จ
พยัญชนะตัวที่ ๘ เป็นตัวต้นวรรคที่ ๒ นับเป็นพวกอักษรกลาง ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่นกิจ วินิจฉัย ตํารวจ จอร์จ.
จก
ก. ฉก เช่น ระวังงูจะจกเอา, ล้วง เช่น รู้สึกเหมือนกับว่ามีมือใครมาจกกระเป๋า, ควัก เช่น น้องคงแอบมาจกเงินไป ๕๐๐ บาท, ขุด เช่น จกแรง ๆหน่อย ทำอย่างนี้พรุ่งนี้ก็ไม่ได้สักหลุม, คุ้ย, สับ เช่น เอาจอบจกลงไปตรงนั้นซิ; เอาตัวมา เช่น คุณต้องไปจกตัวเขามาให้ได้.
จง
เป็นคําช่วยกริยา บอกความบังคับ เช่น จงปฏิบัติตามระเบียบวินัย,หรือบอกความหวัง เช่น จงมีความสุขความเจริญ.
จงเกลียดจงชัง
ก. ผูกใจเกลียดชังอย่างยิ่ง.
จงใจ
ก. ตั้งใจ, หมายใจ, เจตนา.
จงดี
ว. ให้ดี, ให้เรียบร้อย.
จงรัก, จงรักภักดี
ก. ผูกใจรักด้วยความเคารพนับถือหรือรู้คุณอย่างยิ่ง.
จงรัก, จงรักภักดี
ก. ผูกใจรักด้วยความเคารพนับถือหรือรู้คุณอย่างยิ่ง.
จ่ง
(กลอน) ว. จง.
จ๋ง
(โบ) น. เรียกลูกชายคนที่ ๑๐ ว่า ลูกจ๋ง, คู่กับ ลูกหญิงคนที่ ๑๐ ว่าลูกอัง. (กฎ. ๒).
จงกรม
[-กฺรม] ก. เดินไปมาโดยมีสติกำกับอย่างพระเดินเจริญกรรมฐานเรียกว่า 'เดินจงกรม. (ส.; ป.จงฺกม).
จงกรมแก้ว
น. พระพุทธรูปปางหนึ่งยืนย่างพระบาทซ้าย พระหัตถ์ทั้ง ๒ ประสานพระเพลา มีเรือนแก้ว. (พุทธเจดีย์).
จงกล
[-กน] น. บัว, บัวสาย, เช่น อันประดับด้วยอรพินธุเนานึก บุณฑรึกจงกล.(ม. คำหลวง วนปเวสน์); สิ่งที่ทําให้มีรูปร่างคล้ายดอกบัวชนิดหนึ่งสําหรับเป็นส่วนประกอบเครื่องใช้ เครื่องประดับตกแต่งต่าง ๆ เช่นจงกลเชิงเทียน จงกลปลายพระทวย จงกลปิ่น จงกลดาวเพดาน;ก้านของพู่ที่ประดับหัวม้าติดอยู่กับขลุมทั้ง ๒ ข้าง ตั้งขึ้นไป.(รูปภาพ จงกล)
จงกลนี
[-กนละนี] น. บัว, บัวดอกคล้ายบัวขม มีเกสรซ้อนหลายชั้น แตกก้านต่อดอกแล้วมีดอกต่อกัน ๓ ดอกบ้าง ๔ ดอกบ้าง. (ทมิฬ เจ็ง ว่า แดงกาฬนีร ว่า บัว หมายความว่า บัวแดง). (พจน. ๒๔๙๓).
จงโคร่ง, โจงโคร่ง
[-โคฺร่ง] น. ชื่อสัตว์สี่เท้าสะเทินนํ้าสะเทินบกชนิด Bufo asper ในวงศ์Bufonidae เป็นสัตว์สกุลเดียวกับคางคก อาศัยในป่าบริเวณริมลําธารหรือน้ำตก, กระทาหอง กระหอง หรือ กง ก็เรียก.
จงอร
[-ออน] (แบบ) ก. จงทำให้ดีใจ, จงทำให้ปลาบปลื้ม, เช่น ใครรู้แห่งพระแพศยันดร บอกจงอรใจกู. (ม. คําหลวง ชูชก). (ข. อร ว่า ดีใจ,ปลาบปลื้ม).
จงอาง
น. ชื่องูพิษชนิด Ophiophagus hannah ในวงศ์ Elapidae เป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โตเต็มวัยยาวประมาณ ๔.๕ เมตร ตัวสีเขียวอมเทาหรือสีคลํ้า ชูคอแผ่แม่เบี้ยได้พบทั้งในป่าโปร่งและป่าทึบ,บองหลา ก็เรียก.
จแจ้น
(แบบ) ว. แตกจากหมู่, กระจัดกระจาย, ในคําว่า หนีญญ่ายพายจแจ้น.(จารึกสยาม).
จญ
(โบ; กลอน) ก. ประจญ, สู้รบ, เช่น คือนาคจญครุทธสรงง วิ่งเว้น.(ยวนพ่าย). (ข. ชล่).
จด ๑
ก. จ่อให้ถึงกัน, ถึง, จนถึง; แตะ.
จดจ้อง, จด ๆ จ้อง ๆ
ก. ตั้งท่าจะทําแล้วไม่ลงมือทําเพราะไม่แน่ใจ.
จดจ้อง, จด ๆ จ้อง ๆ
ก. ตั้งท่าจะทําแล้วไม่ลงมือทําเพราะไม่แน่ใจ.
จดจ้อง, จด ๆ จ้อง ๆ
ก. ตั้งท่าจะทําแล้วไม่ลงมือทําเพราะไม่แน่ใจ.
จดไม่ลง
(ปาก) ก. ไม่กล้าซื้อเพราะราคาแพงมาก.
จดหมัด
ก. ตั้งท่ามวย.
จด ๒
ก. กําหนด, หมายไว้, เขียนไว้.
จดจ่อ
ก. มีใจฝักใฝ่ผูกพันอยู่.
จดจำ
ก. กําหนดไว้ในใจ, จําไว้ในใจ.
จดทะเบียน
(กฎ) ก. ลงบันทึกข้อความไว้เป็นหลักฐานตามที่กฎหมายกําหนด เช่นจดทะเบียนรถยนต์ จดทะเบียนสมรส จดทะเบียนหุ้นส่วนและบริษัท.
จดหมาย
น. หนังสือที่มีไปมาถึงกัน.
จดหมายเวียน
น. (ปาก) หนังสือเวียน; หนังสือที่มีข้อความเหมือนกันส่งไปถึงคนจํานวนมาก.
จดหมายเหตุ
น. หนังสือบอกข่าวคราวที่เป็นไป, รายงานหรือบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆที่เกิดขึ้น, เอกสารที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ผลิตขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานและเครื่องมือในการปฏิบัติงาน.
จดุร-
[จะดุระ] (กลอน) แผลงมาจาก จตุร หมายความว่า สี่.
จดุรงค์
[จะดุรง] (แบบ) ว. องค์ ๔. (ป. จตุร + องฺค).
จดูร-
[จะดูระ-] ว. สี่ เช่น จดูรพรรค ว่า รวม ๔ อย่าง. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
จตุ-
[จะตุ-] ว. สี่, ใช้ประกอบหน้าคําที่มาจากภาษาบาลี. (ป.).
จตุกาลธาตุ
[-กาละทาด] น. ธาตุกาล ๔ คือ ว่านนํ้า เจตมูลเพลิง แคแตรพนมสวรรค์.
จตุทิพยคันธา
[-ทิบพะยะ-] น. กลิ่นทิพย์ ๔ ประการ คือ ดอกพิกุล ชะเอมเทศมะกลํ่าเครือ ขิงแครง.
จตุบท
น. สัตว์สี่เท้า. (ป.).
จตุบริษัท
น. บริษัท ๔ เหล่า, ถ้าเป็นพุทธบริษัท คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา,ถ้าเป็นราชบริษัทหรือประชุมชนทั่วไป ได้แก่ กษัตริย์ พราหมณ์ คฤหบดีสมณะ. (ป.).
จตุปัจจัย
[จะตุปัดไจ] น. เครื่องอาศัยเลี้ยงชีวิตของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา๔ อย่าง คือ จีวร (ผ้านุ่งห่ม) บิณฑบาต (อาหาร) เสนาสนะ (ที่อยู่)คิลานเภสัช (ยา). (ป.).
จตุปาริสุทธิศีล
[จะตุปาริสุดทิสีน] น. ศีลคือความบริสุทธิ์ หรือ ศีลคือเครื่องให้บริสุทธิ์ ๔ประการ คือ ๑. สํารวมในพระปาติโมกข์ (ปาติโมกฺขสํวร) ๒. สํารวมตาหู จมูก ลิ้น กาย ใจ (อินฺทฺริยสํวร) ๓. เลี้ยงชีพโดยทางชอบ (อาชีวปาริสุทฺธิ)๔. บริโภคปัจจัยด้วยการพิจารณา (ปจฺจยสนฺนิสฺสิต). (ป.).
จตุลังคบาท
[จะตุลังคะบาด] (โบ) น. เจ้ากรมพระตำรวจหลวงประจำ ๔ เท้าช้างทรงของพระมหากษัตริย์หรือพระมหาอุปราชในเวลาสงคราม เช่นจตุลังคบาทสี่ตน ล้วนขุนพลสามรรถ. (ตะเลงพ่าย), จัตุลังคบาท ก็ว่า.
จตุโลกบาล
[จะตุโลกกะบาน] น. ท้าวจาตุมหาราช, หัวหน้าเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช มีหน้าที่รักษาโลกในทิศทั้ง ๔ เรียกว่า ท้าวจตุโลกบาลคือ ๑. ท้าวธตรฐ จอมภูตหรือจอมคนธรรพ์ รักษาโลกด้านทิศบูรพาหรือทิศตะวันออก ๒. ท้าววิรุฬหก จอมเทวดาหรือจอมกุมภัณฑ์ รักษาโลกด้านทิศทักษิณหรือทิศใต้ ๓. ท้าววิรูปักษ์ จอมนาค รักษาโลกด้านทิศประจิมหรือทิศตะวันตก ๔. ท้าวกุเวร จอมยักษ์ รักษาโลกด้านทิศอุดรหรือทิศเหนือ, จัตุโลกบาล ก็ว่า.
จตุสดมภ์
น. วิธีจัดระเบียบราชการบริหารส่วนกลางในสมัยโบราณโดยตั้งกรมหรือกระทรวงใหญ่ขึ้น ๔ กรม คือ กรมเมือง กรมวัง กรมคลัง กรมนามีเสนาบดีเจ้ากระทรวงว่าการในแต่ละกรมนั้น รวมเรียกว่า จตุสดมภ์ซึ่งแปลว่าหลัก ๔. (ป. จตุ = สี่ + ส. สฺตมฺภ = หลัก หมายความว่า หลัก ๔).
จตุตถ-, จตุตถี
[จะตุดถะ-, -ตุดถี] ว. ที่ ๔ เช่นจตุตถจุลจอมเกล้า จตุตถสุรทิน จตุตถีดิถี. (ป.).
จตุตถ-, จตุตถี
[จะตุดถะ-, -ตุดถี] ว. ที่ ๔ เช่นจตุตถจุลจอมเกล้า จตุตถสุรทิน จตุตถีดิถี. (ป.).
จตุร-
[จะตุระ-] ว. สี่, ใช้ประกอบหน้าคําที่มาจากภาษาบาลีหรือสันสกฤต.(ส.; ป. จตุ).
จตุรคูณ
ว. ๔ เท่า.
จตุรงค์
ว. องค์ ๔, ๔ เหล่า. น. หมากรุก เช่น ต่งงกรดานจตุรงคมยง ม่ายม้า.(กำสรวล). (ป.; ส. จตุร + องฺค).
จตุรงคนายก
[จะตุรงคะ-] น. ชื่อกลอนกลบทโบราณ มีบังคับพิเศษคือ กลอนแต่ละวรรค แบ่งออกเป็น ๔ จังหวะ จังหวะละ ๒ คำ คำเริ่มต้นของทุกจังหวะใช้คำเดียวกันซ้ำตลอด คำที่ ๒ กับคำที่ ๔ ใช้เสียงพยัญชนะเดียวกันและคำที่ ๖ กับคำที่ ๘ ใช้เสียงพยัญชนะเดียวกัน ตัวอย่างว่า จักกรีดจักกรายจักย้ายจักย่อง ไม่เมินไม่มองไม่หมองไม่หมาง งามเนื้องามนิ่มงามยิ้มงามย่าง ดูคิ้วดูคางดูปรางดูปรุง. (ชุมนุมตำรากลอน).
จตุรงคประดับ
[จะตุรงคะ-] น. ชื่อกลอนกลบทโบราณ มีบังคับพิเศษคือ กลอน ๔ วรรคในแต่ละบทขึ้นต้นวรรคด้วยคำ ๒ คำซ้ำกัน ตัวอย่างว่า พระหน่อไทยได้สดับแสดงกิจพระหน่อคิดจิตวาบระหวาบหวาม พระหน่อตรึกนึกคะเนคะนึงความ พระหน่อนามแจ้ง กระจัดกระจ่างใจ. (ชุมนุมตำรากลอน).
จตุรงคพล
[จะตุรงคะ-] น. กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่ารถ เหล่าม้าเหล่าราบ; หมากรุก.
จตุรงคยมก
[จะตุรงคะยะมก] น. ชื่อกลอนกลบทโบราณ มีบังคับพิเศษคือ ทุก ๆ ๒บทให้ใช้ภาษาบาลีแต่งวรรคแรกทั้งวรรค และวรรคที่ ๒ เฉพาะจังหวะแรก ตัวอย่างว่า ภุมมาจายันตุเทวา ภุมมะจาเจ้าที่บดีสูร อารักษ์เรืองฤทธิ์เดชเกษสกูล อันเรืองรูญรังษีระวีวร. (ชุมนุมตำรากลอน).
จตุรงคโยธา
[จะตุรงคะ-] น. กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่ารถ เหล่าม้าเหล่าราบ. (ป., ส. จตุรงฺค + โยธา).
จตุรงคเสนา
[จะตุรงคะ-] น. กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่ารถ เหล่าม้าเหล่าราบ, จตุรงคินีเสนา ก็ว่า. (ป., ส. จตุรงฺค + เสนา).
จตุรงคินีเสนา
[จะตุรง-] น. กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่ารถ เหล่าม้าเหล่าราบ, จตุรงคเสนา ก็ว่า. (ป., ส. จตุรงฺคินี + เสนา).
จตุรพักตร์
ว. 'ผู้มี ๔ หน้า' คือ พระพรหม.
จตุรพิธ
ว. มี ๔ อย่าง.
จตุรพิธพร
[-พิดทะพอน] น. พร ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ, ใช้ในการให้พรขอให้มีอายุยืน มีผิวพรรณผ่องใส มีความสุขกายสุขใจและมีกําลังแข็งแรง.
จตุรภุช
[-พุด] ว. 'ผู้มี ๔ แขน' คือ พระนารายณ์.
จตุรภูมิ
[-พูม] น. ภูมิ ๔ คือ ๑. กามาวจรภูมิ ภูมิของผู้ท่องเที่ยวในกามภพ๒. รูปาวจรภูมิ ภูมิของผู้ท่องเที่ยวในรูปภพ ๓. อรูปาวจรภูมิ ภูมิของผู้ท่องเที่ยวในอรูปภพ ๔. โลกุตรภูมิภูมิอันพ้นจากโลก.
จตุรมุข
(กลอน) น. 'ผู้มี ๔ หน้า' คือ พระพรหม.
จตุรยุค
น. ยุคทั้ง ๔ คือ กฤดายุค ไตรดายุค ทวาบรยุค กลียุค.
จตุรเวท, จตุรเพท
[จะตุระเวด, จะตุระเพด] น. ชื่อคัมภีร์พระเวท ๔ คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ในยุคพระเวท คือ ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท และอถรรพเวทหรืออาถรรพเวท.(ดู เวท, เวท-).
จตุรเวท, จตุรเพท
[จะตุระเวด, จะตุระเพด] น. ชื่อคัมภีร์พระเวท ๔ คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ในยุคพระเวท คือ ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท และอถรรพเวทหรืออาถรรพเวท.(ดู เวท, เวท-).
จตุราริยสัจ
[จะตุราริยะสัด] น. อริยสัจ ๔ ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค.(ป. จตุร + อริยสจฺจ).
จตุรงค์
ดู จตุร-.
จตุรถ-
[จะตุระถะ-] ว. ที่ ๔ เช่น จตุรถาภรณ์. (ส.; ป. จตฺตถ).
จทึง
[จะทึง] น. แม่นํ้า, ใช้ว่า ฉทึง ชทึง ชรทึง สทิง สทึง หรือ สรทึง ก็มี.(ข. สฺทึง ว่า คลอง).
จน ๑
ว. อัตคัดขัดสน, ฝืดเคือง, มีเงินไม่พอยังชีพ. ก. แพ้ เช่น หมากรุกจน;หมดทาง เช่น จนใจ คือ ไม่มีทางที่จะทําได้อย่างคิด, จนตรอก คือ ไม่มีทางไป, จนแต้ม คือ ไม่มีทางเดินหรือไม่มีทางสู้, จนมุม คือ ไม่มีทางหนี.
จน ๒
สัน. ตราบเท่า เช่น จนตาย, จนกระทั่ง หรือ จนถึง ก็ว่า.
จนกระทั่ง, จนถึง
สัน. ตราบเท่า, ที่สุดถึง.
จนกระทั่ง, จนถึง
สัน. ตราบเท่า, ที่สุดถึง.
จนกว่า
สัน. กระทั่งถึงเวลานั้น ๆ เช่น จนกว่าจะตาย.
จนชั้น
สัน. ที่สุดแต่.
จนด้วยเกล้า
(ปาก) ก. หมดปัญญาคิด.
จนได้
ว. ในที่สุดก็เป็นเช่นนั้น เช่น ห้ามแล้วยังไปทำอีกจนได้.
จนแล้วจนรอด
ว. เป็นอยู่อย่างนั้นจนถึงบัดนี้.
จ้น
ว. ถี่ ๆ เช่น กินออกจ้นมิได้หยุดช่างสุดแสน. (นิ. ลอนดอน).
จบ ๑
น. การสิ้นสุดคราวหนึ่ง ๆ, ลักษณนามเรียกการสิ้นสุดเช่นนั้น เช่นสวดจบหนึ่ง ตั้งนโม ๓ จบ. ก. สิ้นสุดคราวหนึ่ง ๆ เช่น จบชั้นไหน.
จบเห่
(ปาก) ก. หมดเสียง; สิ้นท่า, หมดท่า; ยุติ.
จบ ๒
ก. ยกของขึ้นหรือพนมมือเหนือหน้าผากเพื่อตั้งใจอุทิศให้เวลาทำบุญทำทาน; กิริยาที่ช้างชูงวงขึ้นเหนือหัวทําความเคารพ ในคำว่า ช้างจบ.
จบ ๓
ก. ต่อกัน, พบกัน, เช่น จับปลายเชือก ๒ เส้นมาจบกัน.
จม
ก. หายลงไปหรืออยู่ใต้ผิวพื้น เช่น จมนํ้า จมดิน, โดยปริยายหมายความว่าเข้าลึก เช่น จมมีด จมเขี้ยว, หมกตัวหรือฝังตัวอยู่ เช่น จมอยู่ในห้องหนังสือจมเลือด, ถอนทุนไม่ขึ้น เช่น ทุนจม, ยุบตัวลง เช่น สะบักจม; เรียกลวดลายที่ไม่เด่นว่า ลายจม. (ปาก) ว. มาก เช่น วันนี้มีการบ้านจมเลย.
จมเบ้า
ว. อยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ.
จมปลัก
ก. ติดอยู่กับที่, ไม่ก้าวหน้า.
จมไม่ลง
(สํา) ก. เคยทําตัวใหญ่มาแล้วทําให้เล็กลงไม่ได้ (มักใช้แก่คนที่เคยมั่งมีหรือรุ่งเรืองมาก่อน เมื่อยากจนหรือตกอับลงก็ยังทําตัวเหมือนเดิม).
จ่ม
(ถิ่น-พายัพ, อีสาน) ก. บ่น. (จ่ม ไทยดำ ว่า บ่น).
จมร, จมรี
ดู จามรี.
จมร, จมรี
ดู จามรี.
จมูก
[จะหฺมูก] น. อวัยวะส่วนหนึ่งที่ยื่นออกมา อยู่เหนือปาก มีรู ๒ รู สําหรับดมกลิ่นและหายใจเข้าหายใจออก, (ปาก) ตมูก ก็ว่า, ราชาศัพท์ว่าพระนาสิก, โดยปริยายเรียกสิ่งที่ยื่นออกมาคล้ายจมูก, เรียกสิ่งที่เจาะเป็นรู ๒ รูเพื่อร้อยเชือกเป็นต้น เช่น จมูกซุง. (ข.จฺรมุะ).
จมูกข้าว
น. ส่วนปลายของเมล็ดข้าวที่ติดกับก้านดอก เป็นส่วนที่ต้นอ่อนงอก.
จมูกมด
(สํา) ว. ที่ไหวตัวหรือรู้ตัวทันเหตุการณ์, บางทีใช้เข้าคู่กับคํา หูผี เป็นหูผีจมูกมด.
จมูกวัว
น. ท่อที่ต่อจากสูบไปเป่าเปลวไฟไปท่วมเบ้า.
จมูกปลาหลด, จมูกปลาไหล
ดู กระพังโหม.
จมูกปลาหลด, จมูกปลาไหล
ดู กระพังโหม.
จมูกหลอด
ดู ตะพาบ, ตะพาบนํ้า.
จยุติ
[จะยุดติ] (กลอน) ก. จุติ. (ส.).
จร ๑, จร-
[จอน, จอระ-, จะระ-] ว. ไม่ใช่ประจํา เช่น คนจร รถจร, แทรกแปลกเข้ามาเช่น โรคจร ลมจร. ก. ไป, เที่ยวไป; ประพฤติ. (ป., ส.), ใช้เป็นบทท้ายสมาสก็มี เช่น ขจร = เที่ยวไปในอากาศ, วนจร = เที่ยวไปในป่า, ที่ใช้ควบกับคําไทยก็มี.
จร ๑, จร-
[จอน, จอระ-, จะระ-] ว. ไม่ใช่ประจํา เช่น คนจร รถจร, แทรกแปลกเข้ามาเช่น โรคจร ลมจร. ก. ไป, เที่ยวไป; ประพฤติ. (ป., ส.), ใช้เป็นบทท้ายสมาสก็มี เช่น ขจร = เที่ยวไปในอากาศ, วนจร = เที่ยวไปในป่า, ที่ใช้ควบกับคําไทยก็มี.
จรกลู่
[จอระกฺลู่] (กลอน) ก. เที่ยวลอยเกลื่อนกลาดอยู่ เช่น จรกลู่ขึ้นกลางโพยมากาศ. (ม. คําหลวง ทศพร).
จรจรัล
[จอระจะรัน, จอนจะรัน] (กลอน) ก. เที่ยวไป, เดินไป, เช่น แม่รักลูกรักจรจรัล พลายพังก็กระสัน. (ดุษฎีสังเวย).
จรจัด
[จอน-] ว. ร่อนเร่และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง.
จรดล
[จอระดน] (กลอน) ก. เที่ยวไปถึง. (ป. จร + ตล = พื้น; ข. ฎล = ถึง).
จรบน, จรบัน
[จะระ-] (กลอน) ก. เที่ยวไปเบื้องบน, ฟุ้งไป, บินไป, เช่น ด้วยคันธามลกชําระจรบันสระหอมรส. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
จรบน, จรบัน
[จะระ-] (กลอน) ก. เที่ยวไปเบื้องบน, ฟุ้งไป, บินไป, เช่น ด้วยคันธามลกชําระจรบันสระหอมรส. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
จรบาท
[จอระ-] (กลอน) ก. เดินไปด้วยเท้า, ตรงกับคําว่า บทจร.
จรมัน
[จอระ-] (กลอน) ก. ทําให้มั่น, ทําให้แข็งแรง.
จรลวง, จรล่วง
[จอระ-] (กลอน) ก. ล่วงไป, ลับไป.
จรลวง, จรล่วง
[จอระ-] (กลอน) ก. ล่วงไป, ลับไป.
จรลาย
[จอระ-] (กลอน) ก. ละลายไป, หายไป.
จรล่ำ, จรหล่ำ
[จอระหฺล่ำ] (กลอน) ก. เที่ยวไปนาน, ไปช้า, เช่น ในเมื่อชีชูชกเถ้ามหลกอการไปแวนนานจรล่ำแล. (ม. คำหลวง ชูชก), เท่าว่าทางไกลจรล่ำ วันนี้ค่ำสองนางเมือ. (ลอ.), คิดใดคืนมาค่ำ อยู่จรหล่ำต่อกลางคืน. (ม. คำหลวง มัทรี).
จรล่ำ, จรหล่ำ
[จอระหฺล่ำ] (กลอน) ก. เที่ยวไปนาน, ไปช้า, เช่น ในเมื่อชีชูชกเถ้ามหลกอการไปแวนนานจรล่ำแล. (ม. คำหลวง ชูชก), เท่าว่าทางไกลจรล่ำ วันนี้ค่ำสองนางเมือ. (ลอ.), คิดใดคืนมาค่ำ อยู่จรหล่ำต่อกลางคืน. (ม. คำหลวง มัทรี).
จรลิ่ว
[จอระ-] (กลอน) ก. เที่ยวไปไกล, ลอยไป, เช่น เหลียวแลทางจรลิ่วเหลียวแลทิวเทินป่า. (ลอ).
จรลี
[จอระ-] (กลอน) ก. เดินเยื้องกราย.
จรลู่
[จอระ-] (กลอน) ก. เที่ยวไปตามทาง, เที่ยวกลิ้งอยู่, เที่ยวกองอยู่.
จร ๒
[จอน] ดู จอน ๒.
จรก
[จะรก] น. ผู้เที่ยวไป, ผู้เดินไป. (ป., ส.).
จรแกว่ง
[จะระแกฺว่ง] (กลอน) ก. แกว่ง.
จรคั่ง
[จะระ-] (กลอน) ก. คั่ง.
จรณะ
[จะระ-] น. ความประพฤติ, ในพระพุทธศาสนาหมายความว่าข้อปฏิบัติเป็นเครื่องบรรลุวิชชา. (ป.).
จรด
[จะหฺรด] (โบ; แบบ) ก. จด, ถึง, จ่อให้ถึง.
จรดพระกรรไกรกรรบิด, จรดพระกรรไตรกรรบิด
(ราชา) ก. ใช้กรรไตรและมีดโกนขริบและโกนผมเล็กน้อย เป็นการเริ่มในพระราชพิธีโสกันต์และเกศากันต์.
จรดพระกรรไกรกรรบิด, จรดพระกรรไตรกรรบิด
(ราชา) ก. ใช้กรรไตรและมีดโกนขริบและโกนผมเล็กน้อย เป็นการเริ่มในพระราชพิธีโสกันต์และเกศากันต์.
จรดพระนังคัล
ก. จดไถลงดินเพื่อไถนาในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ.
จรมูก
[จะระหฺมูก] (กลอน) น. จมูก. (ข. จฺรมุะ).
จรรจา
[จัน-] (กลอน) ก. พูด, กล่าว, เช่น อันว่าคนจรรจาลิ้นล่าย กล่าวสองฝ่ายให้ดูดี. (ม. คำหลวงกุมาร). (ส. จฺรจา).
จรรโจษ
[จันโจด] ก. โจษจัน, พูดอึง, พูดกันเซ็งแซ่, เล่าลือกันอื้ออึง, เช่นจรรโจษประชามี พลพิรียชาญชม. (สมุทรโฆษ), จันโจษ ก็ว่า.
จรรม, จรรม-
[จํา, จํามะ-] (แบบ) น. หนังสัตว์. (ส. จรฺมนฺ; ป. จมฺม).
จรรม, จรรม-
[จํา, จํามะ-] (แบบ) น. หนังสัตว์. (ส. จรฺมนฺ; ป. จมฺม).
จรรมการ
น. ช่างหนัง. (ส.; ป. จมฺมการ).
จรรมขัณฑ์
น. ท่อนหนัง, แผ่นหนัง, เช่น ทรงครองอชินจรรมขัณฑ์เป็นเครื่องคลุม.(ม. ร่ายยาว จุลพน). (ส.; ป. จมฺม + ขณฺฑ).
จรรยา
[จัน-] น. ความประพฤติ, กิริยาที่ควรประพฤติในหมู่ในคณะ เช่นจรรยาแพทย์, นิยมใช้ในทางดี เช่น มีจรรยา หมายความว่า มีความประพฤติที่ดี. (ส. จรฺยา; ป. จริยา).
จรรยาบรรณ
[จันยาบัน] น. ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกําหนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้.
จรรโลง
[จัน-] (แบบ) ก. พยุงไว้ไม่ให้เซหรือไม่ให้ล้มลง, ผดุง, ค้ำชู, เช่น จรรโลงประเทศ, บำรุงรักษาและเชิดชูไว้ไม่ให้เสื่อม เช่น จรรโลงศาสนา.
จรลาด, จรหลาด
[จะระหฺลาด] (กลอน) น. ตลาด, ที่ชุมนุมซื้อขายของต่าง ๆ, เช่นจบจรลาดแลทาง ทั่วด้าว. (นิ. นรินทร์), จรหลาดเลขคนหนาฝ่งงเฝ้า. (กำสรวล).
จรลาด, จรหลาด
[จะระหฺลาด] (กลอน) น. ตลาด, ที่ชุมนุมซื้อขายของต่าง ๆ, เช่นจบจรลาดแลทาง ทั่วด้าว. (นิ. นรินทร์), จรหลาดเลขคนหนาฝ่งงเฝ้า. (กำสรวล).
จรวจ
[จฺรวด] (แบบ) ก. กรวด, หลั่งน้ำ. (เทียบ ข. จฺรวจทึก ว่า กรวดนํ้า).
จรวด ๑
[จะหฺรวด] น. ชื่อดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง ใช้ไม้อ้อบรรจุดินดำ มีหางยาว เมื่อจุดชนวนแล้วเหวี่ยงให้พุ่งขึ้นสูง, กรวด ก็เรียก. (ข. กําชฺรัวจ ว่า พลุ). ว. สูงชัน, ใช้ว่า กรวด ก็มี.
จรวด ๒
[จะหฺรวด] น. อาวุธหรือยานอวกาศที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงมากโดยใช้เชื้อเพลิงในตัวเองเผาไหม้เป็นแก๊สพุ่งออกมาจากส่วนท้าย มีทั้งชนิดที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งและชนิดที่ใช้เชื้อเพลิงเหลว. (อ. rocket).
จรวดนำวิถี
น. อาวุธปล่อยนําวิถีซึ่งขับเคลื่อนด้วยจรวด. (อ. guided rocket).
จรวดจรี
[จฺรวดจะรี] (แบบ) น. ยอดแหลมสูง.
จรวดไจร
[จะหฺรวดจะไร] (แบบ) ก. ตรวจดู, พิจารณาดู, เช่น ทังทุ่มทู้ต่างย้างจรวจไจร. (ยวนพ่าย).
จรวัก
[จะระหฺวัก] (กลอน) น. ตวัก.
จรส
[จะหฺรด] ว. จรัส, แจ่มแจ้ง, รุ่งเรือง, สว่าง, เช่น เหลืองจรุลจรสรจนา.(ม. คําหลวง ทานกัณฑ์).
จรอก ๑
[จะหฺรอก] (กลอน) น. ทาง, ทางแคบ, ทางเล็ก, ตรอก, ซอก, เช่น มาคะคล้ายโดยทาง ถับถึงกลางจรอกปู่. (ลอ), บ้างก็นั่งในท่าน้ำบ้างก็ค้ำกันไปนั่งในจรอก. (ม. คำหลวง ชูชก). (ข. จฺรก).
จรอก ๒
[จะหฺรอก] (กลอน) น. จอก, ขันเล็ก ๆ ที่ใช้ตักนํ้าจากขันใหญ่, เช่นจับจรอก คันธรสจุณจันทน์. (สุธนู).
จระกล้าย
[จะระ-] (กลอน) ก. วางเฉย, อยู่เฉย, ไม่รู้สึกยินดียินร้าย, โบราณเขียนเป็น จรกล้าย ก็มี เช่น เออาศนไอสูรยเสีย จรกล้าย. (ยวนพ่าย), แล้วก็น่งงเยียม่งง ช่งงอยู่จรกล้าย ว่าเถ้าร้ายฤๅจะรู้กล. (ม. คำหลวง กุมาร).
จระขาบ
[จะระ-] (กลอน) น. ตะขาบ, ใช้ว่า จะขาบ ก็มี.
จระเข้
[จอระ-] น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ในวงศ์ Crocodylidae อาศัยบริเวณป่าริมนํ้า หนังเป็นเกล็ดแข็ง ปากยาวและปลายปากนูนสูงขึ้นเป็นช่องเปิดของรูจมูก เรียกว่า ก้อนขี้หมา หางแบนยาวใช้โบกว่ายนํ้ามักหากินในนํ้า ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ จระเข้บึง จระเข้นํ้าจืด หรือจระเข้สยาม(Crocodylus siamensis) จระเข้อ้ายเคี่ยม หรือ จระเข้นํ้าเค็ม(C. porosus) และ จระเข้ปากกระทุงเหว หรือ ตะโขง (Tomistoma schlegelii),ตะเข้ หรือ อ้ายเข้ ก็เรียก, อีสานเรียก แข้, ปักษ์ใต้ เรียก เข้; ชื่อดาวฤกษ์กลุ่มหนึ่ง; เรียกธงผืนผ้ามีรูปจระเข้ตรงกลาง มักปักไว้ที่ท่านํ้าหน้าวัดแสดงว่าทอดกฐินแล้ว ว่า ธงจระเข้.
จระเข้ขวางคลอง
(สำ) น. ผู้ที่ชอบกันท่าหรือขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้สะดวก เหมือนจระเข้ที่ขึ้นมาขวางคลองทำให้เรือผ่านไปมาไม่สะดวก.
จระเข้คับคลอง
(สำ) น. ผู้ที่ชอบวางตัวใหญ่โตเกินไปย่อมมีอุปสรรคในการดำรงตนในสังคม.
จระเข้ปากกระทุงเหว
ดู ตะโขง.
จระเข้หางยาว
น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.
จระคลับ
[จะระคฺลับ] (กลอน) ว. มืด, ครึ้ม.
จระคล้าย
[จะระคฺล้าย] (กลอน) ก. ใกล้กราย, อยู่ใกล้, โบราณเขียนเป็น จรคล้ายก็มี, เช่น โหยบเหนสายใจ จรคล้าย. (กำสรวล).
จระคลุ่ม
[จะระคฺลุ่ม] (กลอน) ว. มืดมัว, คลุ้ม.
จระแคง
[จะระ-] (กลอน) ว. ตะแคง เช่น เท้าล้มจระแคง ทลายพุงพัง. (สุธนู).
จระจุ่ม
[จะระ-] (กลอน) ก. ใส่, เผา, ทิ้ง, โยน.
จระทก, จระเทิน
[จะระทก, -เทิน] (กลอน) ก. สะทก, สะเทิน, งกเงิ่น; จับจด, โบราณเขียนเป็น จรเทิน ก็มี เช่น อ้าแม่อย่าจองจิตรจรเทิน ศุขเพลินภิรมย์สม.(ดุษฎีสังเวย).
จระทก, จระเทิน
[จะระทก, -เทิน] (กลอน) ก. สะทก, สะเทิน, งกเงิ่น; จับจด, โบราณเขียนเป็น จรเทิน ก็มี เช่น อ้าแม่อย่าจองจิตรจรเทิน ศุขเพลินภิรมย์สม.(ดุษฎีสังเวย).
จระนำ
[จะระ-] น. ซุ้มคูหาท้ายวิหารหรือท้ายโบสถ์มักเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป เรียกว่า ซุ้มจระนํา. (ทมิฬ จาฬรัม ว่า หน้าต่าง).
จระบาน
[จะระ-] (กลอน) ก. สู้รบ.
จระบี
[จะระ-] น. จาระบี.
จระลิ่ง, จระลึง
[จะระ-] (กลอน) ก. ตะลึง เช่น จระลิ่งทางทิพห้อง แห่งองค์. (ทวาทศมาส).
จระลิ่ง, จระลึง
[จะระ-] (กลอน) ก. ตะลึง เช่น จระลิ่งทางทิพห้อง แห่งองค์. (ทวาทศมาส).
จระลุง, จะลุง
[จะระ-] (กลอน) น. เสาตะลุง, โบราณเขียนเป็น จรลุง หรือ จลุง ก็มีเช่น แท่นที่สถิตย์ จรลุงโสภิต พื้นฉลักฉลุทอง. (ดุษฎีสังเวย), จลุงอาศน์เบญพาศเกลี้ยงเกลา พเนกพนักน่าเนา จะนอนก็ศุขสบไถง.(ดุษฎีสังเวย).
จระลุง, จะลุง
[จะระ-] (กลอน) น. เสาตะลุง, โบราณเขียนเป็น จรลุง หรือ จลุง ก็มีเช่น แท่นที่สถิตย์ จรลุงโสภิต พื้นฉลักฉลุทอง. (ดุษฎีสังเวย), จลุงอาศน์เบญพาศเกลี้ยงเกลา พเนกพนักน่าเนา จะนอนก็ศุขสบไถง.(ดุษฎีสังเวย).
จรัล
[จะรัน] (กลอน) ก. เดิน เช่น แปดโสตรสี่ภักตร์ทรงพา หนหงษ์เหินคลาวิหาศจรัลผันผาย. (ดุษฎีสังเวย).
จรัส
[จะหฺรัด] (แบบ) ว. แจ่มแจ้ง, รุ่งเรือง, สว่าง.
จราก
[จะหฺราก] (กลอน) ก. ตรากตรำ, ทําให้ลําบาก, เช่น คล้องติดคชคลอคชทังป่าขับจากขัง แลเข้าจรลุงจรากจอง. (สมุทรโฆษ).
จราง
[จะราง] (แบบ) ก. ผุดขึ้น เช่น ลางส่ำจรางมันผัน ม่ายม้า. (ยวนพ่าย).(ข. จฺรางว่า ตั้งขึ้น, ขนชัน).
จราจร
[จะราจอน] น. การที่ยวดยานพาหนะ คน หรือ สัตว์พาหนะเคลื่อนไปมาตามทาง, เรียกผู้มีหน้าที่เกี่ยวด้วยการนั้น; (กฎ) การใช้ทางของผู้ขับขี่คนเดินเท้า หรือคนที่จูง ขี่ หรือไล่ต้อนสัตว์.
จราญ
[จะราน] (กลอน) ก. ผลัก, พัง, ทําลาย, กระจาย, ดับ. (ข. จฺราน ว่า ผลัก).
จราย
[จะ-] (กลอน) ก. ทําลาย, กระจาย.
จราว ๑
[จะ-] น. ตะพาบนํ้า เช่น จริวจราวจรัลชลจรมกรกรรกฏกูรม์. (สมุทรโฆษ).
จราว ๒
[จะ-] (กลอน) น. ดอกไม้ เช่น แคแจรเจรอญจราว. (ม. คําหลวง จุลพน).(แผลงมาจาก จาว). (ดู จาว ๔).
จราส
[จะหฺราด] ว. ตลอดตัว เช่น แถวจราสศุภลักษณ์. (ลอ). (ข. จราส ว่าทวนจากล่างไปบน).
จริก ๑
[จะหฺริก] (กลอน) ก. เอาปากสับและงับอย่างอาการนกสับ, กดลง.(แผลงมาจาก จิก).
จริก ๒
[จะหฺริก] (กลอน) น. ต้นจิก เช่น จริกโจรตพยงผกากรรณก็มี.(ม. คําหลวง มหาพน).
จริง, จริง ๆ
[จิง] ว. แน่ เช่น ทําจริง ชอบจริง ๆ; แท้, ไม่ปลอม, เช่น ของจริงไม่ใช่ของเทียม; เป็นอย่างนั้นแน่แท้ ไม่กลับเป็นอย่างอื่น เช่น ข้อนี้เป็นความจริง,ไม่เท็จ, ไม่โกหก, ไม่หลอกลวง, เช่น เรื่องจริง พูดจริง, เป็นไปตามนั้นเช่น ความฝันกลายเป็นความจริง.
จริง, จริง ๆ
[จิง] ว. แน่ เช่น ทําจริง ชอบจริง ๆ; แท้, ไม่ปลอม, เช่น ของจริงไม่ใช่ของเทียม; เป็นอย่างนั้นแน่แท้ ไม่กลับเป็นอย่างอื่น เช่น ข้อนี้เป็นความจริง,ไม่เท็จ, ไม่โกหก, ไม่หลอกลวง, เช่น เรื่องจริง พูดจริง, เป็นไปตามนั้นเช่น ความฝันกลายเป็นความจริง.
จริงจัง
ว. แน่แท้ เช่น เชื่อถืออย่างจริงจัง, ไม่เป็นการเล่น เช่น ทํางานอย่างจริงจัง.
จริงใจ
ว. บริสุทธิ์ใจ, สุจริตใจ.
จริงอยู่แต่, จริงอยู่...แต่
สัน. ใช้แสดงความยืนยันข้อความที่กล่าวมาแล้วข้างหน้าและแสดงว่ามีข้อความขัดแย้งตามมาข้างหลัง.
จริงอยู่แต่, จริงอยู่...แต่
สัน. ใช้แสดงความยืนยันข้อความที่กล่าวมาแล้วข้างหน้าและแสดงว่ามีข้อความขัดแย้งตามมาข้างหลัง.
จริต
[จะหฺริด] น. ความประพฤติ, กิริยาหรืออาการ, เช่น พุทธจริต เสียจริตวิกลจริต, บางทีใช้ในทางไม่ดี เช่น ดัดจริต มีจริต, จริตจะก้าน ก็ว่า. (ป.).
จริม-
[จะริมะ-] ว. สุดท้าย เช่น จริมจิต ว่า จิตดวงสุดท้าย. (ป.).
จริย-
[จะริยะ-] น. ความประพฤติ, กิริยาที่ควรประพฤติ, ใช้ในคำสมาสเช่น จริยศึกษา. (ป.).
จริยธรรม
น. ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ, ศีลธรรม, กฎศีลธรรม.
จริยวัตร, จริยาวัตร
น. หน้าที่ที่พึงประพฤติปฏิบัติ; ความประพฤติ ท่วงทีวาจา และกิริยามารยาท.
จริยวัตร, จริยาวัตร
น. หน้าที่ที่พึงประพฤติปฏิบัติ; ความประพฤติ ท่วงทีวาจา และกิริยามารยาท.
จริยศาสตร์
น. ปรัชญาสาขาหนึ่งว่าด้วยการแสวงหาความดีสูงสุดของชีวิตมนุษย์แสวงหาเกณฑ์ในการตัดสินความประพฤติของมนุษย์ว่าอย่างไหนถูกไม่ถูก ดีไม่ดีควรไม่ควร และพิจารณาปัญหาเรื่องสถานภาพของค่าทางศีลธรรม. (อ. ethics).
จริยศึกษา
น. การศึกษาเกี่ยวกับความเจริญงอกงามในทางความประพฤติและการปฏิบัติตน เพื่อให้อยู่ในแนวทางของศีลธรรมและวัฒนธรรม.(อ. moral education).
จริยา
[จะ-] น. ความประพฤติ, กิริยาที่ควรประพฤติ, ใช้ในคําสมาส เช่นธรรมจริยา.
จริยาปิฎก
น. ชื่อคัมภีร์ที่ว่าด้วยการบําเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าในชาติที่ล่วงแล้วรวมอยู่ในขุทกนิกายแห่งสุตตันตปิฎก.
จริว ๑
[จะ-] น. เต่า; ตะพาบนํ้า; เช่น จริวจราวจรัลชลจรมกรกรรกฏกูรม์(สมุทรโฆษ); กริว หรือ ตริว ก็ว่า.
จริว ๒
[จะ-] (กลอน) ว. เกรียว.
จรี
[จะ-] (กลอน) น. มีด, หอก, ดาบ, เช่น บัดออกกลางสนามสองราสองแขงขันหาก็กุมจรีแกว่งไกว. (สมุทรโฆษ). (ข.).
จรึง
[จะ-] (กลอน) ก. กรึง, ตรึง, เช่น เทียบที่ถมอก่อภูเพียง บรรพตจรึงเรียง.(ดุษฎีสังเวย).
จรุก
[จะหฺรุก] (แบบ) น. หมู. (จินดามณี). (ข. ชฺรูก).
จรุง, จรูง
[จะรุง, จะรูง] (กลอน) ก. จูง, ชักชวน, เช่น ปลดยากพรากทุกข์ยุคเขินจรุงราษฎร์ดำเนินสู่ศุขสวัสดีโดยไว. (ดุษฎีสังเวย); ยั่ว เช่น จรุงใจ; กรุ่น,อบอวล, ชื่น, เช่น จรุงกลิ่นแก้มน้องแก้ว ไป่วาย. (กำสรวล).
จรุง, จรูง
[จะรุง, จะรูง] (กลอน) ก. จูง, ชักชวน, เช่น ปลดยากพรากทุกข์ยุคเขินจรุงราษฎร์ดำเนินสู่ศุขสวัสดีโดยไว. (ดุษฎีสังเวย); ยั่ว เช่น จรุงใจ; กรุ่น,อบอวล, ชื่น, เช่น จรุงกลิ่นแก้มน้องแก้ว ไป่วาย. (กำสรวล).
จรูญ
[จะรูน] (กลอน) ว. รุ่งเรือง, งาม.
จรูส
[จะหฺรูด] (แบบ) ว. สูง, กรวด, จรวด.
จเร
[จะ-] น. ผู้ดูแลทั่ว ๆ ไป, ผู้ตรวจตราทั่ว ๆ ไป, เช่น จเรตำรวจ จเรทหาร. ก. ตระเวนไป.
จล
[จน] ก. ไหว, สั่น, เช่น จลวิจล. (ป.).
จลนพลศาสตร์
[จะละนะพนละ-, จนละนะพนละ-] น. สาขาหนึ่งของพลศาสตร์ ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุที่เป็นของแข็ง และแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่นั้นด้วย. (อ. kinetics).
จลนศาสตร์
[จะละนะ-, จนละนะ-] น. สาขาหนึ่งของพลศาสตร์ ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุที่เป็นของแข็ง โดยไม่คํานึงถึงแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่นั้น.(อ. kinematics).
จลนี ๑
[จะ-] (กลอน) น. เนื้อสมัน. (ป.).
จลนี ๒
[จะ-] (กลอน) น. ชะนี เช่น จลนีหวนโหนปลายทูม. (ม. คําหลวงทานกัณฑ์). (ป.).
จลา
[จะ-] (แบบ) น. ธูป, ของหอม; แสงสว่าง, ฟ้าแลบ, เช่น จลาจเลนทร์.(ม. คําหลวง แปลจากคํา คนฺธมาทโน; ส. จล + อจล + อินฺทฺร).
จลาจล
[จะลาจน] น. ความปั่นป่วนวุ่นวายไม่มีระเบียบ. (ป., ส. จล + อจล).
จวก
ก. สับหรือฟันโดยแรงด้วยจอบเป็นต้น, (ปาก) โดยปริยายหมายถึงตีฟันชกต่อยผู้อื่นโดยแรง หรือว่าร้ายด้วยวาจา.
จ๊วก
ว. คําแต่งคํา ขาว ให้รู้ว่าสีขาวมาก, จั๊วะ ก็ว่า.
จวง, จวงหอม
ดู เทพทารู, เทพทาโร.
จวง, จวงหอม
ดู เทพทารู, เทพทาโร.
จวงจันทน์
น. เครื่องหอมที่เจือด้วยจวงและจันทน์.
จ้วง
ก. กิริยาที่เอาภาชนะเช่นขันเอื้อมลงไปตักนํ้าขึ้นมาโดยแรง; อาการที่เอาพายพุ้ยนํ้าโดยเร็วอย่างพายเรือแข่ง; โดยปริยายหมายถึงกิริยาที่ตีหรือฟันสุดแขน เช่น จ้วงตี จ้วงฟัน.
จ้วงจาบ
ว. อาจเอื้อม, ล่วงเกินผู้อื่นด้วยวาจา, จาบจ้วง ก็ว่า.
จ๋วง
(ถิ่น-พายัพ) น. ต้นสนเขา. (ดู สน ๑).
จ๋วงเครือ
(ถิ่น-พายัพ) น. ต้นรากสามสิบ. (ดู รากสามสิบ).
จวด
น. ชื่อปลาทะเลหลายชนิดและหลายสกุลในวงศ์ Sciaenidae มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ปลายหัวอาจทู่หรือแหลม ปากเชิดมากน้อยหรืองุ้มตํ่าบ้างมีฟันแหลมคมหรือละเอียด หางเป็นรูปตัดมน หรือ กลม จนแม้กระทั่งแหลม โดยทั้งหมดขึ้นอยู่กับชนิดหรือขนาด ลําตัวมักมีสีเงินหรือเทา บ้างมีจุดประบนลําตัวและครีบ มักอยู่รวมกันเป็นฝูงใกล้ฝั่ง หรือบริเวณนํ้ากร่อยปากแม่นํ้า ทําเสียงได้.
จวดลาก
ดู แก้ว ๔.
จวน ๑
น. ที่อยู่ของเจ้าเมือง, บ้านที่ทางราชการจัดให้เป็นที่อยู่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกว่า จวนผู้ว่าราชการจังหวัด.
จวน ๒
น. ผ้าชนิดหนึ่ง.
จวน ๓
ว. เกือบ, ใกล้, เช่น จวนถึง จวนตาย จวนได้.
จวนเจียน
ว. หวุดหวิด, เฉียด.
จวนแจ
ว. กระชั้นชิด (ใช้เกี่ยวกับเวลา).
จวนตัว
ว. เข้าที่คับขัน, เข้าที่จําเป็น.
จวบ
น. พบ, ประสบ, ร่วม, ถึง.
จวัก
[จะหฺวัก] น. เครื่องใช้ตักแกงหรือตักข้าว ทําด้วยกะลามะพร้าวมีด้ามถือ, กระจ่า จ่า หรือ ตวัก ก็ว่า.
จอ ๑
น. ชื่อปีที่ ๑๑ ของรอบปีนักษัตร มีหมาเป็นเครื่องหมาย.
จอ ๒
น. ผ้าขาวที่ขึงไว้สําหรับเชิดหนังหรือฉายภาพยนตร์เป็นต้น; โดยปริยายเรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น จอโทรทัศน์.
จ่อ ๑
ก. เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปใกล้หรือเกือบจดสิ่งอื่น เช่น เอายาดมจ่อจมูก;มุ่งอยู่เฉพาะกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักใช้เข้าคู่กับคำ จด เป็น จดจ่อ เช่น เขามีใจจดจ่อกับงาน.
จ่อคิว
(ปาก) ว. ใกล้ถึงลำดับที่จะได้หรือจะเป็น เช่น เขาจ่อคิวขึ้นเป็นหัวหน้า.
จ่อ ๒
(ถิ่น-อีสาน) น. ภาชนะสานชนิดหนึ่ง รูปร่างอย่างกระด้ง มีไส้สานเป็นช่องโค้งอยู่ภายในใช้เลี้ยงตัวไหม.
จ้อ
ว. อาการที่พูดหรือคุยเรื่อยไปไม่หยุดปาก เช่น พูดจ้อ.
จ๋อ
น. คําใช้เรียกลิงหรือเด็กที่ซนอย่างลิงว่า อ้ายจ๋อ.
จอก ๑
น. ภาชนะเล็ก ๆ รูปอย่างขัน ถ้าใช้สําหรับตักนํ้าโดยลอยอยู่ในขันใหญ่เรียก จอกลอย, ถ้าใช้ใส่หมากในเชี่ยนหมากเรียก จอกหมาก; ภาชนะเล็ก ๆ รูปทรงกระบอก ใช้กินยา ดื่มเหล้า เป็นต้น; ใช้เป็นลักษณนาม เช่นเหล้า ๓ จอก.
จอก ๒
น. ชื่อไม้นํ้าชนิด Pistia stratiotes L. ในวงศ์ Araceae ลอยอยู่บนผิวนํ้าไม่มีลําต้นมีแต่รากเป็นกลุ่มใหญ่ ใบเป็นแผ่นสีเขียวสดซ้อน ๆ กันเป็นกลุ่ม ยาว ๕-๑๐ เซนติเมตร.
จอก ๓
(โบ) น. นกกระจอก.
จ้อก, จ้อก ๆ
ว. เสียงอย่างเสียงนํ้าที่ไหลตกลงมา.
จ้อก, จ้อก ๆ
ว. เสียงอย่างเสียงนํ้าที่ไหลตกลงมา.
จ๊อก
ว. เสียงร้องของไก่เมื่อเวลาเจ็บหรือใกล้จะตาย, เสียงร้องของไก่ชนตัวที่แพ้, โดยปริยายหมายความว่า ยอมแพ้, ใช้ตามสํานวนนักเลงไก่เพราะไก่ตัวใดร้องจ๊อก ก็แสดงว่าไก่ตัวนั้นแพ้; เสียงท้องร้องเวลาหิว,จ๊อก ๆ ก็ว่า.
จ๊อก ๆ
ว. เสียงอย่างเสียงนํ้าที่ไหลตกลงมาเบา ๆ; เสียงท้องร้องเวลาหิว, จ๊อก ก็ว่า.
จ้อกแจ้ก
ว. เสียงดังเช่นนั้น, เสียงของคนมาก ๆ ที่ต่างคนต่างพูดกันจนฟังไม่ได้ศัพท์.
จ้อกวอก
ว. ขาวมาก (มักใช้แก่หน้าที่ผัดแป้งไว้ขาวเกินไป).
จอกหูหนู
น. ชื่อผักกูดนํ้าชนิด Salvinia cucullata Roxb. ในวงศ์ Salviniaceae ลอยอยู่บนผิวนํ้า มีรากเป็นฝอยยาวคล้ายจอก ที่ต่างกับจอก คือ มีใบ ๒ ใบอยู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น ตัวใบกลม สีเขียวแก่ โคนใบเว้าเข้าเล็กน้อยตั้งชูขึ้นคล้ายหูหนู.
จอง
ก. ผูกไว้; มั่นหมายไว้, ขอกําหนดไว้, เช่น จองกฐิน จองที่. (ข. จง ว่า ผูก).
จองกฐิน
ก. แจ้งความจำนงว่าจะนำผ้ากฐินไปทอดที่วัดนั้น ๆ ไว้เป็นการล่วงหน้า.
จองคช
[-คด] น. ช้างที่ผูกเครื่องรบเข้าระวางทัพ.
จองจำ
ก. ใส่ตรวนหรือเครื่องพันธนาการขังไว้ในคุกในตะรางเป็นต้น,จําจอง ก็ว่า.
จองตั๋ว
(ปาก) ก. ซื้อตั๋วล่วงหน้า.
จองถนน
(โบ) ก. ถมที่ลุ่มขึ้นเป็นถนน.
จองล้างจองผลาญ
ก. ผูกใจเจ็บคิดจะทำการแก้แค้นให้ได้.
จองเวร
ก. ผูกอาฆาตพยาบาท.
จองเวรจองกรรม
ก. ผูกอาฆาตพยาบาทไม่มีที่สิ้นสุด.
จ้อง ๑
(ถิ่น-พายัพ) น. ร่ม. (อนันตวิภาค ว่า จ่อง).
จ้อง ๒
ก. เพ่งตาดูหรือมุ่งมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น จ้องหน้า,มุ่งคอยจนกว่าจะได้ช่อง, คอยที, เช่น จ้องจับผิด จ้องจะทําร้ายจ้องจะแทง, กิริยาที่เอาปืนหรืออาวุธเล็งมุ่งตรงไปยังสิ่งใดสิ่งหนึ่ง.
จ๋อง
(ปาก) ว. หงอยเหงา, เซื่อง, ไม่กล้า, ไม่คึกคัก.
จ้องเต
น. ต้องเต.
จองเปรียง
[-เปฺรียง] น. ชื่อพิธีอย่างหนึ่งของพราหมณ์ เป็นพิธีจุดโคมรับพระเป็นเจ้าทําในวันเพ็ญเดือน ๑๒.
จองหง่อง
ว. อาการที่นั่งอย่างหงอยเหงา.
จ้องหน่อง
น. เครื่องทําให้เกิดเสียงเป็นเพลง โดยใช้ปากคาบแล้วกระตุกหรือชักด้วยเชือกให้สั่นดังเป็นเสียงดนตรี.
จองหอง
ว. เย่อหยิ่ง, ทะนงตัว, ถือดี, อวดดี.
จองหองพองขน
ว. เย่อหยิ่งแสดงอาการลบหลู่.
จอแจ
ว. มีผู้คนคับคั่งและมีเสียงเซ็งแซ่ เช่น ผู้คนจอแจ ตลาดจอแจ; จวนแจเช่น เวลาจอแจเต็มที.
จ๋อแจ๋
ว. เสียงอย่างเสียงเด็กพูด.
จอด
ก. หยุดอยู่หรือทําให้หยุด, หยุดอยู่ชั่วคราว, (ใช้แก่เรือรถเป็นต้น);(ปาก) พ่ายแพ้, ไม่มีทางสู้, ตาย; (กลอน) รัก เช่น มิตรใจเรียมจอดเจ้า จักคิดถึงฤๅ. (นิ. นรินทร์).
จอน ๑, จอนหู
น. ชายผมข้างหูที่ระลงมาที่แก้ม.
จอน ๑, จอนหู
น. ชายผมข้างหูที่ระลงมาที่แก้ม.
จอน ๒
(กลอน) น. เครื่องประดับหูอยู่ด้านหน้ากรรเจียก เช่น กรรเจียกซ้อนจอนแก้วแพรวพราว. (อิเหนา), เขียนเป็น จร ก็มี. (ไทยใหญ่ จอน ว่าเสียบ).
จ้อน ๑
ดู กระจ้อน ๑.
จ้อน ๒
ว. แคระ, เล็ก, แกร็น; เฟ็ด, หด, สั้น, ถลกขึ้นสูง, เช่น นุ่งผ้าจ้อน.
จอนจ่อ
ว. อาการนั่งชันเข่าค้อมหลังลง.
จอบ ๑
น. เครื่องมือสําหรับขุด พรวน หรือถากดิน ทําด้วยเหล็กหน้าแบนกว้างมีด้ามยาว; เรียกฟันหน้าบนที่ใหญ่กว่าปรกติ ว่า ฟันจอบ.
จอบ ๒
(ถิ่น-อีสาน) ก. แอบ, ลอบ, คอยฟัง; (ถิ่น-พายัพ) ล่อ, เล้าโลม, ชักชวน.
จอบ ๓
น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ในวงศ์ Pinnidae เปลือกค่อนข้างเปราะ รูปร่างคล้ายซองพลู ปลายด้านหนึ่งแผ่บานออก อีกด้านหนึ่งเรียวลง สีนํ้าตาลอมเทา มีหลายชนิด เช่น ชนิด Pinna bicolor, Atrina vexillum, ซองพลูก็เรียก.
จอม
น. ยอดที่สูงสุดของสิ่งที่มีฐานใหญ่ปลายเรียวเล็กขึ้นไป เช่น จอมเขา;ผู้ที่ยอดเยี่ยมในหมู่ เช่น จอมโจร.
จอมขวัญ
น. ผู้ที่เป็นมิ่งขวัญอย่างยอดเยี่ยม หมายถึง หญิงที่รัก.
จอมใจ
น. หญิงที่เป็นยอดดวงใจ.
จอมไตร
น. ผู้เป็นใหญ่ในโลกสาม, โดยมากหมายถึงพระพุทธเจ้า หรือพระอิศวร (ตัดมาจาก จอมไตรโลก หรือ จอมไตรภพ).
จอมทัพ
น. ตําแหน่งสูงสุดของกองทัพ.
จอมปลวก
น. รังปลวกขนาดใหญ่ที่สูงเป็นจอมขึ้นไป.
จอมพล
น. ยศทหารบกชั้นสูงสุด, ถ้าเป็นทหารเรือ เรียก จอมพลเรือ, ถ้าเป็นทหารอากาศเรียก จอมพลอากาศ.
จ่อม ๑
น. ชื่ออาหารอย่างหนึ่ง ทําด้วยปลาหรือกุ้งตัวเล็ก ๆ หมักเกลือไว้ระยะหนึ่ง แล้วใส่ข้าวสารคั่วป่น ทำด้วยปลาเรียกว่า ปลาจ่อมทำด้วยกุ้งเรียกว่า กุ้งจ่อม ใช้เป็นเครื่องจิ้ม.
จ่อม ๒
ก. หย่อนลง, วางลง, เช่น เอาเบ็ดไปจ่อม จ่อมก้นไม่ลง, จุ่มลง, จม,เช่น ปวงเทพเจ้าตกจม จ่อมม้วย. (โคลงตำนานศรีปราชญ์), จอดเช่น ใจจ่อมเจ้า; ฟุบ, หมอบ, (ใช้แก่สัตว์ เช่น โค กระบือ).
จ่อมจ่าย
ก. ค่อยจับจ่าย, จ่ายทีละน้อย.
จอมปลอม
ว. ที่หลอกลวงให้คนเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง เช่น ของจอมปลอมผู้ดีจอมปลอม บัณฑิตจอมปลอม.
จ้อมป้อม
ว. จอมเปาะ.
จอมเปาะ
ว. กลมนูนอย่างปุ่มฆ้อง.
จอมสุรางค์
น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
จ่อย
(ถิ่น-อีสาน) ว. ผอม.
จ้อย ๑
ว. เล็ก, น้อย, เช่น เรื่องจ้อย.
จ้อย ๒, จ้อย ๆ
ว. คล่อง, ไม่หยุดปาก, ในคำว่า พูดจ้อย หรือ พูดจ้อย ๆ.
จ้อย ๒, จ้อย ๆ
ว. คล่อง, ไม่หยุดปาก, ในคำว่า พูดจ้อย หรือ พูดจ้อย ๆ.
จ้อย ๓
ว. ไม่ได้วี่แวว, ไร้วี่แวว, เช่น หายจ้อย เงียบจ้อย.
จ๋อย ๑
ว. ซีดเซียว, หงอยเหงา, สลด, เช่น หน้าจ๋อย.
จ๋อย ๒
ว. คําแต่งคํา เหลือง หรือ หวาน ให้รู้ว่าเหลืองหรือหวานจริง ๆ เช่นเหลืองจ๋อย หวานจ๋อย.
จ๋อย ๓, จ๋อย ๆ
ว. คล่อง, ไม่หยุดปาก, เช่น พูดจ๋อย พูดจ๋อย ๆ.
จ๋อย ๓, จ๋อย ๆ
ว. คล่อง, ไม่หยุดปาก, เช่น พูดจ๋อย พูดจ๋อย ๆ.
จอแส
ดู ชาด.
จะ ๑
คำกร่อนของคำหน้าซึ่งซ้ำกับคำหลังในคำที่มี จ เป็นพยัญชนะต้นในบทกลอน เช่น แจ้งแจ้ง กร่อนเป็น จะแจ้ง แจ่มแจ่ม กร่อนเป็น จะแจ่มมีคำแปลอย่างเดียวกับคำเดิมนั้น และมีความหมายในทางย้ำหรือเน้น.
จะ ๒
เป็นคําช่วยกริยาบอกอนาคต เช่น จะไป จะอยู่.
จ้ะ
ว. คํารับ (ใช้เป็นสามัญทั่วไป).
จ๊ะ ๑
ว. คําต่อท้ายคําเชิญชวนหลังคำ 'นะ' หรือ 'ซิ' เช่น ไปนะจ๊ะ เชิญซิจ๊ะหรือต่อท้ายคำถามเป็นต้น เช่น อะไรจ๊ะ.
จ๊ะ ๒
ก. เจอกันหรือพ้องกันโดยบังเอิญ เช่น เดินมาจ๊ะกัน แกงจ๊ะกัน.
จ๊ะเอ๋
น. ชื่อการเล่นชนิดหนึ่งที่ผู้หนึ่งโผล่หน้าหรือเปิดหน้าแล้วพูดว่า 'จ๊ะเอ๋'กับอีกผู้หนึ่งซึ่งมักเป็นเด็ก.
จ๋ะ ๑
ว. เสียงประกอบคําถาม.
จ๋ะ ๒
ว. เสียงประกอบคําเรียก เช่น แม่จ๋ะ (เป็นเสียงสั้นจากคํา จ๋า).
จะกรัจจะกราจ
(กลอน) ว. เสียงขบฟันกรอด ๆ, ทําอาการเกรี้ยวกราด, เช่น ขบฟันขึงเขียวจะกรัจจะกราจคึกคาม. (สุธนู), เขียนเป็น จะกรัดจะกราด ก็มี.
จะกรุน, จะกรูน
ว. สีดํา, โบราณเขียนเป็น จกรูน ก็มี เช่น ช้างสารชํานิเมามัน หลากหลากหลายพรรณ แลหน้าจกรูนแสงนิล. (อนิรุทธ์).
จะกรุน, จะกรูน
ว. สีดํา, โบราณเขียนเป็น จกรูน ก็มี เช่น ช้างสารชํานิเมามัน หลากหลากหลายพรรณ แลหน้าจกรูนแสงนิล. (อนิรุทธ์).
จะกรุมจะกราม
ว. ตะกรุมตะกราม, ซุ่มซ่าม.
จะกละ ๑, จะกลาม
ว. ตะกละ, ตะกลาม, มักกิน, กินไม่เลือก, เห็นแก่กิน, มักใช้รวมกันว่าจะกละจะกลาม ก็มี, ตะกละตะกลาม ก็ว่า, โดยปริยายหมายความว่าอยากได้มาก ๆ.
จะกละ ๑, จะกลาม
ว. ตะกละ, ตะกลาม, มักกิน, กินไม่เลือก, เห็นแก่กิน, มักใช้รวมกันว่าจะกละจะกลาม ก็มี, ตะกละตะกลาม ก็ว่า, โดยปริยายหมายความว่าอยากได้มาก ๆ.
จะกละ ๒
น. ชื่อผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีรูปเป็นแมว อยู่ในจําพวกผีป่า หมอผีชาวป่าเลี้ยงไว้ใช้ไปทําร้ายศัตรู. (สยามสมาคม).
จะกวด
น. ตะกวด.
จะกูด
น. เครื่องถือท้ายเรือ คล้ายหางเสือ ทำด้วยไม้เป็นแผ่นใหญ่ รูปร่างคล้ายพาย มีด้ามยาว, จังกูด หรือ ตะกูด ก็เรียก.
จะเกร็ง
ดู เหงือกปลาหมอ ๒.
จะขาบ ๑
ดู ตะขาบ ๑.
จะขาบ ๒
ดู ตะขาบ ๓.
จะเข้ ๑
น. เครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายตัวจระเข้ ตัวเป็นโพรง วางยาวไปกับพื้น มีสาย ๓ สาย มีนม ๑๑ นมเป็นฐานรองรับสายเมื่อกดนิ้วขณะดีดทําให้มีเสียงสูงตํ่า มีขา ๕ ขา ใช้บรรเลงผสมอยู่ในวงเครื่องสายและมโหรี,ลักษณนามเรียก ตัว.
จะเข้ ๒
(โบ) น. จระเข้.
จะเข็บ
ดู ตะเข็บ ๑.
จะแคง
(ถิ่น) ว. ตะแคง. (ดู จระแคง).
จะงอย
น. ปลายหรือที่สุดที่มีลักษณะโค้งหรืองุ้มลง เช่น จะงอยปากนกแก้วจะงอยบ่า, ราชาศัพท์เรียก จะงอยบ่า ว่า พระอังสกุฏ.
จะจะ
ว. ให้ชัดเจน, กระจ่าง, เช่น เขียนจะจะ; ห่างเป็นระยะ ๆ เช่น ดํานาจะจะ.
จะจ้า
ว. เสียงร้องไห้.
จ๊ะจ๋า
ว. เรียกอาการที่เด็กเริ่มหัดพูดพูดอย่างน่ารักน่าเอ็นดู เช่น ลูกฉันเริ่มหัดพูดจ๊ะจ๋าแล้ว. ก. อาการที่คู่รักพูดคุยกันอย่างมีความสุข เช่น สองคนนั้นเขากำลังจ๊ะจ๋ากันอยู่อย่าไปกวนเขา.
จะแจ้ง
ว. กระจ่าง, ชัดเจน, แจ่มแจ้ง.
จะแจ่ม
(กลอน) ว. แจ่ม, ใส, กระจ่าง, ชัดเจน, ไม่มัว.
จะไจ้
ว. บ่อย ๆ, เนือง ๆ.
จะบัน
ก. ตะบัน, ทิ่มหรือแทงกดลงไป, กระทุ้ง, เช่น ดาบดั้งดึงโดดดั้นจะบันแรง. (ยอพระเกียรติกรุงธน).
จะปิ้ง
น. เครื่องปิดของลับของเด็กหญิง ทําด้วยเงิน ทอง หรือนาก เป็นต้น,กระจับปิ้ง จับปิ้ง ตะปิ้ง หรือ ตับปิ้ง ก็เรียก. (ม.); แผ่นโลหะที่ติดฝาหีบสําหรับลั่นกุญแจ, ใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น จะปิ้งหูกลองจะปิ้งห่วงประตู.
จะปิ้งเรือ
น. แผ่นโลหะโดยมากทําเป็นรูปดอกจัน สําหรับตรึงที่โคนห่วงร้อยโซ่ผูกเรือ.
จะเพลิง
ดู กระดูกค่าง.
จะละเม็ด ๑
น. ชื่อปลาทะเลในวงศ์ Stromateidae รูปร่างป้อม ค่อนข้างสั้น ลําตัวแบนข้างมาก หัวเล็กมน ปากเล็ก เกล็ดเล็ก บริเวณคอดหางไม่มีสันคม ได้แก่จะละเม็ดขาว (Pampus argenteus) หางเป็นแฉกยาว เว้าลึก จะละเม็ดเทา(P. chinensis) หางเว้าตื้น ทั้ง ๒ ชนิดนี้ไม่มีครีบท้อง ส่วนจะละเม็ดดํา(Parastromateus niger) ที่บริเวณคอดหางเป็นสันคม และมีครีบท้องเฉพาะในปลาขนาดเล็ก.
จะละเม็ด ๒
น. ชื่อเต่าทะเลชนิด Caretta caretta ในวงศ์ Cheloniidae หัวโตกว่าเต่าทะเลชนิดอื่น เกล็ดกระดองหลังแถวข้างมี ๕ ชิ้น กระดองสีนํ้าตาลหรือนํ้าตาลแดง ท้องสีขาวครีมพบในมหาสมุทรแปซิฟิก เขตนํ้าอุ่นของมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดีย, เรียกไข่เต่าทะเลทุกชนิดว่า ไข่จะละเม็ด.
จะละหวั่น
ว. ชุลมุน, วุ่นวาย, จ้าละหวั่น ก็ใช้.
จะลุง
น. เสาตะลุง, ในบทกลอนใช้ จระลุง ก็มี.
จัก ๑
ก. ทําให้เป็นแฉก ๆ หรือหยัก ๆ คล้ายฟันเลื่อย, เอาคมมีดผ่าไม้ไผ่หรือหวายให้แตกจากกันเป็นเส้นบาง ๆ. ว. เป็นแฉก ๆ หรือหยัก ๆ.
จักตอก
ก. เอาคมมีดผ่าไม้ไผ่ให้เป็นเส้นแบนบาง สำหรับใช้ผูกมัดหรือสานสิ่งต่าง ๆ.
จักสาน
น. เรียกเครื่องใช้ที่ทําด้วยไม้ไผ่หรือหวายเป็นต้นว่า เครื่องจักสาน.
จัก ๒
(ไว) คําช่วยกริยาบอกกาลภายหน้า แสดงเจตจำนง เช่น จักกิน จักนอน.
จัก ๓
ก. รู้, ทราบ, แจ้ง, จําได้, เช่น รู้จัก, ข้อยคูดนูแนบนิทรา รมย์ร่วมรถพาหนห่อนจักสึกสมประดี. (สรรพสิทธิ์).
จั้ก ๆ
ว. เสียงอย่างเสียงฝนตกแรง.
จักกาย
น. แม่ทัพ. (ต.).
จั๊กกิ้ม
(ถิ่น-พายัพ) น. จิ้งจก. (ดู จิ้งจก).
จักขุ, จักขุ-
น. ตา. (ป.; ส. จกฺษุ).
จักขุ, จักขุ-
น. ตา. (ป.; ส. จกฺษุ).
จักขุนทรีย์
น. ตาซึ่งทำหน้าที่ดูรูป. (ป. จกฺขุ + อินฺทฺริย).
จักขุทวาร
น. ช่องตา.
จักขุประสาท
น. ส่วนสําคัญของตา ทําให้แลเห็น.
จักขุวิญญาณ
น. ความรู้อันอาศัยทางตาเกิดขึ้น.
จักขุสัมผัส
น. อาการที่ตากับรูปและจักขุวิญญาณประจวบกัน.
จักขุนทรีย์
ดู จักขุ, จักขุ-.
จักจั่น ๑
น. ชื่อแมลงพวกหนึ่งในวงศ์ Cicadidae มีหลายขนาด ลําตัวยาวตั้งแต่๒-๑๐ เซนติเมตร และเรียวลงไปทางหาง หัวและอกกว้าง ปีกมี ๒ คู่เนื้อปีกเหมือนกันตลอด ปีกเมื่อพับจะเป็นรูปหลังคาคลุมตัว มีปากชนิดเจาะดูดโผล่จากหัวทางด้านล่างที่บริเวณใกล้กับอก ตาโตเห็นได้ชัดอยู่ตรงมุม ๒ ข้างของหัว ตัวผู้มีอวัยวะพิเศษสําหรับทําเสียงได้ยินไปไกลระดับเสียงค่อนข้างสมํ่าเสมอ ไร้กังวาน ส่วนใหญ่สีเขียว ที่พบบ่อยเป็นชนิด Dundubia intermerata.
จักจั่น ๒
[จักกะ-] ดู กระพี้นางนวล.
จักจั่น ๓
[จักกะ-] ดู จั่น ๓.
จักจี้, จั๊กจี้
[จักกะ-, จั๊กกะ-] ก. อาการที่ทําให้รู้สึกเสียวสะดุ้งหรือหัวเราะโดยไม่ตั้งใจเมื่อถูกจี้ที่เอวหรือรักแร้เป็นต้น.
จักจี้, จั๊กจี้
[จักกะ-, จั๊กกะ-] ก. อาการที่ทําให้รู้สึกเสียวสะดุ้งหรือหัวเราะโดยไม่ตั้งใจเมื่อถูกจี้ที่เอวหรือรักแร้เป็นต้น.
จั๊กเดียม
[จั๊กกะ-] ก. กระดาก, เขินอาย, มักใช้เข้าคู่กับคำ จั๊กจี้ เป็น จั๊กจี้จั๊กเดียม.
จักร, จักร-
[จัก, จักกฺระ-] น. อาวุธในนิยาย รูปเป็นวงกลมและมีแฉก ๆ โดยรอบ เช่นพระนารายณ์ทรงจักร, สิ่งที่มีลักษณะเป็นวงกลมอย่างล้อรถ เช่น จักรที่ใช้ขว้างในการกีฬา, สิ่งที่มีรูปเป็นวงกลมมีฟันเฟืองหมุนด้วยพลังงานต่าง ๆเช่น จักรนาฬิกา, เรียกเครื่องกลบางชนิด เช่น เครื่องจักร รถจักร, เรียกเครื่องเย็บผ้าที่ใช้เดินด้วยพลังงานหรือใช้เท้าถีบหรือใช้มือหมุนว่า จักรหรือ จักรเย็บผ้า; บรรจบรอบแห่งปีหรือแห่งฤดู เช่น พฤหัสบดีจักร.(ส.; ป. จกฺก).
จักร, จักร-
[จัก, จักกฺระ-] น. อาวุธในนิยาย รูปเป็นวงกลมและมีแฉก ๆ โดยรอบ เช่นพระนารายณ์ทรงจักร, สิ่งที่มีลักษณะเป็นวงกลมอย่างล้อรถ เช่น จักรที่ใช้ขว้างในการกีฬา, สิ่งที่มีรูปเป็นวงกลมมีฟันเฟืองหมุนด้วยพลังงานต่าง ๆเช่น จักรนาฬิกา, เรียกเครื่องกลบางชนิด เช่น เครื่องจักร รถจักร, เรียกเครื่องเย็บผ้าที่ใช้เดินด้วยพลังงานหรือใช้เท้าถีบหรือใช้มือหมุนว่า จักรหรือ จักรเย็บผ้า; บรรจบรอบแห่งปีหรือแห่งฤดู เช่น พฤหัสบดีจักร.(ส.; ป. จกฺก).
จักรปาณิ, จักรปาณี
น. ผู้มีจักรในมือ คือ พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์. (ส.; ป. จกฺกปาณิ,จกฺกปาณี).
จักรปาณิ, จักรปาณี
น. ผู้มีจักรในมือ คือ พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์. (ส.; ป. จกฺกปาณิ,จกฺกปาณี).
จักรผัน
[จัก-] ว. เร็ว.
จักรพรรดิ
น. พระราชาธิราช, ประมุขของจักรวรรดิ, โบราณเขียนว่าจักรพัตราธิราช ก็มี. (ส. จกฺรวรฺตินฺ; ป. จกฺกวตฺติ).
จักรพาล
น. จักรวาล.
จักรยาน
น. รถถีบ, ยานพาหนะประเภทรถที่มีล้อ ๒ ล้อ ล้อหนึ่งอยู่ข้างหน้าและอีกล้อหนึ่งอยู่ข้างหลัง มีโครงเหล็กเชื่อมล้อหน้ากับล้อหลัง มีคันบังคับด้วยมือติดตั้งอยู่บนล้อหน้า ขับเคลื่อนด้วยกำลังคนผู้ขี่ซึ่งใช้เท้าถีบบันไดรถให้วิ่ง เรียกว่า จักรยานสองล้อ, ถ้ามี ๓ ล้อ เรียกว่า จักรยานสามล้อ.
จักรยานยนต์
น. รถที่มีล้อ ๒ ล้อ เหมือนกับรถจักรยานขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์,ภาษาปากเรียก รถเครื่อง หรือ มอเตอร์ไซค์.
จักรราศี
น. อาณาเขตที่ดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์, อาณาเขตโดยรอบดวงอาทิตย์ที่ดาวเคราะห์เดิน, วิถีโคจรประจําของดวงอาทิตย์ซึ่งดูเสมือนวนไปรอบท้องฟ้าได้ ๓๖๐ องศาใน ๑ ปี วงโคจรนี้แบ่งออกเป็น๑๒ ส่วน หรือ ๑๒ ราศี แต่ละส่วนหรือแต่ละราศีมีช่วง ๓๐ องศา ได้แก่ราศีเมษ ราศีพฤษภ ราศีเมถุน ราศีกรกฎ ราศีสิงห์ ราศีกันย์ ราศีตุลหรือราศีดุล ราศีพฤศจิกหรือราศีพิจิก ราศีธนู ราศีมังกร ราศีกุมภ์ และราศีมีน, วงโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ที่สมมุติขึ้นทางโหราศาสตร์ประกอบด้วย ๑๒ ราศี. (ส.).
จักรวรรดิ
[-หฺวัด] น. รัฐหรือสหภาพของรัฐต่าง ๆ ที่มีจักรพรรดิเป็นประมุข เช่นจักรวรรดิโรมัน, อาณาเขตหรืออาณาจักรที่อยู่ภายใต้อํานาจอธิปไตยการปกครองอันเดียวกัน เช่น จักรวรรดิอังกฤษ. (ส.; อ. empire).
จักรวรรดินิยม
[-หฺวัดนิยม] น. ลัทธิขยายอาณาเขตและอํานาจปกครองของรัฐ.(อ. imperialism).
จักรวาต
[-วาด] น. ลมบ้าหมู (ลมหมุน). (ส.).
จักรวาล
[-วาน] น. ปริมณฑล; ประชุม, หมู่; เทือกเขาในนิยาย เป็นกําแพงล้อมรอบโลกและเป็นเขตกั้นแสงสว่างกับความมืด, บริเวณโดยรอบของโลก, ทั่วโลก. (ส.; ป. จกฺกวาล).
จักรผาน
[จักผาน] ดู ตาเดียว.
จักรพาก, จักรวาก
[จักกฺระ-] น. นกจากพราก. (ดู จากพราก, จากพาก). (ส. จกฺรวาก).
จักรพาก, จักรวาก
[จักกฺระ-] น. นกจากพราก. (ดู จากพราก, จากพาก). (ส. จกฺรวาก).
จักริน, จักรี
[จักกฺริน, จักกฺรี] น. ผู้มีจักร หมายถึง พระนารายณ์, ต่อมาหมายถึงพระราชาตามคติความเชื่อของไทยที่ถือว่าเป็นพระนารายณ์อวตาร.(ส. จกฺรี, จกฺรินฺ; ป. จกฺกี).
จักริน, จักรี
[จักกฺริน, จักกฺรี] น. ผู้มีจักร หมายถึง พระนารายณ์, ต่อมาหมายถึงพระราชาตามคติความเชื่อของไทยที่ถือว่าเป็นพระนารายณ์อวตาร.(ส. จกฺรี, จกฺรินฺ; ป. จกฺกี).
จั๊กเล้อ
(ถิ่น-พายัพ) น. จิ้งเหลน. (ดู จิ้งเหลน).
จักษุ
น. ดวงตา. (ส.; ป. จกฺขุ).
จักแหล่น, จั๊กแหล่น
[จักกะแหฺล่น, จั๊กกะแหฺล่น] (ปาก) ว. จวนเจียน, เกือบ, หวุดหวิด, เช่นจักแหล่นจะไม่ทันรถไฟ.
จักแหล่น, จั๊กแหล่น
[จักกะแหฺล่น, จั๊กกะแหฺล่น] (ปาก) ว. จวนเจียน, เกือบ, หวุดหวิด, เช่นจักแหล่นจะไม่ทันรถไฟ.
จัง
(ปาก) ว. ยิ่งนัก เช่น เก่งจัง ร้อนจัง ของสิ่งนี้ถูกจัง; เต็มที่, เต็มแรง, เช่นชนกันเข้าอย่างจัง.
จังหนับ
(ปาก) ว. เต็มที่, เต็มแรง, จั๋ง จำหนับ หรือ จ๋ำหนับ ก็ว่า.
จังหน้า
ว. เต็มหน้า, เต็มที่, เช่น เจอเข้าจังหน้า โดนเข้าจังหน้า.
จั้ง
(โบ) ก. ตั้ง เช่น คือคชกลับกลอกจั้ง จญสีห์. (ยวนพ่าย).
จั๋ง ๑
(ปาก) ว. เต็มที่, เต็มแรง, จังหนับ จําหนับ หรือ จํ๋าหนับ ก็ว่า.
จั๋ง ๒
น. ชื่อปาล์มชนิด Rhapis excelsa Henry ในวงศ์ Palmae ใบรูปพัดปลูกเป็นไม้ประดับ, เท้าสาน ก็เรียก.
จังกวด ๑
น. จะกวด. (พจน. ๒๔๙๓). (ข. ตฺรกวต).
จังกวด ๒
(กลอน) ว. บ้า เช่น เฒ่าจังกวดกามกวน. (ม. คําหลวง ชูชก). (ข. ฉฺกวต).
จังกอบ
(โบ) น. ภาษีผ่านด่าน, ภาษีปากเรือ, ภาษีที่เก็บเพื่อใช้บำรุงท้องถิ่น. ก. ผูก, มัด, เชิงกอบ ก็เรียก.
จังกา
น. ไม้ขาหยั่ง.
จังก้า
ว. ลักษณะยืนถ่างขาตั้งท่าเตรียมสู้, ลักษณะที่ตั้งปืนกลเป็นต้นเตรียมพร้อมที่จะยิง.
จังกูด
น. เครื่องถือท้ายเรือ คล้ายหางเสือ ทำด้วยไม้เป็นแผ่นใหญ่ รูปร่างคล้ายพาย มีด้ามยาว, จะกูด หรือ ตะกูด ก็เรียก. (ข. จงฺกูต).
จังเก
น. สะเอว เช่น มือนวดแนบจังเก แกะพลิ้ว. (โคลงพระยาตรัง).(ข. จงฺเกะ).
จังโกฏก์
(แบบ) น. ผอบ. (ป.).
จังงัง
ว. อาการที่ตกตะลึงนิ่งงันอยู่.
จังมัง
น. ไม้สําหรับขัดก้นกระบุงและตะกร้าทั้ง ๔ มุมให้แน่นและแข็งแรง. ว. แข็งแรง, จั้งมั่ง ก็ว่า.
จั้งมั่ง
ว. แข็งแรง, จังมัง ก็ว่า.
จังไร
ว. เลวทราม, เป็นเสนียด, ไม่เป็นมงคล, จัญไร ก็ว่า. (ข. จงฺไร).
จังลอน
น. ปลาหรือเนื้อโขลกปั้นเป็นก้อนหรือเป็นแผ่นเคี่ยวกับนํ้ากะทิสําหรับกินกับขนมจีนซาวนํ้า, บางทีใช้โขลกปลาปั้นเป็นก้อนเสียบไม้ปิ้งไฟ เรียกว่า จังลอนแห้ง, แจงลอน ก็ว่า.
จังเว็จ
[จังเหฺว็ด] (กลอน) น. เจว็ด.
จังหรีด
น. จิ้งหรีด. (ดู จิ้งหรีด).
จังหล่อ
น. เครื่องกีดกั้นขวางทางในสมัยโบราณ ปักเสาสูงราว ๒ ศอก มีไม้เสาทับหลัง ขวางถนนเป็น ๒ แนวเยื้องไม่ตรงกัน ปลายต่อปลายเกินกันทั้ง๒ ข้าง, ค่ายผนบ บ้านหล่อ จั้นหล่อ หรือ จำหล่อ ก็เรียก. (ลำดับสกุลเก่า;ลัทธิ). (จ. จั้ง ว่า กีด, ขวาง; โหล่ว ว่า ถนน).
จังหวะ
น. ระยะที่สมํ่าเสมอ เช่น หัวใจเต้นเป็นจังหวะ, ระยะที่กําหนดไว้เป็นตอน ๆเช่น เพลงจังหวะช้า จังหวะเร็ว พูดเป็นจังหวะ, โดยปริยายหมายความว่าโอกาสอันควร เช่น เจ้านายกำลังโกรธ ไม่มีจังหวะจะเข้าพบ. (ข. จงวาก่).จังหวะจะโคน (ปาก) น. จังหวะ.
จังหวัด
(กฎ) น. หน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลาย ๆ อำเภอเข้าด้วยกันและมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าปกครอง, (โบ) เมือง, หัวเมือง; ถิ่น, เขต, บริเวณ, เช่น อารามขึ้นคณะป่าแก้วในจังหวัดเมืองนครศรีธรรมราช. (ประชุมพระตำราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนา).
จังหัน ๑
น. ข้าว, อาหาร, (ใช้แก่พระสงฆ์). (ข. จงฺหาน่).
จังหัน ๒
น. กังหัน.
จังออน
น. มาตราตวงตามวิธีประเพณีของไทยโบราณ ๘ กำมือ = ๑ จังออนและ ๒ จังออน = ๑ แล่ง.
จัญไร
ว. เลวทราม, เป็นเสนียด, ไม่เป็นมงคล, จังไร ก็ว่า.
จัณฑ-, จัณฑ์
[จันทะ-, จัน] ว. ดุร้าย, หยาบช้า, เกรี้ยวกราด, ฉุน, ฉุนเฉียว; ราชาศัพท์.ใช้เรียกสุราหรือเมรัยว่า นํ้าจัณฑ์. (ป., ส.)
จัณฑ-, จัณฑ์
[จันทะ-, จัน] ว. ดุร้าย, หยาบช้า, เกรี้ยวกราด, ฉุน, ฉุนเฉียว; ราชาศัพท์.ใช้เรียกสุราหรือเมรัยว่า นํ้าจัณฑ์. (ป., ส.)
จัณฑวาตา
(แบบ) น. ลมร้าย เช่น จัณฑวาตารําพายพาน. (สมุทรโฆษ).
จัณฑาล
[จันทาน] ว. ตํ่าช้า. น. ลูกคนต่างวรรณะ. (ส. จณฺฑาล ว่า ลูกที่บิดาเป็นศูทร มารดาเป็นพราหมณ์).
จัด ๑
ว. ยิ่ง, เต็มที่, เกินปรกติมาก, มากหรือหนักไปในทางใดทางหนึ่ง, เช่นระเบียบจัด ธรรมเนียมจัด หิวจัด ร้อนจัด หนาวจัด แดดจัด; แก่เต็มที่เช่น ผลไม้แก่จัด. (ข. จาส่).
จัดจ้า
ว. สว่างมาก, มีแสงกล้า.
จัดจ้าน
ว. ปากกล้า, ปากจัด, เจ้าคารม.
จัดเจน
ก. สันทัด, ชํานาญ, มีประสบการณ์มาก, เจนจัด ก็ว่า.
จัด ๒
ก. ตกแต่ง เช่น จัดบ้าน, ทําให้เรียบ, วางระเบียบ, เรียงตามลําดับ,เช่น จัดแถว จัดหนังสือ; นับ เช่น จัดว่าเป็นความดี.
จัดการ
ก. สั่งงาน, ควบคุมงาน, ดําเนินงาน.
จัดแจง
ก. เตรียมการ.
จัดตั้ง
ก. ตั้งขึ้น, แต่งตั้งให้มั่นคง.
จัดประกัน
ก. ทําให้แน่นอน.
จัดมั่น
ก. ทําให้ได้โดยมั่นคง.
จัดสรร
ก. แบ่งส่วนไว้โดยเฉพาะ, ปันไว้ใช้เพื่อประโยชน์โดยเจาะจง.
จัดหา
ก. ไปเลือกเฟ้นหามา.
จัดจอง
(โบ) น. ทุ่น, แพ, เรือน้อย, สัดจอง ก็ว่า. (ข. สาต่ ว่า ลอย, จง ว่า ผูก).
จัตตาฬีสะ
(แบบ) ว. สี่สิบ. (ป.).
จัตวา
[จัดตะวา] ว. สี่, ชั้นที่ ๔ (เดิมใช้เรียกข้าราชการที่มีลำดับชั้นต่ำกว่าชั้นตรีว่า ชั้นจัตวา) เช่น ข้าราชการชั้นจัตวา; เรียกเครื่องหมายวรรณยุกต์รูปดังนี้ + ว่า ไม้จัตวา, ตีนกา ก็เรียก. (ส.; ป. จตุ).
จัตวาทัณฑี
น. ชื่อโคลง ๔ ชนิดหนึ่ง ซึ่งบาท ๒ ใช้พยางค์ที่ ๔ สัมผัส เช่น ท้าวไทยนฤเทศข้า ขับหนีลูกราชสีพีกลัว ไพร่ฟ้าพลเมืองบดูดี ดาลเดียดกระเหลียดลับลี้หน้า อยู่สร้างแสวงบุญ. (ชุมนุมตำรากลอน).จัตวาศก น. เรียกปีจุลศักราชที่ลงท้ายด้วยเลข ๔ เช่น ปีจอ จัตวาศกจุลศักราช ๑๓๔๔.
จัตุ
[จัดตุ] ว. สี่. (ป. จตุ; ส. จตุรฺ).
จัตุร-
[จัดตุระ-] ว. สี่. (ส. จตุร; ป. จตุ).
จัตุรงค์
ว. จตุรงค์, องค์ ๔, ๔ เหล่า.
จัตุรงคพล
[จัดตุรงคะ-] น. จตุรงคพล, กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้างเหล่ารถ เหล่าม้า เหล่าราบ. (ป., ส. จตุรงฺค + เสนา).
จัตุรงคินีเสนา
[จัดตุรง-] น. จตุรงคินีเสนา, กองทัพมีกำลัง ๔ เหล่า คือ เหล่าช้างเหล่ารถ เหล่าม้า เหล่าราบ. (ป., ส. จตุรงฺคินี + เสนา).
จัตุรพักตร์
ว. จตุรพักตร์, 'ผู้มี ๔ หน้า' คือ พระพรหม.
จัตุรภุช
ว. จตุรภุช, 'ผู้มี ๔ แขน' คือ พระนารายณ์.
จัตุรมุข
น. เรียกอาคารที่มี ๔ มุข.
จัตุรัส
[-หฺรัด] น. เรียกรูปสี่เหลี่ยมด้านเท่าที่มีมุมภายในเป็นมุมฉากว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัส.
จัตุลังคบาท
[จัดตุลังคะบาด] (โบ) น. เจ้ากรมพระตำรวจหลวงประจำ ๔ เท้าช้างทรงของพระมหากษัตริยหรือพระมหาอุปราชในเวลาสงครามเช่น จัตุลังคบาทบริรักษ์ พิทักษ์เท้ากุญชร. (ตะเลงพ่าย), จตุลังคบาทก็ว่า.
จัตุโลกบาล
[จัดตุโลกกะบาน] น. ท้าวจาตุมหาราช, หัวหน้าเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช มีหน้าที่รักษาโลกในทิศทั้ง ๔ เรียกว่า ท้าวจัตุโลกบาลคือ ๑. ท้าวธตรฐ จอมภูตหรือจอมคนธรรพ์ รักษาโลกด้านทิศบูรพาหรือทิศตะวันออก ๒. ท้าววิรุฬหกจอมเทวดาหรือจอมกุมภัณฑ์ รักษาโลกด้านทิศทักษิณหรือทิศใต้ ๓. ท้าววิรูปักษ์ จอมนาค รักษาโลกด้านทิศประจิมหรือทิศตะวันตก ๔. ท้าวกุเวร จอมยักษ์ รักษาโลกด้านทิศอุดรหรือทิศเหนือ, จตุโลกบาล ก็ว่า. (ป.).
จัตุสดมภ์
[จัดตุสะดม] น. จตุสดมภ์, วิธีจัดระเบียบราชการบริหารส่วนกลางในสมัยโบราณ โดยตั้งกรมหรือกระทรวงใหญ่ขึ้น ๔ กรม คือ กรมเมืองกรมวัง กรมคลัง กรมนา มีเสนาบดีเจ้ากระทรวงว่าการในแต่ละกรมนั้น รวมเรียกว่า จัตุสดมภ์ ซึ่งแปลว่า หลัก ๔. (ป. จตุ = สี่ + ส. สฺตมฺภ= หลัก หมายความว่า หลัก ๔).
จัน
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Diospyros decandra Lour.ในวงศ์ Ebenaceae ผลสุกสีเหลือง หอม กินได้, ชนิดลูกกลมแป้นกลางบุ๋ม ไม่มีเมล็ด เรียก ลูกจันอิน, ชนิดลูกกลมรี มีเมล็ด เรียกลูกจันโอ.
จั่น ๑
น. ช่อดอกหมากหรือช่อดอกมะพร้าวเมื่อยังอ่อนอยู่.
จั่น ๒
น. เครื่องดักสัตว์ทั้งในนํ้าและบนบก มีรูปคล้ายกรง มีหลายชนิด;เรียกประตูนํ้าอย่างโบราณที่ใช้ไม้ซุงขวางกันว่า ปากจั่น.
จั่นหับ
น. กรงดักสัตว์ ด้านหน้ามีประตูปิดเปิดได้.
จั่นห้าว
น. เครื่องยิงสัตว์ ใช้หอก หรือปืน หรือหลาว ขัดสายใยไว้ เมื่อคนหรือสัตว์ไปถูกสายใยเข้า ก็ลั่นแทงเอาหรือยิงเอา ใช้อย่างเดียวกับหน้าไม้ก็ได้.
จั่น ๓
น. ชื่อเบี้ยชนิด Cypraea moneta ในวงศ์ Cypraeidae หลังนูนท้องเป็นร่อง ๆ เปลือกแข็งเรียกว่า เบี้ยจั่น ในสมัยโบราณใช้ต่างเงิน,เบี้ยจักจั่น ก็เรียก.
จั่น ๔
น. เครื่องประดับคอชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายทับทรวงและจี้ ใหญ่กว่าจี้ แต่ย่อมกว่าตาบและทับทรวง.
จั่น ๕
น. (๑) ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Millettia brandisiana Kurz ในวงศ์Leguminosae ดอกสีม่วงหรือม่วงคราม ลักษณะคล้ายดอกถั่วแต่ขนาดเล็กกว่าเวลาออกดอกไม่ใคร่มีใบ เป็นไม้ประดับที่งาม.(๒) (ถิ่น-พายัพ) ชื่อเห็ดชนิด Tricholoma crassum (Berk.) Succ.ในวงศ์Tricholomataceae ขึ้นตามพื้นดิน ดอกเห็ดใหญ่ สีขาวนวล เนื้อหนา ก้านใหญ่ ด้านล่างมีครีบ กินได้, เห็ดตีนแรด หรือเห็ดตับเต่าขาว ก็เรียก.
จันโจษ
ก. โจษจัน, พูดอึง, พูดกันเซ็งแซ่, เล่าลือกันอื้ออึง, ในบทกลอนใช้ว่าจรรโจษ ก็มี.
จั่นดิน
(ถิ่น-พายัพ) น. ต้นรากสามสิบ. (ดู รากสามสิบ).
จันท์
(แบบ) น. จันทร์, ดวงเดือน. (ป.; ส. จนฺทฺร).
จันทน์
น. ชื่อพรรณไม้บางชนิดที่มีเนื้อไม้ ดอก หรือผลหอม ใช้ทํายาและปรุงเครื่องหอม. (ป., ส.).
จันทน์กะพ้อ
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Vatica diospyroides Symington ในวงศ์Dipterocarpaceae ขึ้นตามป่าดิบทางปักษ์ใต้และปลูกกันตามบ้านดอกขาว หอมคล้ายนํ้ามันจันทน์.
จันทน์ขาว
ดู จันทนา.
จันทน์ชะมด
น. (๑) ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Aglaia silreotris (M. Roem.)Merr. ในวงศ์ Meliaceae ขึ้นตามป่าชื้นบางแห่ง เนื้อไม้หอม. (๒) ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Mansonia gagei J.R. Drumm. ex Prain ในวงศ์Sterculiaceae ขึ้นตามป่าชื้นบนเขาหินปูน เนื้อไม้หอม, จันทน์หอมก็เรียก.
จันทน์แดง
น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Dracaena loureiri Gagnep. ในวงศ์ Agavaceaeขึ้นตามเขาหินปูน เนื้อไม้ที่สารลงมีสีแดง, จันทน์ผา ก็เรียก.
จันทน์เทศ
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Myristica fragrans Houtt. ในวงศ์Myristicaceae รกหุ้มเมล็ดมีกลิ่นหอมฉุนเรียก ดอกจันทน์ เมล็ดมีกลิ่นหอมฉุนเช่นกัน เรียก ลูกจันทน์ ใช้เป็นเครื่องเทศ เป็นพรรณไม้ที่นําเข้ามาจากหมู่เกาะอินเดียตะวันออก.
จันทน์ผา
ดู จันทน์แดง.
จันทน์หอม
ดู จันทน์ชะมด (๒).
จันทนา
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Tarenna hoaensis Pit. ในวงศ์ Rubiaceaeเนื้อไม้หอม, จันทน์ขาว ก็เรียก.
จันทร-, จันทร์
[จันทฺระ- ในกลอนบางทีอ่านเป็น จันทอน, จัน] น. ดวงเดือน, เรียกเทวดาองค์หนึ่งในนิยายว่า พระจันทร์, ในตำราโหราศาสตร์เป็นชื่อดาวพระเคราะห์ที่ ๒; ชื่อวันที่ ๒ ของสัปดาห์. (ส.).
จันทร-, จันทร์
[จันทฺระ- ในกลอนบางทีอ่านเป็น จันทอน, จัน] น. ดวงเดือน, เรียกเทวดาองค์หนึ่งในนิยายว่า พระจันทร์, ในตำราโหราศาสตร์เป็นชื่อดาวพระเคราะห์ที่ ๒; ชื่อวันที่ ๒ ของสัปดาห์. (ส.).
จันทรกลา
[-กะลา] (แบบ) น. เสี้ยวที่ ๑๖ ของดวงจันทร์, โดยอนุโลมหมายถึงงามเหมือนแสงจันทร์อ่อน ๆ นวลตา เช่น ลางล้วนเผือกผ่องคือคิรีไกลาสรูจี แลพรายคือจันทรกลา. (สมุทรโฆษ). (ส.).
จันทรกานต์
น. แร่ประกอบหินที่มีค่าสูงชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในพวกรัตนชาติ มีโพแทสเซียมอะลูมิเนียมซิลิเกต (KAlSi3O8) เป็นองค์ประกอบสําคัญ ปรกติมีสีขาวปนฟ้าหรือสีเหลืองขุ่นมัวอย่างนํ้านม แต่มีวาวขาวฉาบหน้าเหมือนวาวมุกในหอยมุก หรือวาวแสงจันทร์ในหยาดนํ้าค้าง. (ส.; อ. moonstone).
จันทรคติ
น. วิธีนับวันและเดือนโดยถือเอาการเดินของดวงจันทร์เป็นหลัก เช่นขึ้น ๑ คํ่าถึงแรม ๑๕ คํ่า เป็นการนับวันทางจันทรคติ เดือนอ้ายถึงเดือน ๑๒ เป็นการนับเดือนทางจันทรคติ. (ส.).
จันทรคราส
[-คฺราด] (ปาก) น. 'การกลืนดวงจันทร์' ตามความเข้าใจของคนโบราณที่เชื่อว่าพระราหูอมดวงจันทร์, จันทรุปราคา ก็เรียก. (ส.).
จันทรพิมพ์
น. ดวงเดือน, รูปที่แลดูแบนแห่งดวงจันทร์, จันทรมณฑล ก็ว่า. (ส.).
จันทรภิม
(โบ) น. เรียกเงินที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่ผู้ทำนายจันทรุปราคาได้ถูกต้องว่า เงินจันทรภิม ในข้อความว่า เมื่อจันทรุปราคได้เงีนจันทรภิม.(สามดวง).
จันทรมณฑล
น. จันทรพิมพ์. (ส.).
จันทรวงศ์
น. วงศ์แห่งกษัตริย์เนื่องมาจากพระจันทร์, คู่กับ สุริยวงศ์. (ส.).
จันทรวาร
น. วันจันทร์, จันทวาร หรือ โสมวาร ก็ว่า.
จันทรเศขร
น. ผู้มีพระจันทร์เป็นปิ่น คือ พระอิศวร. (ส.).
จันทรุปราคา
[จันทฺรุปะราคา, จันทะรุบปะราคา] น. ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ทําให้เงาของโลกตกลงบนดวงจันทร์บางส่วนหรือทั้งหมด, (ปาก)จันทรคราส. (ส.).
จันทรเม็ด
[จันทะระ-] (แบบ) น. ปลาจะละเม็ด เช่น ปลาแมวลิ้นหมาปลาหมูคชราราหู มีจันทรเม็ดและทรมาง. (สมุทรโฆษ).
จันทวาร
[จันทะวาน] น. วันจันทร์, จันทรวาร หรือ โสมวาร ก็ว่า.
จันทัน
น. ชื่อตัวไม้เครื่องบนแห่งเรือนอยู่ตรงกับขื่อสําหรับรับแปลานหรือรับระแนง.
จันทันพราง
น. ตัวไม้จันทันที่ไม่ได้อยู่บนหัวเสา.
จันเทา
(โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางวัน. (ดู ยาม).
จันลอง ๑
น. ลําธาร. (ข. ชฺรลง).
จันลอง ๒
น. จังลอน.
จันเลา, จันเลาะ
น. ลําห้วย. (ข. เชฺราะ ว่า เหว, ลําธาร).
จันเลา, จันเลาะ
น. ลําห้วย. (ข. เชฺราะ ว่า เหว, ลําธาร).
จั้นหล่อ
น. เครื่องกีดกั้นขวางทางในสมัยโบราณ ปักเสาสูงราว ๒ ศอก มีไม้เสาทับหลังขวางถนนเป็น ๒ แนวเยื้องไม่ตรงกัน ปลายต่อปลายเกินกันทั้ง๒ ข้าง, ค่ายผนบ บ้านหล่อ จังหล่อ หรือ จำหล่อ ก็เรียก.
จันอับ
น. ชื่อขนมหวานอย่างแห้งของจีน มีหลายอย่างรวมกัน เช่น ข้าวพองถั่วตัด งาตัด.
จับ
ก. อาการที่ใช้มือแตะต้องสิ่งใดสิ่งหนึ่งตลอดจนกําไว้ยึดไว้; เกาะ เช่นนกจับคอน; ติด เช่น เขม่าจับก้นหม้อ; กินหรือกลืน ในความว่า คราสจับดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์; เริ่ม เช่น จับเรื่องตั้งแต่ตอนนั้นไป; เกาะกุมตัวไว้ไม่ให้หนี เช่น จับผู้ร้าย, (กฎ) เกาะกุมตัวไว้โดยเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจตามกฎหมาย, จับกุม ก็ว่า; กิริยาที่ทําขนมจีนให้เป็นหัว ๆ เรียกว่าจับขนมจีน, ลักษณนามของขนมจีนว่า จับ หรือ หัว เช่น ขนมจีน ๕ จับหรือ ขนมจีน ๕ หัว.
จับกลุ่ม
ก. รวมกันเป็นหมู่.
จับกุม
ก. เกาะกุมตัวไว้ไม่ให้หนี เช่น จับกุมผู้ร้าย, (กฎ) เกาะกุมตัวไว้โดยเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจตามกฎหมาย, จับ ก็ว่า.
จับเขม่า
ก. เอาเขม่าผสมนํ้ามันตานีเป็นต้นทาไรผมให้ดํา.
จับเข่าคุยกัน, จับหัวเข่าพูด
(ปาก) ก. พูดปรับความเข้าใจกันอย่างใกล้ชิด.
จับเข่าคุยกัน, จับหัวเข่าพูด
(ปาก) ก. พูดปรับความเข้าใจกันอย่างใกล้ชิด.
จับไข้
ก. อาการที่เป็นไข้.
จับความ
ก. จับใจความ, เข้าใจความหมาย.
จับงูข้างหาง
(สํา) ก. ทําสิ่งที่เสี่ยงต่ออันตราย.
จับจด
ว. ลักษณะที่ทําไม่จริงจัง ชอบเปลี่ยนงานบ่อย ๆ.
จับจอง
(กฎ) ก. เข้าครอบครองที่ดินสาธารณะไว้เพื่อตน.
จับจิต, จับใจ
ว. ติดใจ, เป็นที่พอใจ.
จับจิต, จับใจ
ว. ติดใจ, เป็นที่พอใจ.
จับเจ่า
ว. หงอยเหงา, หงอยก๋อย.
จับเชิง
ก. ตกปลอกช้าง, ล่ามเท้าช้าง.
จับดำถลำแดง
(สํา) ก. มุ่งอย่างหนึ่งไปได้อีกอย่างหนึ่ง, มุ่งอย่างหนึ่งกลายไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง.
จับได้ไล่ทัน
(สำ) ก. รู้เท่าทัน เช่น เขาจับได้ไล่ทันว่าเป็นเรื่องไม่จริง.
จับตัววางตาย
(สํา) ก. กําหนดลงไปแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง, กําหนดตัวบุคคลให้ประจําหน้าที่โดยเฉพาะ.
จับตา ๑
ว. ถูกตา, เหมาะตา, เป็นที่พอตา.
จับตา ๒, จับตาดู
ก. คอยเฝ้าสังเกต, จ้องระวังระไว.
จับตา ๒, จับตาดู
ก. คอยเฝ้าสังเกต, จ้องระวังระไว.
จับตาย
ก. จับตัวมาให้ได้แม้ว่าจะต้องทำให้ตาย.
จับปลาสองมือ
(สำ) ก. หมายจะเอาให้ได้ทั้ง ๒ อย่าง, เสี่ยงทำการ ๒ อย่างพร้อม ๆ กันซึ่งอาจไม่สำเร็จทั้ง ๒ อย่าง.
จับปูใส่กระด้ง
(สำ) ก. ยากที่จะทำให้อยู่นิ่ง ๆ ได้.
จับเป็น
ก. จับตัวมาให้ได้โดยไม่ทำให้ตาย.
จับเปาะ
(สำ) ว. ตรงเป้า เช่น ต่อยจับเปาะเข้าที่ปลายคาง.
จับผิด
ก. จับความผิดของผู้อื่น, สรรหาเอาผิดจนได้.
จับพลัดจับผลู
ก. จับผิด ๆ ถูก ๆ; บังเอิญเป็นไปโดยไม่ตั้งใจ.
จับแพะชนแกะ
ก. ทําอย่างขอไปที ไม่ได้อย่างนี้ก็เอาอย่างนั้นเข้าแทนเพื่อให้ลุล่วงไป.
จับมือ
ก. ทักทายตามธรรมเนียมตะวันตกโดยบุคคล ๒ คน ประสานมือขวาของกันและกันแล้วเขย่า, เรียกอาการที่ครูสอนโดยจับมือผู้เริ่มเรียนให้ทำตามในการสอนบางวิชาเช่น ฟ้อนรำ ดนตรี หรืองานฝีมือบางอย่างเช่น จับมือรำ, จับมือตีระนาด, โดยปริยายหมายถึงร่วมมือกัน เช่นชาวบ้านจับมือกันพัฒนาแหล่งน้ำ.
จับมือใครดมไม่ได้
(สำ) ก. หาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้.
จับมือถือแขน
(สำ) ก. ฉวยโอกาสล่วงเกินหญิงด้วยการจับมือจับแขนในเชิงชู้สาว.
จับไม้จับมือ
ก. จับมือจับแขนแสดงความสนิทสนม.
จับยาม
ก. นับยามตามหลักยามสามตา (ตรีเนตร) โดยนับตามหลัก ๓ หลักคือ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร เวียนกันไป โดยนับขึ้นต้นที่อาทิตย์ ถ้าวันจับยามเป็นวันข้างขึ้น ให้นับเวียนขวาจากอาทิตย์ไปยังจันทร์และอังคาร ถ้าวันจับยามเป็นวันข้างแรม ให้นับเวียนซ้ายจากอาทิตย์ไปยังอังคารและจันทร์ แล้วทำนายตามตำรา.
จับระบำ
น. กระบวนรําท่าต่าง ๆ. ก. เริ่มฟ้อนรํา.
จับลมปราณ
น. วิธีกำหนดดูความคล่องของลมหายใจเข้าออกว่าฤกษ์ดีหรือฤกษ์ร้าย.
จับลิงหัวค่ำ
น. การเล่นเรื่องเบ็ดเตล็ดก่อนจะเล่นเรื่องที่แสดงจริงเพื่อเรียกคนดูเช่นในการเล่นหนังตะลุง หนังใหญ่ หรือโขน.
จับเวลา
ก. ดูเวลาที่ใช้ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเช่นในการแข่งขันกีฬา, ดูเวลาให้ตรงตามที่กําหนด.
จับสายสิญจน์
ก. ควบจับด้ายเส้นเดียวทบให้เป็น ๓ เส้น หรือควบด้าย ๓ เส้นทบให้เป็น ๙ เส้นเพื่อให้เหนียว.
จับเส้น
ก. บีบนวดเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว; โดยปริยายหมายถึงรู้จักเอาใจผู้ที่จะให้ผลประโยชน์แก่ตน.
จับเสือมือเปล่า
(สํา) ก. แสวงหาประโยชน์โดยตัวเองไม่ต้องลงทุน.
จับหลัก
(สำ) ก. นิ่งอยู่กับที่, เช่น นกกระเต็นจับหลัก.
จับหวัด
(โบ) ก. ใช้สมุนไพร เช่น ว่านเปราะ หัวหอม โขลกพอกกระหม่อมแก้หวัด.
จับหัวเข่าพูด, จับเข่าคุยกัน
(ปาก) ก. พูดปรับความเข้าใจกันอย่างใกล้ชิด.
จับหัวเข่าพูด, จับเข่าคุยกัน
(ปาก) ก. พูดปรับความเข้าใจกันอย่างใกล้ชิด.
จับหืด
ก. อาการที่คนกำลังหอบหายใจไม่ทันเนื่องจากหืดกำเริบ.
จับกัง
น. กรรมกร, ผู้ใช้แรงงาน, ใช้เรียกผู้รับจ้างทำงานต่าง ๆ. (จ.).
จับกิ้ม
น. ชื่อขนมของจีนชนิดหนึ่ง มี ๑๐ อย่าง เช่น ฟักเชื่อม ถั่วตัด งาตัดข้าวพอง มักใช้เป็นของไหว้เจ้า. (จ.).
จับจ่าย
ก. ใช้เงินซื้อหา, มักใช้เข้าคู่กับคำ ใช้สอย เป็น จับจ่ายใช้สอย.
จับเจี๋ยว
น. หม้อดินเล็ก ๆ มีพวยและที่จับสําหรับต้มนํ้า. (จ.). (รูปภาพ จับเจี๋ยว)
จับฉ่าย
น. ชื่ออาหารอย่างจีนชนิดหนึ่งที่ใส่ผักหลาย ๆ อย่าง. (ปาก) ของต่าง ๆที่ปะปนกันไม่เป็นสํารับ ไม่เป็นชุด. (จ.).
จับเดิม
ว. จําเดิม.
จับปิ้ง
น. เครื่องปิดของลับของเด็กหญิง ทําด้วยเงิน ทอง หรือนาก เป็นต้น,กระจับปิ้ง จะปิ้ง ตะปิ้ง หรือ ตับปิ้ง ก็เรียก. (ม. จะปิ้ง).
จับโปง
(โบ) น. ลมที่ทําให้ปวดเมื่อยตามข้อต่าง ๆ.
จับยี่กี
น. การเล่นพนันของจีนชนิดหนึ่ง มีไพ่ทําด้วยไม้แผ่นบาง ๆ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ๑๒ แผ่น. (จ.).
จับสั่น
น. ชื่อไข้ที่เกิดเพราะถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัด มีอาการหนาวและสั่น, ไข้จับสั่น หรือ ไข้มาลาเรีย ก็เรียก. (อ. malaria fever, malaria,paludism).
จัมบก, จัมปกะ
[จําบก] (แบบ) น. ต้นจําปา เช่น จัมบกตระการกรร- ณิกาแก้วก็อยู่แกม.(สมุทรโฆษ). (ป., ส.).
จัมบก, จัมปกะ
[จําบก] (แบบ) น. ต้นจําปา เช่น จัมบกตระการกรร- ณิกาแก้วก็อยู่แกม.(สมุทรโฆษ). (ป., ส.).
จัมปา
น. จำปา, แหนบรูปคล้ายกลีบดอกจำปาซึ่งติดอยู่กับแกนในประแจจีนสำหรับยันไม่ให้กุญแจหลุดออกจากกัน.
จัมมะ
(แบบ) น. จรรม, หนังสัตว์. (ป.; ส. จรฺม).
จัว
(ถิ่น-อีสาน) น. สามเณร.
จั่ว ๑
น. เครื่องบนแห่งเรือนที่ปิดด้านสกัดหลังคาสําหรับกันลมและแดดฝนมีรูปเป็นสามเหลี่ยม, หน้าจั่ว ก็ว่า.
จั่ว ๒
ก. ลากไพ่จากกองมาเปิด, เปิดไพ่ในกอง.
จั๊วะ
ว. คําแต่งคํา ขาว ให้รู้ว่าสีขาวมาก, จ๊วก ก็ว่า.
จา
(ถิ่น-พายัพ, อีสาน) ก. พูด, กล่าว.
จ่า ๑
น. หัวหน้า, หัวโจก, เช่น จ่าฝูง จ่าโขลง; ยศทหารและตํารวจชั้นประทวนเช่น จ่าตรี จ่าสิบตำรวจ, บรรดาศักดิ์ในราชสํานัก เช่น จ่าแผลงฤทธิรอนราญ จ่าเร่ง งานรัดรุด, ตําแหน่งหัวหน้าธุรการบางอย่าง เช่น จ่าศาล;การเอาข้าวสุกกับขี้เถ้าคลุกกันปะตรงกลางหน้ากลองเพื่อให้เสียงสูงตํ่า.
จ่ากลอง
น. คนตีกลองนํากลองชนะ.
จ่าปี่
น. คนเป่าปี่ประกอบกลองชนะ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น