คำศัพท์ภาษาไทย ขึ้นต้นด้วย ศ



พยัญชนะตัวที่ ๓๘ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและเป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาสันสกฤตและภาษาอื่น เช่น ศาลา อากาศไอศกรีม วงศ์.

ศก ๑
น. ผม เช่น พระศกพระพุทธรูป. (ข.).

ศก ๒
น. ระบบการคํานวณนับเวลาเรียงลําดับกันเป็นปี ๆ โดยถือเอาเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ดังในคําว่า รัตนโกสินทรศก ซึ่งถือเอาปีเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นจุดเริ่มต้น,บางทีก็ใช้เป็นคําย่อของศักราช เช่น พุทธศก คริสต์ศก; คําเรียกปีหนึ่ง ๆ ของจุลศักราช เพื่อให้ทราบว่าเป็นปีที่ลงท้ายด้วย ๑ ๒... หรือ ๐ เช่น ถ้าลงท้ายด้วย ๑ เรียกว่า เอกศก ลงท้ายด้วย ๒เรียกว่า โทศก ... ลงท้ายด้วย ๐ เรียกว่า สัมฤทธิศก; (ปาก) ปี เช่นศกนี้ ศกหน้า วันเถลิงศก. (ส.).

ศกฏะ
[สะกะตะ] น. เกวียน. (ส.; ป. สกฏ).

ศกละ
[สะกะละ] น. ส่วน, ซีก. (ส.; ป. สกล).

ศกุน
น. นก. (ส.; ป. สกุณ).น. นก. (ส.; ป. สกุนฺต).

ศกุนิ
น. นก. (ส.; ป. สกุณิ).

ศกุนี
น. นกตัวเมีย. (ส.; ป. สกุณี).

ศงกา
น. ความสงสัย. (ส. ศงฺกา; ป. สงฺกา).

ศจี
น. ชายาพระอินทร์. (ส.).

ศฐะ
[สะ-] น. คนโกง, คนล่อลวง; คนโอ้อวด. (ส.; ป. ส?).

ศดก
[สะดก] น. หมวด ๑๐๐. (ส. ศตก; ป. สตก).

ศต, ศตะ
[สะตะ] น. ร้อย (๑๐๐). (ส.; ป. สต).

ศต, ศตะ
[สะตะ] น. ร้อย (๑๐๐). (ส.; ป. สต).

ศตบาท, ศตปที
น. ตะขาบ, ตะเข็บ, กิ้งกือ. (ส.).

ศตบาท, ศตปที
น. ตะขาบ, ตะเข็บ, กิ้งกือ. (ส.).

ศตภิษัช, สตภิสชะ
[พิสัด, พิดสะชะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๒๔ มี ๔ ดวงเห็นเป็นรูปทิมทองหรือมังกร, ดาวพิมพ์ทอง หรือ ดาวยักษ์ ก็เรียก.

ศตวรรษ, ศตพรรษ
[สะตะวัด, พัด] น. รอบ ๑๐๐ ปี. (ส.).

ศตวรรษ, ศตพรรษ
[สะตะวัด, พัด] น. รอบ ๑๐๐ ปี. (ส.).

ศตสังวัตสร์
น. เวลานานชั่ว ๑๐๐ ปี. (ส.).

ศตัฆนี
[สะตักคะนี] น. อาวุธอย่างร้ายแรงฆ่าคนได้ทีละ ๑๐๐ คน.

ศตกะ
[สะตะกะ] น. หมวด ๑๐๐, มีจํานวน ๑๐๐, ใช้ ศดก ก็มี.(ส.; ป. สตก).

ศตัฆนี
ดู ศต, ศตะ.

ศนิ
[สะ] น. ดาวพระเสาร์. (ส.).

ศนิวาร
น. วันเสาร์, โสรวาร ก็ว่า. (ส.).

ศพ
น. ซากผี, ร่างคนที่ตายแล้ว. (ส. ศว; ป. ฉว).

ศพละ
[สะพะละ] ว. หลายสี, ด่าง, ลาย, พร้อย, กระ; วุ่น, รําคาญ.(ส.; ป. สพล).

ศมะ
[สะ-] น. ความสงบ, ความนิ่ง. (ส.; ป. สม).

ศมนะ
[สะมะนะ] น. การทําให้สงบ. (ส.; ป. สมน).

ศยะ
[สะ-] ก. นอน; หลับ; อยู่, พักผ่อน, มักใช้เป็นส่วนท้ายสมาส. (ส.).

ศยนะ
[สะยะ] น. การนอน, การหลับ; ที่นอน, ฟูก, เบาะ. (ส.; ป. สยน).

ศยาม
[สะหฺยาม] ว. ดํา, คลํ้า. (ส.).

ศยามล
[สะหฺยามน] น. สีดํา. ว. ผิวคลํ้า, ดํา. (ส.).

ศร
[สอน] น. อาวุธชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันสำหรับยิง เรียกว่า คันศรกับลูกที่มีปลายแหลม เรียกว่า ลูกศร, เรียกสายคันศรว่า สายศร,เรียกอาการที่ยิงลูกศรออกไปว่า แผลงศร หรือ ยิงศร; (โบ) ปืน. (ส.).

ศรศิลป์ไม่กินกัน
(กลอน) ก. ทําอันตรายกันไม่ได้ เช่น ถ้อยทีศร

ศิลป์ไม่กินกัน.
(รามเกียรติ์ ร. ๖); (สํา) ไม่ถูกกัน, ไม่ลงรอยกัน,ไม่ชอบหน้ากัน, เช่น พี่น้องคู่นี้ศรศิลป์ไม่กินกัน เจอหน้ากันเมื่อใดต้องทะเลาะกันเมื่อนั้น.

ศรายุธ
[สะรายุด] น. อาวุธคือศร. (ส. ศร + อายุธ).

ศราวรณ์
[สะราวอน] น. เครื่องกําบังลูกศร คือ โล่. (ส.).

ศราสน์
[สะราด] น. คันศร. (ส.).

ศรนารายณ์
น. ชื่อไม้พุ่มแตกกอชนิด Agave sisalana Perrine ในวงศ์Agavaceae ใบใหญ่หนาและแข็ง ปลายเป็นหนามแหลม ใบให้ใยใช้ทําสิ่งทอได้.

ศรภะ
[สะระพะ] น. สัตว์ในนิยาย ว่ากันว่ามี ๘ เท้า มีแรงมากกว่าช้างและสิงโต. (ส.).

ศรมณะ
[สะระมะ] น. ผู้ปฏิบัติบําเพ็ญพรต, พระสงฆ์. (ส.; ป. สมณ).

ศรรกรา
[สักกะรา] น. ก้อนกรวด; นํ้าตาลกรวด. (ส. ศรฺกรา; ป. สกฺกร).[สะระวะนะ, สาวะนะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๒๒ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปหามผีหรือโลง, ดาวหลักชัย หรือ ดาวพระฤๅษี ก็เรียก. (ส.).

ศรวณีย์
[สะระวะนี] ว. พึงได้ยิน, ควรได้ยิน; น่าฟัง, น่าชม. (ส.; ป. สวนีย).

ศรวิษฐา
[สะระวิดถา] น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ธนิษฐา มี ๔ ดวง, ดาวไซดาวเศรษฐี หรือดาวธนิษฐะ ก็เรียก.

ศรัณย์
[สะรัน] ว. ซึ่งเป็นที่พึ่ง. (ส. ศรณฺย).

ศรัณยู
[สะรันยู] น. ผู้เป็นที่พึ่ง. (ส. ศรณฺยุ).

ศรัถนะ
[สะรัดถะนะ] น. การปล่อย, การหย่อน. (ส.).

ศรัท
[สะรัด] น. ฤดูสารท. (ส. ศรท; ป. สรท).

ศรัทธา
[สัดทา] น. ความเชื่อ, ความเลื่อมใส, เช่น สิ้นศรัทธา ฉันมีศรัทธาในความดีของเขา บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ ประสาทะ เป็น ศรัทธาประสาทะ. ก. เชื่อ, เลื่อมใส, เช่น เขา ศรัทธาในการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณ. (ส. ศฺรทฺธา; ป. สทฺธา).

ศรัย
[ไส] น. ที่พักพิง, ที่พึ่ง, ที่อาศัย, ที่ร่มเย็น. (ส. ศฺรย).

ศราทธ, ศราทธ์
[สาดทะ, สาด] น. การทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว. (ส.).

ศราทธ, ศราทธ์
[สาดทะ, สาด] น. การทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว. (ส.).

ศราทธพรต
[สาดทะพฺรด] น. พิธีทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว.(ส. ศฺราทฺธ+ วฺรต).

ศราพ
[สะราบ] น. การได้ยิน, การฟัง. (ส. ศฺราว).

ศราพก, ศราวก
[สะราพก, วก] น. สาวก, ศิษย์. (ส. ศฺราวก; ป. สาวก).

ศราพก, ศราวก
[สะราพก, วก] น. สาวก, ศิษย์. (ส. ศฺราวก; ป. สาวก).

ศรายุธ
ดู ศร.

ศราวณะ
[สะราวะนะ] น. ชื่อเดือนที่ ๙ แห่งจันทรคติ. ว. เกี่ยวกับดาวศรวณะ.(ส.).

ศราวรณ์
ดู ศร.

ศราสน์
ดู ศร.

ศรี ๑
[สี] น. มิ่ง, สิริมงคล, ความรุ่งเรือง, ความสว่างสุกใส, ความงาม,ความเจริญ, เช่นศรีบ้าน ศรีเรือน ศรีเมือง, ใช้นำหน้าคำบางคำเป็นการยกย่อง เช่น พระศรีรัตนตรัยวัดพระศรีรัตนศาสดาราม.(ส. ศฺรี; ป. สิริ, สิรี).

ศรี ๒
[สี] น. พลู. (ม.); (ราชา) หมากพลู เรียกว่า พระศรี.

ศรี ๓
[สี] น. ผู้หญิง. (ข. สี).

ศรี ๔
[สี] (กลอน) น. ลักษณนามใช้แก่คน เช่น พระปิตุราชมาตุรงค์ทรงพระสรวลเห็นสมควรคู่ครองกันสองศรี. (อภัย).

ศรีตรัง
น. ชื่อไม้ต้นชนิด Jacaranda filicifolia D. Don ในวงศ์ Bignoniaceaeสูงประมาณ ๑๐ เมตร ใบเป็นฝอยเล็ก ดอกสีนํ้าเงินปนม่วง.

ศรีสังคีต
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.

ศรุตะ
[สะรุตะ] ก. ได้ยิน, ได้ฟัง; มีชื่อเสียง, มีผู้รู้จัก. (ส.).

ศรุติ
[สะรุติ] น. สิ่งที่ได้ยิน, กิตติศัพท์; พระเวท. (ส.).

ศฤคาล, สฤคาล
[สฺริคาน] น. หมาจิ้งจอก. (ส.).

ศฤงค์
[สฺริง] น. เขาสัตว์; ยอดของสถานที่ต่าง ๆ. (ส.).

ศฤงคาร
[สิงคาน, สะหฺริงคาน] น. สิ่งให้เกิดความรัก, บริวารหญิงผู้บําเรอความรัก เช่น สาวศฤงคารคนใช้. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ส.ศฺฤงฺคาร ว่า ความใคร่).

ศฤงคารรส
[สะหฺริงคานระรด] (วรรณ) น. รส ๑ ใน ๙ รสของวรรณคดี มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรัก เช่น เรื่องลิลิตพระลอมีเนื้อเรื่องเป็นศฤงคารรส.

ศฤงคาริน, ศฤงคารี
ว. ผู้มีศฤงคาร. (ส. ศฺฤงฺคาริน).

ศฤงคาริน, ศฤงคารี
ว. ผู้มีศฤงคาร. (ส. ศฺฤงฺคาริน).

ศลภะ
[สะละพะ] น. แมลงมีปีก. (ส.).

ศลัถ
[สะลัด] น. ลุ่ย, หลุด; หลวม, ไม่แน่น. (ส.).

ศลิษฏ์
[สะหฺลิด] ว. ติด, แนบ, เกี่ยวข้อง. (ส.).

ศลิษา
[สะลิ] น. การกอดรัด. (ส.).

ศวะ
น. ศพ. (ส.; ป. ฉว).

ศวศุระ
น. พ่อตา, พ่อผัว. (ส. ศฺวศุร; ป. สสฺสุร).

ศวัส
[สะวัด] น. วันพรุ่งนี้. (ส. ศฺวสฺ; ป. เสฺว).

ศวัสนะ
น. การหายใจ. (ส. ศฺวสน).

ศวา, ศวาน
[สะวา, สะวาน] น. หมา. (ส. ศฺวา, ศฺวานฺ).

ศวา, ศวาน
[สะวา, สะวาน] น. หมา. (ส. ศฺวา, ศฺวานฺ).

ศวาสะ
น. การหายใจ, ลมหายใจ. (ส. ศฺวาส).

ศศ, ศศะ
[สะสะ] น. กระต่าย, รอยดําที่ปรากฏในดวงจันทร์ ซึ่งถือกันว่าคล้ายกระต่าย. (ส.; ป. สส).

ศศ, ศศะ
[สะสะ] น. กระต่าย, รอยดําที่ปรากฏในดวงจันทร์ ซึ่งถือกันว่าคล้ายกระต่าย. (ส.; ป. สส).

ศศธร
น. ทรงไว้ซึ่งรูปกระต่าย คือ ดวงจันทร์. (ส.).

ศศพินทุ์, ศศลักษณ์
น. ดวงจันทร์. (ส.).

ศศพินทุ์, ศศลักษณ์
น. ดวงจันทร์. (ส.).

ศศิ ๑, ศศิน, ศศี
[สะสิ, สะสิน, สะสี] น. 'ซึ่งมีกระต่าย' คือ ดวงจันทร์. (ส.).

ศศิ ๑, ศศิน, ศศี
[สะสิ, สะสิน, สะสี] น. 'ซึ่งมีกระต่าย' คือ ดวงจันทร์. (ส.).

ศศิ ๑, ศศิน, ศศี
[สะสิ, สะสิน, สะสี] น. 'ซึ่งมีกระต่าย' คือ ดวงจันทร์. (ส.).

ศศิกษัย
น. พระจันทร์แรม. (ส.).

ศศิขัณฑ์
น. เสี้ยวพระจันทร์. (ส.).

ศศิเคราะห์
น. จันทรคราส. (ส. ศศิคฺรห).

ศศิธร
น. ดวงจันทร์. (ส. ว่า พระอิศวรผู้มีพระจันทร์เป็นปิ่น).

ศศิมณฑล
น. ดวงพระจันทร์. (ส.).

ศศิวิมล
ว. บริสุทธิ์เพียงจันทร์. (ส.).

ศศิ ๒
[สะสิ] (โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางคืน. (ดู ยาม).

ศสา
[สะ] น. แตงกวา. (ส.).

ศอ
น. คอ, ราชาศัพท์ ว่า พระศอ.

ศอก
น. ส่วนของแขน ตรงข้ามกับข้อพับ, ข้อศอก ก็ว่า; ช่วงของแขนตั้งแต่ปลายสุดของข้อพับไปถึงปลายนิ้วกลาง; มาตราวัดตามวิธีประเพณี ๑ ศอก เท่ากับ ๒ คืบ.

ศอกกลับ
ก. หมุนตัวตีศอกทางด้านหลัง เป็นท่ามวยไทยท่าหนึ่ง;โดยปริยายหมายความว่า ย้อนว่าสวนคํา, พูดตอบสวนควัน, เช่นพอเขาว่ามาก็ศอกกลับไป.

ศอกกำ, ศอกกำมา, ศอกตูม
น. ระยะตั้งแต่ข้อศอกจนสุดกํามือโบราณใช้เป็นหน่วยวัดระยะ เช่น ๔ ศอกกับศอกกํามาหนึ่ง.

ศอกกำ, ศอกกำมา, ศอกตูม
น. ระยะตั้งแต่ข้อศอกจนสุดกํามือโบราณใช้เป็นหน่วยวัดระยะ เช่น ๔ ศอกกับศอกกํามาหนึ่ง.

ศอกกำ, ศอกกำมา, ศอกตูม
น. ระยะตั้งแต่ข้อศอกจนสุดกํามือโบราณใช้เป็นหน่วยวัดระยะ เช่น ๔ ศอกกับศอกกํามาหนึ่ง.

ศอกคู้
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์หัสตะ มี ๕ ดวง, ดาวศีรษะช้างดาวหัสต หรือ ดาวหัฏฐะ ก็เรียก.

ศักดา
(ปาก) น. อํานาจ เช่น อวดศักดา แผลงศักดา. (ส.).

ศักดิ, ศักดิ์
น. อํานาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์; กำลัง; ฐานะเช่นมีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ; หอก, หลาว.(ส. ศกฺติ; ป. สตฺติ).

ศักดิ, ศักดิ์
น. อํานาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์; กำลัง; ฐานะเช่นมีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ; หอก, หลาว.(ส. ศกฺติ; ป. สตฺติ).

ศักดินา
น. (โบ) อํานาจปกครองที่นา คิดเป็นจำนวนไร่ต่างกันตามศักดิ์ของแต่ละคน เช่น พระโหราธิบดี เจ้ากรมโหรหน้า มีศักดินา ๓,๐๐๐ ไร่ ยาจก วรรณิพก ทาษ ลูกทาษ มีศักดินา ๕ ไร่.(สามดวง); (ปาก) คำประชดเรียกชนชั้นสูงหรือผู้ดีมีเงินว่าพวกศักดินา.

ศักดิ์ศรี
น. เกียรติศักดิ์ เช่น ประพฤติตนไม่สมศักดิ์ศรี.

ศักดิ์สิทธิ์
ว. ที่เชื่อถือว่ามีอำนาจอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ขลัง, เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์.

ศักติ
น. ชื่อนิกายใหญ่นิกายหนึ่งใน ๓ นิกายของศาสนาฮินดู (คือนิกายไวษณพ ไศวะและศักติ) บูชาเทวีซึ่งโดยมากหมายเอาพระทุรคาผู้เป็นศักติ เป็นศรี หรือเป็นชายาของพระศิวะ.

ศักย ๑
[สักกะยะ] ว. อาจ, สามารถ. (ส.).

ศักยภาพ
[สักกะยะพาบ] (ปรัชญา) น. ภาวะแฝง, อํานาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ อาจทําให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ เช่น เขามีศักยภาพในการทำงานสูง น้ำตกขนาดใหญ่มีศักยภาพในการให้พลังงานได้มาก.

ศักย ๒
[สักกะยะ] น. ศากยะ. (ส. ศากฺย; ป. สกฺย).

ศักย์, ศักยะ
[สัก, สักกะยะ] (ไฟฟ้า) น. พลังงานที่ใช้ดันกระแสไฟฟ้า ณจุดใดจุดหนึ่ง มีหน่วยเป็นโวลต์.

ศักย์, ศักยะ
[สัก, สักกะยะ] (ไฟฟ้า) น. พลังงานที่ใช้ดันกระแสไฟฟ้า ณจุดใดจุดหนึ่ง มีหน่วยเป็นโวลต์.

ศักร
[สักกฺระ] น. พระอินทร์. (ส.; ป. สกฺก).

ศักรภพน์
น. โลกพระอินทร์, สวรรค์ชั้นดาวดึงส์. (ส.).

ศักรินทร์, ศักเรนทร์
น. พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่. (ส. ศกฺร + อินฺทฺร).

ศักรินทร์, ศักเรนทร์
น. พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่. (ส. ศกฺร + อินฺทฺร).

ศักราช
[สักกะหฺราด] น. อายุเวลาซึ่งกําหนดตั้งขึ้นเป็นทางการ เริ่มแต่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นที่หมายเหตุการณ์สําคัญ เรียงลําดับกันเป็นปี ๆ ไป เช่น พุทธศักราช ๑, ๒, ๓, .. จุลศักราช ๑, ๒, ๓, ...(ตามความนิยมที่ใช้เป็นธรรมเนียมกันมา, คํา ศักราชในคํา เช่นพุทธศักราช คริสต์ศักราชจะใช้ว่า ศก เป็น พุทธศก คริสต์ศก ก็ได้แต่คํา เช่น มหาศักราช จุลศักราช ไม่นิยมใช้ว่า มหาศก จุลศกส่วนคําว่า รัตนโกสินทรศกไม่นิยมใช้ว่า รัตนโกสินทรศักราช),(ปาก) โดยปริยายหมายความว่า ช่วงใดช่วงหนึ่งซึ่งเริ่มต้นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตบุคคล เช่น เริ่มศักราชแห่งชีวิตใหม่พอเรียนหนังสือจบก็เริ่มศักราชของการทำงาน.

ศักรินทร์, ศักเรนทร์
ดู ศักร.

ศักรินทร์, ศักเรนทร์
ดู ศักร.

ศังกร
[สังกอน] น. นามพระอิศวรผู้ประสาทความสุขเกษม. (ส.).

ศังกา
น. ความสงสัย, ความลังเล. (ส.; ป. สงฺก).

ศังกุ
น. หลาว, หอก. (ส.).

ศัตรู
[สัดตฺรู] น. ข้าศึก, ปรปักษ์, เช่น ศัตรูจากภายนอกประเทศ เพลี้ยเป็นศัตรูพืช, ผู้จองเวร เช่น ๒ ตระกูลนี้เป็นศัตรูกันมาหลายชั่วคนแล้ว. (ส. ศตฺรุ; ป. ตฺตุ).

ศัทธนะ
[สัดทะนะ] ก. พัด (ใช้แก่ลม), มีลมพัดมา. (บ.).

ศันสนะ
[สันสะ] น. การสรรเสริญ, การบอกเล่า. (ส. ศํสน).

ศันสนีย์
[สะนี] ว. พึงสรรเสริญ, พึงชม. (ส. ศํสนีย).

ศัพท, ศัพท์
[สับทะ, สับ] น. เสียง เช่น โทรศัพท์, คำ เช่น ศัพท์บัญญัติ; คำยากที่ต้องแปล, ศัพท์แสงก็ว่า; เรื่อง เช่น ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด.(ส. ศพฺท; ป. สทฺท ว่า เสียง, คํา).

ศัพท, ศัพท์
[สับทะ, สับ] น. เสียง เช่น โทรศัพท์, คำ เช่น ศัพท์บัญญัติ; คำยากที่ต้องแปล, ศัพท์แสงก็ว่า; เรื่อง เช่น ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด.(ส. ศพฺท; ป. สทฺท ว่า เสียง, คํา).

ศัพท์เฉพาะวิชา
น. คำที่ตราหรือกำหนดขึ้นใช้ในแต่ละวิชา เช่นปฏิชีวนะ ประสบการณ์ มลพิษ.

ศัพท์บัญญัติ
น. คำที่ตราหรือกำหนดขึ้นไว้ให้มีความหมายเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป เช่น โทรทัศน์ ธนาคาร รัฐวิสาหกิจ.ศัพทมูลวิทยา [สับทะมูนละ, สับทะมูน] น. วิชาว่าด้วยที่มาและประวัติของคํา. (อ. etymology).

ศัพท์สำเนียง
น. เสียง เช่น ข้างนอกเสียงเอ็ดอึง อยู่ข้างในฟังไม่ได้ศัพท์

ศัพท์แสง
(ปาก) น. คำยากที่ต้องแปล เช่น เขาชอบพูดจาเล่นศัพท์แสงฟังไม่รู้เรื่อง.

ศัยยา
น. ที่นอน, ฟูก, เบาะ. (ส.; ป. เสยฺยา).

ศัล, ศัลกะ
[สัน, สันละกะ] น. เปลือกไม้. (ส. ศลฺล, ศลฺก).

ศัล, ศัลกะ
[สัน, สันละกะ] น. เปลือกไม้. (ส. ศลฺล, ศลฺก).

ศัลกี
[สันละกี] น. ชื่อไม้ต้นชนิด BosWellia serrata Roxb. ในวงศ์Burseraceae ยางมีกลิ่นหอมใช้ทํายาได้. (ส. ศลฺลกี; ป. สลฺลกี).

ศัลย
[สันละยะ, สันยะ] น. ลูกศรหรือของมีปลายแหลมอื่น ๆ. (ส.).

ศัลยกรรม
[สันละยะกำ] น. การรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด.

ศัลยกรรมตกแต่ง
น. การผ่าตัดอวัยวะเพื่อรักษาหรือปรับปรุงรูปร่างของอวัยวะให้สวยงามและเหมาะสม โดยอวัยวะนั้น ๆคงทำหน้าที่ได้ตามปรกติ รวมทั้งเป็นการบูรณะส่วนที่ผิดปรกติให้กลับสู่สภาพปรกติด้วย.

ศัลยแพทย์
[สันละยะแพด] น. แพทย์ทางการผ่าตัด.

ศัลยศาสตร์
[สันละยะสาด] น. วิชาว่าด้วยการรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด.

ศัสดร
[สัดดอน] น. ศัสตรา, ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง. (ส.).

ศัสตร
[สัดตฺระ] น. ศัสตรา, ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง. (ส.).

ศัสตรกรรม
น. การผ่าตัดทางแพทย์. (ส.).

ศัสตรการ
น. คนทําอาวุธ. (ส.).

ศัสตรศาสตร์
น. วิชาใช้อาวุธ, วิชาทหาร.

ศัสตรา, ศัสตราวุธ
[สัดตฺรา, สัดตฺราวุด] น. ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง, อาวุธต่าง ๆ. (ส.).

ศัสตรา, ศัสตราวุธ
[สัดตฺรา, สัดตฺราวุด] น. ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง, อาวุธต่าง ๆ. (ส.).

ศัสยะ
[สัดสะยะ] น. ข้าวกล้า. (ส.; ป. สสฺส).

ศาก, ศากะ
[สากะ] น. ผัก; ต้นสัก. (ส.).

ศาก, ศากะ
[สากะ] น. ผัก; ต้นสัก. (ส.).

ศากภักษ์
น. คนที่กินแต่ผัก (ไม่กินเนื้อ). (ส.).

ศากตะ
[สากตะ] น. ผู้นับถือนิกายศักติ.

ศากย, ศากยะ
[สากกะยะ] น. ชื่อวงศ์กษัตริย์วงศ์หนึ่งในเมืองกบิลพัสดุ์ เรียกว่าศากยวงศ์, เรียกกษัตริย์ในวงศ์นี้ว่า ศากยะ. (ส. ศากฺย; ป. สกฺย).

ศากย, ศากยะ
[สากกะยะ] น. ชื่อวงศ์กษัตริย์วงศ์หนึ่งในเมืองกบิลพัสดุ์ เรียกว่าศากยวงศ์, เรียกกษัตริย์ในวงศ์นี้ว่า ศากยะ. (ส. ศากฺย; ป. สกฺย).

ศากยเกตุ, ศากยพุทธ, ศากยมุนี
น. พระนามพระพุทธเจ้าผู้มีเชื้อสายศากยวงศ์. (ส.).

ศากยเกตุ, ศากยพุทธ, ศากยมุนี
น. พระนามพระพุทธเจ้าผู้มีเชื้อสายศากยวงศ์. (ส.).

ศากยเกตุ, ศากยพุทธ, ศากยมุนี
น. พระนามพระพุทธเจ้าผู้มีเชื้อสายศากยวงศ์. (ส.).

ศาฎก
[ดก] น. ผ้า. (ส. ศาฏก; ป. สาฏก).

ศาฐยะ
[สาถะ] น. สาไถย, ความคดโกง. (ส.; ป. สาเถยฺย).

ศาณ ๑
น. หินลับมีด, หินเจียระไน. (ส.).

ศาณ ๒
น. ผ้าป่าน. ว. ทําด้วยป่านหรือปอ. (ส.; ป. สาณ).

ศาต
ว. ลับแล้ว, คม, แหลม; แบบบาง. (ส.).

ศานต, ศานต์
[สานตะ, สาน] ว. สงบ. (ส.; ป. สนฺต).

ศานต, ศานต์
[สานตะ, สาน] ว. สงบ. (ส.; ป. สนฺต).

ศานตรส
น. รสของคําประพันธ์ที่แสดงถึงความสงบจิต. (ส.).

ศานติ
น. ความสงบ, ความระงับ. (ส.; ป. สนฺติ).

ศานติโหม
น. การบูชาไฟเพื่อกําจัดเสนียดจัญไร. (ส.).

ศานติก
[สานติกะ] ว. ที่กําจัดเสนียดจัญไร. (ส.).

ศาป, ศาป
[สาบ, สาปะ] (แบบ) น. คําแช่ง, การด่า. (ส.; ป. สาป).

ศาป, ศาป
[สาบ, สาปะ] (แบบ) น. คําแช่ง, การด่า. (ส.; ป. สาป).

ศาปมุกติ์
[สาปะมุก] น. การพ้นจากผลคําแช่ง. (ส.).ศาปานต์ ว. พ้นสาป. (ส.).

ศาปานต์
ดู ศาป, ศาป.

ศาพระ
[สาพะระ] ว. โหดร้าย, พยาบาท. (ส.).

ศารท
[สาด] ว. เกี่ยวกับหรือเกิดในฤดูใบไม้ร่วง; เทศกาลทําบุญสิ้นเดือน ๑๐. (ส.; ป. สารท).

ศารทวิษุวัต
[สาระทะ] (ดารา) น. จุดราตรีเสมอภาคที่เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปถึงในราววันที่ ๒๔ กันยายน (autumnalequinox), คู่กับ วสันตวิษุวัต.

ศารทูล
[สาระ] น. เสือโคร่ง. (ส. ศารฺทูล; ป. สทฺทูล).

ศาริกา
น. นกจําพวกนกเอี้ยง. (ส.; ป. สาลิกา).

ศาล
[สาน] น. (กฎ) องค์กรที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาอรรถคดีโดยดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายและในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครองและศาลทหาร; ที่ชำระความ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา; ที่สิงสถิตของเทวดา เทพารักษ์ หรือเจ้าผี เป็นต้น เช่น ศาลเทพารักษ์ศาลเจ้าศาลเจ้าแม่ทับทิม.

ศาลกงสุล
(เลิก) น. ศาลของประเทศที่มีสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่ตั้งขึ้นในอีกประเทศหนึ่ง เพื่อให้กงสุลเป็นผู้พิจารณาคดีคนในบังคับของตน.

ศาลแขวง
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีและมีอํานาจไต่สวนหรือมีคําสั่งใด ๆ ซึ่งผู้พิพากษาคนเดียวมีอํานาจตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ระบุไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม.

ศาลคดีเด็กและเยาวชน
(กฎ; เลิก) ดู ศาลเยาวชนและครอบครัว.

ศาลจังหวัด
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นที่ตั้งประจําในแต่ละจังหวัดหรือในบางอําเภอ มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่นในเขตอํานาจศาลตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดนั้นได้กําหนดไว้.

ศาลชั้นต้น
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นต้นทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดไว้ ได้แก่ ศาลแขวงศาลจังหวัด ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรีศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี และศาลยุติธรรมอื่น เช่น ศาลภาษีอากรกลาง.

ศาลฎีกา
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค และคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยตรงต่อศาลฎีกาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์หรือฎีกา และคดีที่กฎหมายอื่นบัญญัติให้ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษา รวมทั้งมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดหรือสั่งคำร้องคำขอที่ยื่นต่อศาลฎีกาตามกฎหมาย.

ศาลเตี้ย
ปาก) น. เรียกการที่คนหรือกลุ่มคนที่ไม่มีอำนาจดำเนินคดีตามกฎหมายจับกุมคนมาชำระตัดสินความโดยพลการว่า ตั้งศาลเตี้ย.

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งหรือคดีอาญาที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เช่น คดีอาญาและคดีแพ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และคดีแพ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทตามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ คดีแพ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าหรือตราสารการเงินระหว่างประเทศหรือการให้บริการระหว่างประเทศการขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัย และนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง คดีแพ่งหรือคดีอาญาที่เกี่ยวกับข้อพิพาทในการออกแบบวงจร รวมการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ชื่อทางการค้าชื่อทางภูมิศาสตร์ที่แสดงถึงแหล่งกำเนิดของสินค้า ความลับทางการค้าและการคุ้มครองพันธุ์พืช.

ศาลทหาร
(กฎ) น. ศาลในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาวางบทลงโทษผู้กระทําผิดต่อกฎหมายทหารหรือกฎหมายอื่นในทางอาญา ในคดีซึ่งผู้กระทําผิดเป็นบุคคลที่อยู่ในอํานาจศาลทหารในขณะกระทําผิด และมีอํานาจสั่งลงโทษบุคคลใด ๆ ที่กระทําผิดฐานละเมิดอํานาจศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.

ศาลปกครอง
(กฎ) น. ศาลที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองตามที่กฎหมายบัญญัติอันได้แก่ คดีพิพาทที่เกิดจากการกระทำทางปกครองไม่ว่าจะเป็นคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลกับเอกชน หรือระหว่างหน่วยราชการหน่วยงานของรัฐรัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลด้วยกัน.

ศาลโปริสภา
[สานโปริดสะพา] (กฎ; เลิก) น. ศาลชั้นต้นที่จัดตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ แทนศาลกองตระเวนเมื่อ ร.ศ. ๑๑๒มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีทํานองเดียวกับศาลแขวงปัจจุบัน.

ศาลพระภูมิ
น. ที่สถิตของเทพารักษ์ประจำพื้นที่และสถานที่ทำด้วยไม้เป็นเรือนหลังคาทรงไทยตั้งอยู่บนเสาเดียว ปัจจุบันทำด้วยปูนเป็นรูปปราสาทก็มี.

ศาลเพียงตา
น. ศาลเทพารักษ์ที่ทําขึ้นชั่วคราว มีระดับเสมอนัยน์ตา เพื่อความเคารพและสวัสดิมงคลเป็นต้น.

ศาลแพ่ง
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงและคดีอื่นใดที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น.

ศาลภาษีอากร
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลภาษีอากร เช่น คดีอุทธรณ์คำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานหรือคณะกรรมการตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร.

ศาลยุติธรรม
(กฎ) น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวงเว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น ศาลยุติธรรมมี ๓ ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา, เดิมเรียกว่า ศาลสถิตยุติธรรม.

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
(กฎ) น. องค์กรใหญ่ฝ่ายตุลาการขององค์การสหประชาชาติ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖)ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ สืบต่อจากศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศของสันนิบาตชาติ (Permanent Court ofInternational Justice) ตามบทบัญญัติต่อท้ายกฎบัตรองค์การสหประชาชาติ มีอำนาจจำกัดเฉพาะการพิจารณาตัดสินคดีแพ่งที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติด้วยกัน ซึ่งประเทศคู่กรณียินยอมให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีพิพาทต่าง ๆ ทางกฎหมายและสนธิสัญญาตามที่สมัชชาใหญ่คณะมนตรีความมั่นคง หรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอ, เรียกย่อว่า ศาลโลก. (อ. International Court of Justice).

ศาลเยาวชนและครอบครัว
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคําสั่งในคดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทําความผิด หรือคดีอาญาที่ศาลซึ่งมีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดาได้โอนมาตามกฎหมาย หรือคดีครอบครัวอันได้แก่คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทําการใด ๆในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัวแล้วแต่กรณี ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือคดีที่ศาลจะต้องพิพากษาหรือสั่งเกี่ยวกับตัวเด็กและเยาวชนตามบทบัญญัติของกฎหมายซึ่งบัญญัติให้เป็นอํานาจหน้าที่ของศาลเยาวชนและครอบครัว ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว.

ศาลรัฐธรรมนูญ
(กฎ) น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ เช่น การพิจารณาวินิจฉัยว่าบทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาอรรถคดีทั่วไป.

ศาลแรงงาน
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในคดีที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงาน เช่น คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหรือกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์หรือคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างสืบเนื่องจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน.

ศาลล้มละลาย
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายที่มิใช่คดีอาญา เช่น คดีที่เจ้าหนี้ไม่มีประกันหรือเจ้าหนี้มีประกันฟ้องลูกหนี้ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวให้ล้มละลายนอกจากนั้นยังรวมถึงคดีแพ่งที่เกี่ยวพันกับคดีดังกล่าวด้วย ได้แก่ คดีแพ่งธรรมดาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือผู้บริหารแผนของลูกหนี้พิพาทกับบุคคลใด ๆ อันมีมูลจากสัญญาหรือละเมิดอันเนื่องมาจากการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้.

ศาลโลก
(ปาก) น. ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ.ศาลสถิตยุติธรรม (กฎ; โบ) น. เป็นคำรวมที่ใช้เรียกศาลยุติธรรมทั้งปวง.

ศาลสูง
(กฎ) น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นอุทธรณ์และฎีกา.

ศาลสูงสุด
(กฎ) น. ศาลที่อยู่ในลำดับสูงสุดเหนือศาลทั้งหลายในสายเดียวกัน คดีที่ศาลสูงสุดพิจารณาพิพากษาแล้วถือว่าถึงที่สุด.

ศาลอาญา
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่นรวมทั้งคดีอื่นใดที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญาแล้วแต่กรณี.

ศาลอาญาศึก
(กฎ) น. ศาลที่ตั้งขึ้นเมื่อหน่วยทหารหรือเรือรบอยู่ในยุทธบริเวณ เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจได้ทุกบทกฎหมายและไม่จำกัดตัวบุคคล.

ศาลอุทธรณ์
(กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นสูงถัดจากศาลฎีกาลงมาได้แก่ ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค มีอํานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์และว่าด้วยเขตอํานาจศาลและมีอำนาจพิพากษายืนตาม แก้ไข กลับ หรือยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตเมื่อคดีนั้นได้ส่งขึ้นมายังศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค วินิจฉัยชี้ขาดคำร้องคำขอที่ยื่นต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคตามกฎหมาย และวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาคมีอํานาจวินิจฉัยได้ตามกฎหมายอื่นด้วย.

ศาลอุทธรณ์ภาค
(กฎ) ดู ศาลอุทธรณ์.

ศาลา
น. อาคารทรงไทย ปล่อยโถง ไม่กั้นฝา ใช้เป็นที่พักหรือเพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาวัด ศาลาที่พักศาลาท่านํ้า, โดยปริยายหมายถึงอาคารหรือสถานที่บางแห่งใช้เพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาพักร้อนศาลาสวดศพ. (ส.; ป. สาลา).

ศาลากลาง
น. อาคารที่ใช้เป็นที่ทำการของจังหวัด เช่นศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา.

ศาลากลางย่าน
น. อาคารทรงไทย คล้ายศาลาการเปรียญ นิยมสร้างไว้กลางหมู่บ้าน สำหรับให้คนในหมู่บ้านมาประชุม ทำบุญหรือฟังธรรม เช่น ศาลากลางย่านที่ตำบลบ้านบุ, ศาลาโรงธรรมก็เรียก.

ศาลาการเปรียญ
น. ศาลาวัดสำหรับพระสงฆ์แสดงธรรม.

ศาลาฉทาน
[ฉ้อทาน] น. สถานที่แจกจ่ายอาหารแก่คนทั่วไปเป็นการกุศล, ฉทานศาลา ก็เรียก.

ศาลาดิน
น. ศาลาที่ใช้พื้นดินเป็นพื้นหรือพื้นติดดิน ใช้ประกอบศาสนกิจเป็นต้น เช่น ศาลาดินที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.

ศาลาตักบาตร, ศาลาบาตร
น. ศาลาที่ลักษณะเป็นโรงยาว มีฐานสำหรับตั้งบาตรได้หลายลูก มักปลูกไว้ในย่านกลางหมู่บ้านที่อยู่ไกลวัด ในเวลาเทศกาลที่นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ ก็จะตั้งบาตรเรียงไว้ที่ศาลานั้นเพื่อให้ประชาชนได้ตักบาตร.

ศาลาตักบาตร, ศาลาบาตร
น. ศาลาที่ลักษณะเป็นโรงยาว มีฐานสำหรับตั้งบาตรได้หลายลูก มักปลูกไว้ในย่านกลางหมู่บ้านที่อยู่ไกลวัด ในเวลาเทศกาลที่นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ ก็จะตั้งบาตรเรียงไว้ที่ศาลานั้นเพื่อให้ประชาชนได้ตักบาตร.

ศาลาประชาคม
น. สถานที่หรืออาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประชุมประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ของประชาชนในชุมชนนั้น ๆ.

ศาลายก
น. ศาลาที่ยกพื้นสูงใช้ประกอบศาสนกิจเป็นต้น เช่นศาลายกที่หน้าวัดสุทัศนเทพวราราม.

ศาลาราย
น. ศาลาที่สร้างเป็นหลัง ๆ เรียงเป็นแนวรอบโบสถ์หรือวิหาร เช่น ศาลารายวัดพระศรีรัตนศาสดาราม.

ศาลาโรงธรรม
น. ศาลากลางย่าน.

ศาลาลงสรง
[สง] น. ศาลาที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับใช้ในพระราชพิธีโสกันต์หรือพระราชพิธีเกศากันต์และพระราชพิธีลงท่า.

ศาลาลูกขุน
(โบ) น. ที่ทำการของลูกขุน.

ศาลาวัด
น. อาคารที่ปลูกไว้ในวัดสำหรับทำบุญและศึกษาเล่าเรียนเป็นต้น.

ศาลาสรง
[สง] (ถิ่นพายัพ, อีสาน) น. ศาลาขนาดย่อมมุงหลังคาและมีฝากั้นมิดชิด ใช้เป็นที่สรงนํ้าพระสงฆ์ที่เคารพนับถือ ปฏิบัติกันในเทศกาลสงกรานต์โดยทํารางนํ้ารูปนาคพาดเข้าไปในศาลาเวลาสรงนํ้าพระให้เทนํ้าลงบนรางนั้น.

ศาศวัต
[สาดสะ] ว. ยั่งยืน. (ส. ศาศฺวต; ป. สสฺสต).

ศาสก
[สาสก] น. ครู, ผู้สอน, ผู้ชี้แจง, ผู้ปกครอง. (ส.).

ศาสดา
[สาดสะดา] น. ผู้ตั้งลัทธิศาสนา เช่น ศาสดาทั้ง ๖, คำเรียกพระพุทธเจ้าว่า พระบรมศาสดา. (ส. ศาสฺตา; ป. สตฺถา).

ศาสตร, ศาสตร์
[สาดตฺระ, สาดสะตฺระ, สาด] น. ระบบวิชาความรู้, มักใช้ประกอบหลังคําอื่น เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์มนุษยศาสตร์. (ส.).

ศาสตร, ศาสตร์
[สาดตฺระ, สาดสะตฺระ, สาด] น. ระบบวิชาความรู้, มักใช้ประกอบหลังคําอื่น เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์มนุษยศาสตร์. (ส.).

ศาสตราจารย์
[สาดตฺรา, สาดสะตฺรา] น. ตําแหน่งทางวิชาการชั้นสูงสุดของสถาบันระดับอุดมศึกษา.

ศาสตรา
[สาดตฺรา] น. ศัสตรา.

ศาสตราจารย์
ดู ศาสตร, ศาสตร์.

ศาสน, ศาสนา
[สาสะนะ, สาดสะนะ, สาดสะหฺนา] น. ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ. (ส. ศาสน ว่า คําสอน, ข้อบังคับ; ป. สาสน).

ศาสน, ศาสนา
[สาสะนะ, สาดสะนะ, สาดสะหฺนา] น. ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ. (ส. ศาสน ว่า คําสอน, ข้อบังคับ; ป. สาสน).

ศาสนกิจ
น. งานทางศาสนาที่ภิกษุสามเณรเป็นต้นปฏิบัติ เช่นการทำวัตรสวดมนต์และการเผยแผ่ศาสนาเป็นศาสนกิจของสงฆ์.

ศาสนจักร
[สาสะนะจัก, สาดสะนะจัก] น. อํานาจปกครองทางศาสนา เช่น ไตรภูมิโลกวินิจฉัยเป็นวรรณกรรมฝ่ายศาสนจักร,ถ้าเป็นฝ่ายพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธจักร, ถ้าเป็นฝ่ายคริสต์ศาสนา เรียกว่า คริสตจักร, คู่กับ อาณาจักร ซึ่งหมายความว่า อํานาจปกครองทางบ้านเมือง.

ศาสนธรรม
น. คำสั่งสอนในศาสนา เช่น ศาสนิกชนควรปฏิบัติตามศาสนธรรมในศาสนาของตน.

ศาสนบุคคล
น. นักบวชในศาสนา เช่น ภิกษุสามเณรเป็นศาสนบุคคลของพระพุทธศาสนา.

ศาสนพิธี
น. พิธีกรรมทางศาสนา เช่น พิธีทอดกฐิน พิธีอุปสมบท เป็นศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา.

ศาสนวัตถุ
น. วัตถุที่เกี่ยวเนื่องทางศาสนา มักเป็นสิ่งที่เคารพบูชาเช่น พระพุทธรูปเป็นศาสนวัตถุในพระพุทธศาสนา.

ศาสนศาสตร์
น. วิชาว่าด้วยศาสนาต่าง ๆ.

ศาสนสถาน
น. สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น โบสถ์วิหาร สถูป เจดีย์ เป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนา มัสยิดเป็นศาสนสถานทางศาสนาอิสลาม.

ศาสนสมบัติ
น. ทรัพย์สินของพระศาสนาทั้งที่เป็นสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ มี ๒ อย่าง คือ ศาสนสมบัติกลางและศาสนสมบัติของวัด.

ศาสนสมบัติกลาง
น. ทรัพย์สินของพระศาสนาโดยส่วนรวมส่วนใหญ่ได้แก่ ที่ดิน อาคาร และดอกผลที่เกิดขึ้นจากที่ดินและอาคารนั้น ๆ รวมทั้งที่ดินวัดร้างทั่วประเทศที่ทางการได้ประกาศยุบเลิกวัดแล้ว.

ศาสนสมบัติของวัด
น. ทรัพย์สินของวัดใดวัดหนึ่งรวมทั้งปูชนียสถานที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด เช่น พระปฐมเจดีย์เป็นศาสนสมบัติของวัดพระปฐมเจดีย์ พระธาตุพนมเป็นศาสนสมบัติของวัดธาตุพนม พระธาตุดอยสุเทพเป็นศาสนสมบัติของวัดพระธาตุดอยสุเทพ.

ศาสนิกชน
น. บุคคลที่นับถือศาสนา เช่น ศาสนิกชนของพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธศาสนิกชน ศาสนิกชนของคริสต์ศาสนา เรียกว่า คริสต์ศาสนิกชน.

ศาสนูปถัมภก
[สาสะนูปะถําพก, สาดสะนูปะถําพก] น. ผู้ทะนุบํารุงศาสนา, ถ้าใช้แก่พระมหากษัตริย์ เรียกว่า องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก. (ส. ศาสนูปสฺตมฺภก; ป. สาสนูปตฺถมฺภก).

ศาสน์
(โบ) น. คําสั่ง, คําสั่งสอน, โดยปริยายหมายถึง พระราชหัตถเลขาทางราชการและลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เช่น พระราชศาสน์สมณศาสน์. (ส.; ป. สาสน).

ศาสนิกชน
ดู ศาสน, ศาสนา.

ศาสนีย, ศาสนีย์
[สาสะนียะ, สาสะนี] ว. สมควรจะสั่งสอน. (ส.).

ศาสนีย, ศาสนีย์
[สาสะนียะ, สาสะนี] ว. สมควรจะสั่งสอน. (ส.).

ศาสนูปถัมภก
ดู ศาสน, ศาสนา.

ศิกษก, ศิกษกะ
[สิกสก, สิกสะกะ] น. ผู้เล่าเรียน; ครู, ผู้สอน; ผู้รู้. (ส.).

ศิกษก, ศิกษกะ
[สิกสก, สิกสะกะ] น. ผู้เล่าเรียน; ครู, ผู้สอน; ผู้รู้. (ส.).

ศิการ
ก. หาเนื้อหาปลา. (บ.).

ศิขร
[ขอน] น. ยอด, ยอดเขา, ภูเขา, ใช้ว่า ศิงขร หรือ ศีขร ก็มี. (ส.).

ศิขริน, ศิขรี
[สิขะ] น. ภูเขา. ว. มียอด, ใช้ว่า ศิงขริน หรือศิงขรี ก็มี. (ส. ศิขรินฺ).

ศิขริน, ศิขรี
[สิขะ] น. ภูเขา. ว. มียอด, ใช้ว่า ศิงขริน หรือศิงขรี ก็มี. (ส. ศิขรินฺ).

ศิขริน, ศิขรี
ดู ศิขร.

ศิขริน, ศิขรี
ดู ศิขร.

ศิขัณฑ์
น. จุกหรือแกละ; หงอน. (ส.).

ศิขา
น. จุก; หงอน; เปลวไฟ. (ส.; ป. สิข).

ศิคาล
น. หมาจิ้งจอก. (ส. ศฺฤคาล; ป. สิงฺคาล).

ศิงขร
น. ศิขร, ภูเขา. (ส. ศิขร).

ศิงขริน, ศิงขรี
น. ศิขริน, ภูเขา. ว. มียอด.

ศิงขริน, ศิงขรี
น. ศิขริน, ภูเขา. ว. มียอด.

ศิตะ
ว. คม. (ส.).

ศิถี
น. พวงดอกไม้, พวงมาลัย. (บ.).

ศิพิระ
น. ค่ายทหาร. (ส. ศิวิร ว่า ปะรํา, ค่าย).

ศิร, ศิระ
[สิระ] น. หัว, ยอด, ด้านหน้า. (ส. ศิรสฺ; ป. สิร).

ศิร, ศิระ
[สิระ] น. หัว, ยอด, ด้านหน้า. (ส. ศิรสฺ; ป. สิร).

ศิรประภา
น. รัศมีที่พวยพุ่งขึ้นจากศีรษะของผู้ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูป. (ส.; ป. สิรปภา).

ศิราภรณ์
(ราชา) น. เครื่องประดับศีรษะ เช่น พระมาลา มงกุฎกรอบหน้า ผ้าโพกหัว.

ศิโรรัตน์
น. เพชรประดับหัว. (ส.).

ศิโรเวฐน์
น. ผ้าโพก. (ส. ศิโรเวษฺฏ, ศิโรเวษฺฏน; ป. สิโรเว?น).

ศิรา
น. นํ้า, ลําธาร, คลอง, ท่อ. (เขียน สิลา ก็มี).

ศิราภรณ์
ดู ศิร, ศิระ.

ศิรามพุช
น. หัว. (เทียบ ส. ศิร = หัว + อมฺพุช = บัว, รวมความ = หัวต่างดอกบัว).

ศิโรรัตน์
ดู ศิร, ศิระ.

ศิโรราบ
ก. กราบกราน, ยอมอ่อนน้อม.

ศิโรเวฐน์
ดู ศิร, ศิระ.

ศิลป, ศิลป์ ๑, ศิลปะ
[สินละปะ, สิน, สินละปะ] น. ฝีมือ, ฝีมือทางการช่าง, การทำให้วิจิตรพิศดาร, เช่น เขาทำดอกไม้ประดิดประดอยอย่างมีศิลปะผู้หญิงสมัยนี้มีศิลปะในการแต่งตัว รูปสลักวีนัสเป็นรูปศิลป์;การแสดงออกซึ่งอารมณ์สะเทือนใจให้ประจักษ์ด้วยสื่อต่าง ๆอย่างเสียง เส้น สี ผิว รูปทรง เป็นต้น เช่น ศิลปะการดนตรี ศิลปะการวาดภาพ ศิลปะการละคร วิจิตรศิลป์. (ส. ศิลฺป; ป. สิปฺป ว่ามีฝีมืออย่างยอดเยี่ยม).

ศิลป, ศิลป์ ๑, ศิลปะ
[สินละปะ, สิน, สินละปะ] น. ฝีมือ, ฝีมือทางการช่าง, การทำให้วิจิตรพิศดาร, เช่น เขาทำดอกไม้ประดิดประดอยอย่างมีศิลปะผู้หญิงสมัยนี้มีศิลปะในการแต่งตัว รูปสลักวีนัสเป็นรูปศิลป์;การแสดงออกซึ่งอารมณ์สะเทือนใจให้ประจักษ์ด้วยสื่อต่าง ๆอย่างเสียง เส้น สี ผิว รูปทรง เป็นต้น เช่น ศิลปะการดนตรี ศิลปะการวาดภาพ ศิลปะการละคร วิจิตรศิลป์. (ส. ศิลฺป; ป. สิปฺป ว่ามีฝีมืออย่างยอดเยี่ยม).

ศิลป, ศิลป์ ๑, ศิลปะ
[สินละปะ, สิน, สินละปะ] น. ฝีมือ, ฝีมือทางการช่าง, การทำให้วิจิตรพิศดาร, เช่น เขาทำดอกไม้ประดิดประดอยอย่างมีศิลปะผู้หญิงสมัยนี้มีศิลปะในการแต่งตัว รูปสลักวีนัสเป็นรูปศิลป์;การแสดงออกซึ่งอารมณ์สะเทือนใจให้ประจักษ์ด้วยสื่อต่าง ๆอย่างเสียง เส้น สี ผิว รูปทรง เป็นต้น เช่น ศิลปะการดนตรี ศิลปะการวาดภาพ ศิลปะการละคร วิจิตรศิลป์. (ส. ศิลฺป; ป. สิปฺป ว่ามีฝีมืออย่างยอดเยี่ยม).

ศิลปกร, ศิลปการ ๑
น. นายช่างฝีมือ. (ส.).

ศิลปกร, ศิลปการ ๑
น. นายช่างฝีมือ. (ส.).

ศิลปกรรม
น. สิ่งที่เป็นศิลปะ, สิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นศิลปะ,เช่น งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรมจัดเป็นศิลปกรรม.

ศิลปการ ๒, ศิลปกิจ
น. การช่างฝีมือ.

ศิลปการ ๒, ศิลปกิจ
น. การช่างฝีมือ.

ศิลปธาตุ
น. สิ่งที่เป็นส่วนประกอบร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเฉพาะงานประเภททัศนศิลป์ ได้แก่ เส้น สี ผิว เป็นต้น.

ศิลปลักษณะ
น. คุณสมบัติของงานศิลปกรรมที่ปรากฏให้เห็นได้จากรูปวัตถุที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างมีระเบียบ มีความกลมกลืนและความเรียบง่าย.

ศิลปวัตถุ
น. วัตถุอันเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ที่ประกอบด้วยศิลปลักษณะ เช่น ภาพเขียน รูปปั้น เครื่องลายครามเครื่องถม; (กฎ) น. สิ่งที่ทำด้วยฝีมืออย่างประณีตและมีคุณค่าสูงในทางศิลปะ.

ศิลปวิทยา
น. ศิลปะและวิชาการ.

ศิลปศาสตร์
น. วิชาต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่วิชาทางเทคนิค หรือทางอาชีพ เช่น ภาษาศาสตร์ ปรัชญา ประวัติศาสตร์; ตำราว่าด้วยวิชาความรู้ต่าง ๆ ในสมัยก่อนพุทธกาล มี ๑๘ ประการ ได้แก่เ๑. สูติ วิชาฟังสียงคนเสียงสัตว์รู้ว่าดีหรือร้าย ๒. สัมมติ วิชาเข้าใจในกฎธรรมเนียม ๓. สังขยา วิชาคำนวณ ๔. โยคยันตร์วิชาการช่าง ๕. นีติ วิชาแบบแผนราชการ ๖. วิเสสิกา วิชาการค้า๗. คันธัพพา วิชานาฏศิลป์ ๘. คณิกาวิชากายบริหาร ๙.ธนุพเพธาวิชายิงธนู ๑๐. ปุราณา วิชาโบราณคดี ๑๑. ติกิจฉา วิชาการแพทย์๑๒. อิติหาสา วิชาตำนานหรือประวัติศาสตร์ ๑๓. โชติ วิชาดาราศาสตร์ ๑๔. มายา วิชาตำราพิชัยสงคราม ๑๕. ฉันทสาวิชาการประพันธ์ ๑๖. เกตุ วิชาพูด ๑๗. มันตา วิชาร่ายมนตร์๑๘. สัททา วิชาไวยากรณ์.

ศิลปศึกษา
น. วิชาว่าด้วยการเรียนการสอนศิลปะ เช่น ทฤษฎีศิลป์ประวัติศาสตร์ศิลป์.

ศิลปหัตถกรรม
น. ศิลปวัตถุที่เป็นผลงานประเภทศิลปะประยุกต์มีจุดประสงค์และความต้องการในด้านประโยชน์ใช้สอย เช่นงานโลหะ งานถักทอ งานเย็บปักถักร้อย.

ศิลปะปฏิบัติ
น. วิชาว่าด้วยการปฏิบัติทางศิลปะ เช่น วาดเขียนปั้นดิน จักสาน เย็บปักถักร้อย.

ศิลปะประยุกต์
น. กรรมวิธีในการนำทฤษฎีและหลักการทางศิลปะไปใช้ในภาคปฏิบัติเพื่อพัฒนาศิลปะให้มีความงามหรือเป็นประโยชน์แก่สังคมยิ่งขึ้นเป็นต้นอย่างในการออกแบบเครื่องแต่งกาย.

ศิลปะพื้นบ้าน
น. ศิลปะแขนงต่าง ๆ เช่น วรรณกรรมสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม นาฏศิลป์ หัตถกรรมที่ชาวบ้านได้สร้างสรรค์ขึ้นจากการเรียนรู้และฝึกปรือในครอบครัวหรือในหมู่บ้าน เป็นงานสร้างสรรค์ของสังคมชาวบ้าน และได้พัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องกันมาหลายชั่วคน.

ศิลปะสถาปัตยกรรม
น. ศิลปะลักษณะด้านสถาปัตยกรรมที่ปรากฏในอาคารที่ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม เช่นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม.

ศิลปิน, ศิลปี
[สินละ] น. ผู้มีความสามารถแสดงออกซึ่งคุณสมบัติทางศิลปะในด้านจิตรกรรมประติมากรรมเป็นต้น และมีผลงานเป็นที่ยอมรับนับถือจากสถาบันทางศิลปะแห่งชาติ.

ศิลปิน, ศิลปี
[สินละ] น. ผู้มีความสามารถแสดงออกซึ่งคุณสมบัติทางศิลปะในด้านจิตรกรรมประติมากรรมเป็นต้น และมีผลงานเป็นที่ยอมรับนับถือจากสถาบันทางศิลปะแห่งชาติ.

ศิลป์ ๒
[สิน] (กลอน) น. ศร เช่น งามเนตรดังเนตรมฤคมาศ งามขนงวงวาดดังคันศิลป์. (อิเหนา), พิศพักตร์ผ่องพักตร์ดั่งจันทร พิศขนงก่งงอนดั่งคันศิลป์. (รามเกียรติ์ ร. ๑).

ศิลปิน, ศิลปี
ดู ศิลป, ศิลป์ ๑, ศิลปะ.

ศิลปิน, ศิลปี
ดู ศิลป, ศิลป์ ๑, ศิลปะ.

ศิลา
น. หิน. (ส.; ป. สิลา).

ศิลาปากนก
น. หินเหล็กไฟที่ใช้ติดกับปลายเครื่องสับของปืนโบราณบางชนิดเพื่อสับแก๊ปปืนให้เกิดประกายไฟ, หินปากนกก็เรียก.

ศิลาฤกษ์
น. แผ่นหินที่จารึกดวงชะตาของสถานที่ที่จะก่อสร้างแล้ววางตามฤกษ์.

ศิลาแลง
น. หินชนิดหนึ่ง เมื่ออยู่ใต้ดินมีลักษณะอ่อน แต่ถูกลมแล้วแข็ง มีสีแดงอย่างอิฐเผา และเป็นรูพรุนเหมือนไม้เพรียงกิน,หินแลง ก็เรียก.

ศิลาอ่อน
น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเหนียวนวดปนกับแป้งถั่วเขียวเล็กน้อย ผสมน้ำเชื่อมกวนในกะทิข้น ๆ ให้สุกจนเหนียวตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วซอยเป็นต้น.

ศิว, ศิวะ
[สิวะ] น. พระอิศวร; พระนิพพาน. (ส.; ป. สิว).

ศิว, ศิวะ
[สิวะ] น. พระอิศวร; พระนิพพาน. (ส.; ป. สิว).

ศิวโมกข์
น. พระนิพพาน.

ศิวลึงค์
น. รูปนิมิตแทนองค์พระศิวะหรือพระอิศวร ทําเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ถือว่าเป็นวัตถุบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกไศวะ.

ศิวเวท
น. มนตร์สรรเสริญพระศิวะหรือพระอิศวร, ไสยศาสตร์.

ศิวาลัย
น. ที่ประทับของพระศิวะ; ที่อยู่อันเกษมสุข.

ศิศีระ
น. ฤดูหนาว; ความหนาว, ความเยือกเย็น. ว. เย็น, หนาว, เย็นเยือก.(ส. ศิศิร).

ศิศุ
น. เด็ก, เด็กแดง ๆ, เด็กเล็ก. (ส.).

ศิษฎิ
[สิดสะดิ] น. การสอน. (ส. ศิษฺฏิ ว่า การปกครอง, การลงโทษ).

ศิษฏ์
ว. ฝึกแล้ว, คงแก่เรียน, อบรมแล้ว, มีปัญญา, มีความรู้. (ส.).

ศิษย, ศิษย์
[สิดสะยะ, สิด] น. ผู้ศึกษาวิชาความรู้จากครูหรืออาจารย์, คู่กับครู หรืออาจารย์, ผู้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของอาจารย์ เช่น ศิษย์วัด,โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ศึกษาหาความรู้จากตำราของผู้ใดผู้หนึ่งแล้วนับถือผู้นั้นเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ของตน. (ส.).

ศิษย, ศิษย์
[สิดสะยะ, สิด] น. ผู้ศึกษาวิชาความรู้จากครูหรืออาจารย์, คู่กับครู หรืออาจารย์, ผู้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของอาจารย์ เช่น ศิษย์วัด,โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ศึกษาหาความรู้จากตำราของผู้ใดผู้หนึ่งแล้วนับถือผู้นั้นเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ของตน. (ส.).

ศิษย์ก้นกุฏิ
[กุติ] น. ศิษย์คนโปรดที่อยู่รับใช้ใกล้ชิดอาจารย์ที่กุฏิตลอดเวลาและเป็นผู้ที่อาจารย์ไว้วางใจมาก, โดยปริยายหมายถึงศิษย์คนโปรดของครูบาอาจารย์เพราะเคยรับใช้ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของครูบาอาจารย์ มักจะเรียนเก่งด้วย.

ศิษย์เก่า
น. ผู้ที่เคยศึกษาในสถาบันการศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งเช่น งานชุมนุมศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย.

ศิษย์คิดล้างครู
(สำ) น. ศิษย์เนรคุณที่มุ่งคิดจะทำลายล้างครูบาอาจารย์.

ศิษย์นอกครู
(สำ) น. ศิษย์ที่ประพฤติไม่ตรงตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ประพฤติไม่ตรงตามแบบฉบับที่นิยมกันมา.

ศิษย์มีครู
(สำ) น. คนเก่งที่มีครูเก่ง.

ศิษย์หัวแก้วหัวแหวน
น. ศิษย์ที่ครูบาอาจารย์รักใคร่เอ็นดูมาก.

ศิษย์เอก
น. ศิษย์ที่มีความรู้ความสามารถเป็นเลิศเหนือศิษย์ทั้งปวงหรือเหนือศิษย์แต่ละรุ่น.

ศิษยานุศิษย์
[สิดสะยานุสิด] น. ศิษย์น้อยใหญ่.

ศิษยานุศิษย์
ดู ศิษย, ศิษย์.

ศีขร
[สีขอน] น. ศิขร.

ศีขริน, ศีขรี
[สีขะ] น. ศิขริน, ศิขรี.

ศีขริน, ศีขรี
[สีขะ] น. ศิขริน, ศิขรี.

ศีขริน, ศีขรี
ดู ศีขร.

ศีขริน, ศีขรี
ดู ศีขร.

ศีต
[สีตะ] ว. หนาว, เย็น, เย็นเยือก. (ส.; ป. สีต).

ศีตกาล
น. ฤดูหนาว. (ส.; ป. สีตกาล).

ศีตละ
[สีตะละ] ว. หนาว, เย็น, เยือกเย็น. (ส.; ป. สีตล).

ศีรษะ
[สีสะ] น. หัว (เป็นคําสุภาพที่ใช้แก่คน). (ส.; ป. สีส).

ศีรษะกระบือ
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์วิศาขา มี ๕ ดวง, ดาวคันฉัตรหรือ ดาววิสาขะ ก็เรียก.

ศีรษะโค
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฤคศิระ มี ๓ ดวง, ดาวหัวเต่าดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะเนื้อ ดาวมฤคเศียร ดาวมฤคศิรัส ดาวมิคสิระหรือ ดาวอาครหายณี ก็เรียก.

ศีรษะช้าง
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์หัสตะ มี ๕ ดวง, ดาวศอกคู้ดาวหัสตะ หรือ ดาวหัฏฐะ ก็เรียก.

ศีรษะเนื้อ
น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฤคศิระ มี ๓ ดวง, ดาวหัวเต่าดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะโค ดาวมฤคเศียร ดาวมฤคศิรัส ดาวมิคสิระหรือดาวอาครหายณี ก็เรียก.

ศีล
[สีน] น. ข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนาที่กําหนดการปฏิบัติกายและวาจา เช่น ศีล ๕ ศีล ๘, การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, เป็นธรรมข้อ ๑ ในทศพิธราชธรรม; (ดู ทศพิธราชธรรม และ ราชธรรม);พิธีกรรมบางอย่างทางศาสนา เช่น ศีลจุ่ม ศีลมหาสนิท. (ส. ศีล ว่าความประพฤติที่ดี; ป. สีล).

ศีลจุ่ม
น. ศีลล้างบาป.

ศีลธรรม
[สีนทํา, สีนละทํา] น. ความประพฤติที่ดีที่ชอบ, ศีลและธรรม, ธรรมในระดับศีล.

ศีลมหาสนิท
น. พิธีดื่มเหล้าองุ่นแดงและกินขนมปังที่เสกแล้วซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแทนเลือดและเนื้อที่พระเยซูทรงเสียสละไถ่บาปให้มนุษย์และมีเลือดเนื้อเดียวกับพระองค์.

ศีลล้างบาป
น. พิธีจุ่มหัวหรือตัวลงในนํ้า หรือใช้นํ้าเสกพรมศีรษะเพื่อรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน, พิธีจุ่ม ก็เรียก, เดิมเรียกว่า ศีลจุ่ม.

ศีลวัต
[สีละวัด] ว. มีศีล, มีความประพฤติดี. (ส.).

ศีลอด
[สีน] น. การถือบวชของชาวมุสลิม ไม่ดื่มไม่กินอะไรเลยตลอดเวลากลางวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกในเดือนเราะมะฎอน อันเป็นเดือนที่ ๙ แห่งปีในศาสนาอิสลามนับแบบจันทรคติ.

ศึก
น. การใช้กําลังเข้าประหัตประหารกันอย่างรุนแรงระหว่างรัฐหรือประเทศตั้งแต่ ๒ รัฐ หรือ ๒ ประเทศขึ้นไป เช่น ศึกชายแดน,การต่อสู้กันระหว่างบุคคลกับบุคคลหรือระหว่างพวกหนึ่งกับอีกพวกหนึ่ง เช่น ศึกล้างบาง ศึกล้างโคตร, โดยปริยายหมายถึงการเกิดขัดแย้งต่อสู้เป็นปฏิปักษ์ขึ้นในใจ เช่น ศึกในอก.

ศึกชิงนาง
น. การต่อสู้กันเพื่อให้ได้หญิงมา เช่น ศึกชิงนางระหว่างอิเหนากับท้าวกะหมังกุหนิง.

ศึกสงคราม
น. สงคราม เช่น ประเทศเพื่อนบ้านเกิดศึกสงคราม.

ศึกเสือเหนือใต้
(สำ) น. สงคราม เช่น ฝึกทหารไว้ให้พร้อมรบยามมีศึกเสือเหนือใต้จะได้ป้องกันบ้านเมือง.

ศึกหน้านาง
(สํา) น. การวิวาทหรือต่อสู้กันต่อหน้าหญิงที่ตนหมายปอง.

ศึกษา
น. การเล่าเรียน ฝึกฝน และอบรม. (ส. ศิกฺษา; ป. สิกฺขา).

ศึกษาธิการ
น. เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมเกี่ยวกับการศึกษาระดับอำเภอ จังหวัด และเขตการศึกษา เรียกว่า ศึกษาธิการอำเภอศึกษาธิการจังหวัด ศึกษาธิการเขต, ชื่อกระทรวงที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา การศาสนา และการวัฒนธรรม.

ศึกษานิเทศก์
น. ผู้ชี้แจงแนะนําทางการศึกษาแก่ครูอาจารย์ในโรงเรียนหรือวิทยาลัย.

ศุกร, ศุกร์
[สุกกฺระ, สุก] น. ชื่อวันที่ ๖ ของสัปดาห์; ชื่อดาวเคราะห์ดวงที่ ๒ ในระบบสุริยะ อยู่ห่างดวงอาทิตย์ประมาณ ๑๐๘ ล้านกิโลเมตรมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒,๑๐๔ กิโลเมตร ไม่มีบริวาร เป็นดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศหนาทึบด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และไอของกรดกํามะถัน ปรากฏสว่างที่สุดบนฟ้า, ถ้าเห็นทางตะวันตกในเวลาหัวคํ่า เรียกว่า ดาวประจําเมือง, ถ้าเห็นทางตะวันออกในเวลาใกล้รุ่งเรียกว่า ดาวรุ่ง หรือ ดาวประกายพรึก.ว. สว่าง. (ส.).

ศุกร, ศุกร์
[สุกกฺระ, สุก] น. ชื่อวันที่ ๖ ของสัปดาห์; ชื่อดาวเคราะห์ดวงที่ ๒ ในระบบสุริยะ อยู่ห่างดวงอาทิตย์ประมาณ ๑๐๘ ล้านกิโลเมตรมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒,๑๐๔ กิโลเมตร ไม่มีบริวาร เป็นดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศหนาทึบด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และไอของกรดกํามะถัน ปรากฏสว่างที่สุดบนฟ้า, ถ้าเห็นทางตะวันตกในเวลาหัวคํ่า เรียกว่า ดาวประจําเมือง, ถ้าเห็นทางตะวันออกในเวลาใกล้รุ่งเรียกว่า ดาวรุ่ง หรือ ดาวประกายพรึก.ว. สว่าง. (ส.).

ศุกรวรรณ
[สุกกฺระวัน] ว. มีสีสด. (ส. ศุกฺรวรฺณ).

ศุกรวาร
น. วันศุกร์.

ศุกระ
(โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางวัน. (ดู ยาม).

ศุกล
[สุกกะละ] ว. สุกใส, สว่าง; ขาว, บริสุทธิ์. (ส. ศุกฺล, ศุกฺร;ป. สุกฺก).

ศุกลปักษ์
น. เวลาข้างขึ้น. (ส.).

ศุกลัม
[กฺลํา] น. เครื่องขาวแต่งศพ. (ส. ว่า สีขาว).

ศุกะ
น. นกแก้ว, นกแขกเต้า. (ส.).

ศุโกร
[สุกโกฺร] (โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางคืน. (ดู ยาม).

ศุจิ
น. ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. (ส.; ป. สุจิ).

ศุจิกรรม
น. การรักษาความบริสุทธิ์. (ส.; ป. สุจิกมฺม).

ศุทธะ, ศุทธิ
[สุดทะ, สุดทิ] น. ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. (ส.; ป. สุทฺธ, สุทฺธิ).

ศุทธะ, ศุทธิ
[สุดทะ, สุดทิ] น. ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. (ส.; ป. สุทฺธ, สุทฺธิ).

ศุนะ, ศุนัก, ศุนิ
น. หมา. (ส.; ป. สุนข).

ศุนะ, ศุนัก, ศุนิ
น. หมา. (ส.; ป. สุนข).

ศุนะ, ศุนัก, ศุนิ
น. หมา. (ส.; ป. สุนข).

ศุภ
[สุบพะ] น. ความงาม, ความดีงาม, ความเจริญ. (ส.; ป. สุภ).

ศุภกร
ว. ที่ทําความเจริญ, ที่เป็นมงคล. (ส.).

ศุภเคราะห์
น. คราวมงคล, คราวดี, ทางโหราศาสตร์หมายเอาดาวพระเคราะห์ที่ให้คุณคือ จันทร์ พุธ พฤหัสบดี ศุกร์. (ส.).

ศุภนิมิต
น. นิมิตดี, ลางดี.

ศุภมัสดุ
[มัดสะดุ] น. ขอความดีความงามจงมี, เป็นคําใช้ขึ้นต้นลงท้ายในประกาศที่เป็นแบบหรือข้อความที่สําคัญ เช่น ประกาศพระบรมราชโองการ.

ศุภมาตรา
น. ตําแหน่งข้าราชการหัวเมืองตําแหน่งหนึ่ง ในปัจจุบันหมายถึงผู้ช่วยสรรพากรจังหวัด.

ศุภมาส
น. วันคืนเดือนปี. (ส. ศุภมาส ว่า เดือนดีงาม).

ศุภอักษร
น. สาส์นของเจ้าประเทศราช.

ศุภางค์
ว. มีรูปงาม. (ส.).

ศุภร
[สุบพฺระ] ว. ส่องแสง, สว่าง; งาม, สดใส; ขาว, ผ่อง; บริสุทธิ์ไม่มีตําหนิ เช่น ศุภรทนต์ คือฟันงาม. (ส. ศุภฺร).

ศุภางค์
ดู ศุภ.

ศุลก
[สุนละกะ] ว. เนื่องด้วยการเก็บอากรจากสินค้าขาเข้าและขาออก.(ส. ศุลฺก; ป. สุงฺก).

ศุลกากร
[สุนละกากอน] (กฎ) น. อากรที่เรียกเก็บจากสินค้าเข้าและสินค้าออก ได้แก่ อากรขาเข้าและอากรขาออก.

ศุลการักษ์
[สุนละการัก] น. เจ้าหน้าที่รักษาศุลกากร.

ศุลกากร
ดู ศุลก.

ศุลการักษ์
ดู ศุลก.

ศุลี
น. พระอิศวร, ศูลิน ก็เรียก. (ส.).

ศุษิระ, ศุษิร
[สุสิน] น. เครื่องดนตรีที่ใช้เป่ามีขลุ่ย ปี่ เป็นต้น, เขียนเป็น สุษิรก็มี. (ส. ศุษิร, สุษิร).

ศุษิระ, ศุษิร
[สุสิน] น. เครื่องดนตรีที่ใช้เป่ามีขลุ่ย ปี่ เป็นต้น, เขียนเป็น สุษิรก็มี. (ส. ศุษิร, สุษิร).

ศูกร
[กอน] น. หมู. (ส.; ป. สูกร).

ศูทร
[สูด] น. วรรณะที่ ๔ ของสังคมฮินดู. (ส.; ป. สุทฺท).

ศูนย, ศูนย์
[สูนยะ, สูน] ว. ว่างเปล่า. ก. หายสิ้นไป. น. ตัวเลข ๐; จุดกลาง,ใจกลาง, แหล่งกลาง, แหล่งรวม, เช่น ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์หนังสือศูนย์รวมข่าว. (ส. ศูนฺย; ป. สุญฺ?).

ศูนย, ศูนย์
[สูนยะ, สูน] ว. ว่างเปล่า. ก. หายสิ้นไป. น. ตัวเลข ๐; จุดกลาง,ใจกลาง, แหล่งกลาง, แหล่งรวม, เช่น ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์หนังสือศูนย์รวมข่าว. (ส. ศูนฺย; ป. สุญฺ?).

ศูนย์กลาง
น. แหล่งกลาง เช่น กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการค้าขาย, ศูนย์ ก็ว่า.

ศูนย์การค้า
น. แหล่งรวมสินค้าเพื่อจำหน่าย มีร้านขายสินค้านานาชนิด มีสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่ผู้มาซื้อสินค้าเช่น ที่จอดรถ ร้านอาหาร.

ศูนย์ชุมชน
น. หน่วยงานถาวรที่เป็นศูนย์กลางในการวางแผนปฏิบัติงานและประสานงานบริการของหน่วยราชการและองค์การต่าง ๆ โดยประชาชนในท้องถิ่นนั้นจะเลือกคณะกรรมการขึ้นทําหน้าที่กําหนดนโยบายและบริหารงาน.

ศูนย์ถ่วง
น. จุดซึ่งถือว่าแนวน้ำหนักของวัตถุผ่านลงที่จุดนั้นเช่น ตุ๊กตาล้มลุกมีศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ.

ศูนย์บริการสาธารณสุข
น. สถานีอนามัยในเขตเมือง ได้แก่เขตเทศบาล สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร และที่ตั้งเป็นเมืองพิเศษ.

ศูนย์พ่าห์
(โหร) น. พระเคราะห์ที่นําหน้าลัคนา อยู่ในราศี ๒.

ศูนยภาพ
น. ความไม่มีอะไร, ความว่างเปล่า. (ส. ศูนฺยภาว).

ศูนย์เยาวชน
น. สถานที่ซึ่งจัดไว้ให้เยาวชนไปประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น ศูนย์เยาวชนไทยญี่ปุ่น ดินแดง.

ศูนยวาท
น. ปรัชญาฝ่ายมหายานที่ถือว่า (๑) โลกเป็นศูนยะ คือไม่ใช่สิ่งจริงแท้ถาวร (๒) นิพพานก็เป็นศูนยะ คือ ไม่มีวาทะหรือลัทธิใด ๆ สามารถบรรยายได้ถูกต้องครบถ้วน, มาธยมิกะก็เรียก. (ส.).

ศูนย์สัมบูรณ์
น. อุณหภูมิที่ตํ่าสุดตามทฤษฎี คือ อุณหภูมิศูนย์องศาเคลวิน (๐?K) หรือ ๒๗๓.๑๕?ซ. หรือ ๕๙.๖๗?ฟ.

ศูนย์สูตร
น. ชื่อเส้นสมมุติที่ลากรอบโลก แบ่งโลกออกเป็น๒ ซีก คือ ซีกโลกเหนือกับซีกโลกใต้ จุดทุกจุดบนเส้นศูนย์สูตรอยู่ห่างจากขั้วโลกทั้ง ๒ เท่ากัน.

ศูนย์ไส้
(โบ) น. จุดศูนย์กลาง เช่น คนมีศูนย์ไส้อยู่ที่สะดือ.

ศูนย์หน้า
น. ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งกลางของแถวหน้าในการเล่นฟุตบอลทำหน้าที่ยิงประตูเป็นสำคัญ บางครั้งอาจลงมาช่วยเซนเตอร์ฮาล์ฟซึ่งอยู่ในตำแหน่งกลางของแถวกลางและพาลูกขึ้นไปในแดนฝ่ายตรงข้ามด้วย.

ศูละ
น. หลาว, เหล็กแหลม. (ส.; ป. สูล).

ศูลิน
น. พระอิศวร, ศุลี ก็เรียก. (ส.).

ความคิดเห็น