พระอรหันต์ 4 ประเภท คือ
- สุกขวิปัสสโก ไม่มีญาณวิเศษใดๆ นอกจากรู้การทำอาสวะให้สิ้นไป (อาสวักขยญาณ) อย่างเดียว อานิสงค์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนาเพียงอย่างเดียว
- เตวิชโช ผู้ได้วิชชา 3 คือ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ รู้ระลึกชาติได้ จุตูปปาตญาณ รู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย อันเป็นที่เกิดจากการเข้าใจในกฎแห่งกรรมอย่างแท้จริง จึงรู้เหตุการณ์ที่จะเป็นไปได้ทั้งสิ้น อาสวักขยญาณ รู้ทำอาสวะให้สิ้น อานิสงค์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนา และถือวัตรธุดงค์
- ฉฬภิญโญ ผู้ได้อภิญญา 6 คือ ทิพฺพจักขุ ตาทิพย์ คือฤทธิที่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ใกล้ไกลได้ มีพระอนุรุทธะ เป็นเอกทัคคะ เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านการมีตาทิพย์ คือสามารถมองเห็นโลกใบนี้ ราวกับ มองเม็ดมะขามป้อมบนฝ่ามือ ทิพยโสต หูทิพย์อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้ โดยเฉพาะมโนมยิทธิการแยกร่างและจิต เป็นฤทธิที่แสดงได้เฉพาะพระอรหันต์ประเภทฉฬภิญโญเท่านั้น เจโตปริยญาณ ทายใจผู้อื่นได้ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติได้ อาสวักขยะญาณ ญานที่ทำให้อาสวะสิ้นไป อานิสงค์จากการปฏิบัติวิปัสสนาและเจริญสมาธิจนได้ฌานสมาปัตติ
- เจตุปฏิสัมภิทัปปัตโต แตกฉานในความรู้อันยิ่ง 4 ประการ ได้แก่ 1) อัตถปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในอรรถ เห็นข้อธรรมหรือความย่อ ก็สามารถแยกแยะอธิบายขยายออกไปได้โดยพิสดารเห็นเหตุอย่างหนึ่ง ก็สามารถแยกแยะอธิบายขยายออกไปได้โดยพิสดาร เห็นเหตุอย่างหนึ่ง ก็สามารถคิดแยกแยะกระจายเชื่อมโยงต่อออกไปได้จนล่วงรู้ถึงผล 2) ธัมมะปฏิสัมภิทาความแตกฉานในธรรม เห็นอรรถาธิบายพิสดาร ก็สามารถจับใจความมาตั้งเป็นกระทู้หรือหัวข้อได้ เห็นผลอย่างหนึ่ง ก็สามารถสืบสาวกลับไปหาเหตุได้ 3) นิรุตติปฏิสัมภิทาความแตกฉานในภาษา รู้ศัพท์ ถ้อยคำบัญญัติ และภาษาต่างๆ เข้าใจใช้คำพูดชี้แจ้งให้ผู้อื่นเข้าใจและเห็นตามได้ ปฏิภาณปฏิสัมภิทา มีไหวพริบ ซึมซาบในความรู้ที่มีอยู่ เอามาเชื่อมโยงเข้าสร้างความคิดและเหตุผลขึ้นใหม่ ใช้ประโยชน์ได้เหมาะ เข้ากับกรณีเข้ากับเหตุการณ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น