).

บวน
น. ชื่อแกงชนิดหนึ่ง มีเครื่องในหมูต้มผัดกับเครื่องแกง มีหอมเผากระเทียมเผา ข่า ตะไคร้ พริกไทย เป็นต้น ต้มกับนํ้าคั้นจากใบไม้บางชนิดมีใบมะตูม มะขวิด เป็นต้น ทําให้นํ้าแกงมีสีเขียว ๆ มีรสหวาน เค็ม.

บ้วน
ก. ทําให้นํ้าหรือของเหลวออกจากปาก.

บ้วนปาก
ก. ล้างปากด้วยอาการที่อมนํ้าแล้วบ้วนออกมา.

บ้วนพระโอษฐ์
(ราชา) น. กระโถน.

บวบ
น. ชื่อไม้เถาหลายชนิดในสกุล Luffa วงศ์ Cucurbitaceae ดอกสีเหลืองผลกินได้ เช่น บวบเหลี่ยม (L. acutangula L.) บวบกลม หรือ บวบหอม(L. cylindrica L.).

บวบขม
ดู นมพิจิตร (๒).

บวม
ก. อาการที่เนื้ออูมหรือนูนขึ้นเพราะอักเสบหรือฟกชํ้าเป็นต้น.

บวมน้ำ
น. ภาวะที่มีนํ้าระหว่างเซลล์หรือภายในเซลล์มากเกินปรกติอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้ง ๒ อย่าง, โดยทั่วไปหมายถึงภาวะที่มีนํ้าอยู่ใต้ผิวหนังมากเกินปรกติ และอาจพบได้ในอวัยวะอื่น เช่น สมองปอด. (อ. edema, oedema).

บ๊วย ๑
น. (๑) ชื่อไม้ต้นชนิด Myrica rubra Sieb. et Zucc. ในวงศ์ Myricaceaeผลกลม ผิวขรุขระ สุกสีแดงคลํ้า กินได้ รสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ. (๒)ชื่อไม้ต้นชนิด Prunus mume Sieb. et Zucc. ในวงศ์ Rosaceae ผลกลมแบน มีขน ผลสุกสีเหลือง รสเปรี้ยวจัดและขม ดองเกลือแล้วกินได้.

บ๊วย ๒
(ปาก) ว. ที่สุดท้าย, ล้าหลังที่สุด. (จ.).

บวร, บวร-
[บอวอน, บอวอระ-] (แบบ) ว. ประเสริฐ, ลํ้าเลิศ, ราชาศัพท์ใช้นําหน้าคํานามที่เกี่ยวกับวังหน้า เช่น บวรวงศ์ คู่กับ บรม ซึ่งใช้กับวังหลวงเช่น บรมวงศ์. (ป. ปวร; ส. ปฺรวร).

บวร, บวร-
[บอวอน, บอวอระ-] (แบบ) ว. ประเสริฐ, ลํ้าเลิศ, ราชาศัพท์ใช้นําหน้าคํานามที่เกี่ยวกับวังหน้า เช่น บวรวงศ์ คู่กับ บรม ซึ่งใช้กับวังหลวงเช่น บรมวงศ์. (ป. ปวร; ส. ปฺรวร).

บวรโตฎก
[บอวอระโตดก] น. ชื่อกลบทอย่างหนึ่ง.

บหลิ่ม
[บะหฺลิ่ม] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง. (เงาะป่า), ปลิ่ม ก็ว่า. (รามเกียรติ์ร. ๑), นอกนี้ยังมีเรียกและเขียนกันอีกหลายอย่าง คือ ปลิม ปลิ่ม ประหลิ่มมะหลิ่ม ปะวะหลิ่ม ปะหลิ่ม.

บอ
ว. เกือบบ้า, ใกล้จะเป็นบ้า, ครึ่งบ้าครึ่งดี.

บ่อ
น. ช่องลึกลงไปในดินหรือในหินใช้เป็นที่ขังนํ้าขังปลาเป็นต้น หรือเป็นแหล่งที่เกิดของสิ่งบางอย่าง เช่น บ่อเกลือ บ่อถ่านหิน บ่อแร่.

บ่อเกิด
น. แหล่งที่เกิด, แหล่งที่มา, ต้นกําเนิด, เช่น บ่อเกิดวัฒนธรรมบ่อเกิดรามเกียรติ์.

บ่อน้ำร้อน
น. บ่อที่มีนํ้าผุดขึ้นมาจากใต้ดิน และมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ เกิดจากนํ้าไหลซึมซาบลงไปใต้ดินลึกมากเมื่อไปกระทบอุณหภูมิสูง ทําให้นํ้าร้อนจัดขึ้น และขยายตัวหรือกลายเป็นไอเกิดแรงดันตัวเองขึ้นมาตามรอยแยกของชั้นหินและดินขึ้นมาสู่ผิวดิน ทั้งละลายเอาแก๊ส แร่ธาตุ และสารเคมีที่มีอยู่ตามชั้นดินต่าง ๆ ติดมาด้วย ที่พบเสมอมักจะเป็นธาตุกํามะถันและแก๊สไข่เน่า นํ้าในบ่อนํ้าร้อนบางแห่งจึงอาจมีสมบัติทางยาได้.

บ้อ, บ้อหุ้น
น. ชื่อการพนันชนิดหนึ่ง โดยเขียนตารางสี่เหลี่ยมหรือวงกลมลงบนพื้น มีผู้เล่น ๒ ฝ่าย แต่ละฝ่ายออกสตางค์ฝ่ายละ ๒-๓ อันเอามารวมกัน ฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้โยนสตางค์ทั้งหมดลงในตารางหรือวงกลมนั้นให้กระจาย อีกฝ่ายหนึ่งจะชี้สตางค์อันใดอันหนึ่งให้ฝ่ายโยน ฝ่ายโยนจะต้องใช้สตางค์อีกอันหนึ่ง เรียกว่า 'อีตัว'โยนลงให้ประกบสตางค์อันที่เขาชี้ให้ ถ้าโยนลงไปประกบได้ก็เป็นฝ่ายชนะ ได้สตางค์ทั้งหมด ถ้าโยนถูกสตางค์อันอื่น ก็เป็นฝ่ายแพ้ ต้องเสียสตางค์ทั้งหมดให้ฝ่ายชี้ แต่ถ้าฝ่ายโยนไม่มั่นใจว่าจะโยนอีตัวไปประกบได้ ก็อาจโยนอีตัวลงไปในที่ว่าง เรียกว่า'อู้ไว้' หมายความว่า กินไม่ได้ แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็จะเป็นผู้โยนบ้างฝ่ายที่โยนก่อนก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ชี้บ้าง.

บ้อ, บ้อหุ้น
น. ชื่อการพนันชนิดหนึ่ง โดยเขียนตารางสี่เหลี่ยมหรือวงกลมลงบนพื้น มีผู้เล่น ๒ ฝ่าย แต่ละฝ่ายออกสตางค์ฝ่ายละ ๒-๓ อันเอามารวมกัน ฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้โยนสตางค์ทั้งหมดลงในตารางหรือวงกลมนั้นให้กระจาย อีกฝ่ายหนึ่งจะชี้สตางค์อันใดอันหนึ่งให้ฝ่ายโยน ฝ่ายโยนจะต้องใช้สตางค์อีกอันหนึ่ง เรียกว่า 'อีตัว'โยนลงให้ประกบสตางค์อันที่เขาชี้ให้ ถ้าโยนลงไปประกบได้ก็เป็นฝ่ายชนะ ได้สตางค์ทั้งหมด ถ้าโยนถูกสตางค์อันอื่น ก็เป็นฝ่ายแพ้ ต้องเสียสตางค์ทั้งหมดให้ฝ่ายชี้ แต่ถ้าฝ่ายโยนไม่มั่นใจว่าจะโยนอีตัวไปประกบได้ ก็อาจโยนอีตัวลงไปในที่ว่าง เรียกว่า'อู้ไว้' หมายความว่า กินไม่ได้ แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็จะเป็นผู้โยนบ้างฝ่ายที่โยนก่อนก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ชี้บ้าง.

บอก ๑
น. ปล้องไม้ไผ่มีข้อขังข้างก้นสําหรับใส่นํ้าเป็นต้น, มักใช้ว่ากระบอก.

บอก ๒
ก. พูดให้รู้, เล่าให้ฟัง, เช่น บอกกันต่อ ๆ มา บอกอาการให้หมอฟัง;บ่งให้รู้ เช่น สัญญาณบอกเหตุร้าย อีกาบอกข่าว; แนะนํา เช่น บอกให้ทําอย่างนั้นอย่างนี้, สอน เช่น อย่าบอกหนังสือสังฆราช; รายงานเช่น ใบบอก.

บอกกล่าว
ก. ร้องบอกให้ผู้อื่นเป็นพยานรับรู้ไว้.

บอกแขก
ก. บอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันทํางาน เช่น บอกแขกเกี่ยวข้าว.

บอกคำบอก
ก. บอกหรืออ่านหนังสือให้เขียนตาม.

บอกบท
ก. อ่านข้อความในบทโขนละครให้คนร้องร้องตามที่บอก, อ่านข้อความในบทละครให้ผู้เล่นพูดหรือร้องตามที่บอก; บอกหรือสั่งให้ทําสิ่งใด ๆ ตามที่ผู้บอกต้องการ.

บอกบัญชี
(โบ) ก. บอกศาลา.

บอกบุญ
ก. บอกชักชวนให้ทําบุญเช่นในการสร้างโบสถ์ทอดกฐิน.

บอกใบ้
ก. แนะด้วยอุบาย, บอกเป็นเลศนัย.

บอกปัด, บอกเปิด
ก. พูดปัดไปให้พ้นตัว, พูดอย่างไม่รู้ไม่ชี้.

บอกปัด, บอกเปิด
ก. พูดปัดไปให้พ้นตัว, พูดอย่างไม่รู้ไม่ชี้.

บอกยี่ห้อ
(ปาก) ก. แสดงกิริยาท่าทีหรือคําพูดให้รู้ว่ามีลักษณะนิสัยใจคอหรือชาติตระกูลเป็นอย่างไรเป็นต้น.

บอกเล่าเก้าสิบ
(สํา) ก. บอกกล่าวให้รู้.

บอกวัตร
(โบ) ก. บอกข้อปฏิบัติที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เมื่อทําวัตรเย็นเสร็จแล้ว.

บอกศาลา
ก. ประกาศไม่รับผิดชอบหรือตัดขาดไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดูอีกต่อไป.

บอกหนทาง
ก. เตือนสติให้ระลึกถึงคุณพระในขณะใกล้จะตาย.

บอกหนังสือสังฆราช
(สํา) ก. สอนสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว, สอนหนังสือสังฆราช ก็ว่า.

บอกหัว
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. กะโหลกหัว.

บอง ๑
น. เสือบอง. (ดู แมวป่า ที่ แมว ๑).

บอง ๒
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. กระบอง.

บ่อง
ก. เจาะ, สับ.

บ้อง
น. ปล้องไม้จําพวกไม้ไผ่ที่ขังข้อ; สิ่งที่เป็นช่องคล้ายกระบอก เช่นช่องสําหรับสวมด้ามขวานหรือสิ่วเป็นต้น, ลักษณนามเรียกการสูบกัญชาหมดครั้งหนึ่งว่า บ้องหนึ่ง.

บ้องกัญชา
น. ปล้องไม้ไผ่ชนิดขังข้อสําหรับสูบกัญชา.

บ้องตัน
น. เนื้อสันที่อยู่ภายในโคนหางของจระเข้เป็นต้น.

บ้องตื้น
ว. มีความคิดอย่างโง่ ๆ.

บ้องไฟ
น. ดอกไม้ไฟชนิดหนึ่งมีหางยาวอย่างกรวดดอกไม้ไฟ แต่มีขนาดใหญ่มาก, บั้งไฟ ก็ว่า.

บ้องยาแดง
น. ปล้องไม้ไผ่ชนิดขังข้อ สําหรับสูบยาแดง.

บ้องหู
น. ช่องหู, รูหู, เช่น ขี้หูเต็มบ้องหู.

บ๊อง, บ๊อง ๆ
(ปาก) ว. ไม่เต็มเต็ง, บ้า ๆ บอ ๆ.

บ๊อง, บ๊อง ๆ
(ปาก) ว. ไม่เต็มเต็ง, บ้า ๆ บอ ๆ.

บ้องตะลา
น. งูชนิดหนึ่ง, ตะยองสะลา ก็ว่า. (พจน. ๒๔๙๓).

บ้องแบ๊ว
ว. มีหน้าตาพิลึก.

บองหลา
ดู จงอาง.

บอด
ว. มืด, ไม่เห็น, (ใช้แก่ตา); สกปรก เช่น หัวเทียนบอด; ไม่มีแวว เป็นวงทึบไม่โปร่ง (ใช้แก่หัวตัวหนังสือ) เช่น เขียนหนังสือหัวบอด; เรียกนมที่หัวบุ๋มเข้าไปว่า นมตาบอด หรือ นมบอด.

บอดสี
น. เรียกตาที่มองเห็นสีผิดไปจากสีที่เป็นจริง เนื่องจากประสาทตาที่รับรู้สีพิการหรือเจริญไม่เต็มที่ ว่า ตาบอดสี.

บอน
น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดในวงศ์ Araceae คือ ชนิด Colocasiaesculenta (L.) Schott var. antiquorum (Schott) Hubb.et Rehder ขึ้นตามชายนํ้าหรือที่ลุ่มนํ้าขัง ยางคัน ก้านใบทําให้สุกแล้วกินได้ และอีกหลายชนิดในสกุล Caladium ใบมีสีและลายต่าง ๆ ปลูกเป็นไม้ประดับ เช่น บอนสี [C. bicolor (Ait.) Vent.]บอนเสวก (C. argyrites Lem.). ว. อาการที่ปากหรือมืออยู่ไม่สุขเรียกว่า ปากบอน หรือ มือบอน เช่น ซนมือบุกซุกมือบอน ซนปากบุกซุกปากบอน.

บ่อน
น. แหล่งเป็นที่ชุมนุมกันเพื่อเล่นการพนัน เช่น บ่อนไก่ บ่อนเบี้ยบ่อนไพ่, แหล่งเป็นที่ชุมนุมกันเพื่อการบางอย่างมีเล่นสักวาหรือเล่านิทานเป็นต้น เช่น บ่อนสักวา บ่อนเล่านิทาน. ก. กินฟอนอยู่ข้างใน เช่น หนอนบ่อนไส้, ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบ่อน.(โลกนิติ).

บ่อนแตก
ก. ก่อเรื่องทําให้คนที่มาชุมนุมกันต้องเลิกไปกลางคัน.

บ่อนทำลาย
ก. แทรกซึมเข้าไปเพื่อทําลายอยู่ภายในทีละน้อย ๆ.

บอนลายกระหนก
ดู กระหนกนารี.

บอบ
ว. อ่อนเปลี้ยหรือหมดแรงเพราะถูกทุบตีอย่างรุนแรง หรือเจ็บป่วยอย่างหนัก หรือออกกําลังมากเกินไปเป็นต้น.

บอบช้ำ
ว. ฟกชํ้าและระบม.

บอบบาง
ว. อ้อนแอ้น, ไม่แน่นหนาหรือไม่คงทน.

บอบแบบ
ว. อ่อนป้อแป้.

บ้อม
(ปาก) ก. ทําร้ายร่างกายด้วยการทุบตี.

บ๋อม
ว. บุ๋ม.

บ่อย, บ่อย ๆ
ว. หลายครั้งหลายหนในระยะเวลาไม่สู้นาน.

บ่อย, บ่อย ๆ
ว. หลายครั้งหลายหนในระยะเวลาไม่สู้นาน.

บอระเพ็ด
น. ชื่อไม้เถาชนิด Tinospora crispa (L.) Hook.f. et Thomsonในวงศ์ Menispermaceae เถาเป็นตุ่ม รสขม ใช้ทํายาได้.

บอระมาน
(โบ) น. กาว, แป้งเปียก.

บอล
น. ลูกกลมทําด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น หนัง ยาง พลาสติก ภายในมีลมอัดใช้ในการเล่นกีฬาเป็นต้น, ลูกบอล ก็เรียก. (อ. ball); เรียกงานชุมนุมทางสังคมที่มีลีลาศ รําวง เป็นหลักสําคัญ ว่า งานบอล.

บอลลูน
ดู บัลลูน.

บ้อหุ้น
น. ชื่อการพนันชนิดหนึ่ง. (ดู บ้อ, บ้อหุ้น).

บ๊ะ
อ. คําที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจหรือประหลาดใจเป็นต้น,อุบ๊ะ ก็ว่า.

บ๊ะจ่าง
น. ชื่ออาหารคาวของจีนชนิดหนึ่ง ทำด้วยข้าวเหนียวนำมาผัดน้ำมัน มีไส้หมูเค็มหรือหมูพะโล้ กุนเชียง ไข่เค็มเฉพาะไข่แดงกุ้งแห้ง เห็ดหอม เป็นต้น ห่อด้วยใบไผ่แล้วต้มให้สุก. (จ.).

บะหมี่
น. ชื่ออาหารชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งสาลี เป็นเส้นเล็ก ๆ มีสีเหลืองลวกสุกแล้วปรุงด้วยเครื่องมีหมูเป็นต้น. (จ.).

บัก ๑
(ถิ่น) น. คําเรียกชายที่เสมอกันหรือตํ่ากว่า ตรงกับคําว่า อ้าย.

บัก ๒
(ถิ่น) น. ของลับผู้ชาย.

บักโกรก
[-โกฺรก] (ปาก) ว. ซูบผอมเพราะหักโหมกําลังเกินไป.

บักอาน
(ปาก) ว. อ่อนเปลี้ย, บอบชํ้า.

บัคเตรี
น. พืชชั้นตํ่าเซลล์เดียว ไม่มีผนังห่อหุ้มนิวเคลียส ไม่มีคลอโรฟิลล์มีรูปร่างกลม เป็นท่อน โค้ง หรือเป็นเกลียว, แบคทีเรีย ก็เรียก.(อ. bacteria).

บัง ๑
ก. กัน กั้น หรือปิดไม่ให้เห็น ไม่ให้ผ่าน ไม่ให้โดน เช่น บังแดด บังฝนบังลม ยืนบัง.

บังโกลน, บังโคลน
[-โกฺลน, -โคฺลน] น. เครื่องบังเหนือล้อรถ ป้องกันโคลนมิให้กระเด็นขึ้นมาเปื้อนรถ.

บังโกลน, บังโคลน
[-โกฺลน, -โคฺลน] น. เครื่องบังเหนือล้อรถ ป้องกันโคลนมิให้กระเด็นขึ้นมาเปื้อนรถ.

บังความ
ก. ตั้งใจปกปิดเอาไว้.

บังเงา
ว. เรียกหญิงหากินที่ในเวลากลางคืนมักยืนแอบอยู่ตามเงามืดที่แสงไฟส่องไปไม่ถึงว่า นางบังเงา.

บังตะวัน
น. เครื่องบังแดดเช่นเดียวกับบังสูรย์. (สิบสองเดือน).

บังตา
น. เครื่องบังประตูทําด้วยไม้หรือกระจกเป็นต้นติดอยู่กับกรอบประตูเหนือระดับตาเล็กน้อย ผลักเปิดปิดได้, ถ้าเป็นเครื่องบังหน้าต่างในระดับตา มักทําด้วยผ้า เรียกว่า ม่านบังตา; เครื่องบังตาม้าเพื่อไม่ให้เห็นข้าง ๆ.

บังใบ ๑
น. ชื่อกบชนิดหนึ่งสําหรับไสคิ้วไม้; การเพลาะริมไม้ให้ลึกลงไปจากผิวเดิมด้วยการใช้กบบังใบไส แล้วนํามาประกอบเป็นวงกบหรือวงกรอบของประตูหน้าต่าง, วิธีเพลาะไม้ให้สนิทเป็นแผ่นเดียวกัน ด้วยการใช้กบบังใบไสริมไม้ทั้ง ๒ แผ่นให้ลึกเท่า ๆ กัน แล้วนํามาประกบให้เป็นแผ่นเดียวกัน.

บังใบ ๒
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง ใช้ขับร้องประกอบการแสดงโขนและละคร.

บังเพลิง
น. เครื่องส่องแสงไฟที่มีกําบังไม่ให้เห็นผู้ส่อง.

บังไพร
ก. เสกกิ่งไม้ถือบังตัวให้สัตว์เห็นเป็นป่าไม่เห็นตัวคน ใช้ในการคล้องช้างเป็นต้น.

บังฟัน
ก. ใช้เวทมนตร์ไปทําร้ายผู้อื่นด้วยวิธีเอาดาบเป็นต้นฟันสิ่งที่สมมุติเป็นตัวผู้ที่ตนประสงค์จะทําร้าย เพื่อให้เกิดผลเป็นทํานองเดียวกันแก่ผู้นั้น.

บังมืด
ก. บังแสงสว่างทําให้มืดไป เช่น อย่ายืนบังมืด มองไม่เห็น.

บังสาด
น. เพิงที่ต่อชายคาสําหรับกันฝนสาด, กันสาด ก็เรียก.

บังหน้า
ก. นําชื่อบุคคลเป็นต้นมาอ้างเพื่อประโยชน์ตนโดยเจตนาให้ผู้อื่นหลงผิด; ทํากิจการอย่างหนึ่งเพื่ออําพรางกิจการอีกอย่างหนึ่ง.

บัง ๒
คําพยางค์หน้า เมื่ออยู่หน้าพยัญชนะ ก วรรค เช่น บังเกิด บังควรบังคับ หรือเมื่ออยู่หน้าเศษวรรค เช่น บังวาย บังหวน บังอาจ, เมื่ออยู่หน้าพยัญชนะ จ วรรค หรือ ต วรรค แปลงเป็น บัน เช่น บันเจิดบันโดย, เมื่ออยู่หน้าพยัญชนะ ป วรรค เขียนเป็นสระอํา เช่น บําเพ็ญ.

บั้ง
ก. เชือดหรือฟันให้เป็นแผลตามขวาง เช่น บั้งปลา. น. รอยเชือดเป็นแผลตามขวาง เช่น กรีดยางเป็นบั้ง ๆ; เครื่องมือสําหรับถูไม้ คล้ายบุ้งแต่มีฟันเป็นแถว ๆ, สิ่งที่เป็นแถบ ๆ อย่างเครื่องหมายยศทหารหรือตํารวจชั้นประทวนเป็นต้น; กระบอกไม้ไผ่.

บั้งไฟ
น. บ้องไฟ.

บังกะโล
น. บ้านยกพื้นชั้นเดียว มีระเบียงกว้าง. (ฮ. บงฺคลา; อ. bungalow).

บังกัด
ก. ปิดบัง, อําพราง.

บังเกิด
ก. เกิด เช่น บังเกิดอุบัติเหตุ บังเกิดลมพายุ, ทําให้เกิด เช่น แม่บังเกิดเกล้า.

บังโกรยตัวผู้, บังโกรยตัวเมีย
[-โกฺรย-] น. ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).

บังโกรยตัวผู้, บังโกรยตัวเมีย
[-โกฺรย-] น. ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).

บังคน
(ราชา) น. อุจจาระหรือปัสสาวะ.

บังคนเบา
(ราชา) น. ปัสสาวะ, ใช้ว่า พระบังคนเบา.

บังคนหนัก
(ราชา) น. อุจจาระ, ใช้ว่า พระบังคนหนัก.

บังคม
(ราชา) ก. แสดงความเคารพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถสมเด็จพระบรมราชินี และพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง ตามประเพณีไทย,ใช้ว่า ถวายบังคม. (ข.).

บังคล
ก. มอบให้ เช่น เป็นบังคลแก่ท่านแล. (ม. คําหลวง วนปเวสน์).(ข. ปรฺคล ว่า มอบให้).

บังควร
ว. ควรอย่างยิ่ง, เหมาะอย่างยิ่ง, (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น ไม่บังควรหาเป็นการบังควรไม่.

บังคับ
น. (โบ) การว่ากล่าวปกครอง, อํานาจศาลสมัยมีสภาพนอกอาณาเขต,เช่น คนในบังคับอังกฤษ; กฎเกณฑ์ของการประพันธ์ที่บัญญัติใช้ในฉันทลักษณ์ เช่น บังคับครุลหุ บังคับเอกโท บังคับสัมผัส. ก. ใช้อํานาจสั่งให้ทําหรือให้ปฏิบัติ; ให้จําต้องทํา เช่น อยู่ในที่บังคับ; ให้เป็นไปตามความประสงค์ เช่น บังคับเครื่องบินให้ขึ้นลง.

บังคับการ
ก. รับผิดชอบในการควบคุมและสั่งการ, เรียกผู้มีอํานาจเช่นนั้นว่าผู้บังคับการ.

บังคับครุ
น. กฎเกณฑ์ของการประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้พยางค์ที่มีเสียงหนักคือ พยางค์ที่ประกอบด้วยสระเสียงยาวทั้งที่มีตัวสะกดและไม่มีตัวสะกด เช่น มา ดี ขาว สาย พยางค์ที่ประกอบด้วยสระสั้นที่ออกเสียงอย่างมีตัวสะกดทั้ง ๔ คือ อํา ใอ ไอ เอา เช่น รํา ใจและพยางค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น เช่น จัด เรียน.

บังคับใจ
ก. ห้ามใจ, ข่มใจ, อดกลั้น; ใช้อํานาจบังคับให้เขาต้องฝืนใจทํา.

บังคับโท
น. กฎเกณฑ์ของการประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้พยางค์หรือคําที่มีรูปวรรณยุกต์โท.

บังคับบัญชา
ก. มีอํานาจปกครองควบคุมดูแลและสั่งการให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่. น. อํานาจปกครองควบคุมดูแลและสั่งการให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่,เรียกผู้มีอํานาจปกครองควบคุมดูแลและสั่งการนั้นว่า ผู้บังคับบัญชา,เรียกผู้อยู่ใต้อํานาจปกครองควบคุมดูแลและสั่งการนั้นว่า ผู้ใต้บังคับบัญชา.

บังคับลหุ
น. กฎเกณฑ์ของการประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้พยางค์ที่มีเสียงเบาคือ พยางค์ที่ประกอบด้วยสระเสียงสั้นที่ไม่มีตัวสะกด เช่น จะ ติแพะ.

บังคับสัมผัส
น. กฎเกณฑ์ของการประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้คําคล้องจองกันมีหลายชนิด คือ สัมผัสนอก สัมผัสใน สัมผัสสระ สัมผัสอักษร.

บังคับเอก
น. กฎเกณฑ์ของการประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้พยางค์หรือคําที่มีรูปวรรณยุกต์เอก และบรรดาคําตายทั้งสิ้นในโคลงและร่ายใช้แทนเอกได้.

บังคัล
ก. เฝ้า. (ข.).

บังแทรก
[-แซก] น. เครื่องสูงอย่างหนึ่งสําหรับใช้ในริ้วขบวนพิธีแห่, คู่กับทานตะวัน อยู่ระหว่างฉัตร.(รูปภาพ บังแทรก)

บังวาย
ก. เสื่อมเสีย, เสียหาย, เช่น ทํากลบังวาย. (สามดวง), บังวายสวาท.(กฤษณา).

บำนาญ
ก. หมุนรอบ, เวียนรอบ.

บังสุกุล
น. เรียกผ้าที่พระภิกษุชักจากศพ หรือที่ทอดไว้หน้าศพ หรือที่ทอดบนด้ายสายสิญจน์หรือผ้าภูษาโยงที่ต่อจากศพด้วยการปลงกรรมฐานว่าผ้าบังสุกุล, เรียกกิริยาที่พระภิกษุชักผ้าเช่นนั้นว่า ชักบังสุกุล, (ปาก)บังสกุล ก็ว่า. (ป. ปํสุกูล ว่า ฝั่งแห่งฝุ่น, กองฝุ่น, คลุกฝุ่น; ส. ปําสุกูล).

บังสุกูลิก
(แบบ) น. ผู้ใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร, เป็นชื่อธุดงค์ประการหนึ่งของภิกษุผู้ใช้ผ้าเฉพาะที่เก็บได้จากกองฝุ่นกองหยากเยื่อมาทําเครื่องนุ่งห่ม คือไม่ใช้ผ้าที่ชาวบ้านถวาย. (ป. ปํสุกูลิก).

บังสูรย์
น. เครื่องสูงอย่างหนึ่ง สําหรับใช้บังแดดในการพิธีแห่ รูปคล้ายบังแทรก.(รูปภาพ บังสูรย์)

บังหวน, บังหวนควัน
ก. ทําให้ควันหวนตลบขึ้น.

บังหวน, บังหวนควัน
ก. ทําให้ควันหวนตลบขึ้น.

บังเหตุ
(โบ) ก. ประมาท เช่น บังเหตุดูถูก. (ข. บฺรเหส); ทําให้เป็นเหตุ,บันดาลเหตุ, เช่น ใบก็บังเหตุร่วงประจักษ์ตา. (ขุนช้างขุนแผน).

บังเหิน
ก. เหาะ, บิน.

บังเหียน
น. เครื่องบังคับม้าให้ไปในทางที่ต้องการ ทําด้วยเหล็กหรือไม้ใส่ผ่าปากม้า ที่ปลายมีห่วง ๒ ข้างสําหรับผูกสายบังเหียนโยงไว้ให้ผู้ขี่ถือ, โดยปริยายหมายความว่า อํานาจบังคับบัญชาให้เป็นไปในทางที่ต้องการ เช่น ถือบังเหียนการปกครองบ้านเมือง กุมบังเหียน.

บังอร
น. นาง; เด็ก ๆ ที่กําลังน่ารัก เช่น เมื่อทอดพระเนตรเห็นสองบังอรอรรคปิโยรส.

บังอวจ
[-อวด] น. หน้าต่าง. (ข. บงฺอัวจ).

บังอาจ
ก. กล้าแสดงกล้าทําด้วยทะนงใจหรือฮึกเหิม โดยไม่ยําเกรงหรือไม่รู้จักสูงตํ่า, กล้าละเมิดกฎหมาย.

บังอิง
น. พนัก. ก. อิง, พิง.

บังอูร
[บังอูน] ก. ตก, ตกลง; ยอบลง. (ข. บงฺอุร ว่า ฝนตก).

บังเอิญ
ว. ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวหรือไม่คาดหมาย, เผอิญ.

บัญจก
[บันจก] น. หมวด ๕, ประชุม ๕, เช่น ขันธบัญจก. (ป. ปญฺจก).

บัญจรงค์
[บันจะรง] (แบบ) น. เบญจรงค์ เช่น เอาผ้าบัญจรงค์อันงาม. (จารึกวัดป่ามะม่วง หลักที่ ๕ ด้านที่ ๓).

บัญชร
[บันชอน] น. กรง, ซี่กรง; หน้าต่าง. (ป., ส. ปญฺชร).

บัญชา
น. คําสั่งของผู้มีอํานาจบังคับในการปกครอง. ก. สั่งการตามอํานาจหน้าที่.

บัญชาการ
ก. สั่งการงานตามอํานาจหน้าที่.

บัญชี
น. สมุดหรือกระดาษสําหรับจดรายการต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐาน เช่นบัญชีเงินสด บัญชีพัสดุ บัญชีพล บัญชีเรียกชื่อ. (ส. ปญฺชิ).

บัญชีกระแสรายวัน
น. บัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งผู้ฝากสามารถถอนเงินได้ทุกเวลา.

บัญชีเดินสะพัด
(กฎ) น. ชื่อสัญญาซึ่งบุคคล ๒ คนตกลงกันว่าสืบแต่นั้นไปหรือในชั่วเวลากําหนดอันใดอันหนึ่ง ให้ตัดทอนบัญชีหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนอันเกิดขึ้นแต่กิจการในระหว่างเขาทั้ง ๒ นั้นหักกลบลบกัน และคงชําระแต่ส่วนที่เป็นจํานวนคงเหลือโดยดุลภาค.

บัญญัติ
[บันหฺยัด] น. ข้อความที่ตราหรือกําหนดขึ้นไว้เป็นข้อบังคับ เป็นหลักเกณฑ์ หรือเป็นกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติ พุทธบัญญัติบัญญัติ ๑๐ ประการ. ก. ตราหรือกําหนดขึ้นไว้เป็นข้อบังคับ เป็นหลักเกณฑ์ หรือเป็นกฎหมาย เช่น บัญญัติศัพท์ บัญญัติกฎหมาย.(ป. ปญฺ?ตฺติ).

บัญญัติไตรยางศ์
น. วิธีเลขอย่างหนึ่ง ซึ่งกําหนดส่วนสัมพันธ์ของเลข ๓ จํานวนเพื่อหาจํานวนที่ ๔ โดยวิธีเทียบหา ๑ ก่อน แล้วจึงไปหาส่วนที่ต้องการ ด้วยการนําเลขทั้ง ๓ จํานวนที่กําหนดให้และที่ให้หามาคูณหารกันเป็น ๓ขั้น.

บัญหา
น. ข้อที่ต้องคิดต้องแก้, เรื่องที่ต้องปรึกษาหารือ. (ป. ปญฺห).

บัฏ
น. ผืนผ้า, แผ่น. (ป., ส. ปฏ).

บัฐยาพฤต
[บัดถะหฺยาพฺรึด] น. ชื่อฉันท์ชนิดหนึ่งซึ่งกําหนดด้วยอักษร ๓๒คํา มี ๔ บาท บาทละ ๘ คํา, ปัฐยาวัต หรือ อัษฎกฉันท์ ก็เรียก.(ส.; ป. ปฐฺยาวตฺต).

บัณฑร, บัณฑร-
[บันทอน, บันทะระ-] ว. ขาวเหลือง. (ป. ปณฺฑุ; ส. ปาณฺฑร). (แผลงมาจาก บัณฑุ).

บัณฑร, บัณฑร-
[บันทอน, บันทะระ-] ว. ขาวเหลือง. (ป. ปณฺฑุ; ส. ปาณฺฑร). (แผลงมาจาก บัณฑุ).

บัณฑรนาค
น. ช้างเผือก.

บัณฑรหัตถี
น. ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ ตระกูล กายสีขาวดังเขาไกรลาส.

บัณฑิต
[บันดิด] น. ผู้ทรงความรู้, ผู้มีปัญญา, นักปราชญ์, ผู้สําเร็จการศึกษาขั้นปริญญาซึ่งมี ๓ ขั้น คือ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก เรียกว่าบัณฑิต มหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิต, ผู้มีความสามารถเป็นพิเศษโดยกําเนิด เช่น คนนี้เป็นบัณฑิตในทางเล่นดนตรี. (ป., ส. ปณฺฑิต).

บัณฑิตย์
[บันดิด] น. ความรอบรู้, การเรียน, ความเป็นบัณฑิต. (ส. ปาณฺฑิตฺย;ป. ปณฺฑิจฺจ).

บัณฑุ
[บันดุ] ว. เหลืองอ่อน, ขาวเหลือง, ซีด. น. ช้างเผือก. (ป. ปณฺฑุ;ส. ปาณฺฑุ).

บัณฑุกัมพล
น. ผ้าขนสัตว์สีเหลือง. (ป. ปณฺฑุกมฺพล).

บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์
น. แท่นหินมีสีดุจผ้ากัมพลเหลือง เป็นที่สถิตของพระอินทร์.

บัณฑุนาค
น. ช้างเผือก. (ส. ปาณฺฑุนาค).

บัณฑุโรค
(แบบ) น. โรคผอมเหลือง, โรคเพื่อดี. (ป. ปณฺฑุโรค).

บัณฑูร
[บันทูน] (ราชา) น. คําสั่ง, คําสั่งกรมพระราชวังบวร.

บัณเฑาะก์
[บันเดาะ] น. กะเทย. (ป., ส. ปณฺฑก อภิธาน ว่า กะเทย, ชิลเดอร์และมอร์เนียร์ วิลเลียม ว่า ขันที).

บัณเฑาะว์
[บันเดาะ] น. กลองสองหน้าขนาดเล็กชนิดหนึ่งมีหลักอยู่ตอนบนผูกตุ้มห้อยลงมาทางหน้ากลอง ใช้ไกวให้ตุ้มแกว่งกระทบหน้ากลองทั้ง ๒ ข้าง. (ป. ปณว; ส. ปฺรณว).

บัณณาส
[บันนาด] ว. ห้าสิบ. (ป. ปณฺณาส).

บัณรส
[บันนะรด] ว. สิบห้า. (ป. ปณฺณรส).

บัณรสี
[บันนะระสี] ว. ที่ ๑๕, ใช้กับคําว่า ดิถี เช่น บัณรสีดิถี = วัน ๑๕ คํ่า.(ป. ปณฺณรสี).

บัด
น. เวลา, เมื่อ, ครั้ง, คราว; ทันใด.

บัดใจ
ว. ประเดี๋ยว, ทันใด.

บัดดล
ว. ทันใดนั้น.

บัดเดี๋ยว
ว. ประเดี๋ยว.

บัดนั้น
ว. คําขึ้นต้นข้อความของบทละคร (ใช้แก่ตัวละครที่ไม่ใช่ตัวเจ้าหรือมิได้เป็นตัวเอกในตอนนั้น ๆ).

บัดนี้
ว. ขณะนี้, เดี๋ยวนี้, เช่น บัดนี้ได้เสนอเรื่องมาให้พิจารณาแล้ว.

บัดแบ่ง
น. กึ่งเวลา.

บัดแมล่ง
[-มะแล่ง] น. เวลาบ่ายเย็น.

บัดกรี
[บัดกฺรี] ก. เชื่อมหรือประสานโลหะให้ติดกัน.

บัดซบ
ว. สิ้นดี, มักใช้ประกอบกับคํา โง่ เซ่อ หรือ เซอะ เช่น โง่บัดซบ.

บัดบง
ก. สูญหาย. (ข. บาต่ ว่า หาย, บง่ ว่า เสียไป).

บัดสี, บัดสีบัดเถลิง
[-ถะเหฺลิง] ว. น่าอับอายขายหน้า เป็นที่น่ารังเกียจ.

บัดสี, บัดสีบัดเถลิง
[-ถะเหฺลิง] ว. น่าอับอายขายหน้า เป็นที่น่ารังเกียจ.

บัตร
[บัด] น. แผ่นเอกสารแสดงสิทธิของผู้ใช้เป็นต้น มักทําด้วยกระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เช่น บัตรประจําตัว บัตรเลือกตั้ง บัตรสมนาคุณ;ภาชนะทําด้วยกาบกล้วย เป็นรูปกระบะสําหรับวางเครื่องเซ่นสังเวย,ถ้าทําเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียกว่า บัตรคางหมู, ถ้าทําเป็นรูปสี่เหลี่ยมเรียกว่า บัตรกรุงพาลี หรือ บัตรพระภูมิ; ใบไม้, กลีบดอกไม้ เช่นปทุมบัตร; ขนปีก, ปีก เช่น หากันกระสันโบย บัตรเรียกมารังเรียง.(สมุทรโฆษ). (ส. ปตฺร; ป. ปตฺต).

บัตรกรุงพาลี
น. ภาชนะทำด้วยกาบกล้วย เป็นรูปกระบะสี่เหลี่ยม สำหรับวางเครื่องเซ่นสังเวย, บัตรพระภูมิ ก็เรียก, เรียกสั้น ๆ ว่า บัตรพลี.

บัตรเครดิต
น. บัตรซึ่งสถาบันการเงินหรือธุรกิจออกให้แก่ผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกเพื่อให้ชำระค่าสินค้าหรือบริการจากสถานการค้าหรือธุรกิจที่รับบัตรนั้นแทนการชำระด้วยเงินสด. (อ. credit card).

บัตรเทวดา
น. เรียกสิ่งที่ประกอบด้วยก้านกล้วย ๔ ก้านตั้งเป็นเสาทําเป็นรูปสี่เหลี่ยมเรียวตรงขึ้นไปแล้วรวบยอดปักแผ่นรูปเทวดาที่จะสังเวยระหว่างร่วมในเสาทํากระบะกาบกล้วยเรียงขึ้นไปเป็นชั้น ๆ สําหรับวางเครื่องสังเวยเทวดา, เรียกสั้น ๆ ว่า บัตร ก็มี.

บัตรธนาคาร
(กฎ) น. บัตรที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกใช้เป็นเงินตรา.

บัตรพลี
[บัดพะลี] น. ภาชนะทำด้วยกาบกล้วย เป็นรูปกระบะสี่เหลี่ยมสำหรับวางเครื่องเซ่นสังเวย, เรียกเต็มว่า บัตรกรุงพาลี, ถ้าทำเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียกว่า บัตรคางหมู, ถ้ามีเสาธงประกอบตั้งแต่ ๔ เสาขึ้นไป เรียกว่า บัตรพระเกตุ, ถ้าทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมมียอด เรียกว่า บัตรนพเคราะห์.

บัตรสนเท่ห์
น. จดหมายฟ้องหรือกล่าวโทษผู้อื่นโดยมิได้ลงชื่อหรือไม่ลงชื่อจริงของผู้เขียน.

บัตรสินเชื่อ
น. บัตรเครดิต.

บัตรหมาย
น. หนังสือเกณฑ์ในทางราชการ.

บัทม์
น. ปัทม์. (ส. ปทฺม; ป. ปทุม). (ดู บัว).

บัน ๑
น. จั่ว (หน้าจั่วของปราสาท โบสถ์ วิหาร เรียกว่า หน้าบัน).

บันแถลง
[-ถะแหฺลง] น. หน้าบันขนาดเล็ก ใช้ประดับเป็นกระจัง.

บัน ๒
ก. ผัน, ผิน.

บัน ๓
ก. เบา, น้อย, เช่น มัวเมาไม่บัน. (ดึกดําบรรพ์).

บันเบา
ว. น้อย (โดยมากมักใช้ในทางปฏิเสธหรือเป็นเชิงคําถาม) เช่นไม่บันเบา เรื่องนี้น่าสนใจบันเบาไปหรือ.

บั่น
ก. ตัดให้สั้น, ตัดให้เป็นท่อน ๆ.

บั่นทอน
ก. ทําให้สั้นหรือลดน้อยลง เช่น บั่นทอนอายุ บั่นทอนกําลัง, ทําให้เสียกําลังใจ ในคําว่า บั่นทอนจิตใจ.

บั้น ๑
น. ครึ่งหนึ่งหรือตอนหนึ่งของสิ่งที่แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนเท่า ๆ กันเช่น บั้นต้น บั้นปลาย. สัน. ฝ่ายว่า, ส่วนว่า.

บั้นท้าย
น. ตอนท้าย, ส่วนท้าย; (ปาก) ตะโพก, ก้น, (ใช้แก่หญิง).

บั้นปลาย
น. ตอนท้าย เช่น บั้นปลายของชีวิต.

บั้นพระองค์
(ราชา) น. บั้นเอว.

บั้นเอว
น. ส่วนกลางของร่างกายระหว่างชายโครงกับกระดูกตะโพกทั้ง ๒ ข้าง, กะเอว สะเอว หรือ เอว ก็ว่า.

บั้น ๒
น. ชื่อมาตราตวงข้าว ๒ บั้น เป็น ๑ เกวียน.

บั้นหลวง
น. ชื่อมาตราตวงตามวิธีประเพณี มีอัตราเท่ากับ ๑,๐๐๐ ลิตร.

บันกวด
(โบ) ก. รัด, ผูก, เช่น กรรณบันกวดพู่แก้ว. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์).

บันจวบ
ก. ตกแต่ง.

บันจอย
(โบ) ก. บรรจง.

บันดล
ก. ทําให้บังเกิดขึ้น.

บันดาล
ก. ให้เกิดมีขึ้นเป็นขึ้นด้วยแรงอํานาจของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น บุญบันดาล บันดาลโทสะ.

บันเดิน
ก. ทําให้เดิน.

บันโดย
ก. พลอยแสดง เช่น บันโดยหรรษา; ดําเนินตาม, เอาอย่าง, ยินยอม,คล้อยตาม.

บันได
น. สิ่งที่ทําเป็นขั้น ๆ สําหรับก้าวขึ้นลง, กระได ก็ว่า, โดยปริยายหมายถึงบุคคลหรือสิ่งที่อาศัยใช้ไต่เต้าขึ้นไปสู่ฐานะหรือตําแหน่งที่สูงขึ้นไป.

บันไดแก้ว
น. ที่รองพระคัมภีร์และลานสําหรับจารหนังสือ, ที่สําหรับพาดพระแสง.

บันไดลิง ๑
น. บันไดเชือกที่ตรึงติดเฉพาะส่วนบน ใช้ไต่ขึ้นที่สูงหรือไต่ลงที่ตํ่า,กระไดลิง ก็ว่า.

บันไดเลื่อน
น. บันไดที่เคลื่อนได้ด้วยกําลังไฟฟ้า.

บันไดลิง ๑
ดูใน บันได.

บันไดลิง ๒
ดู กระไดลิง ๒.

บันทึก
ก. จดข้อความเพื่อช่วยความทรงจําหรือเพื่อเป็นหลักฐาน, จดหรือถ่ายทําไว้เพื่อช่วยความจําหรือเพื่อเป็นหลักฐาน, เช่น บันทึกรายงานการประชุม บันทึกภาพ บันทึกเสียง, จดย่อ ๆ ไว้เพื่อให้รู้เรื่องเดิม;ย่นย่อ, ทําให้สั้น, เช่น บันทึกมรรคา. น. ข้อความที่จดไว้เพื่อช่วยความทรงจํา; หรือเพื่อเป็นหลักฐาน, ข้อความที่นํามาจดย่อ ๆ ไว้เพื่อให้รู้เรื่องเดิม(กฎ) หนังสือที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจจดไว้เป็นหลักฐานในการสอบสวนความผิดอาญา รวมทั้งบันทึกคําร้องทุกข์และคํากล่าวโทษด้วย.

บันทึง
ก. บ่นถึง, คอย. (ช.).

บันเทิง
ก. เบิกบาน, รื่นเริง; ทําให้รู้สึกสนุก เช่น รายการบันเทิง, บำเทิงหรือ ประเทิง ก็ว่า.

บันเทิงคดี
น. เรื่องที่เขียนหรือแต่งขึ้นโดยมุ่งให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่าน.

บันยะบันยัง
ว. พอสัณฐานประมาณ, พอสมควร.

บันลือ
ก. เปล่งเสียงดังก้อง เช่น บันลือสีหนาท; โด่งดัง, เลื่องลือ, เช่นข่าวบันลือโลก.

บันเหิน
ก. เหาะไป, บินไป.

บัปผาสะ
น. ปอด. (ป. ปปฺผาส).

บัพ
น. ข้อ, ปล้อง, ปม, เล่ม, หมวด, ตอน. (ป. ปพฺพ).

บัพชา
[บับพะชา] น. บรรพชา, การบวช. (ป. ปพฺพชฺชา).

บัพชิต
[บับพะชิด] น. บรรพชิต, นักบวช, ผู้บวช. (ป. ปพฺพชิต).

บัพพาช
[บับพาด] (แบบ) ก. ขับไล่ เช่น พระสญชัยยินราษฎร์ แกล้งบัพพาชกูไกล. (ม. คําหลวง วนปเวสน์). (ป. ปพฺพาช).

บัพพาชน์
[บับพาด] (แบบ) น. การขับไล่. (ป. ปพฺพาชน).

บัพพาชนียกรรม
[บับพาชะนียะกํา] น. กรรมที่สงฆ์ทําแก่ภิกษุที่จะพึงขับไล่, พิธีขับไล่บุคคลที่พึงขับไล่. (ป. ปพฺพาชนียกมฺม).

บัล
(แบบ) น. ชื่อมาตรานํ้าหนักมคธ ๑๐ บัล เป็น ๑ ตุลา, ๒๐ ตุลา เป็น๑ ภาระ. (ป., ส. ปล).

บัลลพ, บัลวะ
[บันลบ, บันละวะ] (แบบ) น. หน่อต้นไม้, กระโดงไม้ที่แตกออกใหม่,ใช้ว่า บัลลพ์ ก็มี. (ส. ปลฺลว).

บัลลพ, บัลวะ
[บันลบ, บันละวะ] (แบบ) น. หน่อต้นไม้, กระโดงไม้ที่แตกออกใหม่,ใช้ว่า บัลลพ์ ก็มี. (ส. ปลฺลว).

บัลลังก์
น. พระแท่นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ภายใต้เศวตฉัตร เรียกว่า ราชบัลลังก์, โดยปริยายคํา ราชบัลลังก์ นี้ หมายถึงความเป็นพระมหากษัตริย์หรือสถาบันกษัตริย์ก็ได้; ที่นั่งผู้พิพากษาเมื่อพิจารณาคดีในศาล; ส่วนของสถูปเจดีย์บางแบบ มีรูปเป็นแท่นเหนือคอระฆัง. ก. นั่งขัดสมาธิ เรียกว่า นั่งคู้บัลลังก์. (ป. ปลฺลงฺก).

บัลลูน
น. ลูกกลมขนาดใหญ่บรรจุแก๊สที่เบากว่าอากาศ ทําให้ลอยได้ ใช้ประโยชน์ในกิจการบางอย่าง เช่น ตรวจลมชั้นบน, ใช้ว่า. บอลลูนก็มี. (อ. balloon).

บัลเลต์
น. ระบำปลายเท้า.

บัว
น. ชื่อเรียกไม้นํ้าหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ คือ สกุลNelumbo ในวงศ์ Nelumbonaceae มีเหง้ายาวทอดอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลม ขอบเรียบ อยู่ห่าง ๆ กัน ก้านใบและก้านมีดอกแข็ง หนามสากคาย ชูใบและดอกขึ้นพ้นผิวนํ้า เช่น บัวหลวง(N. nucifera Gaertn.) ดอกสีขาวหรือชมพู กลิ่นหอม พันธุ์ดอกสีขาวเรียก สัตตบุษย์ พันธุ์ดอกสีชมพูเรียก ปัทม์ หรือ สัตตบงกชดอกใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เมล็ดกินได้, สกุล Nymphaea ในวงศ์Nymphaeaceae มีเหง้าสั้นอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลม ขอบเรียบหรือจักอยู่ชิดกันเป็นกระจุก ก้านใบและก้านดอกอ่อนไม่มีหนามใบลอยอยู่บนผิวนํ้า ดอกโผล่ขึ้นพ้นผิวนํ้า ผลจมอยู่ในนํ้าเรียกโตนด เช่น บัวสาย (N. lotus L. var. pubescens Hook.f. etThomson) ขอบใบจัก ดอกสีขาวหรือแดง ก้านดอกเรียก สายบัวกินได้ พันธุ์ดอกสีขาวเรียก สัตตบรรณ บัวเผื่อน (N. nouchali Burm.f.) ขอบใบเรียบ ดอก สีม่วงอ่อน, สกุล Victoria ในวงศ์Nymphaeaceae เช่น บัวขอบ กระด้ง หรือ บัววิกตอเรีย [V.amazonica (Poeppig) Sowerby] มีเหง้าสั้นอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลมใหญ่ ขอบยกขึ้นคล้ายกระด้ง ลอยอยู่ บนผิวนํ้า ใต้ใบก้านดอก และด้านนอกของกลีบดอกชั้นนอกมีหนามแหลม ดอกใหญ่ สีขาว หอมมาก; ส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ทําเป็นรูปกลีบบัว ติดอยู่บนหัวเสา เรียกว่า บัวหัวเสา หรือที่ส่วนล่างของฐานเป็นต้น เรียกว่า ฐานบัว, ส่วนประดับที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมใช้ตกแต่งตรงส่วนขอบของพื้นผนังด้านล่างและด้านบน เพื่อประสานระหว่างพื้นที่ต่างระดับหรือพื้นที่ในแนวนอนกับแนวตั้งเช่น เพดานกับผนัง พื้นกับผนัง ลักษณะเป็นแผ่นหรือแถบที่มีความกว้างตามความเหมาะสมของพื้นที่แต่ยาวทอดไปตามมุมหรือขอบ เช่น เชิงผนัง ขอบเพดาน อาจเป็นปูนที่ปั้นแต่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ เป็นไม้แกะสลักหรือไสเซาะเป็นลวดลาย หรือเป็นไม้แถบขนาดเล็กไม่มีลวดลายที่ช่างทั่วไปมักเรียกว่า ไม้มอบ,ลวดบัว ก็เรียก, เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายดอกบัว เช่น โคมบัว.

บัวกลุ่ม
น. ลายปูนหรือลายแกะไม้ที่ทําเป็นรูปดอกบัวที่เริ่มแย้มร้อยกันเป็นเถา อยู่ระหว่างบัลลังก์กับปลียอดของเจดีย์หรือปลายเครื่องบนของปราสาท.

บัวขม
น. บัวสายพันธุ์หนึ่งในสกุล Nymphaea ดอกเล็ก สีขาวสายกินได้ หัวมีรสขม.

บัวขาบ
ดู ผัน ๑.

บัวคอเสื้อ
น. แผ่นผ้าทาบรอบคอเสื้อ; ลายบัวที่อยู่ใต้บัลลังก์ปราสาท.

บัวตะกั่ว
(โบ) น. ที่สําหรับไขนํ้าให้ไหลลงมาเป็นฝอย.

บัวถลา
น. บัวควํ่าที่ลาหรือยืดอ่อนออกไป.

บัวนาง
น. นมผู้หญิง.

บัวบังใบ
ว. เห็นรําไร.

บัวบาท
น. เท้าที่มีบัวรอง, หมายเอาเท้าผู้มีบุญอย่างพระพุทธเจ้า นิยมว่าพระพุทธเจ้ามีดอกบัวผุดขึ้นรับพระบาท, ใช้เลือนมา หมายถึงพระบาทของพระเจ้าแผ่นดินด้วย.

บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น
(สํา) ก. รู้จักผ่อนปรนเข้าหากัน มิให้กระทบกระเทือนใจกัน,รู้จักถนอมนํ้าใจไม่ให้ขุ่นเคืองกัน, บัวไม่ให้ชํ้า นํ้าไม่ให้ขุ่น ก็ว่า.

บัวโรย
ว. สีกลีบบัวแห้งหรือสีปูนแห้ง.

บัวลอย ๑
น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเหนียว ปั้นเป็นเม็ดกลม ๆเล็ก ๆ ต้มในนํ้ากะทิผสมนํ้าตาล.

บัวอกไก่
น. ชื่อลวดบัวแบบหนึ่ง มีลักษณะนูนเป็นสันขึ้นอย่างอกของไก่.

บัวตูม
น. ชื่อพืชเบียนชนิด Rafflesia kerrii Meijer ในวงศ์ Rafflesiaceaeเกิดตามป่าดิบ เกาะเบียนรากไม้เถา ดอกตูมสีนวล ใช้ทํายาได้เมื่อบานขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓๐ เซนติเมตร สีนํ้าตาลแดงประเหลือง กลิ่นเหม็น, บัวผุด ก็เรียก.

บัวบก
น. (๑) ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Centella asiatica (L.) Urban ในวงศ์Umbelliferae ขึ้นตามที่ชุ่มชื้น ทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน ใบเดี่ยวกลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ใบและต้นกินได้และใช้ทํายาได้, พายัพและอีสานเรียก ผักหนอก, ปักษ์ใต้และตราดเรียก ผักแว่น. (๒) ชื่อไม้เถาชนิด Stephania pierrei Diels ในวงศ์ Menispermaceaeขึ้นในป่าเบญจพรรณ รากพองเป็นหัวกลม ๆ ใบค่อนข้างกลมปลายแหลม ใช้ทํายาได้.

บัวผุด
ดู บัวตูม.

บัวลอย ๑
ดูใน บัว.

บัวลอย ๒
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง ใช้บรรเลงในงานศพ.

บัวสวรรค์
น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Gustavia gracillima Miersในวงศ์ Lecythidaceae ดอกสีชมพูแก่ กลีบดอกซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เหมือนดอกบัว.

บัวสายติ่ง, บัวสายทิ้ง
ดู สายติ่ง.

บัวสายติ่ง, บัวสายทิ้ง
ดู สายติ่ง.

บัวฮาดำ
ดู เฉียงพร้าดํา.

บา
น. ครู, อาจารย์; ชายหนุ่ม.

บาธรรม
น. ผู้เชี่ยวชาญในทางธรรม, อาจารย์ทางธรรม.

บ่า ๑
น. ส่วนของร่างกายระหว่างคอกับหัวไหล่, โดยปริยายหมายถึงอินทรธนูหรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น บ่าเสาบ่าเสื้อ.

บ่า ๒
ว. อาการที่นํ้าไหลล้นมาโดยเร็ว; อะไร, ทําไม.

บ้า ๑
ว. เสียสติ, วิกลจริต, สติฟั่นเฟือน, หลงใหลหรือมัวเมาในสิ่งนั้น ๆจนผิดปรกติ เช่น บ้ากาม บ้ายศ บ้าฟุตบอล; อาการที่สัตว์บางชนิดเช่นหมาเป็นโรคกลัวนํ้า เรียกว่า หมาบ้า.

บ้าจี้
ว. อาการที่พูดหรือแสดงโดยขาดสติเมื่อถูกจี้ทําให้ตกใจ, ทําตามโดยปราศจากการไตร่ตรองเมื่อถูกยุหรือแนะ.

บ้าดีเดือด
ว. มีอาการคลุ้มคลั่งมุทะลุดุดันเป็นคราว ๆ, โดยปริยายหมายความว่ามีอารมณ์หุนหันพลันแล่นชอบทําอะไรรุนแรง.

บ้าน้ำลาย
ว. ชอบพูดพล่าม, ชอบพูดเพ้อเจ้อ.

บ้าบิ่น ๑
ว. มุทะลุ, หุนหันพลันแล่น, อวดกล้าทําการอย่างไม่มีสติยั้งคิด,บิ่น ก็ว่า.

บ้าระห่ำ
ว. มุทะลุ, ทะลึ่งตึงตัง.

บ้าลำโพง
ว. บ้าเพราะกินเมล็ดลําโพง มีอาการซึมหรือพูดพล่าม, โดยปริยายหมายความว่า พูดโผงผาง ตึงตัง หรือแสดงกิริยาโมโหโกรธา เช่นพูดจาบ้าลําโพงโป้งไป. (คาวี), ทําโมโหโกรธาบ้าลําโพง เที่ยวโป้งโหยงหยาบช้าสาธารณ์. (พิเภกสอนบุตร).

บ้าเลือด
ว. บันดาลโทสะอย่างไม่กลัวตายเมื่อถูกทําร้ายถึง เลือดตกยางออก.

บ้าสมบัติ
ว. ที่เห็นอะไร ๆ เป็นของมีค่าไปทั้งหมด, ที่ชอบสะสมสิ่งของต่าง ๆ ไว้มากจนเกินความจําเป็น.

บ้าหอบฟาง
(สํา) ว. บ้าสมบัติ เห็นอะไร ๆ เป็นของมีค่าจะเอาทั้งนั้น, อาการที่หอบหิ้วสิ่งของพะรุงพะรัง.

บ้าห้าร้อยจำพวก
(สํา) ว. บ้ามากมายหลายประเภท.

บ้า ๒
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Leptobarbus hoevenii ในวงศ์ Cyprinidaeลําตัวค่อนข้างยาวหนาเกือบเป็นรูปทรงกระบอก หัวกว้าง มีหนวด๒ คู่ ท้องกลมมน ด้านหลังและข้างตัวสีเขียวอ่อน ด้านท้องสีขาวแต้มเหลือง ครีบท้อง ครีบก้น และครีบหลังสีแดงอ่อน ในปลาขนาดเล็กมีแถบสีดําคลํ้าพาดตลอดข้างตัว พบอาศัยตามแม่นํ้าลําคลองและบึงใหญ่ทั่วไป ขนาดยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร ในธรรมชาติกินผลไม้รวมทั้งผลกระเบา เมื่อมีผู้นําไปบริโภค ทําให้เกิดอาการมึนเมา, อ้ายบ้า หรือ พวง ก็เรียก.

บ้า ๆ
ว. แผลง ๆ, แตกต่างไปจากปรกติ, เช่น ทําบ้า ๆ เล่นบ้า ๆ.

บาก
ก. ใช้สิ่งมีคมเช่นมีดหรือขวานเป็นต้นฟันสิ่งใดสิ่งหนึ่งเช่นต้นไม้ให้เป็นแผลเป็นรอยหรือเป็นทางเข้าไป, โดยปริยายหมายความว่ามุ่งหน้าไป เช่น อย่ารู้มากบากหนีแต่ที่ง่าย. (พาลีสอนน้อง).

บากท่า
ก. ให้ท่า, เปิดช่อง.

บากบั่น
ก. พากเพียร, ตั้งหน้าฝ่าความยากลําบาก.

บากหน้า
ก. ยอมเสียหน้าเข้าไปขอความช่วยเหลือด้วยความจําใจจําเป็น.

บาง ๑
น. ทางนํ้าเล็ก ๆ, ทางนํ้าเล็กที่ไหลขึ้นลงตามระดับนํ้าในแม่นํ้าลําคลอง หรือทะเล; ตําบลบ้านที่อยู่หรือเคยอยู่ริมบางหรือในบริเวณที่เคยเป็นบางมาก่อน, โดยปริยายหมายถึงทั้งหมู่ เช่นฆ่าล้างบาง ย้ายล้างบาง. ว. มีส่วนสูงน้อยจากผิวพื้น, ไม่หนา,มีความหนาน้อย, เช่น มีดบาง ผ้าบาง, โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ผสมสุราแต่น้อย ๆ ไม่เข้มข้นเรียกว่า ผสมแต่บาง ๆ, แทงลูกบิลเลียดไปถูกอีกลูกหนึ่งเพียงผิว ๆ เรียกว่า แทงบางไป, เรียกผู้ที่มีผมน้อยกว่าปรกติว่า ผมบาง,เรียกผู้ที่อายง่ายกว่าปรกติ คือไม่ควรละอาย กลับอายว่า หน้าบาง,ตรงข้ามกับ หน้าหนา, เรียกผู้ที่มีรูปร่างอ้อนแอ้นสะโอดสะองว่าเอวเล็กเอวบาง หรือเอวบางร่างน้อย, เรียกคนอ่อนแอทนความลําบากไม่ได้เพราะไม่เคยชินว่า คนผิวบาง.

บางตา
ว. เห็นเป็นระยะห่าง ๆ กัน หรือหนาแน่นน้อยกว่าที่ควรเป็น.

บางเบา
ว. น้อยลง, ทุเลาลง, เบาบาง ก็ว่า.

บาง ๒
ว. ใช้ประกอบหน้านามหมายความว่า ไม่ใช่ทั้งหมด คือ เป็นส่วนย่อยหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของส่วนรวม เช่น บางคน บางพวกบางถิ่น บางสิ่ง, ลาง ก็ใช้.

บางที
ว. บางเวลา, บางคราว, บางครั้ง, บางหน, ลางที ก็ใช้.

บ่าง
น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Cynocephalus variegatusในวงศ์ Cynocephalidae รูปร่างคล้ายกระรอก แต่มีหนังเป็นพังผืด ๒ ข้างของลําตัวตั้งแต่คอไปถึงปลายนิ้วตีนและปลายหางสําหรับใช้กางออกคล้ายปีก ถลาร่อนจากที่สูงมายังที่ตํ่าได้ค่อนข้างไกล ขนนุ่มสีนํ้าตาลคลํ้าหรือนํ้าตาลจาง ๆ เป็นหย่อม ๆเล็บโค้งแหลมใช้ปีนป่ายต้นไม้ หากินในเวลากลางคืน กลางวันมักหลบอยู่ตามโพรงไม้หรือเกาะห้อยอยู่ตามพุ่มทึบ, พุงจง หรือพะจง ก็เรียก.

บ่างช่างยุ
(สํา) น. คนที่ชอบพูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกกัน.

บ้าง
ว. ใช้ประกอบคําอื่นหมายความว่า บางจํานวนหรือบางส่วนของสิ่งที่กล่าวถึงโดยเฉพาะ เช่น อย่างนั้นบ้าง อย่างนี้บ้าง ขอบ้าง,บางส่วนของจํานวนรวมที่แบ่งเป็น ๒ เช่น เรื่องที่เล่าจริงบ้างเท็จบ้าง, มีส่วนร่วม มีความหมายคล้ายคำว่า ด้วย เช่น ขอเล่นบ้างขอขี่จักรยานบ้าง, เอาอย่าง เช่น เห็นเขาทําก็ทําบ้าง. ส. คําใช้แทนผู้หรือสิ่งที่พูดถึงในกรณีที่แยกกล่าวโดยเฉพาะ เช่น บ้างก็กิน บ้างก็เล่น, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๓.

บางขุนนนท์
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

บางสุ
(กลอน) น. บงสุ์, ฝุ่น, ละออง, ธุลี, (โบ) ใช้ว่า บางษุ ก็มี เช่นมหาบางษุกุลพัษตรจีวรา. (นันโท), เมื่อน้นนนางก็ลูบบทบางษุบาท. (ม. คําหลวง วนปเวสน์). (ป. ปํสุ; ส. ปําสุ).

บาจก
(แบบ) น. พ่อครัว, แม่ครัว ใช้ว่า บาจิกา. (ป. ปาจก).

บาจรีย์
[-จะรี] น. อาจารย์ของอาจารย์. (ป. ปาจริย).

บาจิกา
(แบบ) น. แม่ครัว. (ป. ปาจิกา). (ดู บาจก).

บาซิลลัส
น. แบคทีเรียที่มีรูปร่างเป็นท่อน. (อ. bacillus).

บาด
ก. ทําให้เกิดเป็นแผลหรือรอยขีดข่วนอย่างของมีคมบาด เช่นมีดบาด แก้วบาด หญ้าคาบาด. น. แผล.

บาดคอ
ก. รู้สึกคล้ายระคายคอเนื่องจากกินของที่มีรสหวานจัดเย็นจัดเป็นต้น.

บาดเจ็บ
ว. มีบาดแผลทําให้เจ็บปวด.

บาดใจ
ก. เจ็บแค้นใจ.

บาดตา
ก. สะดุดตาเพราะเห็นสีฉูดฉาด; ขัดตาทําให้ไม่สบอารมณ์.

บาดแผล
น. เนื้อหนังที่แตกแยกออกเพราะถูกตีฟันทิ่มแทงเป็นต้น.

บาดเสี้ยนบาดหนาม
น. แผลที่ถูกเสี้ยนหนามยอกแล้วกลายเป็นพิษ ทําให้มีอาการปวดผิดปรกติ.

บาดหมาง
ก. โกรธเคืองกัน, หมองใจกัน, ผิดใจกัน.

บาดหู
ก. ขัดหู, ระคายหู, ทําให้ไม่สบอารมณ์, (ใช้แก่คําพูดหรือกริยาพูด).

บาดทะจิต
น. ชื่อโรคลมชนิดหนึ่ง มักกําเริบขึ้นเป็นครั้งคราว มีอาการหงุดหงิดจิตฟุ้งซ่าน.

บาดทะพิษ
น. แผลที่ตัวเชื้อโรค Streptococci เข้าไป ทําให้เลือดเป็นพิษ.

บาดทะยัก
น. โรคที่เกิดจากตัวเชื้อโรคบาดทะยัก (Clostridium tetani) เข้าสู่แผล ทําให้มีอาการกระตุก และชักแข็ง หลังแอ่น โดยมากถึงตาย.

บาดหมาย
(โบ) น. บัตรหมาย.

บาดไหม
(โบ) ก. ปรับ.

บาดาล
น. พื้นที่ใต้ระดับผิวดินลงไป, เรียกนํ้าที่สูบจากใต้ดินที่ลึกไม่ตํ่ากว่า๑๐ เมตรว่า นํ้าบาดาล; นาคพิภพ เป็นที่อยู่ของนาค. (ป. ปาตาล).

บาแดง
(โบ) น. คนเดินหมาย, คนนําข่าวสาร, ผู้สื่อข่าว, นักการ; พนักงานตามคน, ตําแหน่งข้าราชการในสํานักพระราชวัง, ประแดง ก็ใช้.

บาต
ก. ตก, ตกไป, มักใช้ประกอบหลังคําอื่น เช่น อสนีบาต = การตกแห่งสายฟ้า คือ ฟ้าผ่า, อุกกาบาต = การตกแห่งคบเพลิง คือ แสงสว่างที่ตกลงมาจากอากาศ. (ป. ปาต).

บาตร
[บาด] น. ภาชนะชนิดหนึ่งสําหรับภิกษุสามเณรใช้รับอาหารบิณฑบาต.(ส. ปตฺร; ป. ปตฺต).

บาตรแก้ว
น. บาตรใหญ่ ๓ ใบ ถักเชือกรอบนอก ในพระราชพิธีกัตติเกยา.

บาตรใหญ่
น. อํานาจที่ใช้ในทางข่มขี่, ใช้เข้าคู่กับ อํานาจ เป็น อํานาจบาตรใหญ่.

บาท ๑, บาท-
[บาด, บาดทะ-] น. ตีน, ราชาศัพท์ว่า พระบาท. (ป., ส. ปาท).

บาท ๑, บาท-
[บาด, บาดทะ-] น. ตีน, ราชาศัพท์ว่า พระบาท. (ป., ส. ปาท).

บาทนิเกต
[บาดทะนิเกด] น. ที่รองเท้า, ม้ารองเท้า. (ส.).

บาทบงกช
[บาดทะบงกด, บาดบงกด] น. บัวบาท, บัวรองเท้า, หมายความว่าเท้าพระพุทธเจ้าหรือพระเจ้าแผ่นดิน. (ป., ส. ปาทปงฺกช).

บาทบงสุ์
[บาดทะ-] น. ละอองเท้า. (ป. ปาทปํสุ).

บาทบริจาริกา
[บาดบอริ-] น. หญิงที่มีหน้าที่รับใช้ปฏิบัติพระเจ้าแผ่นดิน. (ป., ส.ปาทปาริจาริกา).

บาทภัฏ
[บาดทะพัด] น. ทหารเดินเท้า, ทหารราบ. (ส. ปาทภฏ).

บาทมุทรา
[บาดทะมุดทฺรา] น. รอยเท้า. (ส.).

บาทมูล
[บาดทะมูน] น. ที่ใกล้เท้า, แทบฝ่าเท้า. (ป.).

บาทมูลิกากร
[บาดทะมูลิกากอน] น. หมู่คนที่อยู่แทบบาทมูล คือ ข้าราชการในพระองค์. (ป.).

บาทยุคล
[บาดทะยุคน, บาดยุคน] น. เท้าทั้งคู่. (ป. ปาทยุคล).

บาทรช, บาทรัช
[บาดทะรด, บาดทะรัด] น. ละอองเท้า. (ส. ปาทรช).

บาทรช, บาทรัช
[บาดทะรด, บาดทะรัด] น. ละอองเท้า. (ส. ปาทรช).

บาทวิถี
น. ทางเท้า.

บาท ๒
น. มาตราเงินตามวิธีประเพณี ๑๐๐ สตางค์ หรือ ๔ สลึง เท่ากับ๑ บาท, อักษรย่อว่า บ.; เขียนตามวิธีโบราณดังนี้ (อักขระพิเศษ)หมายความว่า ๓ บาท; ชื่อมาตราชั่งตามวิธีประเพณี สําหรับกําหนดนํ้าหนักเท่ากับเงินหนัก ๑๕ กรัม.

บาท ๓
น. ส่วนหนึ่งของบทแห่งคําประพันธ์ เช่น โคลง ๔ สุภาพ บทหนึ่งมี ๔ บาท.

บาทบูรณ์
[บาดทะบูน] น. คําที่ทําบาทของบทกลอนให้เต็ม เช่น ในฉันท์๑๑ มีคําที่ได้ใจความ ๑๐ คํา แล้วอีกคําหนึ่งไม่ต้องมีความหมายอย่างไรก็ได้ เติมเข้ามาให้ครบ ๑๑ คําเติมนี้ เรียกว่า บาทบูรณ์. (ส.).

บาท ๔
น. ช่วงเวลาเท่ากับ ๑ ใน ๑๐ ของชั่วโมง เท่ากับ ๖ นาที.

บาทบ
[บา-ทบ] (แบบ) น. ต้นไม้ เช่น บรรดาที่เป็นบาทบชักตรลบเอารสวารี. (ม. ร่ายยาว วนปเวสน์). (ป., ส. ปาทป).

บาทภาค
[บาดทะพาก] น. ส่วนที่ ๔, เสี้ยว. (ส.).

บาทสกุณี
[บาดสะกุนี] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

บาทหลวง
[บาดหฺลวง] น. นักบวชในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก.

บาทาธึก
น. เส้นที่กลางใจเท้า.

บาทุกา
น. รองเท้า. (ป., ส. ปาทุกา).

บาน ๑, บาน-
[บาน, บานนะ-] น. นํ้าสําหรับดื่ม, เครื่องดื่ม เช่น สุราบาน ชัยบานอัฐบาน. (ป., ส. ปาน).

บาน ๑, บาน-
[บาน, บานนะ-] น. นํ้าสําหรับดื่ม, เครื่องดื่ม เช่น สุราบาน ชัยบานอัฐบาน. (ป., ส. ปาน).

บานบาตร
[บานนะบาด] น. ภาชนะใส่นํ้า, ถ้วย. (ส.).

บานโภชน์
[บานนะโพด] น. ของดื่มของกิน. (ส.).

บานมงคล
[บานนะมงคน] น. ชุมนุมดื่ม. (ส.).

บาน ๒
น. ของที่เป็นแผ่น ๆ บางอย่าง เช่น บานประตู บานหน้าต่างบานกระจกเงา; ลักษณนามใช้เรียกของเช่นนั้น เช่น กระจกบานหนึ่ง หน้าต่าง ๒ บาน. ก. เผยออก, คลี่ออก, ขยายออก,เช่น ดอกไม้บาน หอบซี่โครงบาน; กระจาย เช่น เรือแล่นจนนํ้าบาน. ว. ที่ผายออก เช่น ชามปากบาน กางเกงขาบานกระโปรงบาน; ปลาบปลื้ม, แช่มชื่น, เบิกบาน, เช่น ใจบานหน้าบาน; (ปาก) มาก เช่น เสียไปบาน.

บานกบ
น. กระดานกรุกระหนาบข้างเสาในพระระเบียง ปลายแผ่นกระดานยันใต้ท้องสะพานที่พาดอยู่บนหัวเสา, กระดานกรุกระหนาบข้างคูหาหรือช่องหน้าต่างโบสถ์ วิหาร พระที่นั่งต่าง ๆ, ข้างกบ ก็ว่า.

บานกระทุ้ง
น. บานหน้าต่างที่ปิดงับและเปิดค้ำขึ้นได้.

บานเกล็ด
น. บานหน้าต่างหรือบานประตูซึ่งใช้ไม้หรือกระจกแผ่นเล็ก ๆพาดขวางซ้อนเหลื่อมกันเป็นเกล็ด บางชนิดดึงหรือหมุนให้เกล็ดเหล่านั้นเปิดปิดได้พร้อม ๆ กัน.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานตะเกียง, บานตะโก้, บานตะไท, บานเบอะ, บานเบิก, บานเบียง, บานแบะ
(ปาก) ว. มากมาย.

บานทะโรค
น. โรคริดสีดวงทวารชนิดหนึ่ง ที่ดากบานออกมาข้างนอก.

บานปลาย
(สํา) ก. ขยายออกไปมากกว่าที่ตั้งใจไว้เดิม, ขยายเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตออกไป; ใช้เงินเกินกว่าที่ ประมาณหรือกำหนดไว้.

บานแผนก
[-ผะแหฺนก] น. บัญชีเรื่อง, สารบาญ.

บานแผละ
[-แผฺละ] น. ผนังตอนที่บานประตูหน้าต่างโบสถ์วิหารเป็นต้นเมื่อเปิดเข้าไปแล้วแปะอยู่.

บานพับ
น. เหล็กหรือทองเหลืองที่ใช้ติดบานประตูหรือหน้าต่างเป็นต้นเพื่อให้พับเข้ามาหรือเปิดออกได้, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น บานพับเครื่องแต่งตัวละครบานพับขา.

บานแพนก
[-พะแนก] (กฎ; โบ) น. ตารางแบ่งปันไพร่หลวง. (ตราสามดวง).

บาน ๓
ก. ได้. (ข.).

บ้าน
น. ที่อยู่ เช่น เลขบ้าน เจ้าบ้าน, สิ่งปลูกสร้างสําหรับเป็นที่อยู่อาศัยเช่น บ้านพักตากอากาศ บ้านเช่า, บริเวณที่เรือนตั้งอยู่ เช่น เขตบ้าน,หมู่บ้าน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน, ถิ่นที่มีมนุษย์อยู่ เช่น สร้างเป็นบ้านเป็นเมือง; (กฎ) โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างสําหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีเจ้าบ้านครอบครอง และหมายความรวมถึงแพหรือเรือซึ่งจอดเป็นประจําและใช้เป็นที่อยู่ประจํา หรือสถานที่หรือยานพาหนะอื่นซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยประจําได้ด้วย. ว. ที่มีอยู่ตามบ้าน เช่น หนูบ้าน คู่กับหนูนา หรือที่เลี้ยงไว้ เช่น หมูบ้าน คู่กับ หมูป่า.

บ้านเกิดเมืองนอน
น. ประเทศหรือถิ่นซึ่งเป็นที่เกิด.

บ้านเคยอยู่ อู่เคยนอน
(สํา) น. สถานที่ตนเคยอยู่อาศัยมาก่อน.

บ้านจัดสรร
น. กลุ่มบ้านซึ่งรัฐหรือเอกชนเป็นผู้ลงทุนสร้างให้ก่อน โดยยอมให้ผู้ซื้อผ่อนชําระก็ได้.

บ้านช่อง, บ้านช่องห้องหอ
น. บ้านที่อยู่อาศัย เช่น บ้านช่องรกรุงรัง.

บ้านช่อง, บ้านช่องห้องหอ
น. บ้านที่อยู่อาศัย เช่น บ้านช่องรกรุงรัง.

บ้านแตกสาแหรกขาด
(สํา) น. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวหรือในบ้านเมืองอย่างร้ายแรงถึงทําให้ต้องกระจัดกระจายพลัดพรากกัน.

บ้านนอก
น. เขตแดนที่พ้นจากเมืองหลวงออกไป, เขตที่อยู่นอกตัวเมือง. ว. ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ, บ้านนอกขอกนา หรือ บ้านนอกคอกนา ก็ว่า.

บ้านนอกขอกนา
(สํา) น. เรียกคนที่เป็นชาวไร่ชาวนาอยู่นอกกรุงหรือเมืองหลวงว่าคนบ้านนอกขอกนา, บ้านนอก หรือ บ้านนอกคอกนา ก็ว่า.

บ้านนอกคอกนา
(สำ) น. บ้านนอกขอกนา.

บ้านพัก
น. บ้านที่ทางราชการหรือองค์การต่าง ๆ สร้างขึ้นให้เป็นที่อยู่ชั่วคราวของเจ้าหน้าที่.

บ้านเมือง
น. ประเทศชาติ.

บ้านเมืองมีขื่อมีแป
(สํา) น. บ้านเมืองหรือประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครอง เช่นถ้าบ้านเมืองมีขื่อมีแป คงไม่ทํากับอ้ายแก่เช่นนี้ได้. (เสภาพญาราชวังสัน), มักใช้ในเชิงปฏิเสธว่า บ้านเมือง ไม่มีขื่อไม่มีแป.

บ้านรับรอง
น. บ้านที่สร้างไว้สําหรับรับรองแขก.

บ้านเรือน
น. บ้านที่อยู่อาศัย.

บานชื่น
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Zinnia violacea Cav. ในวงศ์ Compositaeลําต้นกลวง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามกัน ไม่มีก้านใบ ดอกออกที่ยอดมีหลายสี เช่น ขาว แดง ม่วง ชมพู เหลือง.

บานเช้า
น. ชื่อไม้ล้มลุก ๒ ชนิดในสกุล Turnera วงศ์ Turneraceaeดอกบานเวลาเช้า ชนิด T. subulata G.E. Smith ดอกสีนวลชนิด T. ulmifolia L. ดอกสีเหลืองอ่อน.

บานบุรี
น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Allamanda cathartica L. ในวงศ์Apocynaceae ลําต้นแข็ง ปลายกิ่งอ่อนโค้ง ดอกสีเหลืองสด.

บานบุรีม่วง
น. (๑) ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Allamanda violacea Gard. et Fieldในวงศ์ Apocynaceae ลักษณะเช่นเดียวกับบานบุรี แต่ดอกสีม่วง.(๒) ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Cryptostegia grandiflora R. Br. ในวงศ์Asclepiadaceae ใบมีขน ดอกสีม่วงชมพู. (๓) ชื่อไม้เถาชนิด Saritaeamagnifica (Steenis) Dugand ในวงศ์ Bignoniaceae ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อยเป็นคู่ ระหว่างใบย่อยมีมือจับ ดอกสีม่วงชมพูภายในหลอดดอกสีเหลือง.

บานไม่รู้โรย
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Gomphrena globosa L. ในวงศ์ Amaranthaceaeลําต้นค่อนข้างแข็งแตกแขนงเป็นพุ่มเล็ก ๆ ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันดอกกลม ๆ สีขาว ชมพู หรือม่วงแดง ดอกทนอยู่ได้นาน.

บานเย็น
น. ชื่อไม้พุ่มขนาดเล็กชนิด Mirabilis jalapa L. ในวงศ์ Nyctaginaceaeรากอวบ ใบเดี่ยว โคนดอกเป็นหลอด ปลายบานเป็น ๕ แฉก บานในเวลาเย็น มีหลายสี เช่น ขาว แดงอมม่วง เหลือง รากใช้ทํายาได้. ว. สีแดงอมม่วง.

บ่านี่
ว. อะไรนี่, ทําไมนี่.

บานียะ
ว. ควรดื่ม, น่าดื่ม, ดื่มได้. (ป., ส. ปานีย).

บานีโยทก
น. นํ้าดื่ม.

บ้าบ่น
น. เพลงไทย ๒ ชั้นของเก่า ใช้มโหรีเป็นเครื่องรับ ทําตอนเสี่ยงเช่น ตอนไกรทองเสกกระทงเสี่ยงลอยไปในพิธีจับชาละวัน,กระทงลอย หรือ กระทงน้อย ก็เรียก.

บ้าบ๋า
น. เรียกชายที่เป็นลูกครึ่งจีนกับมลายูที่เกิดในมลายูและอินโดนีเซียว่า บ้าบ๋า, คู่กับ ย่าหยา ซึ่งหมายถึงหญิงลูกครึ่งจีนกับมลายูที่เกิดในมลายูและอินโดนีเซีย.

บ้าบิ่น ๑
ดูใน บ้า ๑.

บ้าบิ่น ๒
น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเหนียวผสมกับมะพร้าวและนํ้าตาลทราย ผิงไฟล่างไฟบน.

บาบี
(แบบ) น. คนมีบาป, คนมีความชั่ว, เช่น ชนะแต่บาบีพรรค์พรั่งพร้อม. (ตะเลงพ่าย). ( ป. ปาปี; ส. ปาปินฺ).

บาป, บาป-
[บาบ, บาบปะ-] น. การกระทําผิดหลักคําสอนหรือข้อห้ามในศาสนา; ความชั่ว, ความมัวหมอง. ว. ชั่ว, มัวหมอง, เช่นคนใจบาป. (ป., ส. ปาป).

บาป, บาป-
[บาบ, บาบปะ-] น. การกระทําผิดหลักคําสอนหรือข้อห้ามในศาสนา; ความชั่ว, ความมัวหมอง. ว. ชั่ว, มัวหมอง, เช่นคนใจบาป. (ป., ส. ปาป).

บาปกรรม
[บาบกํา] น. บาป. (ส. ปาปกรฺม; ป. ปาปกมฺม).

บาปเคราะห์
[บาบปะ-] ว. เคราะห์ร้าย. น. ดาวพระเคราะห์ที่ให้โทษ เช่นพระราหู. (ส. ปาปคฺรห).

บาปมิตร
[บาบปะมิด] น. มิตรชั่ว. (ส. ปาปมิตฺร; ป. ปาปมิตฺต).

บาปหนา
[บาบหฺนา] น. บาปมาก. ว. มีบาปมาก, มีบาปสั่งสมไว้มาก,มีกรรมมาก, เช่น คนบาปหนา.

บาพก
[บา-พก] (แบบ) น. ไฟ, (โบ) ใช้ว่า บ่าพก ก็มี. (ป., ส. ปาวก).

บาย
น. ข้าว. (ข.).

บายศรี
น. เครื่องเชิญขวัญหรือรับขวัญ ทําด้วยใบตอง รูปคล้ายกระทงเป็นชั้น ๆ มีขนาดใหญ่เล็กสอบขึ้นไปตามลําดับ เป็น ๓ ชั้น ๕ชั้น ๗ ชั้น หรือ ๙ ชั้น มีเสาปักตรงกลางเป็นแกน มีเครื่องสังเวยวางอยู่ในบายศรีและมีไข่ขวัญเสียบอยู่บนยอดบายศรี มีหลายอย่างเช่น บายศรีตอง บายศรีปากชาม บายศรีใหญ่. (ข. บาย = ข้าว +ศรี = สิริ หมายความว่า ข้าวอันเป็นสิริหรือข้าวขวัญ).

บายศรีปากชาม
น. บายศรีตองที่จัดวางลงปากชาม.

บ่าย
น. เวลาในระหว่างเที่ยงกับเย็น. ก. คล้อย เช่น ตะวันบ่าย; หัน,ก้าว; เลี่ยงไป เช่น เฒ่าก็ประดิษฐ์ประดับกายเป็นปะขาวดาบสเบือน บ่ายจําแลงเพศ. (ม. ร่ายยาว ชูชก).

บ่ายควาย
น. เวลาไล่ควายกลับบ้าน, เวลาเย็น, เวลาจวนคํ่า.

บ่ายเบี่ยง
ก. เลี่ยงพอให้พ้นไป (มักใช้แก่กริยาพูด), เบี่ยงบ่าย ก็ว่า.

บ่ายหน้า
ก. หันหน้า เช่น บ่ายหน้าไปทางทิศเหนือ, มุ่ง เช่น บ่ายหน้ากลับบ้าน.

บ้าย
ก. ป้าย, ทําให้ติดเฉพาะที่ใดที่หนึ่ง, ทาอย่างหยาบ ๆ ไม่ต้องการประณีตบรรจง เช่น บ้ายปูน บ้ายพลู, ทําให้เปรอะเปื้อนด้วยอาการคล้ายเช่นนั้น เช่น เอามินหม้อบ้ายหน้า; ซัดความผิดให้ผู้อื่น ในความว่า บ้ายความผิดให้ผู้อื่น.

บายสุหรี
[บายสุหฺรี] น. สระนํ้า. (ช.).

บาร์ ๑
(อุตุ) น. หน่วยวัดความกดอากาศ ๑ บาร์มีค่าเท่ากับ ๑๐๖ ดายน์ต่อตารางเซนติเมตร หรือ ๑๐๕ นิวตันต่อตารางเมตร; (ธรณี)หน่วยวัดความดึงดูดของโลก ๑ บาร์มีค่าเท่ากับ ๙๘๐.๖๑๖เซนติเมตรต่อวินาที ต่อ วินาที. (อ. bar).

บาร์ ๒
น. ร้านขายเครื่องดื่มประเภทมีแอลกอฮอล์ มักมีดนตรีและที่ให้ลูกค้า เต้นรําด้วย, สถานบริการเหล้าหรือเครื่องดื่มภายในบ้านเป็นต้น เช่น เปิดฟรีบาร์. (อ. bar).

บารนี
[-ระนี] ว. ดั่งนี้, ยิ่ง, นัก, มาก.

บารมี
[-ระมี] น. คุณความดีที่ควรบําเพ็ญมี ๑๐ อย่าง คือ ทาน ศีลเนกขัมมะ (การออกจากกาม คือ บวช) ปัญญา วิริยะ ขันติสัจจะ อธิฏฐาน เมตตา อุเบกขา เรียกว่า ทศบารมี; คุณความดีที่ได้บําเพ็ญมา, คุณสมบัติที่ทําให้ยิ่งใหญ่, เช่นว่า ชมพระบารมีพระบารมีปกเกล้าฯ พ่ายแพ้แก่บารมี. (ป. ปารมี).

บาร์เรล
น. หน่วยวัดความจุของของเหลว ซึ่งเมื่อใช้กับการวัดปริมาตรนํ้ามันปิโตรเลียม ๑ บาร์เรล = ๓๖ แกลลอนในประเทศอังกฤษส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา ๑ บาร์เรล = ๔๒ แกลลอน.(อ. barrel).

บาร์เลย์
น. ข้าวบาร์เลย์. (ดู ข้าวบาร์เลย์ ที่ ข้าว).

บารอมิเตอร์
น. เครื่องมือที่ใช้วัดความกดดันของบรรยากาศ อาจประกอบด้วยปรอท หรือตลับโลหะสุญญากาศ แล้วแต่ความมุ่งหมายและความสะดวกที่จะนําไปใช้. (อ. barometer).

บ้าระบุ่น
น. นกปรอด. (เทียบอิหร่าน bulbul ว่า นกไนติงเกล). (อภัย).

บ้าร่าท่า
(ปาก) ว. อาการที่บานเต็มที่ เรียกว่า บานบ้าร่าท่า.

บาเรียน
น. ผู้เล่าเรียน, ผู้รู้ธรรม, ผู้คงแก่เรียน, เปรียญ.

บาเรียม
น. ปืนใหญ่โบราณชนิดหนึ่ง.

บาล
(แบบ) ก. เลี้ยง, รักษา, ปกครอง, เช่น บาลเมือง, โดยมากใช้เป็นคําหลังสมาส เช่น โลกบาล รัฐบาล นครบาล โคบาล นิรยบาล.(ป., ส. ปาล).

บาลี
น. ภาษาที่ใช้เป็นหลักในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท; คัมภีร์พระไตรปิฎก, พุทธพจน์, เรียกว่า พระบาลี. (ป., ส. ปาลิ).

บ่าว
น. คนใช้; ชายหนุ่ม; เรียกชายผู้เข้าพิธีสมรสว่า เจ้าบ่าว, คู่กับหญิงผู้เข้าพิธีสมรส ซึ่งเรียกว่า เจ้าสาว.

บ่าวไพร่
น. ข้าทาสบริวาร.

บ่าวขุน ๑
น. ชื่อวิธีนุ่งผ้า นุ่งห้อยชายข้างหนึ่งอย่างพระยายืนชิงช้านุ่ง.(สิบสองเดือน).

บ่าวขุน ๒
น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น บ่าวขุนกางเขนเขจร. (สมุทรโฆษ).

บาศ
น. บ่วง เช่น นาคบาศ เชือกบาศ. (ส. ปาศ; ป. ปาส).

บาศก์
น. ลูกเต๋า, ลูกสกา, ใช้ว่า ลูกบาศก์. (ส. ปาศก; ป. ปาสก).

บาสเกตบอล
น. ชื่อกีฬาชนิดหนึ่ง ผู้เล่นแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายละ ๕ คน ผู้เล่นแต่ละฝ่ายต้องพยายามโยนลูกบอลลงในห่วงตาข่ายของฝ่ายตรงข้าม นับคะแนนตามจํานวนครั้งที่โยนลูกลงห่วงได้.(อ. basketball).

บ้าหมู ๑
ดู ลมบ้าหมู ๑ ที่ ลม ๑.

บ้าหมู ๒
ดู ลมบ้าหมู ๒ ที่ ลม ๑.

บาหลี ๑
[-หฺลี] น. ห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายเรือสําเภา.

บาหลี ๒
[-หฺลี] น. ชื่อเกาะหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย อยู่ทางตะวันออกของเกาะชวา, เรียกประชาชนชาวเกาะนั้นว่า ชาวบาหลี.

บ้าหว่า
[-หฺว่า] น. เครื่องประดับข้อมืออย่างหนึ่ง. (ขุนช้างขุนแผน).

บ๋ำ
ว. บุ๋ม.

บำเทิง
ว. บันเทิง, เบิกบาน, รื่นเริง, ยินดี.น. เงินตอบแทนที่ได้ทํางานมาเป็นเวลานาน ซึ่งจ่ายเป็นรายเดือนจนตลอดชีวิตเมื่อออกจากงาน, โบราณใช้ว่า เบี้ยบํานาญ; (กฎ)เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมา ซึ่งจ่ายเป็นรายเดือน.

บำบวง
ก. บนบาน, เซ่นสรวง, บูชา.

บำบัด
ก. ทําให้เสื่อมคลาย เช่น บําบัดทุกข์, ทําให้ทุเลาลง เช่น บําบัดโรค.

บำโบ, บำโบย, บำโบล
ก. ลูบไล้. (อนันตวิภาค).

บำโบ, บำโบย, บำโบล
ก. ลูบไล้. (อนันตวิภาค).

บำโบ, บำโบย, บำโบล
ก. ลูบไล้. (อนันตวิภาค).

บำเพ็ญ
ก. ทําให้เต็มบริบูรณ์, เพิ่มพูน, (มักใช้ในเรื่องเกี่ยวกับศาสนา) เช่นบําเพ็ญบุญ บําเพ็ญบารมี; ประพฤติ, ปฏิบัติ, เช่น บําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ บําเพ็ญพรต.

บำราบ
[บําหฺราบ] ก. ปราบ, ทําให้ราบ, ทําให้กลัว.

บำราศ
[บําราด] ก. หายไป, จากไป, พรากไป, ปราศจาก.

บำรุง
ก. ทําให้งอกงาม, ทําให้เจริญ, เช่น บํารุงต้นไม้ บํารุงบ้านเมือง;รักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี เช่น บํารุงสุขภาพ บํารุงร่างกาย เงินค่าบํารุง.

บำรุงขวัญ
ก. ทําพิธีเช่นรดนํ้ามนต์ให้ เสกเป่าให้ หรือทําการอย่างใดอย่างหนึ่งเช่นกล่าวปลุกใจเพื่อให้ขวัญดี มีใจกล้าหาญ.

บำรู
ก. ตกแต่ง, บํารุง; ประ เช่น บํารูงา ว่า ประงา.

บำเรอ
ก. ปรนนิบัติให้เป็นที่ชอบใจ, เรียกหญิงที่ปรนนิบัติเช่นนั้นว่านางบําเรอ; บูชา เช่น บําเรอไฟ.

บำเรอเชอภักดิ์
ก. ตั้งใจรับใช้.

บำหยัด
ก. ประหยัด เช่น บําหยัดหยาบพึงเยงยํา. (กฤษณา).

บำเหน็จ
น. รางวัล, ค่าเหนื่อย, ค่าความชอบเป็นพิเศษ, เช่น ปูนบําเหน็จ,เงินตอบแทนที่ได้ทํางานมา ซึ่งจ่ายครั้งเดียวเมื่อออกจากงาน;(กฎ) เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมา ซึ่งจ่ายครั้งเดียวเมื่อออกจากงาน.

บิ
ก. ทําให้แตกออกหรือหลุดออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยนิ้ว เช่น บิขนมปัง,แตกออกหรือหลุดออกด้วยอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น.

บิกู, บีกู
น. ภิกขุ เช่น พราหมณ์ชีบีกูน้อยใหญ่. (อิเหนา). (ช.).

บิกู, บีกู
น. ภิกขุ เช่น พราหมณ์ชีบีกูน้อยใหญ่. (อิเหนา). (ช.).

บิกูปะระมาหนา, บิกูปะระหมั่นหนา
น. ภิกษุกับพราหมณ์. (ช.).

บิกูปะระมาหนา, บิกูปะระหมั่นหนา
น. ภิกษุกับพราหมณ์. (ช.).

บิฐ
[บิด] น. ตั่ง, ที่นั่งชนิดหนึ่ง รูปสี่เหลี่ยม มีเท้า มีพนักอิงบ้างไม่มีบ้าง.(ป. ปี?). (รูปภาพ บิฐ)

บิณฑ-
[บินทะ-] (แบบ) น. ก้อนข้าว. (ป., ส. ปิณฺฑ).

บิณฑบาต
น. อาหาร (ใช้แก่พระภิกษุสามเณร) เช่น รับบิณฑบาต. ก. กิริยาที่พระภิกษุสามเณรรับของที่เขานํามาใส่บาตร, โดยปริยายหมายถึงกิริยาที่พระภิกษุสามเณรขอหรือขอร้อง เช่น เรื่องนี้ขอบิณฑบาตให้เลิกแล้วต่อกัน. (ป. ปิณฺฑปาต ว่า ก้อนข้าวที่ตก).

บิด ๑
ก. หมุนให้เป็นเกลียวอย่างบิดผ้า, หมุนไปทางใดทางหนึ่ง เช่นบิดลูกบิด; เผล้ไปจากสภาพปรกติ เช่น ล้อรถบิด, ทําให้ผิดไปจาก สภาพความจริง เช่น บิดข้อความ; หลีกเลี่ยงเพราะความเกียจคร้านเป็นต้น เช่น บิดงาน บิดการ, เอานิ้วมือบีบเนื้ออย่างแรงทํานองแหนบแล้วหมุน เช่น บิดเนื้อ บิดหู; กิริยาที่ปลากัดปลาเข็มเอาปากต่อปากกัดกันจนติดแล้วกลับตัวไปมา. น. ลักษณนามเรียกอาการที่ปลากัดปลาเข็มเอาปากต่อปากกัดกันแล้วกลับตัวไปมาเช่นนั้นแต่ละยกว่า บิดหนึ่ง ๒ บิด.

บิดขวา
ว. เรียกอาการที่ห่มจีวรโดยม้วนชายด้านข้างทั้ง ๒ ให้เป็นลูกบวบหันเข้าทางขวาว่า ห่มบิดขวา.

บิดขี้เกียจ
ก. บิดร่างกายไปมาเพราะความเกียจคร้านหรือเพื่อแก้เมื่อยเป็นต้น.

บิดจะกูด, บิดตะกูด
ว. อาการที่บิดไปบิดมาไม่ยอมทําอะไรหรือไม่ยอมทําตามสั่ง.

บิดจะกูด, บิดตะกูด
ว. อาการที่บิดไปบิดมาไม่ยอมทําอะไรหรือไม่ยอมทําตามสั่ง.

บิดซ้าย
ว. เรียกอาการที่ห่มจีวรโดยม้วนชายด้านข้างทั้ง ๒ ให้เป็นลูกบวบหันออกทางซ้ายว่า ห่มบิดซ้าย.

บิดเบี้ยว
ว. บิดจนผิดรูปผิดร่างไปมาก เช่น หน้าตาบิดเบี้ยว รูปร่างบิดเบี้ยว.

บิดเบือน
ก. ทําให้ผิดแผกไปจากข้อเท็จจริง, ทําให้ผิดแผกแปลกไปจากเดิมหรือจากข้อเท็จจริง.

บิดพลิ้ว
ก. หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือปฏิบัติไม่ตรงตามข้อตกลง.

บิดไส้
ก. ใช้เวทมนตร์ทําให้เกิดอาการเจ็บปวดในท้องคล้ายลําไส้ถูกบิด.

บิด ๒
น. โรคลําไส้ใหญ่อักเสบ มีอาการปวดมวนและอุจจาระเป็นมูกเลือด.

บิดหัวลูก
น. โรคบิดที่เป็นแก่หญิงมีครรภ์แก่จวนจะคลอด.

บิดร
[-ดอน] (แบบ) น. พ่อ. (ป. ปิตุ; ส. ปิตฺฤ).

บิดหล่า
[บิดหฺล่า] น. เครื่องมือสําหรับเจาะไม้ชนิดหนึ่ง ใช้มือดึงเชือกบิดเป็นเกลียว ปลายมีคม คล้ายสว่าน.(รูปภาพ บิดหล่า)

บิดา
น. พ่อ (ใช้ในที่สุภาพ), โดยปริยายหมายความว่า ผู้ให้กําเนิดเช่น บิดาแห่งประวัติศาสตร์, บิดร ก็ว่า. (ป. ปิตา; ส. ปิตฺฤ).

บิตุ
(แบบ) น. พ่อ, ใช้เป็นคําหน้าสมาส เช่น บิตุฆาต บิตุราช. (ป. ปิตุ).

บิตุจฉา
[-ตุดฉา] (แบบ) น. อา (ผู้หญิง), ป้า (ญาติฝ่ายพ่อ). (ป. ปิตุจฺฉา).

บิตุรงค์
(กลอน) น. พ่อ. (ป. ปิตุ + องฺค).

บิตุเรศ
(กลอน) น. พ่อ.

บิตุละ, บิตุลา
(แบบ) น. ลุง, อา, (พี่น้องผู้ชายข้างพ่อ). (ป. ปิตุล).

บิตุละ, บิตุลา
(แบบ) น. ลุง, อา, (พี่น้องผู้ชายข้างพ่อ). (ป. ปิตุล).

บิตุลานี
(แบบ) น. อา (ผู้หญิง), ป้า (ญาติฝ่ายพ่อ). (ป. ปิตุลานี).

บิน ๑
ก. ไปในอากาศด้วยกําลังปีกหรือเครื่องยนต์เป็นต้น เช่น นกบินเครื่องบินบิน, โดยปริยายหมายถึงการไปโดยลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ขวัญบิน จานบิน; เรียกหน่อไม้ที่ขึ้นสูงจนเป็นลําแต่ยอดยังมีกาบหุ้มอยู่แก่เกินกิน ว่า หน่อไม้บิน.

บิน ๒
ดู นกกระจอก ๒.

บิ่น
ก. แตกลิไปเล็กน้อย (ที่คม ที่แง่ หรือที่ยอด) เช่น มีดบิ่นชามปากบิ่น. ว. บ้าอย่างหุนหันพลันแล่น, บ้าบิ่น ก็ว่า.

บินยา
ดู ลําไย (๒).

บิลเลียด
น. ชื่อกีฬาในร่มอย่างหนึ่ง เล่นบนโต๊ะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าปูสักหลาดมีหลุมกรุตาข่าย ๖ หลุมที่มุมทั้ง ๔ และตรงกลางด้านยาว ผู้เล่นใช้ไม้ยาวซึ่งเรียกว่า คิว แทงลูกกลมให้ได้แต้มตามกติกา. (อ. billiards).

บิวเรตต์
น. หลอดแก้วยาว ปลายล่างมีลูกบิดให้ปิดเปิดได้ ข้างหลอดมีขีดบอกปริมาตรสําหรับวัดของเหลวที่ไขออก ใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางเคมี. (อ. burette).

บิศาจ
น. ปิศาจ, ปีศาจ, ผี. (ส. ปิศาจ; ป. ปิสาจ).

บิสมัท
น. ธาตุลําดับที่ ๘๓ สัญลักษณ์ Bi เป็นโลหะ ลักษณะเป็นของแข็งสีขาวอมแดง เปราะ หลอมละลายที่ ๒๗๑.๓?ซ. เป็นตัวนําความร้อนและไฟฟ้าที่เลว มีสมบัติพิเศษ คือ ขยายตัวเมื่อแข็งตัว ใช้ประโยชน์นําไปผสมกับโลหะอื่นให้เป็นโลหะเจือ ซึ่งหลอมละลายที่อุณหภูมิตํ่า. (อ. bismuth).

บี้ ๑
ก. กดหรือบีบให้แบนหรือผิดจากรูปเดิม. ว. แฟบผิดปรกติ เช่นจมูกบี้.

บี้แบน
ว. แบนจนผิดรูปผิดร่างเพราะถูกกดหรือทับ.

บี้ ๒
น. ตัวไหมที่ออกจากฝักมีปีกแล้ว. (ลัทธิ).

บีฑา
[-ทา] (แบบ) ก. เบียดเบียน, บีบคั้น, รบกวน, เจ็บปวด. (ส. ปีฑา).

บีตา
(ฟิสิกส์) น. ชื่ออนุภาคที่พุ่งออกมาจากนิวเคลียสของอะตอมกัมมันตรังสี มี ๒ ชนิด คือ อิเล็กตรอน และ โพซิตรอน.(อ. beta particle), มักเรียกกระแสอนุภาคบีตาว่า รังสีบีตาซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ ๒๙๐,๐๐๐ กิโลเมตรต่อวินาที มีอํานาจในการเจาะทะลุมากกว่ารังสีแอลฟา แต่น้อยกว่ารังสีแกมมา. (อ. beta rays).

บีบ
ก. ใช้มือเป็นต้นกดด้านทั้ง ๒ ของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าหากัน เช่นบีบมะนาว, โดยปริยายหมายถึงกดดัน เช่น ถูกบีบ.

บีบขนมจีน
ก. บีบแป้งขนมจีนที่อยู่ในห่อผ้าที่เย็บติดกับหน้าแว่น แล้วโรยให้เป็นเส้นลงในนํ้าเดือด, โรยขนมจีน ก็ว่า.

บีบขมับ
ก. เอาไม้คาบเข้าที่ขมับทั้ง ๒ ข้าง แล้วผูกรวบรัดหัวท้ายไม้คาบนั้นเข้าด้วยกัน เป็นวิธีลงโทษในสมัยโบราณแบบหนึ่ง.

บีบคั้น
ก. บีบบังคับให้ได้รับความลำบาก.

บีบน้ำตา
ก. แกล้งร้องไห้, ร้องไห้.

บีบบังคับ
ก. กดขี่.

บีบรัด
ก. ทําให้รู้สึกอึดอัดใจเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งคล้ายถูกบีบถูกรัด.

บีเยศ
(กลอน) ว. ที่รัก เช่น แถลงปางนฤนารถไท้สวรรคต ยงงมิ่งเมืองบนบี เยศเย้า. (ยวนพ่าย).

บึก
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Pangasianodon gigas ในวงศ์ Schilbeidaeไม่มีเกล็ด ตัวยาว แบนข้างเล็กน้อย ท้องกลม มีหนวดสั้นมากข้างละ ๑ เส้นที่มุมปาก ไม่มีฟัน ครีบหลังตอนที่ ๒ เป็นแผ่นเนื้อขนาดเล็ก ลําตัวด้านหลังสีเทาอมนํ้าตาลแดง ด้านท้องสีขาว มีในลําแม่นํ้าโขง ขนาดยาวได้ถึง ๓ เมตร เป็นปลานํ้าจืดไม่มีเกล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก.

บึกบึน
ก. ทรหดอดทน, ไม่ท้อถอย.

บึง
น. แหล่งนํ้าขนาดใหญ่ มีนํ้าขังตลอดปี.

บึงบาง
น. บึงที่ใช้เป็นทางนํ้า.

บึ่ง ๑
น. ชื่อแมลงขนาดเล็กหลายสกุลในหลายวงศ์ ขนาดเท่าแมลงหวี่หรือโตกว่าเล็กน้อย มีปีกคู่เดียว ปากแบบดูดกิน เจาะดูดเลือดคนและสัตว์กินเป็นอาหาร มีอยู่ชุกชุมตามบริเวณชายนํ้า ชายทะเลและในป่าทึบ ที่สําคัญได้แก่ สกุล Phlebotomus วงศ์ Psychodidae,สกุล Simulium วงศ์ Simuliidae, สกุล Lepto conops และCulicoides วงศ์ Ceratopogonidae เป็นต้น, ปึ่ง หรือ คุ่น ก็เรียก.

บึ่ง ๒
ก. วิ่งหรือขับไปโดยเร็ว เช่น บึ่งไป บึ่งรถ บึ่งเรือ.

บึ้ง ๑
น. ชื่อแมงมุมขนาดใหญ่ที่มีลําตัวยาวกว่า ๓ เซนติเมตรขึ้นไปส่วนใหญ่เป็นประเภทไม่ถักใยดักสัตว์ ตัวสีนํ้าตาลหรือนํ้าตาลแก่มีขนรุงรังสีเดียวกัน ขุดรูอยู่ คอยจับสัตว์เล็ก ๆ กิน บึ้งชนิดที่คนนํามากิน เช่น ชนิด Melopoeus albostriatus, Nephila maculata,กํ่าบึ้ง หรือ อีบึ้ง ก็เรียก.

บึ้ง ๒
ว. อาการที่หน้าตาไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส.

บึ้งตึง
ว. อาการที่หน้าบึ้งเพราะโกรธหรือไม่พอใจเป็นต้น.

บึ้งบูด
ว. อาการที่หน้าเง้าแสดงอาการไม่พอใจ.

บื๋อ
ว. เสียงดังอย่างเสียงเร่งเครื่องยนต์ โดยปริยายหมายความว่าเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว เช่น เรือบื๋อ.

บุ
ก. ตีให้เข้ารูป เช่น บุขัน, เอาของบาง ๆ หุ้มข้างนอก เช่น บุหนังบุพลาสติก หรือรองข้างใน เช่น บุหลังคา.

บุก ๑
น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดในสกุล Amorphophallus วงศ์ Araceaeในต้นฤดูฝนจะออกดอกก่อน เวลาบานส่งกลิ่นเหม็นมาก เมื่อดอกโรยแล้วมีใบงอกออกมาเพียงใบเดียว ก้านดอกและใบกลมยาว หน้าแล้งต้นตายเหลือหัวอยู่ใต้ดิน เช่น บุกคางคก(A. rex Prain ex Hook.f.) หัวกินได้, บุกรอ (A. saraburiensis Gagnep.)ใช้ทํายาได้.

บุก ๒
ก. ลุย, ฝ่าไป, เช่น บุกโคลน บุกป่า.

บุกบัน, บุกบั่น
ก. ฝ่าไปโดยไม่ท้อถอย เช่น เข้าโรมรุกบุกบันฟันแทง. (อิเหนา).

บุกบัน, บุกบั่น
ก. ฝ่าไปโดยไม่ท้อถอย เช่น เข้าโรมรุกบุกบันฟันแทง. (อิเหนา).

บุกเบิก
ก. ถางป่าเข้าไปให้เป็นไร่นา, โดยปริยายหมายความว่า ริเริ่มทําเป็นคนแรกหรือพวกแรก.

บุกป่าฝ่าดง
(สํา) ก. พยายามต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ.

บุกรุก
ก. ล่วงลํ้าเข้าไปในเขตที่หวงห้าม เช่น บุกรุกเข้าไปในเขตพระราชฐาน,ล่วงลํ้าเข้าไปในบริเวณที่หวงห้ามเพื่อยึดครองเป็นต้น เช่น บุกรุกป่าสงวน, ล่วงลํ้าเข้าไปในสถานที่ของผู้อื่นโดยบังอาจ หรือพลการ เช่นบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้อื่น. (กฎ) น. ชื่อความผิดอาญา เรียกว่า ความผิดฐานบุกรุก ได้แก่ การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทําการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปรกติสุข; การถือเอาอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนหรือของบุคคลที่สาม โดยยักย้ายหรือทําลายเครื่องหมายเขตแห่งอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน; การเข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถานอาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสํานักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก.

บุคคล, บุคคล-
[บุกคน, บุกคะละ-, บุกคนละ-] น. คน (เฉพาะตัว); (กฎ) คนซึ่งสามารถมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย เรียกว่า บุคคลธรรมดา; กลุ่มบุคคลหรือองค์กรซึ่งกฎหมายบัญญัติให้เป็นบุคคลอีกประเภทหนึ่ง ที่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา และให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย เรียกว่า นิติบุคคล.(ป. ปุคฺคล; ส. ปุทฺคล).

บุคคล, บุคคล-
[บุกคน, บุกคะละ-, บุกคนละ-] น. คน (เฉพาะตัว); (กฎ) คนซึ่งสามารถมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย เรียกว่า บุคคลธรรมดา; กลุ่มบุคคลหรือองค์กรซึ่งกฎหมายบัญญัติให้เป็นบุคคลอีกประเภทหนึ่ง ที่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา และให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย เรียกว่า นิติบุคคล.(ป. ปุคฺคล; ส. ปุทฺคล).

บุคคลที่สาม
(กฎ) ดู บุคคลภายนอก.

บุคคลธรรมดา
[บุกคน-] น. คน, มนุษย์ปุถุชน.

บุคคลนิติสมมติ
[บุกคนนิติสมมด] (กฎ; เลิก) น. นิติบุคคล.

บุคคลผู้ไร้ความสามารถ
[บุกคน-] (กฎ) น. บุคคลใด ๆ ซึ่งไม่มีความสามารถตามกฎหมายหรือความสามารถถูกจํากัดโดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยความสามารถ.

บุคคลภายนอก
(กฎ) น. บุคคลที่มิได้เป็นคู่กรณีหรือคู่สัญญา แต่อาจมีสิทธิเกี่ยวข้อง,บุคคลที่สาม ก็เรียก.

บุคคลสิทธิ
[บุกคะละสิด, บุกคนละสิด] (กฎ) น. สิทธิเหนือบุคคล เช่นสิทธิของเจ้าหนี้เหนือลูกหนี้.

บุคลากร
[บุกคะลากอน] น. ตําแหน่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล เช่นในการบรรจุแต่งตั้ง เลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือนเป็นต้น; ผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน.

บุคลาธิษฐาน
[บุกคะลาทิดถาน, บุกคะลาทิดสะถาน] ว. มีบุคคลเป็นที่ตั้ง, ที่ยกคนหรือสิ่งที่เป็นรูปธรรมอื่น ๆ ขึ้นมาเป็นหลักในการอธิบาย เช่นเปรียบกิเลสเหมือนพญามาร, คู่กับ ธรรมาธิษฐาน.

บุคลิก, บุคลิก-
[บุกคะลิก, บุกคะลิกกะ-] ว. จําเพาะคน. (ป. ปุคฺคลิก).

บุคลิก, บุคลิก-
[บุกคะลิก, บุกคะลิกกะ-] ว. จําเพาะคน. (ป. ปุคฺคลิก).

บุคลิกทาน
[บุกคะลิกกะทาน] น. ทานที่ทายกให้จําเพาะตัวคน, คู่กับ สังฆทานคือ ทานที่ให้แก่สงฆ์. (ตัดมาจาก ป. ปาฏิปุคฺคลิกทาน).

บุคลิกภาพ
[บุกคะลิกกะพาบ] น. สภาพนิสัยจําเพาะคน.

บุคลิกลักษณะ
[บุกคะลิกกะลักสะหฺนะ, บุกคะลิกลักสะหฺนะ] น. ลักษณะจําเพาะตัวของแต่ละคน, บุคลิก ก็ว่า.

บุง
(โบ) น. กระบุง.

บุ่ง
น. บึง.

บุ้ง ๑
น. ชื่อหนอนผีเสื้อหลายชนิดและหลายวงศ์ เช่น วงศ์ Arctiidae,Lymantriidae, Lasiocampidae มีขนปกคลุมเต็มลําตัว เมื่อถูกเข้าจะปล่อยนํ้าพิษทําให้เกิดอาการแสบร้อนและคัน เมื่อเจริญวัยจะเปลี่ยนเป็นดักแด้และฟักออกมาเป็นผีเสื้อกลางคืน, ร่าน ก็เรียก.

บุ้ง ๒
น. ชื่อไม้เถาชนิด Ipomoea aquatica Forssk. ในวงศ์ Convolvulaceaeทอดเลื้อยตามพื้นดินหรือบนผิวนํ้า ดอกสีขาวหรือม่วงอ่อน ลําต้นกลวงยอดกินได้ เรียก ผักบุ้ง, พันธุ์ดอกขาวเรียก ผักบุ้งจีน, ราชาศัพท์ เรียกผักทอดยอด.

บุ้งขัน
น. ชื่อไม้เถา ๒ ชนิดในสกุล Ipomoea วงศ์ Convolvulaceaeทอดเลื้อยตามหาดทรายชายทะเล, ชนิด I. asarifolia Roem. etSchult. ดอกสีม่วง ใบมีขน ต้นและใบใช้แก้พิษแมงกะพรุน, ชนิดI. tuba G. Don ดอกสีขาว ใบเกลี้ยง ทั้ง ๒ ชนิด เรียก ผักบุ้งขัน.

บุ้งจีน
น. ชื่อผักบุ้งพันธุ์หนึ่ง ดอกสีขาว.

บุ้งทะเล
น. ชื่อไม้เถาชนิด Ipomoea pescaprae (L.) R. Br. ในวงศ์Convolvulaceae ทอดเลื้อยตามหาดทรายชายทะเล ดอกสีม่วงแดงใบไม่มีขน ต้นและใบใช้แก้พิษแมงกะพรุน เรียก ผักบุ้งทะเล.

บุ้งฝรั่ง
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Ipomoea crassicaulis (Benth.) B.L.Robinson ในวงศ์ Convolvulaceae ดอกสีชมพูอ่อน ใบมีขนอ่อน เรียก ผักบุ้งฝรั่ง, ผักบุ้งรั้ว ก็เรียก.

บุ้ง ๓
น. เครื่องมือสําหรับถูไม้ ทําด้วยเหล็ก มีฟันเป็นปุ่มแหลมคม.

บุ้งกี๋
น. เครื่องสานรูปคล้ายเปลือกหอยแครง สำหรับใช้โกยดินเป็นต้น,ปุ้งกี๋ ก็ว่า.

บุ้งร้วม
น. (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Convolvulus arvensis L. ในวงศ์Convolvulaceae ทอดเลื้อยตามพื้นดิน ต้นมีขน ดอกเล็ก สีขาวรากใช้ทํายาได้ เรียก ผักบุ้งร้วม. (๒) ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Enydra fluctuans Lour. ในวงศ์ Compositae ขึ้นในนํ้าและที่ชื้นแฉะดอกเล็กสีขาว ๆ ใบมีรสขม ใช้ทํายาได้ เรียก ผักบุ้งร้วม.

บุญ, บุญ-
[บุน, บุนยะ-] น. การกระทําดีตามหลักคําสอนในศาสนา; ความดี,คุณงามความดี. ว. ดี เช่น คนใจบุญ, มีคุณงามความดี เช่น คนมีบุญ.(ป. ปุญฺ?; ส. ปุณฺย).

บุญ, บุญ-
[บุน, บุนยะ-] น. การกระทําดีตามหลักคําสอนในศาสนา; ความดี,คุณงามความดี. ว. ดี เช่น คนใจบุญ, มีคุณงามความดี เช่น คนมีบุญ.(ป. ปุญฺ?; ส. ปุณฺย).

บุญเขต
[บุนยะ-] น. เนื้อนาบุญ. (ป. ปุญ?กฺเขตฺต).

บุญทาย
ว. ควรเป็นเนื้อคู่กัน เช่น ไปสู่ขอลูกสาวหลานสาวท่าน บุญทายต้องกัน.

บุญทำกรรมแต่ง
(สํา) บุญหรือบาปที่ทําไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุทําให้รูปร่างหน้าตาหรือชีวิตของคนเราในชาตินี้สวยงาม ดี ชั่ว เป็นต้น.

บุญธรรม
น. เรียกลูกของคนอื่นซึ่งเอามาเลี้ยงเป็นลูกของตัวว่า ลูกบุญธรรม,ถ้าจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เรียกว่า บุตรบุญธรรม.

บุญนิธิ
[บุนยะ-] น. ขุมทรัพย์คือบุญ. (ป.).

บุญมาวาสนาส่ง
(สํา) เมื่อมีบุญ อํานาจวาสนาก็มาเอง, บุญมาวาสนาช่วย ก็ว่า.

บุญราศี
[บุนยะ-, บุน-] น. กองบุญ.

บุญฤทธิ์
[บุนยะ-] น. ความสําเร็จด้วยบุญ.

บุญหนักศักดิ์ใหญ่
ว. มีฐานันดรศักดิ์สูงและอํานาจวาสนายิ่งใหญ่ เช่น น้อยหรือนางบุญหนักศักดิ์ใหญ่. (สังข์ทอง).

บุญญาธิการ
น. บุญที่ได้กระทำไว้มากยิ่ง.

บุญญาธิสมภาร
น. บุญที่ได้สั่งสมไว้มากยิ่ง.

บุญญานุภาพ
น. อํานาจแห่งบุญ. (ป. ปุญฺ?านุภาว).

บุญญาภินิหาร
น. ความปรารถนาอันแรงกล้าในความดี, บุญที่ให้สําเร็จได้ตามความปรารถนา. (ป. ปุญฺ?าภินิหาร).

บุญญาภิสังขาร
น. สภาพที่บุญตกแต่ง. (ป. ปุญฺ?าภิสงฺขาร).

บุณฑริก
[บุนดะริก, บุนทะริก] น. บัวขาว; ชื่อสังขยา คือ ๑ มี ๐ ตามหลัง๑๑๒ ตัว; ชื่อช้างตระกูล ๑ ในตระกูลช้างทั้ง ๑๐. (ป., ส. ปุณฺฑรีก).

บุณมี
[บุนนะมี] น. วันเพ็ญ. (ป. ปุณฺณมี; ส. ปูรฺณมี).

บุณย์
น. บุญ. (ส. ปุณฺย; ป. ปุญฺ?).

บุตร, บุตร-
[บุด, บุดตฺระ-] น. ลูก, ลูกชาย. (ส. ปุตฺร; ป. ปุตฺต).

บุตร, บุตร-
[บุด, บุดตฺระ-] น. ลูก, ลูกชาย. (ส. ปุตฺร; ป. ปุตฺต).

บุตรธรรม
[บุดตฺระทํา] น. หน้าที่ของลูก.

บุตรบุญธรรม
[บุดบุนทํา] (กฎ) น. บุตรของผู้อื่นที่บุคคลได้จดทะเบียนรับเป็นบุตรของตน.

บุตรา
[บุดตฺรา] (กลอน) น. บุตร.

บุตรี
[บุดตฺรี] น. ลูกผู้หญิง. (ส. ปุตฺรี).

บุตรา
ดู บุตร, บุตร-.

บุตรี
ดู บุตร, บุตร-.

บุตรีตระสุม
[บุดตฺรีตฺระสุม] น. ต้นนางแย้ม. (ช.).

บุถุชน
น. ปุถุชน, คนที่ยังมีกิเลสหนา, สามัญชน, ผู้ที่มิได้เป็นพระอริยบุคคล. (ป. ปุถุชฺชน; ส. ปฺฤถคฺชน).

บุทคล
[บุดคน] น. บุคคล, คน. (ส. ปุทฺคล; ป. ปุคฺคล).

บุนนะบุนนัง
ก. ซ่อม, เพิ่มเติม.

บุนนาค
น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Mesua ferrea L. ในวงศ์ Guttiferaeใบยาวรี ปลายใบเรียวแหลม ดอกสีขาวคล้ายสารภีแต่ใหญ่กว่ากลิ่นหอม ใช้ทํายาได้ แก่นสีแดงเข้ม ใช้ทําเครื่องเรือน.

บุบ
ก. ทุบ ตํา หรือเคี้ยวเบา ๆ พอให้เป็นรอยหรือแตก; บู้ลง, บุ๋มลง,เช่น ขันบุบ แก้มบุบ.

บุบบิบ
ว. อาการที่ของบางอย่างเช่นไข่จะละเม็ดหรือของที่ทําด้วยอะลูมิเนียมบุบเข้าไปหลายแห่ง.

บุบสลาย
ว. ชํารุดแตกหัก.

บุปผ-
[บุบผะ-] น. ดอกไม้. (ป. ปุปฺผ; ส. ปุษฺป).

บุปผชาติ
น. ดอกไม้, พวกดอกไม้. (ป.).

บุปผวิกัติ
น. ดอกไม้ที่ทําให้แปลก, ดอกไม้ที่ทําให้วิจิตรต่าง ๆ. (ป.).

บุพ-, บุพพ-
[บุบพะ-] ว. ก่อน, ทีแรก; เบื้องต้น, เบื้องหน้า. (ป. ปุพฺพ; ส. ปูรฺว).บุพกรรม น. กรรมที่ทําไว้แต่ปางก่อน. (ป. ปุพฺพ + ส. กรฺมนฺ;ป. ปุพฺพกมฺม).

บุพ-, บุพพ-
[บุบพะ-] ว. ก่อน, ทีแรก; เบื้องต้น, เบื้องหน้า. (ป. ปุพฺพ; ส. ปูรฺว).บุพกรรม น. กรรมที่ทําไว้แต่ปางก่อน. (ป. ปุพฺพ + ส. กรฺมนฺ;ป. ปุพฺพกมฺม).

บุพการี
น. ผู้ที่ทําอุปการะมาก่อน เช่น บิดามารดาเป็นบุพการีของบุตรธิดา.(ป. ปุพฺพการี); (กฎ) ญาติทางสาโลหิตโดยตรงขึ้นไป ได้แก่ บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ทวด.

บุพกิจ
น. กิจที่จะต้องทําก่อน. (ป. ปุพฺพกิจฺจ).

บุพชาติ
น. ชาติก่อน. (ป. ปุพฺพชาติ).

บุพทักษิณ
น. ทิศตะวันออกเฉียงใต้.

บุพนิมิต
น. ลางที่บอกเหตุขึ้นก่อน. (ป. ปุพฺพนิมิตฺต).

บุพบท
น. คําชนิดหนึ่งในไวยากรณ์ ทําหน้าที่เชื่อมคําต่อคํา อยู่หน้านามสรรพนาม หรือกริยา มีคําว่า ด้วย โดย ใน เป็นต้น เช่น เขียนด้วยดินสอ หนังสือของฉัน กินเพื่ออยู่.

บุพเปตพลี
[-เปตะพะลี] น. บุญที่อุทิศให้แก่ญาติผู้ตายไปก่อน.

บุพพัณชาติ
[-พันนะชาด] น. พืชที่จะพึงกินก่อน ได้แก่ข้าวทุกชนิด.(ป. ปุพฺพณฺณชาติ; ส. ปูรฺว + อนฺน + ชาติ).

บุพพัณหสมัย
[-พันหะสะไหฺม] น. เวลาเบื้องต้นแห่งวัน, เวลาเช้า. (ป. ปุพฺพณฺหสมย;ส. ปูรฺวาหณ + สมย).

บุพพาจารย์
น. อาจารย์ในเบื้องต้น คือ บิดามารดา. (ป. ปุพฺพาจริย; ส. ปูรฺวาจารฺย).

บุพพาษาฒ
[-พาสาด] น. เดือน ๘ แรก, (โบ) เขียนเป็น บุพพาสาฒ ก็มี.(ป. ปุพฺพาสาฬฺห; ส. ปูรฺวาษาฒ).

บุพพาสาฬหะ, บุรพอาษาฒ, ปุรพษาฒ
[-พาสานหะ, -พาสานละหะ, บุระพะอาสาด, บุบพะอาสาด,ปุระพะสาด] น. ดาวฤกษ์ที่ ๒๐ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปปากนกหรือช้างพลาย, ดาวสัปคับช้าง หรือ ดาวราชสีห์ตัวผู้ ก็เรียก.

บุพพาสาฬหะ, บุรพอาษาฒ, ปุรพษาฒ
[-พาสานหะ, -พาสานละหะ, บุระพะอาสาด, บุบพะอาสาด,ปุระพะสาด] น. ดาวฤกษ์ที่ ๒๐ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปปากนกหรือช้างพลาย, ดาวสัปคับช้าง หรือ ดาวราชสีห์ตัวผู้ ก็เรียก.

บุพเพนิวาสานุสติญาณ
[บุบเพ-] น. ความรู้เป็นเครื่องระลึกได้ถึงขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อน,การระลึกชาติได้. (ป. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ?าณ).

บุพเพสันนิวาส
[บุบเพ-] น. การเคยเป็นเนื้อคู่กัน, การเคยอยู่ร่วมกันในชาติก่อน.(ป. ปุพฺเพสนฺนิวาส).

บุพภาค
น. ส่วนเบื้องต้น. (ป. ปุพฺพภาค).

บุพวิเทหทวีป
น. ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป ๑ ใน๔ ทวีป ได้แก่ อุตรกุรุทวีปหรืออุตรกุรูทวีป บุพวิเทห ทวีป ชมพูทวีปและอมรโคยานทวีป.

บุพพัณชาติ
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพพัณหสมัย
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพพาจารย์
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพพาษาฒ
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพพาสาฬหะ, บุรพอาษาฒ, ปุรพษาฒ
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพพาสาฬหะ, บุรพอาษาฒ, ปุรพษาฒ
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพเพนิวาสานุสติญาณ
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพเพสันนิวาส
ดู บุพ-, บุพพ-.

บุพโพ
[บุบโพ] น. นํ้าหนอง, นํ้าเหลือง. (ป. ปุพฺพ).

บุ๋ม
ว. ที่ยุบเป็นรอยลึกลงไป เช่น แก้มบุ๋ม.

บุ่มบ่าม
ว. ที่ขาดความยับยั้งไม่เกรงใจใคร.

บุ้ย, บุ้ยปาก
ก. ทําปากยื่นบอกใบ้ให้รู้.

บุ้ย, บุ้ยปาก
ก. ทําปากยื่นบอกใบ้ให้รู้.

บุ้ยใบ้
ก. ทําปากยื่นประกอบกิริยาบอกใบ้ให้รู้.

บุรณะ
[บุระ-] ก. บูรณะ, ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม เช่น บุรณะวัด.(ส. ปูรณ).

บุรพ-
[บุระพะ-, บุบพะ-] ว. บุพ. (ส. ปูรฺว; ป. ปุพฺพ).

บุรพทิศ
[บุระพะทิด, บุบพะทิด] น. ทิศตะวันออก.

บุรพบท
[บุระพะบด, บุบพะบด] น. บุพบท, คําชนิดหนึ่งในไวยากรณ์ทําหน้าที่เชื่อมคําต่อคํา อยู่หน้านาม สรรพนาม หรือกริยา มีคําว่าด้วย โดย ใน เป็นต้น เช่น เขียนด้วยดินสอ หนังสือของฉัน กินเพื่ออยู่.

บุรพผลคุนี, ปุรพผลคุนี, ปุพพผลคุนี
[บุระพะ-, บุบพะ-, ปุระพะ-, ปุบ พะ-] น. ดาวฤกษ์ที่ ๑๑ มี ๒ ดวงเห็นเป็นรูปแรดตัวผู้หรือเพดานตอนหน้า, ดาววัวตัวผู้ หรือ ดาวงูเมียก็เรียก.

บุรพภัทรบท, ปุพพะภัททะ
[บุระพะพัดทฺระบด, บุบพะพัดทฺระบด, ปุบพะพัดทะ] น. ดาวฤกษ์ที่๒๕ มี ๒ ดวง เห็นเป็นรูปราชสีห์ตัวผู้หรือเพดานตอนหน้า, ดาวโปฐบทดาวแรดตัวผู้ หรือ ดาวหัวเนื้อทราย ก็เรียก.

บุรพอาษาฒ, บุพพาสาฬหะ, ปุรพษาฒ
[บุระพะอาสาด, บุบพะอาสาด, บุบพาสานหะ, บุบพาสานละหะ,ปุระพะสาด] น. ดาวฤกษ์ ที่ ๒๐ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปปากนกหรือช้างพลาย, ดาวสัปคับช้าง หรือ ดาวราชสีห์ตัวผู้ ก็เรียก.

บุรพอาษาฒ, บุพพาสาฬหะ, ปุรพษาฒ
[บุระพะอาสาด, บุบพะอาสาด, บุบพาสานหะ, บุบพาสานละหะ,ปุระพะสาด] น. ดาวฤกษ์ ที่ ๒๐ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปปากนกหรือช้างพลาย, ดาวสัปคับช้าง หรือ ดาวราชสีห์ตัวผู้ ก็เรียก.

บุรพาจารย์, บูรพาจารย์
[บุระ-, บูระ-] น. อาจารย์ในเบื้องต้น คือ บิดามารดา.

บุรพาจารย์, บูรพาจารย์
[บุระ-, บูระ-] น. อาจารย์ในเบื้องต้น คือ บิดามารดา.

บุรพาจารย์, บูรพาจารย์
ดู บุรพ-.

บุรพาจารย์, บูรพาจารย์
ดู บุรพ-.

บุระ
น. ป้อม, หอ, วัง, เมือง. (ป. ปุร).

บุรัตถิมทิศ
[-ถิมะทิด] น. ทิศตั้งอยู่เบื้องหน้า, ทิศตะวันออก. (ป. ปุรตฺถิมทิส).

บุราณ
ว. เก่า, ก่อน, เช่น คําบุราณท่านว่าไว้เป็นครู. (สังข์ทอง). (ป., ส.ปุราณ).

บุราณทุติยิกา
[บุรานะ-] น. เมียที่มีอยู่ก่อนบวช. (ป.).

บุรินทร์
น. เจ้าเมือง; (กลอน) เมืองใหญ่. (ส. ปุรินฺทฺร; ป. ปุรินฺท).

บุริม-
[บุริมมะ-, บุริม-] ว. ตะวันออก; ก่อน. (ป. ปุริม; ส. ปุรสฺ + อิม).

บุริมทิศ
[บุริมมะทิด] น. ทิศตะวันออก. (ป. ปุริมทิส).

บุริมพรรษา
[บุริมมะพันสา, บุริมพันสา] น. 'พรรษาต้น', ช่วงระยะเวลาที่ภิกษุเข้าอยู่จำพรรษาต้น คือตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑, ปุริมพรรษา ก็ว่า, คู่กับ ปัจฉิมพรรษา.(ป. ปุริม + ส. วรฺษ).

บุริมสิทธิ
[บุริมมะสิด] (กฎ) น. สิทธิของเจ้าหนี้ในการที่จะได้รับชําระหนี้อันค้างชําระแก่ตนจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อนเจ้าหนี้สามัญ.

บุริมสิทธิพิเศษ
(กฎ) น. บุริมสิทธิเหนือสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์เฉพาะอย่างของลูกหนี้.

บุริมสิทธิสามัญ
(กฎ) น. บุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้.

บุรี, บูรี
น. เมือง. (ป. ปุร).

บุรี, บูรี
น. เมือง. (ป. ปุร).

บุรุษ, บุรุษ-
[บุหฺรุด, บุหฺรุดสะ-] น. ผู้ชาย, เพศชาย, คู่กับ สตรี, ใช้ในลักษณะที่สุภาพ; (ไว) คําบอกผู้พูด เรียกว่า บุรุษที่ ๑, คําบอกผู้ที่พูดด้วยเรียกว่า บุรุษที่ ๒, คําบอกผู้ที่พูดถึง เรียกว่า บุรุษที่ ๓. (ส. ปุรุษ;ป. ปุริส).

บุรุษ, บุรุษ-
[บุหฺรุด, บุหฺรุดสะ-] น. ผู้ชาย, เพศชาย, คู่กับ สตรี, ใช้ในลักษณะที่สุภาพ; (ไว) คําบอกผู้พูด เรียกว่า บุรุษที่ ๑, คําบอกผู้ที่พูดด้วยเรียกว่า บุรุษที่ ๒, คําบอกผู้ที่พูดถึง เรียกว่า บุรุษที่ ๓. (ส. ปุรุษ;ป. ปุริส).

บุรุษโทษ
[บุหฺรุดสะโทด] น. ลักษณะชั่วของคน.

บุรุษธรรม
[บุหฺรุดสะทํา] น. คติสําหรับตัว.

บุรุษเพศ
[บุหฺรุดเพด] น. เพศชาย, คู่กับ สตรีเพศ.

บุโรทั่ง
(ปาก) ว. เก่าและทรุดโทรมมาก.

บุษกร
[บุดสะกอน] น. ดอกบัวสีนํ้าเงิน, บัว; ชื่อช้างตระกูลปทุมหัตถีในพรหมพงศ์. (ส. ปุษฺกร).

บุษบ-
[บุดสะบะ-] น. ดอกไม้. (ส. ปุษฺป; ป. ปุปฺผ).

บุษบราค
[-ราก] น. บุษราคัม, ทับทิม, บุษย์นํ้าทอง, พลอยสีเหลือง.(ส. ปุษฺปราค).

บุษบวรรษ
[-วัด] น. ฝนดอกไม้ (เช่นที่ตกพรูเมื่อวีรบุรุษกระทําการใหญ่หลวง).(ส. ปุษฺปวรฺษ).

บุษบก
[บุดสะบก] น. มณฑปขนาดเล็กแต่ด้านข้างโปร่ง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธี หรือประดิษฐานปูชนียวัตถุเช่นพระพุทธรูปเป็นต้น.

บุษบง
[บุดสะ-] (กลอน) น. ดอกไม้.

บุษบัน
[บุดสะ-] (กลอน) น. ดอกไม้, ดอกบัวเผื่อน.

บุษบา
[บุดสะ-] (กลอน) น. ดอกไม้.

บุษบากร
ว. อันเต็มไปด้วยดอกไม้. (ส. ปุษฺปากร).

บุษบาคม
น. ฤดูดอกไม้. (ส.).

บุษบาบัณ
น. ตลาดดอกไม้. (ส.).

บุษบารักร้อย
น. ชื่อกลบทอย่างหนึ่ง.

บุษบามินตรา
[บุดสะบามินตฺรา] น. พุทธรักษา. (ช.).

บุษป-, บุษปะ
[บุดสะปะ] น. ดอกไม้. (ส.).

บุษป-, บุษปะ
[บุดสะปะ] น. ดอกไม้. (ส.).

บุษปราค
[บุดสะปะราก] น. บุษย์นํ้าทอง.

บุษย-, บุษย์, บุษยะ, ปุษยะ, ปุสสะ
[บุดสะยะ-, บุด, บุดสะยะ, ปุดสะยะ, ปุดสะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๘ มี๕ ดวง เห็นเป็นรูปปุยฝ้าย พวงดอกไม้ ดอกบัว หรือ โลง, ดาวปุยฝ้าย ดาวพวงดอกไม้ ดาวดอกบัว ดาวโลง ดาวปู ดาวสมอสําเภา หรือ ดาวสิธยะ ก็เรียก. (ส. ปุษฺย; ป. ปุสฺส); แก้วสีขาว; บัว.

บุษย-, บุษย์, บุษยะ, ปุษยะ, ปุสสะ
[บุดสะยะ-, บุด, บุดสะยะ, ปุดสะยะ, ปุดสะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๘ มี๕ ดวง เห็นเป็นรูปปุยฝ้าย พวงดอกไม้ ดอกบัว หรือ โลง, ดาวปุยฝ้าย ดาวพวงดอกไม้ ดาวดอกบัว ดาวโลง ดาวปู ดาวสมอสําเภา หรือ ดาวสิธยะ ก็เรียก. (ส. ปุษฺย; ป. ปุสฺส); แก้วสีขาว; บัว.

บุษย-, บุษย์, บุษยะ, ปุษยะ, ปุสสะ
[บุดสะยะ-, บุด, บุดสะยะ, ปุดสะยะ, ปุดสะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๘ มี๕ ดวง เห็นเป็นรูปปุยฝ้าย พวงดอกไม้ ดอกบัว หรือ โลง, ดาวปุยฝ้าย ดาวพวงดอกไม้ ดาวดอกบัว ดาวโลง ดาวปู ดาวสมอสําเภา หรือ ดาวสิธยะ ก็เรียก. (ส. ปุษฺย; ป. ปุสฺส); แก้วสีขาว; บัว.

บุษยมาส
น. เดือนอันมีพระจันทร์เพ็ญเสวยนักษัตรบุษยะ คือ เดือนยี่ตกในราวมกราคม. (ส.).

บุษยสนาน
น. พิธีอาบนํ้าเมื่อพระจันทร์กําลังผ่านหมู่ดาวบุษยะ, บุษยาภิเษก ก็ว่า.

บุษยาภิเษก
น. บุษยสนาน.

บุษย์น้ำทอง
ดู บุษบราค ที่ บุษบ-.

บุษยาภิเษก
ดู บุษย-, บุษย์, บุษยะ, ปุษยะ, ปุสสะ.

บุษราคัม
[บุดสะราคํา] น. พลอยสีเหลือง.

บุหงง
[-หฺงง] น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Desmos blumei Finet ในวงศ์ Annonaceaeดอกสีเหลือง กลีบดอกประสานกันเป็นถุง.

บุหงัน
[-หฺงัน] น. ดอกไม้. ว. แข็งแรง. (ช.).

บุหงา
[-หฺงา] น. ดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มีมะลิ กระดังงา กุหลาบ เป็นต้นที่ปรุงด้วยเครื่องหอมแล้วบรรจุในถุงผ้าโปร่งเล็ก ๆ ทําเป็นรูปร่างต่าง ๆ. (ตัดมาจาก บุหงารําไป).

บุหงาประหงัน
น. ดอกพุทธชาด. (ช.).

บุหงามลาซอ
[-มะลา-] น. ดอกมะลิลา. (ช.).

บุหงารำไป
น. ดอกไม้ที่ปรุงด้วยเครื่องหอมแล้วบรรจุในถุงผ้าโปร่งเล็ก ๆทําเป็นรูปร่างต่าง ๆ, มักเรียกย่อว่า บุหงา. (ช.).

บุหงาลำเจียก
น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Goniothalamus tapis Miq.ในวงศ์ Annonaceae ดอกสีเหลืองนวล ออกตามลําต้นกลิ่นหอมคล้ายลําเจียก.

บุหรง
[-หฺรง] น. นก, นกยูง. (ช.).

บุหรี่
[บุหฺรี่] น. ยาสูบที่ใช้ใบตองหรือกระดาษเป็นต้นมวนใบยาที่หั่นเป็นฝอย.

บุหรี่พระราม
น. ชื่อไม้เถาชนิด Neoalsomitra sarcophylla Hutch. ในวงศ์Cucurbitaceae มีมือเกาะ ดอกเป็นช่อ ออกตามง่ามใบ กลีบดอกติดกันเป็นรูปปากแตรบาน ๆ ผลเรียวยาวคล้ายกระบองกลมหรือเป็นสามเหลี่ยม เวลาแก่ผลจะแตกที่ปลายเป็น ๓ ช่อง เมล็ดสีดําแบน มีปีกบาง ๆ ที่ปลาย.

บุหลัน
[-หฺลัน] น. เดือน, ดวงเดือน, พระจันทร์. (ช.); ชื่อเพลงไทยมี ๒เพลง คือ บุหลันชกมวย และ บุหลันเลื่อนลอย.

บู่
น. ชื่อปลาจําพวกหนึ่งในหลายสกุลและหลายวงศ์ มีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ครีบท้องอยู่ในแนวหน้าครีบอกรูปร่าง ลักษณะ สีสัน ถิ่นอาศัย พฤติกรรมและขนาดแตกต่างกัน มีทั้งในทะเล นํ้ากร่อยและนํ้าจืด เช่น บู่จาก หรือ บู่ทราย(Oxyeleotris marmorata) ในวงศ์ Eleotridae ซึ่งเป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือมีขนาดยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร,บู่ทอง บู่หิน บู่ทราย หรือ บู่ลูกทราย (Glossogobius spp.)ในวงศ์ Gobiidae, บู่รําไพ (Vaimosa rambaiae) และ บู่ทะเลหรือ บู่ขาว (Acentrogobius caninus).

บู้
ว. ยู่ย่นเข้าไป เช่น คมมีดบู้.

บู้บี้
ว. บุบบิบ, ยู่ยี่.

บูชนีย-
[บูชะนียะ-] (แบบ) ว. ควรบูชา. (ป., ส. ปูชนีย).

บูชนียสถาน
[บูชะนียะสะถาน] น. สถานที่เนื่องด้วยศาสนา ซึ่งเป็นที่ควรแก่การเคารพบูชา เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระปฐมเจดีย์.

บูชา
ก. แสดงความเคารพบุคคลหรือสิ่งที่นับถือด้วยเครื่องสักการะมีดอกไม้ ธูป เทียน เป็นต้น เช่น บูชาพระ บูชาเทวดา บูชาไฟ,ยกย่องเทิดทูนด้วยความนับถือหรือเลื่อมใสในความรู้ความสามารถ เช่น บูชาวีรบุรุษ บูชาความรู้ บูชาฝีมือ. (ป., ส. ปูชา).

บูชากัณฑ์เทศน์
ก. ติดกัณฑ์เทศน์ด้วยจตุปัจจัยไทยธรรมเป็นต้น.

บูชายัญ
น. การบูชาของพราหมณ์อย่างหนึ่ง, การเซ่นสรวงด้วยวิธีฆ่าคนหรือสัตว์เป็นเครื่องบูชา. ก. เซ่นสรวงด้วยวิธีฆ่าคนหรือสัตว์เป็นเครื่องบูชา.

บูชิต
[-ชิด] ว. บูชาแล้ว. (ป., ส. ปูชิต ว่า อันเขาบูชาแล้ว).

บูด
ว. มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวแสดงว่าเสีย (ใช้แก่อาหาร)เช่น ข้าวบูด แกงบูด; ทําหน้าแสดงอาการไม่พอใจ เรียกว่า ทําหน้าบูด.

บูดบึ้ง
ว. ทําหน้าบึ้งแสดงอาการไม่พอใจ.

บูดเบี้ยว
ว. ทําหน้านิ่วแสดงอาการเจ็บปวดหรือไม่พอใจ.

บูดู
(ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. น้ำที่ได้จากปลาหมักจนเปื่อย ต้มสุกแล้วปรุงรส มี ๒ ชนิด คือ บูดูแบบเค็ม เป็นเครื่องจิ้มกับผักสด และบูดูแบบหวาน สำหรับคลุกกับข้าวยำปักษ์ใต้.

บู่ทะเล
น. (๑) ชื่อปลาบู่ชนิดหนึ่ง. (ดู บู่). (๒) ดู คางคก ๒.

บูร
[บูน] น. บุระ.

บูรณ-, บูรณ์
[บูระนะ-, บูน] ว. เต็ม. (ป., ส. ปูรณ).

บูรณภาพ
น. ความครบถ้วนบริบูรณ์ เช่น บูรณภาพแห่งดินแดน บูรณภาพแห่งอาณาเขต.

บูรณมี
น. วันเพ็ญ.

บูรณาการรวมหน่วย
น. การนําหน่วยที่แยก ๆ กันมารวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.

บูรณะ
ก. ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม เช่น บูรณะวัด.

บูรพ์, บูรพะ
[บูน, บูระพะ] ว. บุพ.

บูรพา
[-ระพา] ว. ตะวันออก; เบื้องหน้า. (ส.).

บูรพาษาฒ
น. เดือน ๘ แรก. (ส. ปูรฺวาษาฒ).

ใบสำคัญคู่จ่าย
น. เอกสารที่เป็นหลักฐานในการจ่ายเงิน; (กฎ) หลักฐานการจ่ายที่เป็นใบเสร็จรับเงิน หลักฐานของธนาคารแสดงการจ่ายเงินแก่เจ้าหนี้ หรือหลักฐานการนําเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้รับที่ธนาคารและรวมถึงใบนําส่งเงินต่อคลังด้วย.


ความคิดเห็น